วันแห่งความรักสากลของโลก

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในโลก อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันทีทันใด ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด อย่างที่เรานึกไม่ถึงเลย ก็คือ การหยุดใจของเราไว้ที่ตำแหน่งที่ถูกต้องอย่างสบายๆ และสัมผัสแหล่งแห่งสันติสุขภายในเสียก่อน จนกระทั่งได้พบสันติสุขแรก นี้เป็นโนว์ฮาว (Know-how) ของการสร้างสันติภาพโลกอย่างง่ายๆ ที่มีอยู่คู่โลกมานานแล้ว ดังเช่นเคยบังเกิดขึ้นแล้วในสังคมในสมัยเมื่อสองพันกว่าปี แต่ความรู้นี้ได้ขาดหายไปในช่วงหลัง https://dmc.tv/a3043

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ > เอเชีย > ไทย
[ 15 ก.พ. 2551 ] - [ ผู้อ่าน : 18276 ]
วันมาฆบูชา...วันแห่งความรักสากลของโลก
 
 
    วันมาฆบูชา เป็นวันแห่งความรักและความปรารถนาดีต่อชาวโลก เพราะเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นแบบแผนอันดีงามในหลักการ อุดมการณ์ ตลอดจนวิธีการในการเผยแพร่พุทธศาสนา เพื่อที่จะนำสันติสุขอันเกิดจากพระธรรมคำสอนอันประเสริฐ ที่ก่อให้เกิดความรักอันบริสุทธิ์ต่อมวลมนุษยชาติ และทำหน้าที่กัลยาณมิตร นำพาชาวโลกทั้งหลายไปสู่สันติสุขอันไพบูลย์ ได้อย่างแท้จริง
 
    เพราะนับตั้งแต่ พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้ธรรม อันเป็นเครื่องนำพาไปสู่ความหลุดพ้น อันถือว่าเป็นวิมุติมรรคนั้น แม้จะเป็นธรรมะอันละเอียดลึกซึ้ง แต่ด้วยความรักอันบริสุทธิ์อันกอปรด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ก็ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ ออกสั่งสอนโปรดชาวโลก จนปรากฏมีพระพุทธสาวกผู้บรรลุธรรม และทำหน้าที่กัลยาณมิตรรุ่นแรกของโลก ออกเผยแผ่ธรรมยังดินแดนต่างๆอย่างกว้างขวาง
 
    ครั้นถึงวันเพ็ญเดือนสาม ปรากฏว่า พระพุทธสาวกดังกล่าว ได้เดินทางมาเฝ้าพระพุทธองค์ โดยมิได้นัดหมายกัน ถึง 1,250องค์ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ ตลอดช่วงพุทธกาล มีบังเกิดเช่นนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้น วันนี้จึงได้รับการเรียกว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” คือ วันประชุมใหญ่ครั้งแรกและเป็นครั้งพิเศษ อันประกอบด้วยองค์สี่ คือ
 
1.พระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเป็นพุทธสาวก จำนวน 1,250องค์ มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
2.พระพุทธสาวกเหล่านี้ ล้วนเป็น เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงประทานการอุปสมบทด้วยพระองค์เอง
3.พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
4.วันนั้นเป็นวันเพ็ญ เดือนมาฆะ คือ พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
 
    พร้อมกันนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ เพื่อประกาศอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ชาวโลกทั้งหลายจะได้ยึดถือเป็นแม่บท ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นแม่บทสำหรับประพฤติปฏิบัติ เพื่อให้รู้จักตนเอง รู้จักความเป็นจริงของชีวิตที่ถูกต้อง จนเกิดความรักความเข้าใจในตนเอง และเกิดมหากรุณาที่จะเผื่อแผ่ความรักความปรารถนาดี มุ่งที่จะเกื้อกูลแก่ชาวโลก ให้เข้าใจโลกและชีวิตในทางที่ถูกต้อง เลิกการต่อสู้ทำสงครามเบียดเบียนกัน กลับมีความรักตนเองและปรารถนาที่จะให้มวลมนุษยชาติ ไปสู่ทางพ้นทุกข์ได้อย่างเที่ยงแท้ถาวร
 
    โอวาทปาฏิโมกข์นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้แบ่งออกเป็นสามตอนดังนี้

ตอนที่หนึ่ง อุดมการณ์ของชาวพุทธ
 
อุดมการณ์ข้อที่1) ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกขา ความอดทน คือ ความทนทาน เป็นตบะอย่างยิ่ง
 
    คนเราเมื่อมีความอดทน ก็จะมีเข้าใจในความรู้สึกของเพื่อมนุษย์ กล่าวคือ
 
1.ทนต่อความลำบากตรากตรำ เพราะคนเราต่างยังดำเนินชีวิตอยู่ในโลก จึงต้องมีความอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ แดด ลม ฝน ร้อน หนาว เย็น
 
2.อดทนต่อทุกขเวทนา อันเป็นความอดทนต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
 
3.อดทนต่อความกระทบกระทั่ง ทั้งนี้เพราะเราเป็นสัตว์สังคมที่อยู่กันเป็นหมู่เหล่า จึงย่อมที่จะเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันไม่ได้ ถ้าเราอดทนต่อการกระทบกระทั่งได้แล้ว เราก็จะสามารถอยู่กับคนอื่นได้อย่างมีความสุข
 
4.อดทนต่ออำนาจกิเลส ซึ่งประกอบด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง ซึ่งพระพุทธองค์ทรงสอนให้อดทน ที่จะทำตนเป็นผู้ให้ ตั้งแต่ การให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ก็จะสามารถเข้าถึงแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ภายใน จนสามารถแผ่ขยายออกมาเป็นอานุภาพแห่งความรักความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ทุกคน
 
อุดมการณ์ข้อที่2) นิพพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา ท่านผู้รู้ทั้งหลายย่อมกล่าวพระนิพพานว่าเป็นเยี่ยม
 
    ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนว่า นิพพานอันเป็นบรมสุขมีจริง ขอให้อดทนปฏิบัติธรรมปราบกิเลสให้หมดจริง แล้วจะได้ไปนิพพานเหมือนกับพระองค์
 
อุดมการณ์ข้อที่3) นหิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี สมโณ โหติ ปรํวิเหฐยนฺโต บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะเลย

    คำว่า "บรรพชิต" แปลว่า “นักบวช” ซึ่งนักบวชในพระพุทธศาสนานั้น ต้องประพฤติปฏิบัติธรรม นอกจากจะสั่งสอนตนเองแล้ว ยังต้องออกทำหน้าที่กัลยาณมิตร ออกเกื้อกูลแก่ชาวโลก ซึ่งต่างจากนักบวชต่างศาสนา ที่นอกจากจะไม่ปฏิบัติธรรมกันแล้ว ยังมีความเห็นผิด มีการฆ่าสัตว์บูชายัญกันมากมาย เพราะคิดว่า การฆ่าเป็นทางนำพาให้ไปความหลุดพ้นได้ เป็นต้น
 
    ทั้งสามข้อนี้ เราเรียกกันว่า อุดมการณ์ของชาวพุทธ เป็นเป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธในการดำเนินชีวิต โดยมีเป้าหมายว่า เราจะอดทนให้ได้ถึงที่สุด เพื่อจะได้ไปพระนิพพาน เรื่องการแก่งแย่งชิงดีกัน เราจะไม่ทำเด็ดขาด
 
    ซึ่งโดยแท้จริงแล้ว มนุษย์ล้วนเป็นเสมือนเครือญาติ เราเป็นพี่น้องกัน เราหายใจอากาศเดียวกันอยู่ตลอดเวลา เราดื่มน้ำจากฟ้าเดียวกัน อาศัยอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวเดียวกัน เราต้องอยู่ร่วมกันในโลกใบนี้นับตั้งแต่เกิดมา จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต เราจึงควรมีความเสมอภาคและไม่ควรเบียดเบียนกันเอง เพราะเราไม่ใช่ศัตรูกันมาตั้งแต่กำเนิด ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ธรรมชาติสร้างให้ดำรงชีพอยู่ได้ ด้วยการกินกันเองเป็นอาหาร เราล้วนเป็นพี่น้องกัน เหมือนนกที่ฟักออกจากไข่ในรังเดียวกัน เราเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น
 
 
    เราไม่ควรเสียชีวิต เลือดเนื้อ น้ำตา เวลา และทรัพยากร ไปกับการเรียกร้องที่รุนแรงและก่อการสงครามทำลายชีวิตเลย แต่ควรจะย้อนกลับมาพิจารณาว่า ความขัดแย้งและสิ่งที่ทำให้สังคมมนุษย์ต้องต่อสู้และเบียดเบียนกันนั้น สาเหตุที่แท้จริงก็คือ มนุษย์ยังไม่ทราบว่า ชีวิตของตนเองนั้นเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต ถ้ามนุษย์ตระหนักถึงความจริงนี้แล้ว ทุกคนย่อมจะมุ่งดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง และมีความเข้าใจว่าสิ่งที่จะแสวงหาเพื่อชีวิตที่ถูกต้องนั้นคืออะไร
 
ตอนที่สอง หลักการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง
 
หลักการข้อที่1) สพฺพ ปาปสฺส อกรณํ การไม่ทำบาปทั้งปวง
 
    คนเราจะทำดีทำชั่วก็ด้วยหนทางสามทาง คือ กาย วาจา ใจ ถ้าไม่ควบคุมหนทางทั้งสามไว้ให้ดีแล้ว ก็จะก่อเหตุทำความชั่วขึ้นได้ เพราะฉะนั้น การไม่ทำบาปทั้งปวง ตั้งแต่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว พระพุทธองค์ตรัสสอนให้ไม่กระทำโดยเด็ดขาด
 
หลักการข้อที่2) กุสลสฺสูปสมฺปทา การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม
 
    ในการทำความดีนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า ให้ทำความดีให้ถึงพร้อมทั้งสามทาง คือ กาย วาจา ใจ เช่น การทำทาน รู้จักแบ่งปันกัน มีวาจาไพเราะ ทำสมาธิ(Meditation)แผ่ความรักความเมตตาทำใจให้ผ่องใส เป็นต้น
 
หลักการข้อที่3) สจิตฺต ปริโยทปนํ การกลั่นจิตทำใจของตนให้ผ่องแผ้ว
 
    การทำความดี ด้วยการทำใจให้ผ่องใสโดยการนั่งสมาธิ ซึ่งมวลมนุษยชาติควรจะหันมาแสวงหาสิ่งที่ถูกต้อง เพราะความขัดแย้งทั้งหลาย เริ่มจากความขัดแย้งในใจของแต่ละคนอันมีต้นเหตุมาจาก “ใจ” ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ดังนั้น เมื่อใจมนุษย์ไม่อยู่ในสภาวะที่ถูกต้อง การคิด การพูด และการกระทำ ออกมาก็ไม่ถูกต้อง และกลายเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งและปัญหา จากระดับบุคคล จนขยายกลายเป็นความขัดแย้งและปัญหาระดับสังคม และเป็นปัญหาของโลกตามมา และก่อให้เกิดความขัดแย้งไปในทุกๆเรื่อง
 
    ดังนั้น จึงมีทางออกทางเดียวที่แตกต่าง จากทางเดิมที่เราเคยย่ำมา อย่างไม่รู้จุดหมายที่สิ้นสุด ก็คือ การนำใจกลับมาสู่ตำแหน่งที่ถูกต้อง เมื่อใจมนุษย์อยู่ในสภาวะที่ถูกต้องแล้ว การคิด การพูด และการกระทำ ย่อมถูกต้องไปด้วย สิ่งที่เป็นสาเหตุแห่งความขัดแย้งและปัญหาต่างๆ ย่อมหมดไป ก่อให้เกิดความถูกต้องและสมบูรณ์ นับตั้งแต่ระดับบุคคลที่เริ่มเข้าใจในชีวิตที่แท้จริง จนกลายเป็นความสงบร่มเย็นของสังคม และเกิดความเข้าใจในชีวิตของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
 
    ดังนั้น การที่จะทำให้ใจกลับคืนสู่ที่ตั้งดั้งเดิมในตำแหน่งที่ถูกต้องนั้นก็คือ “การทำสมาธิ” วิธีเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย ตรง ลัด ประหยัดสุด ประโยชน์สูง ก่อให้เกิดสันติสุขขึ้นภายในใจ และสามารถแผ่ขยายให้เกิดสันติสุขแก่โลกภายนอกได้อย่างแท้จริง
 
ตอนที่สาม วิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา

วิธีการที่1) อนูปวาโท ไม่ว่าร้ายใคร
 
    จากเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ที่จะต้องอดทนเพื่อจะไปนิพพานนั้น วิธีการขั้นต้นที่เราจะต้องทำคือ ระวังเรื่องคำพูด ซึ่งในการที่จะแสดงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยการทำหน้าที่กัลยาณมิตรเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น จะต้องไม่ว่าร้าย ไม่โจมตีใคร ไม่ไปว่าศาสนาอื่นไม่ดี แต่มุ่งจะอธิบายว่า พระพุทธศาสนาดีอย่างไร
 
วิธีการที่2) อนูปฆาโต ไม่ทำร้ายใคร
 
    การเผยแผ่ศาสนา ต้องระวังการกระทำของตน ไม่ไปทำร้ายหรือฆ่าใคร ไม่ไปบังคับใครเขาด้วยกำลังหรือข่มขู่ให้เขาเชื่อ แต่ให้ค่อยพูดค่อยจา อ้างด้วยเหตุผล จนก่อให้เกิดสติปัญญาและสัมมาทิฐิ
 
วิธีการที่3) ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร มีความสำรวมในศีลและมารยาทให้ดี
 
    กล่าวคือ ต้องระวังรักษาศีล ทั้งศีลห้า ศีลแปด รวมทั้งรักษามารยาทตั้งแต่การ ยืน เดิน นั่ง นอนให้ดี ซึ่งแม้หลายๆคน ศีลจะไม่บกพร่อง แต่กลับไม่น่าเข้าใกล้ เพราะมารยาทดีไม่พอ เป็นต้น
 
วิธีการที่4) มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ รู้จักประมาณในการกิน
 
    กล่าวคือ ผู้จะทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร เพื่อนำความรักความปรารถนาดีไปสู่เพื่อนมนุษย์นั้น ต้องระวังเรื่องการบริโภค ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารยาทในการกินอาหารต้องให้เรียบร้อยงดงาม ดูน่าเลื่อมใส
 
วิธีการที่5) ปนฺตญฺจ สยนาสนํ นั่งนอนในที่สงบ
 
    กล่าวคือ ผู้จะทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร เพื่อนำความรักความปรารถนาดีไปสู่เพื่อนมนุษย์นั้น ต้องรักการอยู่ในที่สงบ เลือกอยู่ในที่นั่งที่นอนอันสงบ เพื่อจะทำให้มีสมาธิก้าวหน้า มีเวลาปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง อันจะทำให้เกิดความน่าเลื่อมใสตามมา
 
วิธีการข้อที่6) อธิจิตฺเต จ อาโยโค ประกอบความเพียรในอธิจิต
 
    กล่าวคือ เราต้องฝึกสมาธิให้มาก เพราะว่าเราจะต้องเป็นกัลยาณมิตรให้กับตัวเอง เป็นอันดับแรก แล้วจึงค่อยไปเป็นกัลยาณมิตรให้กับคนอื่น ถ้าฝึกสมาธิน้อย เราก็จะไม่สามารถควบคุมตนเองให้มีการกระทำเหมาะสมได้
 
    ทั้งหมดนี้คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงให้ไว้ ถ้าเราทั้งหลายทำได้ โลกก็จะไม่มีความขัดแย้งแตกต่าง เช่น ผู้มีกำลังและอำนาจที่เหนือกว่า ไม่มีการรุกราน ไม่มีการเอาเปรียบทางผลประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และสามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับนานาประเทศด้วยมิตรไมตรี ไม่มีความขัดแย้ง และก่อให้เกิดสันติภาพแก่มวลมนุษยชาติได้อย่างถาวร และเมื่อใดที่โลกไม่มีความขัดแย้งจากความแตกต่างภายในใจ สิ่งดีงามจะเกิดขึ้นอย่างไร้พรมแดน ไม่จำเป็นต้องมีตำรวจหรือทหาร ไม่ต้องมีกระบวนการยุติธรรมเลย เพราะว่าทุกคนจะมีแต่การแบ่งปัน แบ่งปันรอยยิ้ม ความรัก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ สิ่งดีๆ ให้แก่กัน
 
    ถ้าใจทุกดวงของทุกคน หยุดนิ่งอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องภายใน จนเข้าถึงแหล่งแห่งความสุขที่แท้จริงแล้ว ความสุขนี้จะเอ่อล้น จนแผ่ขยายออกมาภายนอก และแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ ทำให้เกิดสันติสุขที่แท้จริง  เช่นเดียวกับดวงตะวัน ที่เป็นแหล่งแห่งความสว่าง และสามารถแบ่งปันความสว่างไปทั่วทั้งจักรวาล
 
    เราจะต้องรักตนเอง ด้วยการเริ่มต้นให้ความสำคัญกับการสร้างสันติสุขภายใน เพราะเป็นการกระทำอันยิ่งใหญ่ที่มวลมนุษยชาติไม่เคยได้เฉลียวใจ เป็นวิธีการที่ไม่ผิดหลักมนุษยธรรม ในทุกขั้นตอนของการทำใจให้สงบ ณ ตำแหน่งที่แท้จริงของใจ คือ ศูนย์กลางกาย เราจะไม่มีการพลัดพราก ไม่มีการสูญเสีย ไม่มีใครเดือดร้อน ไม่มีใครร้องไห้เสียน้ำตา เศร้าโศกเสียใจ คับแค้นใจ ร่ำพิไรรำพันต่างๆ แต่เราจะมีความสุขทุกขั้นตอน
 
    การสร้างสันติสุขภายในนี้ มนุษย์ไม่ต้องรบราฆ่าฟันกันเอง การสร้างสันติสุขภายใน ถือเป็นรากฐานสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เราสามารถมองเห็นคุณค่าของชีวิตว่า เราเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต และเห็นคุณค่าในชีวิตของเพื่อมนุษย์ และปรารถนาดีต่อทุกชีวิตที่จะก้าวไปสู่เส้นทางแห่งสันติสุขภายในด้วยกัน และเราก็จะเป็นเหมือนแสงประทีปที่สว่างขึ้นอีกดวงหนึ่ง เพื่อส่องนำทางชีวิตตนเองและผู้อื่น ให้ไปสู่จุดหมายปลายทางอย่างอบอุ่นปลอดภัย และเมื่อมนุษย์เป็นจำนวนมากทั่วทุกมุมโลกสามารถทำได้เช่นนี้ ก็จะเป็นเสมือนดวงประทีปนับล้านดวง ที่โชนแสงขับไล่ความขัดแย้งและปัญหาต่างๆ ที่ครอบงำดวงใจผองชนทั้งหลายอยู่ นับเป็นการสร้างอิสรภาพ สิทธิที่เท่าเทียมและสันติภาพโลกที่แท้จริง
 
    วันนี้ เรารู้วิธีการแล้วว่า จะทำให้ความฝันของมวลมนุษยชาตินี้เป็นจริงได้อย่างไร ความสงบสุขของโลกนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย จนกว่าสันติสุขแรกภายในจะเกิดขึ้นก่อน สันติภาพของโลกและสิทธิที่เท่าเทียมนั้น ต้องเริ่มจากสันติสุขภายใน แต่ก็ยังไม่มีใครนำโนว์ฮาว (Know-how) นี้มาใช้ เมื่อใดที่ทุกคนมีสันติสุขแรกของโลกเกิดขึ้น เมื่อนั้นสันติภาพที่แท้จริงจะบังเกิดขึ้นในโลก
 
    สิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในโลก อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันทีทันใด ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด อย่างที่เรานึกไม่ถึงเลย ก็คือ การหยุดใจของเราไว้ที่ตำแหน่งที่ถูกต้องอย่างสบายๆ และสัมผัสแหล่งแห่งสันติสุขภายในเสียก่อน จนกระทั่งได้พบสันติสุขแรก นี้เป็นโนว์ฮาว (Know-how) ของการสร้างสันติภาพโลกอย่างง่ายๆ ที่มีอยู่คู่โลกมานานแล้ว ดังเช่นเคยบังเกิดขึ้นแล้วในสังคมในสมัยเมื่อสองพันกว่าปี แต่ความรู้นี้ได้ขาดหายไปในช่วงหลัง
 
 
    ดังนั้น วันมาฆบูชา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2551 จะเป็นวันที่พวกเราทั้งหลาย จะได้มารำลึกถึงพระพุทธธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ทรงวางระเบียบแบบแผนอันดีงาม มาแต่ครั้งพุทธกาล เพื่อที่จะนำมาประพฤติปฏิบัติ ด้วยความรักตนเองและรักเพื่อนมนุษยชาติ เพื่อให้บรรลุถึงสันติภาพและสันติสุขที่แท้จริง ตราบกระทั่งสู่ที่สุดแห่งธรรมโดยทั่วกัน

http://goo.gl/TRQuC


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      องค์พระภายในทั้งใสทั้งสว่าง
      ดวงแก้วกลมใสในตัวเรา
      เมื่อใจหยุดนิ่ง...สิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิด
      เริ่มจากมืด...เริ่มจากฟุ้ง
      ความสุข...ที่แท้จริงแล้วอยู่ในตัวเรานี่เอง
      สมาธิ...ที่ได้รับ คือ ความสุข
      ดวงใสๆที่กลางกาย
      รางวัลของความตั้งใจ
      สมาธิ...คุณทำได้...ถ้าได้ทำ
      ความสุขภายในไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
      ผมมาบวชได้เพราะเกมส์ออนไลน์
      จุดเปลี่ยนชีวิตนักแม่นปืนสู่ชีวิตสมณะ
      สมาธิบนโลกออนไลน์




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related