Jump to content


Photo
* * * * * 1 votes

ย้อนรอยหมู่คณะตอนที่ 6


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
6 replies to this topic

#1 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4,531 posts
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

Posted 01 May 2010 - 03:02 PM

อ้างอิงจากย้อนรอยหมู่คณะตอนที่ 5 ปฐมฌาน = ปฐมมรรค นะครับ

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=23060

ที่ผ่านมาว่าด้วยเรืองของสมาธิมา 2-3 ตอนแล้ว ตอนนี้ขอวกกลับไปเรื่องการเป็นอาสาสมัครเสียหน่อยครับ ในตอนก่อนๆ ผมได้เคยบอกไว้ว่า เริ่มสนใจที่จะทำหน้าที่เจ้าหน้าอาสาสมัคร ในตอนนั้น ทางวัดมีอาสาสมัครอยู่หลายแผนกเหมือนกัน หากเราเดินทางมาขึ้นรถที่วัดที่จุดอนุเสาวรีย์ชัยฯ เราก็จะพบอาสาสมัครแผนกธรรมโฆษก์ คอยต้อนรับทักทาย และเชิญขึ้นรถบัส จากนั้น ครั้นพอคนใกล้จะเต็มรถเจ้าหน้าที่ จะขึ้นไปพูดธรรมะยกใจสาธุชนก่อนเข้ามาวัด

ครั้นพอมาถึงที่วัด เราก็จะพบกับสถานที่ที่สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องน้ำห้องท่าจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพ นั่นก็เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครแผนกบุญสถาน เดินเข้าไปอีกหน่อยจะพบกับศาลาอธิษฐานธรรม จะมีเจ้าหน้าที่แผนกอธิษฐานธรรมมานำสาธุชนที่เตรียมไทยธรรมมาถวายพระ ให้อธิษฐานจิตแล้วน้อมนำไทยธรรมเข้าไปถวายพระ แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่แผนกอธิษฐานธรรมอีกส่วนหนึ่งคอยรับไทยธรรมจากพระท่านไปเก็บเข้าที่เข้าทาง

เดินต่อมาอีกหน่อย ก็จะเป็นอีกศาลาหนึ่ง มีจุดบริการของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอีกหลายแผนกทีเดียว เช่น แผนกรัตนธรรม คอยแจกหนังสือสวดมนต์แก่สาธุชนใหม่ แผนกธรรมวารี คอยบริการน้ำดื่มแก่สาธุชน แผนกโรงครัว คอยแจกอาหารเช้า และกลางวัน

ถัดไปอีกหน่อย ก็จะเป็นศาลาของแผนกเหรัญญิก คอยรับตรวจนับเงินบริจาค และออกในอนุโมนาบัตร สุดท้ายก็จะมาถึงสภาธรรมกายหลังคาจากที่ร่มรื่นเย็นสบาย พื้นที่ 9 ไร่ รองรับสาธุชนได้หมื่นสองหมื่นคน

ครั้นถึงเวลา 9.30 น. หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ก็จะมานำนั่งสมาธิ ช่วงบ่ายหลวงพ่อทัตตะท่านจะลงเทศน์สอน และตอบปัญหาธรรมะ ตอนเย็นกลับบ้าน แผนกธรรมโฆษก์ก็จะไปพูดอนุโมทนาบุญบนรถบัสแต่ละคันก่อนกลับบ้าน

ผมรู้สึกว่า งานของอาสาสมัครแต่ละแผนกล้วนเป็นบุญใหญ่ เพราะมีส่วนในบุญของสาธุชนทุกๆ ท่านในวัดเชียวครับ ระหว่างที่ผมกำลังตัดสินใจว่า จะอยู่แผนกไหนดี แต่รสไหนจะเท่ารสแห่งความคุ้นเคย ความคุ้นเคยเป็นยอดแห่งรสทั้งปวง ผมได้มีโอกาสพบเจอ กัลยาณมิตรศรีสุวรรณ ตั้งคุปตานนท์ (ปัจจุบันเป็นอุบาสิกาที่วัด) อีกครั้งที่วัดนี้เอง เพราะก่อนมาวัด 1 ปี ตอนยังเรียนม.6 ผมเคยไปฝึกงานหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอม ตอนนั้นผมได้พบกับศรีสุวรรณ ซึ่งเธอก็มาฝึกงานเหมือนกัน แต่อยู่กันคนละแผนก หลังจากก็ไม่ได้เจอกันอีก จนกระทั่งผมมาเจอเธออีกครั้ง เธอได้ชักชวนผมเป็นอาสาสมัครแผนกธรรมโฆษก์ ซึ่งผมก็ตอบตกลงทันที

หลังจากนั้น ผมก็เริ่มฝึกพูดธรรมะ แล้วก็ได้มีโอกาสเล่าธรรมะบนรถบัสทั้งช่วงเช้า และพูดอนุโมทนาบุญตอนเย็น จุดเด่นของแผนกนี้ คือ จะต้องศึกษาธรรมะจากแหล่งต่างๆ เพื่อนำมาพูดบนรถ ซึ่งก็ยิ่งทำให้ผมได้ศึกษาธรรมะทั้งจากการฟังหลวงพ่อ หลวงพี่ท่านเทศน์สอน และจากตำรับตำราทั้งภายในวัดและนอกวัดอีกมากมาย

หนึ่งในบทธรรมะที่ผมประทับใจ แล้วคอยใช้เตือนใจตนเองในยามท้อแท้ท้อถอยหลายครั้งหลายหน คือ ธรรมะเรื่อง คุณยายยอดนักให้กำลังใจ เรื่องก็มีอยู่ว่า สมัยตอนอยู่บ้านธรรมประสิทธิ์หลังจากคุณยายอาจารย์ได้รวบรวมลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งประมาณ 10 กว่าคน เพื่อคิดที่จะสร้างวัดกันขึ้นมา ในตอนนั้น คุณยายจะเก็บเงินที่เจ้าภาพนำมาบริจาคไว้ในถุงกระดาษ ยี่ห้อ โชคดี เราเลยเรียกกันติดปากว่า ถุงโชคดี

วันนั้น คุณยายได้นำถุงโชคดีออกมา แล้วเทเงินทั้งหมดในถุงออกมานับ ปรากฏว่า มีเงินอยู่ 3200 บาท ซึ่งสมัยนั้น ค่าของเงินยังสูง เงิน 3200 บาท ถ้าเทียบกับสมัยนี้ ถือว่า มูลค่าหลายหมื่นทีเดียว แต่ถ้าคิดจะใช้เงินจำนวนแค่นี้สร้างวัด ซึ่งต้องใช้เงินกันเป็นแสนเป็นล้าน เงินจำนวนนี้อาจสร้างได้เพียงประตูหน้าวัดเท่านั้น

ในตอนนั้นเอง คุณเผด็จ ผ่องสวัสดิ์ (ปัจจุบันคือ หลวงพ่อทัตตะชีโว) ท่านก็พูดขึ้นว่า "ยาย เรามีเงินเพียงแค่นี้ เราจะไปสร้างวัดกันได้หรือ" สิ้นเสียงคุณเผด็จ บรรยากาศนิ่งเงียบกันไปหมด ไม่มีศิษย์คนอื่นคนใด เอื้อนเอ่ยวาจาใดออกมาเลย แน่นอนว่า ความรู้สึกในใจของทุกๆ คนย่อมไม่ได้ต่างไปจากคุณเผด็จแม้แต่น้อย ว่าจะไหวหรือ จะทำได้หรือ

คุณยายท่านนิ่งอยู่สักพัก แล้วท่านก็ตอบคำถาม โดยถามกลับไปว่า "คุณเด็จ ถ้าเราต้องการสร้างคนให้เป็นคนที่ รักศีลยิ่งกว่าชีวิต ขึ้นมาสักคนหนึ่งนี่ คุณคิดว่าต้องใช้เงินสักเท่าไหร่"

คุณเผด็จก็นิ่งคิดสักครู่ แล้วตอบคุณยายว่า "ผมว่า ต่อให้มีเงินร้อยล้าน ก็ยังไม่แน่ว่า สร้างคนเช่นนี้ขึ้นมาได้สักคน" (ท่านตอบตามความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ)

คุณยาย จึงตอบให้หมู่คณะฟังว่า "แต่ตอนนี้ ยายมีคนชนิดที่ว่านี้แล้ว อยู่ตรงหน้ายายถึง 10 กว่าคน เท่ากับมีพันล้านอยู่ในมือ แล้วจะไปกังวลอะไร เราไปสร้างวัดกันเถิด"

คำพูดของคุณยาย ซึ่งไม่ได้เรียนหนังสือใดๆ ในทางโลก กลับพลิกกำลังใจของลูกศิษย์ทุกคนที่จบปริญญาตรี ให้มีกำลังใจเปี่ยมล้นที่จะลุยสร้างวัดกันจริงๆ จังๆ แสดงว่า คุณยายท่าน มีกำลังใจอย่างมหาศาล ชนิดที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ มาบั่นทอนกำลังใจของท่านได้ แล้วท่านไปหาแหล่งแห่งกำลังใจที่ไหน ในเมื่อไม่อาจไปหาอ่านจากหนังสือหนังหาได้

(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#2 มะลิแก้ว

มะลิแก้ว
  • Members
  • 127 posts

Posted 01 May 2010 - 04:25 PM

คุณยาย จึงตอบให้หมู่คณะฟังว่า "แต่ตอนนี้ ยายมีคนชนิดที่ว่านี้แล้ว อยู่ตรงหน้ายายถึง 10 กว่าคน เท่ากับมีพันล้านอยู่ในมือ แล้วจะไปกังวลอะไร เราไปสร้างวัดกันเถิด"


ได้ฟังเรื่องคุณยาย มาพอประมาณ ทุกเรื่องที่ได้ฟังมา ล้วนเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่งมากๆเลยสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก เช่นคุณยาย แต่พอมาได้อ่านประโยคข้างบนนี้ เล่นเอาน้ำตาซึมเลยน่ะ เกิดความรู้สึกมากมายเลย เห็นเรื่องราวการสร้างบารมีมากมายที่ท่านได้สร้างไว้ให้พวกเรา และคนรุ่นต่อๆไป

ร่วมกันสร้างคนดีกันเถอะ ตามรอยหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ...

อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันด้วยค่ะ.....

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4,531 posts
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

Posted 01 May 2010 - 04:28 PM

อนุโมทนาบุญด้วยเช่นกันครับ คุณมะลิแก้ว ต้องเปลี่ยนคำว่า "ตน"รุ่นต่อๆไป ด้วยด่วนครับ อ้อ แล้วคำว่า "ตน" ดีด้วยครับรีบเปลี่ยนด่วน อิอิ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1,478 posts
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

Posted 01 May 2010 - 07:06 PM

....สำหรับผม ได้นึกย้อนถึงวันที่เข้าร่วมบุญกับหมู่คณะแล้ว ปลื้มย้อนหลังเลย คนอย่างเรา..ก็ไม่ธรรมดานะเนี่ย อิอิ จัดว่าไม่เปลืองบุญมหาปูชนียาจารย์ที่อุตส่าห์ไปตามมากนัก หุหุ สู้ๆ...
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#5 Lonely_Wolf

Lonely_Wolf
  • Members
  • 68 posts

Posted 01 May 2010 - 08:01 PM

อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันด้วย สาธุ

อยากจะบอกกับคนที่มาวัดใหม่ๆ ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก
ให้อ่านประวัติหลวงปู่ หลวงพ่อธัมมะ หลวงพ่อทัตตะ คุณยาย
รวมถึงประวัติการสร้างวัดพระธรรมกายให้มากๆ
แล้วจะเข้าใจเป้าหมายของหมู่คณะ และสิ่งที่หมู่คณะกำลังทำอยู่
รวมถึงได้ธรรมะและคุณธรรมดีๆ เป็นตัวอย่างในการฝึกตัว
และเป็นกำลังใจ ให้อยู่ในเส้นทางการสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่ง

เดียวดายใต้เงาจันทร์

#6 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 posts
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

Posted 01 May 2010 - 09:17 PM

อ่านจบแล้วคิดถึงคุณยายจังเลยครับ คุณยายครับผมต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้ ต้องทำให้ได้
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#7 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 posts

Posted 01 May 2010 - 11:32 PM

ดีใจจัง ได้เจอธรรมโฆษก์ เหมือนกัน แต่เราเป็นได้ แค่ 1 เทอม ฮิ ฮิ ก็เตรียมตัวเรียนหนังสือให้จบ และตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ยังไม่มีโอกาสอีกเลย แต่ในช่วงหลังนี้ก็ได้มีโอกาสจับไมโครโฟน อีก เพราะมีคนเรียกให้เล่าธรรมะให้ฟัง แบบไม่ได้เตรียมตัว ดีใจจังได้ทำอีก

อยากเก่ง ต้องอ่านประวัติคุณยาย หลวงปู่ หลวงพ่อ ให้มาก ๆ และจับประเด็นให้ได้น่ะค่ะว่า ทำอย่างไรจึงจะนั่งสมาธิได้เก่งเหมือนท่าน
อยากเก่งเหมือนยายจัง นั่งปลูกต้นไม้ ยังนั่งระลึกชาติได้เลย

อยากเก่งไหมค่ะ อยากกลับดุสิตบุรีไหมค่ะ อยากทำให้สิ้นอาสวกิเลสไหมค่ะ อย่าลืมทำ ทาน ศีล สมาธิ และ บารมี 30 ทัศ น่ะค่ะ

อนุโมทนาบุญกับความตั้งใจจริง ของทุกท่านค่ะ สาธุ

ปล. เราก็อยากเก่ง แต่ ความพยายามยังไม่ถึง 5555