เก่งคนให้สมเป็นนาย

เก่งคนให้สมเป็นนาย

การบริหารคนในองค์กรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้นำจำเป็นที่จะต้องรู้จักและเข้าใจคนแต่ละคนแต่ละประเภทในองค์กร เพื่อดึงศักยภาพของเขามาใช้สร้างความสำเร็จอย่างเต็มที่

 

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

 

 

การเก่งคน หมายความว่าอะไร?

 

          หมายถึงการสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่อยู่รอบตัวไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน ทั้งที่รู้จัก หรือคนแปลกหน้า แล้วสามารถโน้มน้าวทำงานให้เราอย่างเต็มใจ

 

คนมีกี่ประเภทอะไรบ้าง?

 

          ถ้าเราเปรียบองค์กรหรือบุคคลต่างๆ ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก เป็นเหมือนป่าใหญ่ และผู้คนเหมือนกับสิ่งมีชีวิต หรือสัตว์ป่า สามารถแยกได้ว่า แต่ละคนมีลักษณะเฉพาะอย่างไร ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นทั้งหมด 100 % ของเขา บางคนอาจจะมีคละๆ กัน เรียกว่าเป็นลักษณะเด่นมากกว่า ดังนี้

 

          1.สิงโต ลักษณะเด่นคือ ผู้นำ เพราะสิงโตอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในป่า เพราะฉะนั้นคือเป็นผู้ที่มีผลงานดี ศักยภาพสูง ลักษณะผู้นำเด่นชัด มีความสง่า มีลักษณะเป็นผู้นำ และสามารถนำพาองค์กรให้เจริญเติบโตได้

 

          2.เสือ ลักษณะเด่นคือ มีศักยภาพสูงมีผลงานดี แต่มีความเป็นผู้นำน้อยกว่า หากต้องทำงานกับเขาต้องให้พื้นที่ เพราะเสือคือนักล่า เพราะฉะนั้นต้องให้พื้นที่การทำงาน แล้วให้เขาตัดสินใจ เขาสามารถที่จะนำความสำเร็จมาให้ได้ แต่มีความเป็นตัวของตัวเองอยู่พอสมควร

 

 

          3.กระทิง เป็นดาวเด่น เป็นบุคคลรุ่นใหม่ไฟแรง มีศักยภาพดีแต่ขาด EQ คือมีอะไรก็ชนะ ขวิดได้ก็ขวิด สามารถเป็นบุคคลในระดับที่เป็นสินทรัพย์ขององค์ได้ ด้วยการฝึกให้มีศักยภาพ ทางด้านการควบคุมอารมณ์เพิ่มขึ้น และการแสดงออกต่างๆ 

 

          4.แรด ลักษณะเด่นคือผลงานดี ศักยภาพปานกลางแต่แรดมีความอึด และความอดทนสูงมากเรียกว่าสู้ไม่ถอย ผู้ที่มีความอึด เป็นเรื่องดี แต่จะต้องฝึกการมองปัญหาและภาพรวมขององค์กร ตลอดจนลักษณะความเป็นผู้นำในการทำงานเป็นทีม ซึ่งสามารถพัฒนาไปเป็นเสือเป็นสิงห์ได้ 

 

เสือ สิงห์ กระทิง แรด ล้วนแต่เป็นนักสู้ คนเหล่านี้ควรมีกี่เปอร์เซ็นต์ในองค์กร?

 

          มี 10% กำลังดี มากที่สุดไม่เกิน 20% เพราะว่าจะเกิดการแข่งขันกันสูง เพราะคนกลุ่มนี้เป็นคนที่มีการแข่งขัน ต้องการบุกไปข้างหน้าตลอดเวลา เพราะฉะนั้นมีจำนวน 10-20% ก็จะช่วยให้องค์กรเจริญเติบโต

 

ลักษณะของผู้ตามมีอะไรบ้าง?

 

          1.ม้า ลักษณะเด่นคือ เป็นผู้ปฏิบัติ มีผลงานดี แต่ศักยภาพอาจจะไม่สูงมาก ไม่สามารถโตไปเป็นหัวหน้าได้ แต่สั่งให้ทำอะไร ทำได้ตามที่ต้องการ หากขาดม้าก็ขาดนักทำงาน

 

          2. ลิง จะเป็นผู้มีปัญหาในองค์กร คือศักยภาพดี แต่ว่าผลงานออกมาต่ำกว่ามาตราฐาน อาจเกิดจากการที่เพิ่งจะย้ายหรือเพิ่งจะได้รับการเลื่อนขั้น โปรโมทตำแหน่งใหม่ แล้วไม่ถูกกับความสามารถเฉพาะด้านของเขา ทั้งๆ ที่มีศักยภาพ จะต้องให้อยู่ในจุดที่ถูกต้อง อยู่ในจุดที่เหมาะสม บางทีย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่ง เปลี่ยนหัวหน้า จากที่เคยทำงานอยู่ดีๆ เปลี่ยนไปเลย

 

          3.ควาย ลักษณะเด่นคือ มีความอึด มีความอดทน แต่ควายไม่เหมือนกระทิงคือไม่ได้บุก แต่ต้องบังคับ จะต้องตีหลังเขาถึงจะเดิน แล้วต้องมีอะไรมาจูงจมูก เนื่องจากเชื่อคนง่าย แต่อาจจะไม่มีความคิดสร้างสรรค์ เรียกว่าไม่เติบโตในองค์กร ต้องให้ทำงานตามสั่ง ทำงานลูทีนได้ 

 

          4.สุนัข ลักษณะเด่นของสุนัขคือ จงรักภักดีโดยที่เลี้ยงสุนัข เราต้องให้อาหาร ให้ความสนิทสนม แต่สิ่งที่จะได้คือ ใช้เฝ้าบ้านได้ และพวกนี้ชอบจับผิด แต่เขาไม่ได้คิดว่า เขาจับผิด เขากำลังคิดว่าเขากำลังดูแลปกป้องผลประโยชน์อย่างดี ชอบประจบเจ้านาย ซึ่งคนประเภทนี้เติบโตในองค์กรได้ซะด้วย แต่ไม่สามารถสร้างทีมตัวเองได้ ต้องพึ่งเสือพึ่งควายอยู่ 

 

          5.นกฮูก ลักษณะเด่นคือรอบรู้ เป็นนักแก้ปัญหา ละเอียดรอบคอบ คุยแต่ละอย่างก็คุยกันเรื่องของข้อมูล เรื่องงานมาก่อน เรื่องส่วนตัวชอบวางแผนจริงจังกับทุกเรื่อง สนใจใฝ่รู้ เป็นคนที่มีข้อมูลมาก ทำให้เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูงมากด้วย เรียกว่า วิชาการงานวางระบบต้องให้นกฮูกเลย

 

          6.ฉลาม ประเภทนี้เป้าหมายสำคัญกว่าคน เรียกว่าเก่งงาน เอางานไม่เอาคน เอาความสำเร็จเป็นหลัก แต่ไม่สนใจความรู้สึกของใครเลย  คนประเภทนี้เรียกว่า ประเภทฉลาม 

 

          7.หอยทาก ลักษณะเด่น คือศักยภาพต่ำ และเฉื่อยชา ผลงานก็ไม่ดี กลายเป็นเหนี่ยวรั้งองค์กรไว้ เพราะฉะนั้นถ้าเจอลักษณะแบบนี้อาจจะต้องเปลี่ยนงาน ต้องนั่งคุย ดูว่ามีตรงไหน ที่เป็นจุดที่ทำให้ไปไม่ได้ แล้วก็ปรับเปลี่ยน

         

ข้อคิดในการบริหารคน 

 

          เมื่อรับใครมาทำงาน เลือกใครแล้วก็ต้องไว้ใจเขา แล้วก็ให้อำนาจตัดสินใจ ให้อำนาจในการดูแล จะได้มีอิสระในการทำงาน เพราะตัวเลขเป็นตัวบอกอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมากลั่นกรองกันมากมาย เพราะถึงวันสุดท้าย 3 เดือน 6 เดือน  เปิดตัวเลขออกมาก็รู้อยู่ว่าเป็นอย่างไร และต้องสร้างวัฒนธรรมการยอมรับผิด คือถ้าผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิดเมื่อมีปัญหามีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่าไปมองว่าใครเป็นคนผิด อย่าไปหาว่าใครผิด แต่ให้มองว่าความผิดมันอยู่ตรงไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร

 

ทันธรรม...โดยพระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ 

 

          คนเราจะเป็นใหญ่ได้ ไม่ว่าจะในด้านการเมืองการปกครอง ในแง่ของธุรกิจการงาน คนๆนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก่งคน ดูคนออก รวมใจคนได้ จึงจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทั้งปวงได้ เพราะงานสำคัญทำคนเดียวไม่ได้ ยิ่งเก่งคน รวมใจคนได้มากเท่าไหร่ ความสำเร็จก็ย่อมมากขึ้นเท่านั้น 

 

          ตัวอย่างหัวหน้าก๊กในสามก๊ก โจโฉดูคนเป็น ใครมีฝีมือเอามาใช้หมด ไม่ว่าเขาจะเป็นนายทหารหรือเป็นกุนซือของข้าศึกมาก่อน ถ้าเก่งจริงแล้วยอมสวามิภักดิ์ ใช้หมดทุกคนไม่คำนึงถึงภูมิหลัง  นั่นคือสไตส์โจโฉ ส่วนเล่าปี่โดยฝีมือส่วนตัว ไม่เก่งเท่าโจโฉ แต่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีมือประนมทั้งสิบทิศ มองคนออกเหมือนกัน รวมใจคนเก่งๆไว้ได้ รวมใจคนได้ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เล่าปี่ดูคนออก ตัวเองไม่เก่งแต่อ่อนน้อมถ่อมตน ให้เกียรติเขา แล้ววางตัว สร้างภาพลักษณ์ดีว่าเป็นคนมีคุณธรรม สุดท้ายจึงรวมใจคนได้ ส่วนซุนกวนเป็นหัวหน้าก๊กที่อายุน้อย ซุนกวน ไม่เก่งเท่ากับโจโฉ ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ภาพลักษณ์ไม่ดีเท่ากับเล่าปี่ แต่มีปกติคือ เมื่อรวมขุนพล รวมที่ปรึกษาเข้ามา จะให้คนพูดอย่างเต็มที่ แล้วซุนกวนจะคอยฟังทุกคนเป็นนักฟังที่ดี แล้วตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ในยามคับขัน กล้าที่จะให้เกียรติคนแล้วใช้คนใหม่ที่มีฝีมือ 

 

          แต่ละคนมีจุดเด่นต่างกัน แต่ความสำคัญคือ ต้องอ่านคนออกเหมือนกัน จะอ่านคนออก ต้องใจนิ่งๆ แล้วดูแต่ละคนอย่างดี อย่าทะนงตัวเอง อย่าถือยศศักดิ์มากเกินไป หากถือตัวมีความยโสโอหัง ถือดี จะมองคนไม่ออกกลายเป็นคนตาบอด คิดแต่ว่าตัวเองใหญ่ตัวเองแน่ แต่คนที่เขาใหญ่จริงแล้วเก่งจริงจะเปิดตาให้กว้าง แล้วดูทุกคน สังเกตทุกคน ดูประวัติดูผลงาน ดูบุคลิกท่าทาง และกล้าใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ หากใครรวมคุณสมบัติโจโฉ เล่าปี่ ซุนกวน ได้ในคนเดียวกัน คนนั้น รบร้อยครั้งชนะร้อยครา และจะชนะโดยไม่ต้องรบด้วย เพราะจะมีขุนพลทั้งบุ๋นทั้งบู้อยู่ในสังกัด จนกระทั่งประสบชัยชนะได้อย่างสบาย

รับชมคลิปวิดีโอ