ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2554
	
		อานิสงส์ของการทำบุญกฐิน ตอนที่ 1
	
		อานิสงส์ของการทำบุญกฐิน ตอนที่ 1
	
			เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
	
			        บุญจากการทอดกฐิน ถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มากเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากและมีข้อจำกัดหลายประการ อีกทั้งการทำบุญทอดกฐินจะมีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ส่วนในบางแห่งบางความเชื่อที่ได้นำคำว่า “กฐิน” (ซึ่งเป็นของชาวพุทธ) ไปใช้ ถือว่าเป็นการลอกเลียนแบบ ปลอมแปลง กลมกลืนพงศาวดาร เพื่อให้ผู้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวหลงเข้าใจผิดคิดไปนับถือ จะได้มีลาภสักการะบังเกิดขึ้นกับตนเองและพวกพ้องบริวาร เหมือนอย่างพวกเดียรถีย์ในสมัยพุทธกาล ฉะนั้น (ดูแล้วก็คล้ายๆกับการลอกเลียนแบบสินค้าที่มียี่ห้อดังๆ (Brand Name) ซึ่งในเวลาต่อมา พวกที่ไปลอกเลียนแบบของแท้มาก็เจ๊งในที่สุด) 
		
			บุญจากการทอดกฐิน ถือเป็นบุญใหญ่ที่มีอานิสงส์มากเป็นอย่างยิ่ง
		
			เพราะเป็นบุญที่ทำได้ยากและมีข้อจำกัดหลายประการ
		
			        เพราะในความเป็นจริงแล้ว การจะทำบุญทอดกฐินได้นั้น จะต้องมีการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์ เท่านั้น จึงจะทำบุญทอดกฐินได้ ซึ่งถือว่ายากมากๆ เพราะในบางกัปก็ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นเลย และหากเราพลาดไปเกิดในยุคนั้น เราจะหมดโอกาสทอดกฐิน ซึ่งก่อนที่เราจะได้รู้ถึงอานิสงส์ของการทอดกฐินว่าจะอัศจรรย์แค่ไหนนั้น เราควรจะมาศึกษาถึงความยากและข้อจำกัดของการทำบุญทอดกฐินกันก่อน เพื่อเราจะได้เห็นคุณค่าและปลื้มปีติอย่างที่สุดว่า “เรา คือ ผู้โชคดีที่ได้มาทำบุญนี้” 
		
			การจะทำบุญทอดกฐินได้นั้น จะต้องมีการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
		
			พระธรรม และ พระสงฆ์ เท่านั้น จึงจะทำบุญทอดกฐินได้
		 
 
			บุญทอดกฐิน เป็นบุญพิเศษที่จัดว่าเป็น “กาลทาน” กล่าวคือ ทำได้เฉพาะกาลเท่านั้น
		
			        อีกทั้งการทำบุญทอดกฐินจะต้องทำในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาที่กำหนดไว้ คือ ช่วงระยะเวลาภายในหนึ่งเดือนนับจากวันออกพรรษา ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 รวมเวลา 29 วันเท่านั้น หากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแม้แต่เพียงวันเดียว บุญที่ทำไป จะไม่จัดว่าเป็นบุญทอดกฐินของปีนั้น 
		 
 
			การทำบุญทอดกฐินจะต้องทำในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาที่กำหนดไว้
		
			คือ ช่วงระยะเวลาภายในหนึ่งเดือนนับจากวันออกพรรษา
		
			        ประการที่ 2. การทำบุญทอดกฐิน เป็นบุญที่ถูกจำกัดด้วยประเภทของทาน กล่าวคือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น จะถวายแบบเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่งเหมือนทานอื่นๆไม่ได้ 
		 
 
			การทำบุญทอดกฐิน เป็นบุญที่ถูกจำกัดด้วยประเภทของทาน กล่าวคือ ต้องถวายเป็นสังฆทานเท่านั้น
		
			        ประการที่ 4. หากเราคิดจะทำบุญทอดกฐิน ไม่ใช่แค่เดินทางไปวัดไหนแล้วก็จะทำได้ง่ายๆ เพราะวัดที่เราจะทอดกฐินได้นั้น ต้องมีพระภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ อย่างน้อย 5 รูป หากมีพระจำพรรษาแค่ 1 - 4 รูป หรือจำพรรษาไม่ครบ หรือไม่มีพระจำพรรษาที่วัดนั้นเลย เราจะทำบุญทอดกฐินไม่ได้ หรือหากทำ บุญนั้นก็ไม่จัดว่าเป็นบุญทอดกฐิน 
		 
 
			วัดที่เราจะทอดกฐินได้นั้น ต้องมีพระภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ อย่างน้อย 5 รูป
		
			        ประการที่ 5. ในวันทอดกฐิน พระภิกษุที่กรานกฐิน ต้องตัด เย็บ ย้อม (หรือรับผ้าจีวรสำเร็จรูปที่ทายกทายิกา ตัด เย็บ ย้อม เสร็จเรียบร้อยแล้ว ถวายมาก็ได้) เมื่อได้ผ้าจีวรมาแล้ว จะต้องกรานกฐินให้แล้วเสร็จภายในวันนั้น จะเลื่อนไปเป็นวันรุ่งขึ้นหรือวันอื่นๆไม่ได้ เมื่อพระผู้รับกฐินได้ทำการกรานกฐินเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะถือว่าเสร็จพิธีกรานกฐินอย่างบริบูรณ์ 
		 
 
			การทำบุญทอดกฐิน เป็นบุญที่ถูกจำกัดด้วยไทยธรรม กล่าวคือ ของที่ถวาย
		
			ต้องเป็นผ้าผืนใดผืนหนึ่งในจำนวนไตรจีวรเท่านั้น
		
			        ประการที่ 7. การทำบุญทอดกฐินและการถวายผ้ากฐิน ถือว่าเป็นบุญใหญ่ที่มีความพิเศษแตกต่างจากทานอื่นๆ เพราะเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริขึ้นด้วยพระองค์เอง กล่าวคือ ทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้ถวายแด่ภิกษุที่จำพรรษาครบสามเดือน ซึ่งผิดกับการทำทานอย่างอื่นที่ต้องมีทายก, ทายิกา ทูลขอกับพระพุทธองค์ก่อน เช่น การถวายผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งเกิดจากการที่มหาอุบาสิกาวิสาขาทูลขอกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เกิดการทำบุญถวายผ้าอาบน้ำฝนขึ้น เป็นต้น
		
			การทำบุญทอดกฐินและการถวายผ้ากฐิน ถือว่าเป็นบุญใหญ่ที่มีความพิเศษแตกต่างจากทานอื่นๆ
		
			เพราะเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดำริขึ้นด้วยพระองค์เอง
		
			        จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่า การทอดกฐินเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การที่นักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาจะตัดสินใจทำบุญทอดกฐินนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่เป็นสิ่งที่เหนือธรรมดา เพราะบุญกฐินเป็นอภิมหาบุญใหญ่ที่หาทำได้ยากยิ่ง
		 
 
			บุญจากการทอดกฐิน จะส่งผลทำให้สภาพใจของผู้ที่ได้ทำบุญทอดกฐินจะมีความใสสว่างเป็นอย่างยิ่ง
		
			เหมือนทำบุญแล้ว ใจจะสว่างวาบในทันทีทันใด
		
			        แต่เมื่อผู้นั้นได้ทำบุญทอดกฐิน ความตระหนี่ที่ห่อหุ้มใจก็จะถูกกำจัดออกไปในทันทีทันใด ซึ่งส่งผลทำให้สภาพใจเกิดความใสสว่างเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อเกิดความสว่างเช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้จิตใจของผู้ทำบุญเกิดความเบาสบาย อย่างที่เรียกว่า “พูดไม่ออกบอกไม่ถูก” จะมีความสุขอย่างที่สุด ปลื้มอย่างที่สุด ปลื้มแล้วปลื้มอีก...เฝ้าแต่ปลื้ม ไม่กังวลใจอะไรทั้งสิ้น หรือสบายอกสบายใจในทุกๆเรื่องทุกๆสิ่ง กล่าวได้ว่า “อันตัวเราผู้ไม่มีความตระหนี่นั้น จะมีความสุขไปตลอดชีวิต และความสุขนั้นจะอัดแน่นล้นปรี่อยู่ในใจ”
		
			แต่เมื่อผู้นั้นได้ทำบุญทอดกฐิน ความตระหนี่ที่ห่อหุ้มใจก็จะถูกกำจัดออกไปในทันทีทันใด
		
			ซึ่งส่งผลทำให้สภาพใจเกิดความใสสว่างเป็นอย่างยิ่ง
		
			อ่านรายละเอียด...  
			
			
				  
		
	











