ตอนนั่งสมาธิทำไมจิตใจมักคิดถึงแต่เรื่องไม่ดี

เราเคยสะสมความคิดไม่ดีมาก่อน พอใจสงบเข้า ก็เหมือนกรอฟิล์มภาพยนตร์ย้อนกลับ ของไม่ดีผุดขึ้นมาเหมือนคุ้ยกองขยะ พอเราทำสมาธิก็เหมือนเราโกยขยะให้หลุดออกไปจากใจ https://dmc.tv/a12549

บทความธรรมะ Dhamma Articles > หลวงพ่อตอบปัญหา
[ 4 พ.ย. 2554 ] - [ ผู้อ่าน : 18273 ]
หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 

คำถาม: เวลานั่งสมาธิ ทำไมจิตใจมักคิดแต่เรื่องไม่ดี ทำให้ไม่อยากนั่ง ทำอย่างไรจึงจะเลิกคิดได้คะ?

 
คำตอบ: หลวงพ่อเองก็เคยเป็นอย่างนี้เหมือนกัน ทีแรกสงสัย แต่เดี๋ยวนี้ไม่สงสัยและไม่เป็นอีกแล้ว เมื่อก่อนนี้บางทีนั่งไปแทนที่จะนึกถึงองค์พระ นึกถึงด้วงแก้ว มันมีคำด่าผุดขึ้นมาแทรก มันนึกได้เองโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องร้ายๆ อะไร ไม่รู้โผล่ขึ้นมาเป็นระยะๆ ครั้นฝึกต่อไปมากเข้าๆ ของพวกนี้จึงค่อยๆ หายไป พอมาตรวจสอบดูภายหลังจึงพบว่า อ๋อ...เป็นอย่างนี้เอง
 
        คือเราเคยสะสมความคิดไม่ดีมาก่อน ครั้นพอใจสงบเข้า มันก็เหมือนกรอฟิล์มภาพยนตร์ย้อนกลับ ของที่ไม่ดีๆ มันโผล่ขึ้นมาเหมือนกับคุ้ยกองขยะ ใจของเรามีเรื่องไม่ดีมากมายเหมือนกับเป็นกองขยะ พอเราทำสมาธิก็เหมือนกับเราโกยขยะให้หลุดออกไปจากใจ ยิ่งโกยก็ยิ่งเจอของไม่ดีเก่าๆ เยอะเลย วันหนึ่งก็คิดว่าช่างมัน โกยมันทิ้งไป เมื่อมันมาได้ มันก็ไปได้เหมือนกัน พอทำใจได้อย่างนี้ มันก็หายไปเอง ในที่สุดใจก็ใสขึ้นมา
 
 
นั่งสมาธิแล้วจิตใจมักคิดแต่เรื่องไม่ดี
นั่งสมาธิแล้วจิตใจมักคิดแต่เรื่องไม่ดี
 
        หลวงพ่อเองก่อนเข้าวัด เคยทำงาน เคยเรียนในเรื่องการฆ่าสัตว์มามาก เนื่องจากเรียนแผนกสัตวบาล เวลาฝึกสมาธิครั้งแรก หลับตาลงทีไรก็เห็นแต่ภาพสัตว์ที่เคยฆ่า มันมาร้อง มันมาดิ้น มันมาครวญครางอยู่ต่อหน้า ก็อดทนทำใจเป็นกลางๆ ไม่นานภาพพวกนี้ก็หายไป แต่จะมีอย่างอื่นเข้ามาแทน คราวนี้ที่เห็นมันไม่ครวญ มันไม่ครางแล้ว ควายมันกระโดดขวิดทีเดียว หมูมันกระโดดเข้าใส่ ก็ทำเฉยๆ แล้วมันก็หายไป
 
        ต่อมามันเปลี่ยนใหม่ หมูมันเต้นระบำได้ มันมาเต้นหย็องๆ แหย็งๆ ให้กวนใจ ก็ทำใจเฉยๆ มันเต้นได้ก็เต้นไป ในที่สุดมันก็หายไป พอนั่งมากเข้าๆ จากภาพที่เห็นชัดๆ จะเห็นเพียงไกลๆ จนละลายหายไปหมด ก็เท่านั้นเอง
 
        ส่วนความคิดที่ไม่ดีก็มี ความคิดที่เคยชอบเล่นการต่อสู้ป้องกันตัวเอาไว้มาก อย่าว่าแต่นั่งสมาธิเลย นั่งทำงานอยู่นี่แหล่ะ พอใครพูดขัดหูขึ้นมาปั๊บละก็ ท่าดาบ ท่ามีดที่เคยฝึกไว้ มันนึกออกมาเห็นเป็นฉากๆ ขึ้นมาเลย ก็กำหนดองค์พระขึ้นมาแทน หนักเข้าๆ ความคิดพวกนี้ก็ค่อยๆ หายไปหมด ใครที่เคยเป็นอย่างนี้ก็อดทนฝึกไปเรื่อยๆ อย่าท้อถอย ความสำเร็จมีรออยู่ข้างหน้าแน่นอน การนั่งสมาธิเป็นการชำระใจให้สะอาด สว่าง สงบ แม้แรกๆ จะมีปัญหารบกวนดังที่กล่าวมาบ้าง ก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา จงอย่าละความพยายาม นั่งต่อไปทุกวันๆ แล้วจะประสบผลสำเร็จในที่สุด
 

คำถาม: ผู้ปฏิบัติวิปัสสนาล้วนๆ คือผู้ที่ปฏิบัติแบบสุกขวิปัสสกะ เขาไม่ได้ทำสมาธิ เพราะฉะนั้นเขาก็ย่อมไม่ผ่านดวงปฐมมรรค ผู้ที่ไม่ผ่านดวงปฐมมรรค จะเกิดปัญญาได้ไหม กรุณาชี้แจงให้ทราบด้วยครับ?

 
คำตอบ: คุณโยมเข้าใจผิดนะ ผู้ปฏิบัติแบบสุกขวิปัสสกะ นั่น เขาทำสมาธิด้วยนะ แต่ฝึกสมาธิคนละแบบกับที่วัดพระธรรมกายสอนและปฏิบัติกัน
 
        อยากจะฝากไว้หน่อยว่า คำสอนในพระพุทธศาสนานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงวางรากฐานการศึกษาไว้แล้วว่า ประกอบด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
ศีลเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ ฝึกสมาธิต่อไปจะเป็นพื้นฐานให้เกิดปัญญา อยู่เฉยๆ โดยไม่ฝึกสมาธิ จะให้มีปัญญาเกิดขึ้นนั้น เลิกคิดเสียที เป็นไปไม่ได้ ที่มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกว่า พระภิกษุบางรูปก่อนบวชไม่เคยฝึกสมาธิเลย บวชปุ๊บปั๊บได้เป็นพระอรหันต์ ทำให้หลายคนคิดว่าถ้าอย่างนั้นไม่ต้องฝึกสมาธิก็คงจะได้
 
        นั่นคิดผิดแล้ว ดูอย่างนี้ดีกว่า ดูว่าพระอรหันต์แต่ละองค์ความจริงท่านฝึกสมาธิกันมาก่อนหรือเปล่า พระอัญญาโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ท่านฝึกสมาธิตั้งแต่ยังเป็นพราหมณ์หนุ่ม ท่านคือผู้ที่ไปพยากรณ์พระสิทธัตถะราชกุมาร ขณะยังทรงเป็นทารกแบเบาะอยู่ ท่านเป็นผู้เดียวที่ได้พยากรณ์ ไว้ว่า
 
        “พระราชกุมารนี้ ต่อไปจะต้องตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาเอกของโลกอย่างแน่นอน ไม่เป็นอย่างอื่น” โกณฑัญญะพราหมณ์ได้ฝึกสมาธิรอไว้แล้วตั้งแต่ตอนนั้น พอถึงเวลาที่เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวชเมื่อพระชนมายุ ๒๙ ชันษา ท่านพร้อมด้วยพราหมณ์ทั้ง ๔ ก็ออกบวชตามไปอยู่ด้วย
 
        เมื่อพระองค์ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วทรงแสดงปฐมเทศนา พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนใครอื่น เพราะฝึกสมาธิเป็นพื้นฐานมานาน พอฟังเทศน์ ปุ๊บ...ก็เข้าถึงธรรมกายเป็นพระโสดาบันทันที
 
        แม้พระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร ซึ่งเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวา ก่อนจะมาเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทั้งสองก็สำเร็จ ศิลปศาสตร์ ๑๘ แขนง แล้วท่านก็ฝึกสมาธิอย่างดี จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่ก็มีพระอรหันต์บางรูป เช่น พระทัพพมัลลบุตร เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ในพระไตรปิฎกไม่ได้กล่าวถึงการทำสมาธิไว้เลย แต่ถ้าเราไปอ่านดูในอรรถกถา (เป็นคัมภีร์ขยายความพระไตรปิฎก) จะพบว่าท่านเคยเกิดในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ
 
        สมัยนั้นเมื่อท่านออกบวชแล้ว ท่านกับเพื่อนอีก ๔ รูป เห็นว่าศาสนาของพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าใกล้จะสูญแล้ว จึงชวนกันขึ้นไปบนภูเขาทางหน้าผาขาด ปีนพะอง ขึ้นไป พอขึ้นไปถึงยอดเขาก็ผลักพะองทิ้งแล้วต่างตั้งสัตยาธิษฐานว่า ตราบใดถ้ายังไม่หมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ ก็ขอยอมตายอยู่บนยอดเขานี้ จะไม่ยอมลุกจากที่ไปบิณฑบาตเป็นอันขาด
 
        ๓ วันผ่านไป พระภิกษุรูปหนึ่งได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ท่านจึงเหาะไปบิณฑบาตนำอาหารมาให้เพื่อนฉัน เพื่อนพระภิกษุอีก ๔ รูป เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุธรรม จึงปฏิเสธไม่ฉัน กล่าวว่าถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ขอยอมอดตาย จนกระทั่งถึงวันที่ ๗ พระภิกษุอีกรูปหนึ่งก็เข้าถึงธรรมกายพระอนาคามี เป็นพระอนาคามีบุคคล สามารถเหาะลงไปบิณฑบาต และนำอาหารมาฝากให้เพื่อนพระภิกษุบนภูเขาฉันได้ แต่เพื่อนอีก ๓ รูป ก็ไม่ยอมฉัน ในที่สุดก็มรณภาพเพราะอดอาหารหมดทั้ง ๓ รูป
 
ผู้ที่สำเร็จอรหัตโดยมิได้ฌาน เรียกว่า สุกขวิปัสสกะ (คือผู้ที่เจริญแต่วิปัสสนา)
ผู้ที่สำเร็จอรหัตโดยมิได้ฌาน เรียกว่า สุกขวิปัสสกะ (คือผู้ที่เจริญแต่วิปัสสนา)
 
        พระภิกษุ ๑ ใน ๓ นั้นมาเกิดในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นโอรสของมัลลกษัตริย์ พอพระชนมายุ ๗ ชันษาก็ทรงออกผนวช ในวันผนวชนั้นเองพอโกนพระเกศาหมดทั้งศีรษะ ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ทันที เนื่องจากท่านทำสมาธิไว้มากในชาติก่อน ของเก่าของท่านสะสมไว้มาก เพราะฉะนั้นพอมาชาตินี้ท่านทำต่ออีกนิดเดียว คือพอปลงผมเสร็จก็เป็นพระอรหันต์เลย
 
        พวกเราอย่าขี้เกียจฝึกสมาธินะ แม้ชาตินี้ยังเป็นพระอรหันต์ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หมั่นสะสมไว้เถอะ ภพต่อไปอย่าว่าแต่จะได้เป็นพระอรหันต์เมื่อ ๗ ขวบเลย เป็นเมื่ออายุ ๔๐-๖๐ ปีก็ยังไม่ช้าไปหรอก แต่ถ้าคิดว่าฉันไม่ฝึกสมาธิแล้ว ฉันจะตั้งหน้าตั้งตาทำทานให้มาก เพื่อให้ได้บรรลุธรรมอย่างนั้นอย่างนี้ เลิกคิดเสียเถอะ เพราะถ้าไม่ฝึกสมาธิแล้วได้บรรลุธรรม ก็ขัดกับหลักศีล สมาธิ ปัญญา ขัดกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอนนะ

http://goo.gl/rjuN4


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำอย่างไรจึงจะไม่ท้อไม่เหนื่อยในการทำงาน
      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น
      "สังคมเปลี่ยนไป" แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?
      หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม
      คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่
      อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก
      การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร
      ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง
      เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?
      เราจะปลูกฝังให้ลูกหลานทำหน้าที่ชาวพุทธให้สมบูรณ์ได้อย่างไร ?
      เราควรจะเลือกทำงานด้วยทัศนคติอย่างไรที่จะส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
      การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร
      การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้เหมาะสมแก่การฝึกสมาธิและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธรรม




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related