หลวงพ่อตอบปัญหาโดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCQ2: สัตว์ต่างๆ ทั้งหลายในโลกนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?Q3: กายละเอียดของสัตว์เป็นอย่างไร?คำถาม: ทำไมกรรมที่ทำต่อพระอริยเจ้า จึงมากกว่ากรรมธรรมดา ทั้งๆ ที่ ผู้สร้างกรรมไม่รู้ว่าท่านเป็นพระอริยเจ้า ขอความกระจ่างด้วยครับ?
คำตอบ: เป็นคำถามที่ดีมาก คืออย่างนี้ พระอริยเจ้าน่ะ ท่านเป็นผู้มีคุณใหญ่ มีความดีมาก ส่วนคนทั่วไปเป็นผู้มีคุณน้อยมีความดีน้อย ถ้าเราไปทำผิดคิดร้ายต่อพระอริยเจ้า ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามทีเถอะผลกรรมนั้นหนักนักอุปมาเหมือนรถสิบล้อกำลังแล่นอยู่ แล้วเราไปขวางทางรถรับรองถูกทับตายแน่ แต่ว่าคนธรรมดามีคุณธรรมน้อยอุปมาเหมือนรถจักรยาน เราไปขวางทางจักรยาน อย่างมากก็เพียงถูกชนจนล้ม ก็เขียวๆ ถลอกๆ เท่านั้นแหล่ะ ผู้ที่มีคุณความดีอยู่ในตัวมาก เราไปทำล่วงเกินผิดพลาดกับท่าน ก็มีโทษมาก ตรงกันข้ามถ้าไปทำความดีกับท่านก็ได้ผลดีมากเกินคาดเหมือนกันกรรมที่ทำต่อพระอริยเจ้าผลกรรมนั้นหนักมากเอาอย่างนี้ก็แล้วกันสำหรับพระอริยเจ้านี้ยกไว้ ไม่ต้องมากหรอก คุณพ่อของเรานี่แหละ สมมุติว่าตอนกลางคืนท่านเดินตรวจรอบๆ บ้าน เรานึกว่าเป็นขโมยเราจึงดักอยู่ตรงมุมบ้าน พอพ่อโผล่มาเราก็เอาตะพดฟาดเปรี้ยงเข้าให้ หัวแบะเลย พอเข้าไปจะช้ำอีกที อ้าวพ่อหรือหรือนี่ ทั้งๆ ที่เราไม่รู้ แต่พอเป็นผู้มีพระคุณใหญ่ ยังไงเสีย บาปก็มาก ถ้าเปลี่ยนจากพ่อมาเป็นคนใช้ เห็นเดินตรวจรอบบ้านอยู่ นึกว่าขโมย เราฟาดเปรี้ยงเข้าให้ บาปก็น้อยตามส่วน เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละผู้ที่มีคุณมาก หากเราไปทำร้ายท่าน ก็จะได้รับผลของกรรมนี้ทันที คือภายในชาตินี้ส่วนหนึ่ง และเมื่อตายย่อมไปตกนรกแน่นอน กรรมประเภทนี้ท่าน เรียกว่า อนัตริยกรรม ได้แก่๑. การทำมาตุฆาต ฆ่ามารดา๒. การทำปิตุฆาต ฆ่าบิดา๓. อรหันตฆาต การฆ่าพระอรหันต์๔. โลหิตุปบาท ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนห้อพระโลหิต๕. สังฆเภท ยังสงฆ์ให้แตกกันคำถาม: ในโลกนี้ทำไมจึงมีสัตว์ต่างๆ มากมาย มันเกิดมาได้อย่างไรคะ ?
คำตอบ: สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่ว่าช้าง ม้า วัว ควาย ฯลฯ จริงๆ แล้วแต่เดิมนั้น หรือชาติในอดีตมันก็เป็นคนอย่างกับพวกเรานี่แหละ แต่มันก่อเวรเอาไว้มาก อำนาจบาปจึงบีบคั้นจนกระทั่งรูปของมันวิปริตไปจากคน กลายเป็นสัตว์วิบากกรรมที่ทำให้เกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉานต่างๆอำนาจกรรมนี้ร้ายนัก บางคนมีเศษกรรมเพียงเล็กน้อย ได้เกิดมาเป็นคน แต่เศษกรรมก็สามารถบีบคั้นให้กลายสภาพเป็นคนพิการ ตาบอด หูหนวกได้ ถ้าหนักข้อเข้าก็อาจถึงขั้นเป็นคนใบ้ บ้า ปัญญาอ่อนไป ส่วนพวกที่กรรมหนักๆ น่ะ มันบีบคั้นเอาจนกระทั่งรูปร่างของมันวิปริตไปจากคน กลายเป็นสัตว์เดรัจฉานไปเลย นี่อำนาจกรรม มันบีบคั้นได้อย่างนี้เมื่อใดอำนาจบาปกรรมที่บีบคั้นคลายตัวลงแล้ว จากสัตว์เดรัจฉาน ก็กลับมาเกิดเป็นคน เมื่อได้รูปร่างเป็นคนแล้ว ถ้าตั้งใจทำความดี หมั่นสะสมบุญเรื่อยไป ปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ จนกระทั่งวันใดวันหนึ่งบุญเต็มที่ถูกส่วนเข้า ก็เข้าถึงธรรมกาย อาศัยธรรมกายนั้นมาพิจารณาอริยสัจ ๔ จนรู้แจ้งถึงขั้นตรัสรู้ธรรม ก็หมดกิเลสเข้าพระนิพพานไปด้วยกันนั่นแหละที่คุณหนูสงสัยว่าทำไมจึงมีสัตว์มากนัก ตอบว่า เพราะในอดีตชาติมีคนทำบาปมากมาย บาปได้บีบคั้นให้เขาต้องมาเกิดในรูปร่างเป็นสัตว์สารพัดชนิด ถ้ายังไม่เลิกทำบาปกัน สัตว์เดรัจฉานจะยิ่งมากกว่านี้คำถาม: หลวงพ่อครับ กายละเอียดของคนเป็นคน แล้วกายละเอียดของสัตว์เป็นอะไรครับ ?
คำตอบ: กายละเอียดของสัตว์ชั้นในสุดก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่ว่าหมู หมา กาไก่ ที่มันวิ่งอยู่ข้างทางนี่ แต่เดิมมันก็เป็นคนอย่างเรานี่แหละ แล้วทำไมมันถึงได้มาเป็นสัตว์เป็นสุนัข หรือมาเป็นเป็ดเป็นไก่กายละเอียดของสัตว์ต่างๆ ชั้นในสุดก็เป็นคนเหมือนกับเราตอบว่าที่มาเป็นสัตว์ เพราะเมื่อชาติที่เป็นคน เขารักษาศีล ๕ ไม่ครบ พอละโลกตายไปจะเกิดใหม่ กายละเอียดของเขาเข้าไปสู่ครรภ์มารดาที่เป็นคนไม่ได้ เพราะธาตุชั้นนั้นมันหยาบกว่าคน เหมือนเวลาเขาเอาตะแกรงร่อนกรวด ร่อนทรายกรวดนั้นมีทั้งกรวดหยาบ กรวดละเอียด พอผ่านตะแกรง กรวดหยาบ เขาก็แบ่งเป็นส่วนหนึ่ง กรวดละเอียดเขาก็แบ่งเป็นอีกส่วนหนึ่ง กรวดหยาบเขาใช้ทำถนนหนทาง ส่วนกรวดละเอียดหรือทรายละเอียด เขานำมาผสมปูนซีเมนต์ใช้ฉาบผนัง ใครก็ตามที่ผิดศีลเอาไว้มากๆ ใจของเขาก็หยาบ เปรียบเหมือนกรวดหยาบๆ ที่ต้องถูกร่อนทิ้งออกไป เวลาจะมาเกิดกายละเอียดชั้นนอกของเขาหยาบเกินกว่ากายละเอียดชั้นนอกของมารดาที่เป็นคน เพราะฉะนั้นจึงเข้าไปเกิดไม่ได้ ก็เลยต้องไปเข้าครรภ์มารดาที่เป็นสัตว์ เกิดเป็นหมูเป็นหมา เป็นเป็ดเป็นไก่อะไรไปโน่น เวลามาเกิดแทนที่จะร้องอุแว๊ๆ กลับร้องเอ๋งๆ ซะนี่ แต่ว่าข้างในลึกๆ น่ะเป็นคนเพราะฉะนั้นถ้ารักที่จะเกิดมาเจอหน้ากันใหม่ จะได้คุยกับหลวงพ่อรู้เรื่องละก็ ต้องเกิดเป็นคนนะ คือตลอดชาตินี้ ต้องรักษาศีล ๕ ให้ดีนะ
http://goo.gl/Km3g8