ผู้หญิงบวชที่วัดพระธรรมกายได้หรือไม่

ที่วัดพระธรรมกายไม่มีการบวชชี ฝ่ายหญิงที่รับเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในวัด เรียกว่า “อุบาสิกา” คือเป็นผู้ที่ปฏิญาณตนว่ารักษาศีล 8 แต่ไม่ได้ปลงผมเหมือนแม่ชีทั่วไป https://dmc.tv/a13135

บทความธรรมะ Dhamma Articles > หลวงพ่อตอบปัญหา
[ 24 ม.ค. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18283 ]
หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 
 
คำถาม: ผู้หญิงจะบวชที่วัดพระธรรมกายได้หรือเปล่าคะ?
 
คำตอบ: คนถามคงหมายถึงการบวชชี ถ้าหมายถึงการบวชเป็นภิกษุณีละก็ บวชไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีอุปัชฌาย์บวชให้ ที่วัดพระธรรมกายไม่มีการบวชชี ฝ่ายหญิงที่รับเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ในวัด เรียกว่า “อุบาสิกา” คือเป็นผู้ที่ปฏิญาณตนว่ารักษาศีล 8 แต่ไม่ได้ปลงผมเหมือนแม่ชีทั่วไป และที่นี่มีกฎระเบียบว่า ก่อนรับเข้ามาเป็นอุบาสิกาของวัด ต้องผ่านการอบรมเป็นธรรมทายาทหญิงเสียก่อน
 
อุบาสิกาวัดพระธรรมกาย
อุบาสิกาวัดพระธรรมกาย
 
        ทำไมต้องตั้งกฎอย่างนี้ บอกตรงๆ ว่าผู้หญิงปกครองยาก ปกครองผู้ชาย หรืออบรมธรรมทายาทชายตั้ง 1000 คน ยังไม่ยุ่งยากเหมือนอบรมธรรมทายาทหญิง 10 คน 
 
        เพราะผู้หญิงมีเรื่องหยุมหยิมมากเหลือเกิน ประเดี๋ยวก็มาฟ้อง “หลวงพ่อหนูต้องเปลี่ยนที่นอนแล้ว” ทำไมล่ะ? “คนนอนข้างๆ เขากรนทั้งคืน นอนไม่หลับ” ดูเอาเถอะเรื่องอย่างนี้ก็ต้องมาถึงหลวงพ่อด้วย ธรรมทายาทชายใครจะนอนกรนก็กรนไป คนข้างๆ พ่อหลับสบายไม่อยากตื่นเสียอีก แต่สำหรับผู้หญิงแค่นี้ก็มีเรื่อง
                         
        ความจริงน่าจะคิดกันบ้างว่าคนนอนกรน เขาอยากกรนเสียเมื่อไหร่ แล้วยังมีเรื่องจุ๊กๆ จิ๊กๆ กันอีก บางทีเดินหน้าง้ำมาฟ้อง “หลวงพ่อ หนูพูดกับเขาดีๆ เขายังไม่พูดกับหนูเลย” ก็ไม่รู้ไปเดือดร้อนอะไรด้วย เขาไม่พูดก็ช่างเขาปะไร ต้องเอามาฟ้องด้วย นี่ขนาดตั้งใจมาเข้ารับการอบรมด้วยตัวเองนะ ไม่มีใครบังคับมาเลย
                         
        เมื่อก่อนก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงตั้งกฎเกณฑ์ให้ภิกษุณีบวชได้ยากนัก พอรับผู้หญิงเข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในวัดได้พักหนึ่งถึงได้รู้ อ๋อ...มันเป็นยังงี้นี่เล่า แต่ยังไงๆ อุบาสิกาก็ต้องมีที่วัดนี้ คงต้องคัดสักหน่อย ต้องวางกฎระเบียบให้รอบคอบ ที่ฟ้องเก่งๆ ไม่อยากได้นะ
                         
        ถ้าใครไม่อยากเป็นคนฟ้องเก่ง จนหลวงพ่อรับไม่ไหวละก็ฝึกสมาธิให้มากๆ นะ จะได้มีสติกำกับการกระทำอยู่ตลอดเวลาและทำให้ไม่คิดจับผิดคนอื่น ถ้าจะจับผิดก็ให้จับผิดตัวเอง เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
 
คำถาม: ดิฉันถูกใช้ให้ทำความสะอาดพระพุทธรูป ขนาดพระประธานในโบสถ์ แต่อยู่ในโรงพยาบาลซึ่งมีผู้สร้างไว้ให้ กรณีผู้ที่ทำความสะอาดเป็นผู้หญิง ต้องขัดถูพระพุทธรูปให้ขึ้นเงางามเป็นประจำทุกปี ในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ ผู้ทำความสะอาดต้องใช้ส้มมะขาม และ Brasso ขัดพระประธานองค์นั้น ถามว่าจะมีผลอย่างไรต่อผู้กระทำ จะเป็นบาปหรือเปล่าคะ?
 
คำตอบ: จะเป็นบาปได้อย่างไร คุณตั้งใจให้พระเป็นเงางาม มีแต่ว่าถ้าคุณทำเป็นประจำและคุณก็ตั้งใจทำจริง อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย แม้ชาตินี้ผิวพรรณของคุณจะมีแต่ผ่องใสขึ้น เพราะว่าในใจของคุณมีแต่คิดจะให้พระพุทธรูปนั้นงดงามให้สะอาดให้ผ่องใส ไม่มีฝุ่นละอองหรือจุดด่างดำเข้ามาเจือปน ใจคุณสว่าง ผ่องใสนำไปก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นหน้าตาผิวพรรณของคุณมันฝืนอยู่ไม่ได้หรอก ต่อให้เป็นคนผิวดำ อีกไม่นานถึงดำก็ดำผ่องน่ามอง ยิ่งภพชาติต่อไปจะเกิดมาสวย ผิวอย่างกับทองคำ
 
ทำความสะอาดพระพุทธรูป
ทำความสะอาดพระพุทธรูป
 
        เกี่ยวกับเรื่อง อานิสงส์ของผู้ทำความสะอาด สิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนานี้ มีอยู่วันหนึ่งคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง คุณยายอาจารย์ของพวกเรา ท่านนั่งสมาธิดูบุญของพวกขัดห้องน้ำวัด คือห้องน้ำของวัดพระธรรมกายเราที่เห็นสะอาดๆ นี่ เราไม่ได้เอาคนงานที่ไหนมาขัดหรอกนะ เราได้อาสาสมัครจากพวกที่มาวัดนี่แหละ
                         
        พวกอาสาสมัครเหล่านี้พอฟังเทศน์ไปถึงตอนท้ายๆ สังเกตว่าเทศน์จะจบแล้ว คือฟังว่าเป็นบทสรุป หรือเริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็น เขาจะลุกออกไปก่อน ไปอาสาสมัครช่วยขัดห้องน้ำกัน ทุกห้องทางวัดจัดอุปกรณ์การขัดไว้ให้พร้อมอยู่แล้ว เขาจองคนละห้องๆ แล้วลงมือขัดล้างอย่างเต็มอกเต็มใจ 5-10 นาที ก็เสร็จ สะอาดเกลี้ยงเกลาทีเดียว
                         
        วันหนึ่งเด็กๆ ก็ไปถามคุณยายว่า เขาจะได้อานิสงส์อย่างไร จะได้บุญอะไรจากการขัดห้องน้ำของวัด ของพระ คุณยายก็นั่งสมาธิเข้าที่ไปตรวจก็พบว่า ด้วยความที่เขามีจิตปรารถนาดี อยากจะให้ห้องน้ำสะอาด ใครเข้ามาใช้ก็ใช้ด้วยความสะดวกสบาย ในความคิดของเขามีแต่ว่าจะทำให้สะอาดๆ ความคิดอันนี้มันติดเข้าไปในใจของเขา แล้วผลบุญก็เกิดในใจของเขานั่นแหละ คิดถึงความสะอาด คิดถึงความผ่องใสมากเข้าๆ
                         
        คนพวกนี้ขณะมีชีวิตอยู่ จิตใจของเขานับแต่นี้ไป สะอาด ผ่องใส จะไม่หมกมุ่นในเรื่องถือเนื้อถือตัว เพราะขนาดส้วมสาธารณะอย่างนี้ เขายังน้อมเข้าไปขัดล้างให้ ขึ้นชื่อว่าส้วม ใครก็มาถ่ายหนัก ถ่ายเบาด้วยกันทั้งนั้น แต่เขาไม่รังเกียจตัดมานะความถือตัวออกได้ ยอมไปขัดส้วม
                         
        พอความมานะความถือตัวมันหลุดออกไปจากใจ ใจมันก็สว่างโพลง ในสว่างโพลงอย่างนี้เวลาใช้ตรึกธรรมะ จะสามารถเห็นแจ้งแทงทะลุได้มากกว่าคนอื่น และเข้าถึงธรรมะได้เร็วอีกด้วย 
                         
        ยิ่งกว่านั้น ภพต่อไปเมื่อละจากโลกมนุษย์ ไม่ว่าเขาจะเป็นเทวดาหรือนางฟ้าก็ตาม รัศมีกายของเขาจะสว่างกว่าเทวดานางฟ้าองค์อื่นๆ พอเกิดมาเป็นมนุษย์อีกที ผิวพรรณจะผ่องใสนุ่มนวล ไปถึงไหน ก็พบแต่สถานที่ที่สะอาดสะอ้าน เพราะว่าเขาได้เพาะเชื้อความสะอาดไว้ตั้งแต่ชาตินี้ ในทางตรงกันข้าม ใครก็ตามถ้าเข้าห้องน้ำแล้วทำให้สกปรกขี้เกียจราดน้ำล้าง พวกนี้เกิดกี่ชาติๆ นอกจากเนื้อตัวผิวพรรณจะกระทำกระด่างแล้ว ยังมีกลิ่นตัวเหม็นสาบฉุนๆ อย่างกับกลิ่นห้องน้ำติดตัวไประวังไว้ก็แล้วกัน
                         
        ในสมัยพุทธกาล มีกษัตริย์อยู่พระองค์หนึ่ง เป็นกษัตริย์ที่ผิดจากกษัตริย์ทั่วไป คือมีพระปรีชาสามารถฉลาดเฉลียวดี อะไรๆ ก็ดีทุกอย่าง แต่ว่ารูปร่างอัปลักษณ์ ผิวพรรณหยาบกร้าน หน้าดำอย่างกับถ่านไปแถบหนึ่ง คือเป็นปานดำครึ่งหน้า ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่พระภิกษุว่า พระองค์มีเวรมีกรรมอะไรกัน มีบุญได้เป็นถึงกษัตริย์ แต่ว่าหน้าดำเป็นเปาบุ้นจิ้น ก็มีการระลึกชาติตามไปดู
                         
        ในที่สุดก็พบว่าภพในอดีตเป็นคนมีความปรารถนาดี ชอบทำบุญทำทาน ช่วยกิจการงานวัด ช่วยกิจการสงฆ์ โดยเฉพาะชอบช่วยงานโรงครัวของวัดมาก เข้าไปช่วยเขาหุงข้าวปลาเลี้ยงพระ แต่ว่าไม่รักษาความสะอาดให้ดี ปล่อยให้ควันรมพระพุทธรูป รมศาลา รมอะไรต่ออะไรในวัด เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ก็มีความปรารถนาดีมีใจเป็นบุญเป็นกุศล
                         
        เพราะฉะนั้น บุญที่ทำเอาไว้จึงส่งผลให้มาเป็นกษัตริย์ แต่ความสะเพร่าที่ทำเอาไว้ก็ส่งผลมาในเวลาเดียวกัน หน้าเลยดำไปแถบหนึ่ง นี่ก็คือคำตอบว่าทำไมบางคนหน้าเป็นปานดำ หว่านพืชเช่นไรได้ผลเช่นนั้น ถ้าเป็นไฝเม็ดเล็กหน่อยก็ชุ่ยน้อยหน่อย ชนิดที่ว่าบางวันอารมณ์ดีก็ทำเสียดีทีเดียว วันไหนขี้เกียจก็ทำแบบชุ่ยส่งไปเลย จึงได้มาเป็นเม็ดเป็นไฝเปรอะหน้า เรื่องนี้ก็มีที่มาอย่างนี้แหละ ขอให้ระมัดระวังกันให้ดีนะ

http://goo.gl/qD61a


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำอย่างไรจึงจะไม่ท้อไม่เหนื่อยในการทำงาน
      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น
      "สังคมเปลี่ยนไป" แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?
      หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม
      คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่
      อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก
      การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร
      ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง
      เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?
      เราจะปลูกฝังให้ลูกหลานทำหน้าที่ชาวพุทธให้สมบูรณ์ได้อย่างไร ?
      เราควรจะเลือกทำงานด้วยทัศนคติอย่างไรที่จะส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
      การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร
      การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้เหมาะสมแก่การฝึกสมาธิและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธรรม




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related