ถ้าฮวงซุ้ยดีจะทำให้ลูกหลานมีความเจริญจริงหรือ

คนจีนเชื่อกันว่าถ้าฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษอยู่ในที่ๆ ดี จะทำให้ลูกหลานมีความเจริญก้าวหน้าร่ำรวย หากฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษอยู่ในที่ที่ไม่ดีหรือไม่เป็นมงคล ลูกหลานจะประสบกับความหายนะ https://dmc.tv/a13236

บทความธรรมะ Dhamma Articles > หลวงพ่อตอบปัญหา
[ 17 ก.พ. 2555 ] - [ ผู้อ่าน : 18283 ]
หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 
 

คำถาม: ตามความเชื่อถือของคนจีน เชื่อกันว่าถ้าฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษอยู่ในที่ๆ ดี จะมีบทบาทสำคัญทำให้ลูกหลานมีความเจริญก้าวหน้าร่ำรวย หรือหากฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษอยู่ในที่ที่ไม่ดีหรือไม่เป็นมงคล ลูกหลานจะประสบกับความหายนะ เท่าที่สังเกตดูก็รู้สึกว่ามีความจริงพอที่จะเชื่อถือได้ จึงอยากจะทราบว่าข้อเท็จจริง จริงๆ นั้น มันเกิดจากอะไรกันแน่?

 
คำตอบ: ตอนเริ่มแรกคนจีนทำฮวงซุ้ย เพื่อเหตุผลบางประการ คือ
 
        ประการแรก เป็นวันนัดพบของหมู่ญาติ เพราะเมื่อพ่อแม่ตายแล้ว ลูกหลานแยกย้ายไปทำมาหากินต่างถิ่น มีโอกาสพบเจอกันยาก เพราะแผ่นดินจีนกว้างใหญ่ไพศาล จึงต้องกำหนดว่าควรจะมีการนัดพบกันสักปีละ 1 ครั้ง โดยคำนึงถึงความเหมาะสม คือ
 
        1. สถานที่เหมาะสม คือ ได้บรรยากาศดี
 
        2. เวลาเหมาะสม คือ เป็นฤดูกาลที่ไม่ใช่ช่วงทำเกษตรกรรมหรือเป็นเวลาที่ว่างงาน ซึ่งมักเป็นต้นฤดูแล้ง
 
        ถามว่าทำไมจึงต้องพบกัน ตอบว่าควรพบกันด้วยสาเหตุใหญ่ คือ
 
        1. ถ้าพี่น้องคนไหนตกทุกข์ได้ยาก ก็จะได้ข่าวในวันนี้ และ จะได้ช่วยเหลือกันต่อไป
 
       2. ได้รู้ว่าความประพฤติของคนในตระกูลแต่ละรุ่น เป็นอย่างไรมีใครนอกลู่นอกทางหรือเปล่า ถ้าพบว่าใครมีความประพฤติไม่ดีจะทำอย่างไร ก็ต้องทบทวนโอวาทของเตี่ยและแม่ ซึ่งท่านสอนไม่ให้ทำชั่ว
 
เหตุผลของการสร้างฮวงซุ้ย
เหตุผลของการสร้างฮวงซุ้ย
 
        ทีนี้ถ้าจะให้ได้บรรยากาศดี จะต้องไปทบทวนโอวาทบรรพบุรุษกันที่ไหน ก็ต้องหน้าหลุมศพเตี่ยและแม่ เพื่อว่าเห็นแล้วจะได้นึกออกว่า เมื่อคราวที่ท่านมีชีวิตอยู่ท่านเคยห้ามเคยสอนไว้อย่างไร โดยทั่วไปลูกคนโตจะเป็นตัวแทนกล่าวตักเตือนอบรม ซึ่งเมื่อเอ่ยอ้างถึงคำสอนของพ่อแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว จะเตือนมโนธรรมให้เกิดได้ง่าย ความคิดที่จะแก้ไขปรับปรุงก็จะเกิดตามมา
 
        ในเรื่องการทำมาหากิน ถ้าใครติดขัด พี่ๆ น้องๆ ก็จะได้ช่วยกัน พี่น้องบางคนอาจเห็นแก่ตัว แต่เมื่อมาพูดหน้าหลุมศพ ความหลังก็จะกระตุ้นมโนธรรมให้พี่น้องต้องช่วยกัน เพราะฉะนั้น ความริเริ่มในการ หาทำเลดีๆ สร้างฮวงซุ้ยก็เลยเกิดขึ้น
 
        ประการที่สอง สร้างฮวงซุ้ยเพราะคิดถึงพ่อแม่ คนเราบางคนเมื่อวัยเด็กอาจเกะกะเกเร ไม่เคารพเชื่อฟังใคร แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ก็คิดได้ ปกติคนเราจะคิดถึงพ่อแม่ ก็ต่อเมื่อ
 
        1. ตัวเองประสบภัยพิบัติ ถ้าสาเหตุเกิดเพราะขัดโอวาทของท่าน จะยิ่งคิดมาก
 
        2. เมื่อตัวเองมีลูก ถ้าภาระการเลี้ยงลูกนั้นลำบากหนักหนา ก็ยิ่งคิดถึงท่านมาก
        3. เมื่อพ่อแม่จากไป แล้วคิดได้ถึงความดีอันมากมายของท่านที่มีต่อตัวเอง จึงอยากจะตอบแทนท่านให้ถึงที่สุด
 
        คนที่ไม่ศึกษาพระพุทธศาสนา ไม่รู้ว่าคนตายแล้วไปไหน ไม่รู้กฎแห่งกรรม ไม่รู้เรื่องสวรรค์นิพพาน คิดว่าต้องหาที่อยู่ที่ใดที่หนึ่งที่ดีที่สุดให้ท่าน ก็เลยหาทำเลดีๆ ให้ ที่จริงคนตายเขาก็ไปตามกรรม ทำดีก็ไปสวรรค์ ทำชั่วก็ไปนรก เขาไม่มาดูหรอกว่าลูกหลานจะทำอะไรให้เขา แต่คนทั่วไปนึกว่าวิญญาณยังอยู่ ต้องรับรู้ได้
 
        ธรรมดาคนที่นึกถึงสิ่งที่เป็นคุณธรรม นึกถึงคำสอนที่ดีของพ่อแม่ ปฏิบัติต่อพระสงฆ์องค์เจ้าอย่างดี จิตใจเขาย่อมจะดี มีการประพฤติปฏิบัติที่ดีขึ้นๆ เป็นลำดับ คนๆ นั้นย่อมมีโอกาสก้าวหน้ายิ่งขึ้น รุ่งเรืองขึ้น บรรยากาศที่ดีก็มีส่วนส่งเสริมให้เกิดความคิดดีๆ ได้
 
        ต่อมาภายหลัง ความเข้าใจเหล่านี้ได้ถูกบิดเบือน จนเลอะเลือนไป เพราะคนเรามักมองกันที่ภายนอก ไปมองว่าที่ตระกูลเขารุ่งเรือง เพราะฮวงซุ้ย พ่อแม่ของเขาอยู่ในทำเลดี เขามองไม่เห็นแก่น ไม่เห็นหลัก ก็เลยจับเอาเปลือกๆ มาทึกทักว่าต้องทำเลดี ตัวเองจึงจะเจริญ เลยเลือกแต่ทำเล ไม่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
 
            ในที่สุด ทำเลดีก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่กลับเกิดมีปัญหาว่า คนตายขายคนเป็น ทุ่มเทเงินทองซื้อฮวงซุ้ย จนเป็นหนี้สินแล้วมาโทษว่าฮวงซุ้ยไม่ช่วย
 
            เหตุผลดั้งเดิมของการสร้างฮวงซุ้ยนั้น เพื่อประโยชน์ของลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่เพื่อคนตาย คิดดูง่ายๆ ถ้าเราตาย เราจะอยู่เฝ้ากระดูกตัวเองไหม ไม่เฝ้า แล้วลูกหลานจะมาอยู่เฝ้ากระดูกคนตายไว้ทำไม เอาเงินไปสร้างสาธารณประโยชน์ เช่น วัดวาอาราม แล้วถึงเวลาที่เหมาะสมก็นัดกันทำบุญทำกุศลส่งให้ท่านดีกว่านะ
 

คำถาม: ผมขอกราบเรียนถามว่า การที่วัดพระธรรมกายบอกว่าไม่ได้แหกคอกเรื่องแบบการก่อสร้างวัด และไม่ได้ทำให้พิสดารกว่าวัดอื่นนั้น มันก็ถูกอยู่ครับ แต่ผมอยากทราบว่า ถ้าวัดอื่นเขาเกิดเอาตัวอย่างการก่อสร้างแบบวัดพระธรรมกาย ท่านไม่เกรงว่าประเพณีหรือศิลปะสมัยก่อนจะสูญหายหรือถูกลืมหรือครับ (พระเรียนถามมา)

 
คำตอบ: เวลาจะสร้างอะไร ควรคำนึงถึงประโยชน์ที่จะได้ให้มาก เคยคิดบ้างไหมว่าศิลปะไทยที่เห็นอยู่นี้ความจริงมันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไร อาจจะเริ่มเมื่อประมาณ 800 ปีก่อนก็ได้ และเคยคิดไหมว่าเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ในเมืองไทยมีรูปร่างอย่างไร?
 
        วันหนึ่งมันก็สูญหายไปเป็นธรรมดา เมื่อ พ.ศ. 303 ในเมืองไทยก็มีวัดแล้ว คือวัดพระปฐมเจดีย์ แต่มั่นใจได้เลยว่าสถาปัตยกรรมคงไม่ใช่รูปแบบที่เราเห็นอยู่ขณะนี้ เพราะอะไร?
 
        เพราะวัสดุก่อสร้างเปลี่ยนไปทุกวัน เดี๋ยวนี้หาไม้ได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนไหม? ไม้กำลังจะต้องชั่งขายเป็นกิโลแล้วนะ เข้มงวดรักษาอย่างไรก็ไม่อยู่ ถ้าจะสร้างเพื่อรักษาศิลปวัฒนธรรมของปู่ย่าตายายไว้ ก็เห็นด้วย แต่ควรแบ่งไว้ส่วนหนึ่ง หรือสร้างไม้สักหลังหนึ่ง เพื่อรักษาศิลปะ
 
เวลาจะสร้างอะไรควรคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยให้มาก
เวลาจะสร้างอะไรควรคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยให้มาก
 
        นอกนั้นจะสร้างอย่างไรก็ได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยให้มาก อย่างที่รัฐบาลไทยทำอยู่ขณะนี้ ทำถูกต้องแล้ว คือโบสถ์หรือวัดที่ประกอบด้วยศิลปกรรมที่ดีเยี่ยมเลย ก็เก็บรวมไว้แห่งใดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ส่วนวัดอื่นก็ดูตามสภาพ จะใช้แบบเก่าก็ได้ แบบใหม่ก็ดี หรือในวัดทั่วๆ ไป ให้สร้างกุฏิเจ้าอาวาสเป็นทรงไทยสวยๆ ไว้สักหลัง ทำด้วยไม้เนื้อดี ใครเป็นเจ้าอาวาสก็ให้ไปอยู่ในกุฏินั้น ให้เป็นอาคารเกียรติยศไปเลย นอกนั้นนิมนต์อยู่ตึกกันไปก่อน จะอยู่อาคารเป็นชั้นๆ เป็นแถวๆ ก็อยู่กันไป เก็บอาคารเกียรติยศไว้หลังหนึ่งก็พอ ก็คงทำได้เท่านั้น
 
        ความจริงเราก็เรียนกันมาว่า “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” อะไรถึงคราวอนิจจัง มันก็อนิจจัง มันไม่เที่ยง มันทุกขัง แล้วมันก็อนัตตาใครก็บังคับมันไม่ได้ สิ่งที่มันจะต้องเป็นไป มันก็ต้องเป็นไป มั่นใจได้เลยว่าอีก 10 ปี ข้างหน้า ชาวบ้านหาไม้กระดานมาทำบ้านไม่ได้หรอก ต้องอยู่บ้านอิฐบ้านปูนกันทั้งนั้น ถึงตอนนั้นจะไปทำบ้านทรงไทยทรงอะไรแบบโบราณได้ง่ายๆ หรือ ของทุกอย่างมีวิวัฒนาการ คือมีความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอะไรคงเดิม ไม่มีอะไรยั่งยืน และไม่มีใครฝืนธรรมชาติได้หรอกนะครับ

http://goo.gl/XYvBQ


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทำอย่างไรจึงจะไม่ท้อไม่เหนื่อยในการทำงาน
      สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น
      "สังคมเปลี่ยนไป" แนวทางการใช้ชีวิตเปลี่ยนตามพระพุทธศาสนามีคำแนะนำอย่างไร ?
      หลักการขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม
      คำสอนของวัดพระธรรมกายถูกต้องตามแนวทางคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธศาสนาหรือไม่
      อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สังคมแตกแยก
      การสวดมนต์ให้พรของพระสงฆ์มีส่วนช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างไร
      ทำไม ? จีวรต้องเป็นสีเหลือง
      เราจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างไร ?
      เราจะปลูกฝังให้ลูกหลานทำหน้าที่ชาวพุทธให้สมบูรณ์ได้อย่างไร ?
      เราควรจะเลือกทำงานด้วยทัศนคติอย่างไรที่จะส่งผลให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง
      การเกิดขึ้นของนิสัยดี นิสัยชั่วมีที่มาอย่างไร
      การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจให้เหมาะสมแก่การฝึกสมาธิและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธรรม




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related