โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMCคำถาม: กัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกาย มีโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างไร ขอบเขตแค่ไหน เป็นโครงการระยะนานเท่าไร?
คำตอบ: โครงการกัลยาณมิตรที่เกิดขึ้นมา เพราะว่าตลอดเวลานานมาแล้ว ที่ประชาชนชาวไทยมีความรู้สึกว่า พระภิกษุเท่านั้นที่มีหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา พูดง่ายๆ ชาวบ้านไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของพระ ซึ่งการพูดอย่างนี้ไม่ถูก ความเข้าใจอย่างนี้ผิด เพราะอะไร เพราะพระพุทธศาสนาประกอบด้วยบริษัท 4 คือ มีผู้ลงทุนร่วมหุ้นอยู่ 4 ประเภท ได้แก่1. ภิกษุ2. ภิกษุณี3. อุบาสก4. อุบาสิกาภิกษุเดี๋ยวนี้ยังมี ท่านถือหุ้นไว้หุ้นหนึ่ง แต่ภิกษุณีล้มละลายไปแล้ว เหลือแต่อุบาสกและอุบาสิกา คือญาติโยมทั้งหลาย ทั้งอุบาสก อุบาสิกาและพระภิกษุ ถือหุ้นอยู่ในพระพุทธศาสนาด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายจะต้องมีหน้าที่ทำนุบำรุง เผยแผ่ พระพุทธศาสนา ต้องไปด้วยกัน การที่จะโยนให้พระทำเพียงฝ่ายเดียวนี้ไม่ถูกต้อง ญาติโยมต้องช่วยกันด้วย ในอดีตญาติโยมมักช่วยแต่เพียงสิ่งเสบียงให้ ซึ่งอย่างนั้นไม่พอ จะต้องช่วยไปประกาศเผยแผ่พระศาสนาด้วยโครงการกัลยาณมิตรของวัดพระธรรมกายทีนี้กัลยาณมิตรคือใคร? วัดพระธรรมกายเรียกผู้มาปฏิบัติธรรมที่วัดเป็นประจำ และตั้งใจชักชวนชาวโลกให้ปฏิบัติธรรมตามว่าเป็นกัลยาณมิตรทั้งหมด ถ้ายังไม่บวชก็เรียกนำหน้าชื่อว่า กัลยาณมิตร ท่านเหล่านี้นอกจากปฏิบัติธรรมแล้ว ยังร่วมมือกันทำงานเป็นโครงการ โครงการที่กัลยาณมิตรวัดพระธรรมกายทำมาก็คือ นอกจากมีการอบรมถวายความรู้ให้พระภิกษุสามเณร อุบาสก อุบาสิกาที่เรียกว่ากัลยาณมิตรเราก็ฝึกให้ ไม่ใช่ฝึกให้เฉพาะนิสิตนักศึกษานะ ขณะนี้ฝึกแม้กระทั่งเด็กๆ ที่อยู่ชั้นประถม เราเริ่มทำกันมานานแล้วเด็กเล็กเหล่านี้เราก็มีโครงการต่างๆ ให้เขาฝึกกันตามความถนัดของเขา เช่น ฝึกร้องเพลงธรรมะบ้าง ฝึกเขียนบ้าง ฝึกพูดบ้าง การฝึกพูดนั้น ดูเผินๆ ก็เหมือนให้เด็กพูดกันสนุกๆ พูดเรื่องทั่วๆ ไป แต่ความจริงนั่นคือพื้นฐานที่จะมาฝึกเทศน์ต่อไปในวันข้างหน้า สำหรับรุ่นโตๆ ก็ฝึกพูดธรรมะ ฝึกเป็นผู้นำโครงการ ฝึกให้มีความรู้ความสามารถสูงขึ้นไปตามลำดับโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนานี้ ต้องถือว่าอุบาสก อุบาสิกา ไม่ว่าเด็ก ไม่ว่าผู้ใหญ่ คือกำลังในการเผยแผ่พระศาสนาทั้งสิ้น ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของพระภิกษุกับสามเณรอย่างเดียวถ้าเราสามารถเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปได้ทั่วโลก โลกนี้ก็จะร่มเย็น จะมีแต่สันติสุข งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาไม่ใช่เป็นงานของเฉพาะวัดพระธรรมกาย หรือเฉพาะหน่วยงานไหน วัดไหน แต่เป็นงานของชาวพุทธทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบอกภิกษุสงฆ์ไว้ตั้งแต่สมัยโน้นแล้วว่า“ภิกษุทั้งหลาย เธอจงไปคนเดียวหลายๆ ทาง ไปประกาศศาสนธรรมให้แพร่หลายกระจายไป เพราะว่าสัตว์โลกที่ยังกระหายธรรม ยังรอคำสอนของเรายังมีอยู่อีกมากมาย"โครงการนี้เป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชี้แนะใว้ ตั้งแต่สมัยพุทธกาลโน่นแล้ว วัดพระธรรมกายเป็นเพียงแต่นำพุทธดำรัสนั้นมาปฏิบัติเท่านั้นนะครับคำถาม: วัดพระธรรมกายทำอย่างไรถึงได้ขยายงานอย่างรวดเร็ว?
คำตอบ: เราก็ทำกันง่ายๆ โดยให้พระท่านฝึกงานของท่านไปตามความถนัด พร้อมกับฝึกตัวของท่านไปด้วย คือ ต้องนั่งสมาธิ(Meditation)ให้มากๆ ถ้างานมาก นั่งสมาธิน้อย เดี๋ยวจะกระทบกระทั่งกันเพราะใจหยาบ ตอนนี้ก็กำลังจะพาท่านเดินธุดงค์ ก็ตั้งใจจะเอาวิธีนี้ควบกันเข้าไป เอาให้แกร่งให้ได้ แล้วจึงให้มาช่วยงานพระศาสนา ถ้ายังไม่แกร่ง ก็ฝึกกันต่อไป นานแค่ไหนก็ยอมวัดพระธรรมกายในระยะแรก กว่าจะบวชพระเข้ามาสักรูป จะแปลกกว่าที่อื่น คือที่อื่นถ้ามีพระใหม่ 1 รูป สมภาพก็เป็นภาระกับพระบวชใหม่ 1องค์ ถ้ามีมาบวช 10 รูป ก็เป็นภาระดูแลทั้ง 10 รูปนั่นแหละ มาบวช 100 ก็หนัก 100 บวช 1000 ก็หนัก 1000 แต่ที่วัดพระธรรมกายไม่ใช่อย่างนี้ เนื่องจากก่อนบวชให้มาเป็นเด็กวัดเสียก่อน ให้ถือศีล 8 ฝึกธรรมะ ฝึกตัวเองก่อนสัก 5 ปีเป็นอย่างน้อย ช่วยงานต่างๆ ในวัดไปด้วย พอได้รับอนุญาตให้บวช ก็ยกแผนก งานให้ไปด้วยเลย พอท่านบวชเสร็จก็ได้เป็นหัวหน้าแผนก นี่คือกติกาสำหรับผู้ที่จะบวชตลอดชีวิต งานที่ยกให้ ก็ยกให้ตามความถนัด เช่น รูปนี้ถนัดเครื่องยนต์ก็เอาไปเลยแผนกซ่อม รูปนี้ถนัดเรื่องถ่ายรูปทำวิดีโอ ก็ยกแผนกแสงเสียให้ไปเลยวัดพระธรรมกายทำอย่างไรถึงได้ขยายงานอย่างรวดเร็วสำหรับโครงการอบรมธรรมทายาท ซึ่งส่วนมากบวชให้นิสิต-นักศึกษา ในระหว่างปิดภาคเรียนฤดูร้อน ก่อนบวชต้องเข้ามาฝึกตัวเองมาถือศีล 8 มาฝึกสมาธิระยะหนึ่ง (ประมาณ 1 เดือน) จากนั้นจึงจะบวชให้ เมื่อบวชครบกำหนดแล้วก็ให้สึก จะไปเรียนต่อหรือไปทำงานก็แล้วแต่ ส่วนมากไม่ว่าจะไปทำงานหรือเรียนที่ไหน พอวันอาทิตย์ก็จะกลับมาทำบุญที่วัดเป็นประจำ แล้วยังชวนพรรคพวกเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องมาด้วยประชาชนเขาเห็นการทำงาน เห็นประโยชน์จากการสร้างวัด เขาก็มาช่วยกันคนละไม้คนละมือ งานของวัดก็เลยขยายอย่างรวดเร็วอย่างที่ท่านเห็น วัดพระธรรมกายขยายเอาๆ อย่างนี้ เราไม่ได้ไปรับเงินจากคอมมิวนิสต์ที่ไหน ก็รับจากญาติโยมนี่แหละครับ
http://goo.gl/UVenx