The Harm of Mental Defilements
The Lord Buddha stresses that the three categories of defilement: greed, hatred and delusion are like usurpers in the mind. They darken our minds and obstruct us from enlightenment.
จิต
คำว่า " จิต " ตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หมายถึง สภาพรู้ อาการรู้ลักษณะรู้แจ้งอารมณ์ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ และคำว่า จิตนี้ยังมีชื่อที่ใช้แทนคำว่าจิตในบางแห่งอีกมาก เช่น ใจ มโน มานัส ปัณฑระ หทัย วิญญาณวิญญาณขันธ์ มนายตนะ เป็นต้น ในชีวิตประจำวันของเรา จะทราบได้ว่าผู้ที่ยังไม่ตายมีชีวิตอยู่ เป็นผู้มีจิตเกิดดับต่อเนื่องไปจนกว่าจะตาย ฉะนั้น จิตคือ สภาพรู้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
เสียงสาธุการของเทวดา
มนต์ทั้งหลาย มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน เรือนมีความไม่หมั่นเป็นมลทิน ความเกียจคร้านเป็นมลทินของผิวพรรณ ความประมาทเป็นมลทินของผู้รักษา
การควบคุมจิตด้วยปัญญา
ถ้าเรามีจิตไม่ถูกปรุงแต่ง ก็เรียกว่า เรามีจิตเป็นพุทธะขึ้นมา เป็นผู้รู้ขึ้นมาทันที รู้อะไรถูกต้องขึ้นมาแล้วก็เป็นตัวเองอย่างแท้จริง สภาพมันอยู่คงที่หน้าตาของมันดั้งเดิม ของมันปรากฏอยู่อย่างนั้น ไม่ถูกฉาบไปด้วยกิเลส เรียกว่า ไม่ถูกปรุงแต่ง สภาพจิตมันเป็นอย่างนั้น...
เครื่องกั้นจิตปิดกั้นใจ
“จิต” ของมนุษย์นั้นเดิมทีมีความใสสว่าง สะอาดบริสุทธิ์ หรือที่เรียกว่า “จิตประภัสสร” แต่เพราะถูกอาคันตุกะกิเลส(กิเลสที่จรมา)
สร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่งต้องมีธาตุบริสุทธิ์
การจะอยู่สร้างบารมีกับหมู่คณะไปได้นาน ๆ ต้องมีธาตุบริสุทธิ์มาก หากมีธาตุบริสุทธิ์มาก ธาตุที่ไม่บริสุทธิ์ก็จะค่อย ๆ หมดไป ดังนั้นเราต้องไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตโดยการหมั่นสั่งสมธาตุบริสุทธิ์เอาไว้มาก ๆ
พุทธสุภาษิตสะกิดใจ "เกียจคร้าน เป็นสันดานคนเลว"
อนุฏฺฐานมลา ฆรา เหย้าเรือน มีการไม่ขยัน เป็นมลทิน เหย้าเรือน หมายถึง โภคทรัพย์สมบัติสิ่งของ รวมไปถึงบุคคลทั้งหมดที่มีอยู่ในครอบครัวนั้น ซึ่งมีพ่อบ้านเป็นหัวหน้าผู้ปกครอง หรือพ่อบ้านจะมอบหมายให้แม่บ้าน เป็นผู้ปฏิบัติการก็ตามที
พุทธสุภาษิตสะกิดใจ "มนต์มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน"
อสชฺฌายมลา มนฺตา มนต์ มีการไม่ท่องบ่นเป็นมลทิน มนต์ในที่นี้ หมายถึงวิชาความรู้ อันจะเป็นเหตุให้เกิดประโยชน์ในทางที่ดี ในสมัยโบราณ จะมีการท่องบ่นเป็นหลักที่ว่านี้ มิใช่คาถาอาคม มาถึงในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยได้ยินคนท่องหนังสือ แม้แต่สูตรคูณ ก็ยังไม่เห็นมีใครท่องกัน ใช้เครื่องคิดเลขแทน
สรรเสริญ นินทา ธรรมดาของโลก
อตุละ การนินทาและสรรเสริญนั่น เป็นของเก่า นั่งไม่ใช้เป็นเหมือนมีในวันนี้ ชนทั้งหลายย่อมนินทาผู้นั่งนิ่งบ้าง ย่อมนินทาผู้พูดมากบ้าง ย่อมนินทาผู้พูพอประมาณบ้าง ผู้ไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
ผู้รักในการทำความดี
ผู้มีปัญญา ทำกุศลอยู่คราวละน้อยๆ ทุกๆ ขณะโดยลำดับ พึงกำจัดมลทิน คือกิเลสของตนได้ เหมือนช่างทองขจัดมลทินของทองให้หมดไปได้ฉะนั้น