เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๓ ( บริจาคพระนางมัทรี )
เราตถาคตเมื่อสละชาลีโอรส กัณหาชินาธิดา และ มัทรีเทวี ผู้เคารพต่อภัสดา มิได้คิดเสียดายเลย เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น ลูกทั้งสองเป็นที่เกลียดชังของเราก็หามิได้ มัทรีเทวีไม่เป็นที่รักของเราก็หามิได้พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรายิ่งกว่า เพราะฉะนั้นเราจึงได้ให้บุตรธิดา และเทวีผู้เป็นที่รักเสีย
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑ ( ปฐมเหตุ )
พระบรมโพธิสัตว์ได้ดำรงตนเป็นแบบอย่างนักสร้างบารมี ตั้งแต่ประสูติจากพระครรภ์ของพระมารดา ก็แบพระหัตถ์ออก และกล่าวกับพระมารดาว่า"เสด็จแม่ มีสิ่งใดให้ลูกได้ทำทานบ้าง" นี่..พระองค์เกิดมาเพื่อการนี้ เพื่อบ่มบารมีให้แก่รอบ ครั้นพระชนมายุได้เพียง ๘ ชันษา ประทับอยู่บนปราสาทตามลำพัง ทรงคิดที่จะบริจาคทานว่า "เราพึงให้หัวใจ ดวงตา เนื้อ เลือด และร่างกายที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ หากใครมาขอเรา ให้เราได้ยิน เราก็จะพึงให้ด้วยความยินดี"
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๒ ( พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ )
ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๕ ( สัตตสตกมหาทาน )
ข้าแต่พระมหาราชเจ้า การตายร่วมกับพระองค์เท่านั้นเป็นสิ่งประเสริฐกว่าการพลัดพรากจากพระองค์ แม้นางช้างพังยังติดตามช้างพลายในป่า อาศัยตามภูผาทางกันดาร ฉันใด หม่อมฉันจะพาบุตรและบุตรีตามเสด็จ ฉันนั้น
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๖ ( เิดินทางสู่เขาวงกต )
แม้พระโพธิสัตว์ทรงรู้ว่า ถูกขับไล่ให้ไปอยู่ในป่าก็มิได้หวั่นไหว รุ่งขึ้นของวันใหม่ ท่านได้บริจาคสัตตสตกมหาทาน ด้วยความปีติยินดี เหมือนไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้น พวกเทวดาได้แจ้งพระราชาในชมพูทวีป ว่า พระเวสสันดรทรงบำเพ็ญมหาทาน และกำลังพระราชทานนางขัตติยกัญญา พวกกษัตริย์จึงเสด็จมาด้วยเทวานุภาพ รับนางขัตติยกัญญาเหล่านั้นไปเป็นมเหสี
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๕ ( กัณหาชาลีได้รับอิสรภาพ )
พระราชาเวสสันดรพระองค์ใดเป็นที่พึ่งอาศัยของยาจกทั้งหลาย ดุจธรณีเป็นที่พึ่งอาศัยของสัตว์ทั้งหลาย หรือเป็นที่ไปมาของยาจกทั้งหลาย ดุจสาครเป็นที่ไหลหลั่งไปมาแห่งแม่น้ำทั้งหลาย พระราชาเวสสันดรพระองค์นั้น เมื่อเสด็จประทับแรม ณ ราวไพร ได้พระราชทานพระโอรสพระธิดาแก่ข้าพระบาท
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๖ ( เชิญพระเวสสันดรกลับพระนคร )
ดูก่อนสุเมธดาบสจำเดิมแต่นี้ไป ท่านพึงบำเพ็ญทานบารมีข้อแรกให้เต็ม หม้อน้ำที่ควํ่าแล้ว ย่อมคายน้ำออก ไม่เหลือ ไม่นำกลับเข้าไปอีกฉันใด แม้ท่านเมื่อไม่เหลียวแล ทรัพย์ ยศ บุตร ภรรยาหรืออวัยวะน้อยใหญ่ ให้สิ่งที่เขาต้องการ อยากได้ทั้งหมด แก่ผู้ขอที่มาถึง กระทำมิให้มีส่วนเหลืออยู่ จักได้นั่งที่โคนต้นโพธิ์ ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๘ ( ชีวิตนักบวช )
คนขลาดยังไม่ทันถึงสนามรบ ไม่ทันได้รบก็ยอมแพ้ ฉันใด ดูก่อนพราหมณ์ ท่านยังไม่ทันได้ไปขอกัณหาชาลีเลย ก็ยอมแพ้ ฉันนั้น ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าท่านไม่หาทาส และทาสีมาให้ฉันฉันจักไม่อยู่ในเรือนของท่าน
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๙ ( ชูชกขอโอรสธิดา )
บุคคลไม่อาจให้สิ่ง ๓ อย่างเต็มได้ คือ ไฟเต็มด้วยเชื้อ มหาสมุทรเต็มด้วยน้ำ คนมีความอยากมากเต็มด้วยปัจจัย
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๑๑ ( บริจาคกัณหาชาลี )
ดูก่อนพ่อชาลีลูกรัก พ่อจงมาเพิ่มพูนบารมีของพ่อให้เต็ม จงช่วยโสรจสรงหทัยของพ่อให้เย็นชุ่มฉ่ำ ลูกรักขอลูกจงทำตามคำของพ่อ ขอลูกทั้งสองจงเป็นดังยานนาวาของพ่อไม่หวั่นไหวต่อสาครคือภพ เมื่อพ่อข้ามฝั่งคือชาติแล้ว จักยังมนุษย์ และเทวดาทั้งหลายให้ข้ามพ้นด้วย