ไปที่เนื้อหา


เนื้อหาจาก eq072

ค้นพบทั้งสิ้น 84 รายการโดย eq072 (จำกัดการค้นหาจาก 10-July 23)



#139282 เชิญร่วมมุทิตาสักการะวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อทัตตชีโว

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 19 December 2008 - 01:56 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

ขอให้หลวงพ่อมีอายุยืนนาน แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของพวกเราด้วยนะครับ



#136674 ใครเห็นพระจันทร์ยิ้มได้บ้างคืนนี้

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 01 December 2008 - 08:02 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

คุณครูไม่ใหญ่บอกว่า ดวงขวา เป็นดาวพฤหัส เป็นดาวครู
ส่วน ดวงซ้่าย เป็น ดาวศุกร์ ให้พวกเรามีความสุข

วันนี้มีความสุข อีกวันนะครับ



#136671 ใครเห็นพระจันทร์ยิ้มได้บ้างคืนนี้

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 01 December 2008 - 07:39 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

ยังยิ้มได้ครับ

รูปภาพแนบ

  • ____________.jpg



#131791 ขออนุโมทนาบุญทีมงานจราจร

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 03 November 2008 - 12:44 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

smile.gif กราบอนุโมทนากับทีมงานทุกท่านด้วยครับ



#124728 มีเรื่องด่วนครับ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 26 September 2008 - 02:35 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

อนุโมทนาด้วยนะครับ



#126150 ++มาแล้วๆ มาดูทองของพวกเรา dmc.tv กันค่ะ++

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 05 October 2008 - 04:35 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

ฟ้าร้างและทีมงาน เก่งจริง ๆ



#151386 ประสบการ์ณการไปที่วัดครั้งแรก + เอาบุญมาฝากครับ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 05 April 2009 - 08:59 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

วันนี้ได้รับ VCD+หนังสือคุณได้ยินข่าวดีที่สุดในโลกหรือยัง ?
เป็นสมุดภาพเกี่ยวกับการสร้างธรรมกายเจดีย์ สำหรับเชิญชวนผู้มีบุญ
VCD ของหมออนุวัตน์ พูดดีมาก ๆ เลย




#141512 ขอด่วน จะขาดใจแล้วค่ะ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 03 January 2009 - 11:25 AM ใน เว็บบอร์ด DMC

wow ได้ลำโพงมาครับ จับสลากมาครับ



#141523 ขอด่วน จะขาดใจแล้วค่ะ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 03 January 2009 - 12:40 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

จับได้หมายเลข A17 ครับ



#152237 วันนี้30เมษา วันเกิดพี่ถาวร มาร่วมอวยพรกันคับ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 30 April 2009 - 07:26 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

HBD ครับ



#141273 --- สุนทรพ่อ พรปีใหม่ ปี 52 ---

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 01 January 2009 - 09:25 AM ใน เว็บบอร์ด DMC

"ถึงปีหน้า เผาจริง ยิ่งรวยใหญ่
ใครจนไปจนไป เรื่องของเขา
เรา รวยเอา รวยเอา เรื่องของเรา
จะเผาจริงเผาเล่น เราโครตรวย


เราทำบุญ มีบุญสวนกระแส แม้ใครแย่
เราไม่แย่อาตี๋หมวย ให้ไปเจี้ยะ เนเจอร์กิฟ อิ่วจาก้วย
เตรียมตัวรวย รวย รวย รวย ทั้งปี ปี 52
เรารวย รวยโครตมหาศาล เพราะว่าเราสั่งสมบุญมายาวนาน พระนิพพานท่านจะแก้เราให้ดี"


ใครที่เกิดวันอาทิตย์ ถึง วันเสาร์
รวย เอา รวยเอา ชั่วฟ้าดินสลาย
พระประจำตัวมีอยู่ที่กลางกาย
ให้กราบไหว้ทุกวัน รวยทั้งวันทั้งคืน


ลูกเป็นพันธ์ุอัศจรรย์เกินคาดฝัน
ใครฟันธงอย่างไร ก็เฉย ๆ ไม่เคยยั่น
ลุยสะบั่น ยิ่งกว่าเคย
สุดยอดเลย ให้รวยโครต
โลดทั้งปี

รูปภาพแนบ

  • HC0aeemb__________________.gif



#123936 ใครมีเว็บที่ไม่ใช่ hi5 บ้าง...

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 22 September 2008 - 12:41 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

เห็นเวป TV ONLINE ของต่างประเทศหลายเวบ ก็มี ช่อง DMC ด้วยนะครับ เห็นแล้วน่าชื่นใจไปไหนก็มีช่อง DMC



#123824 ใครมีเว็บที่ไม่ใช่ hi5 บ้าง...

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 21 September 2008 - 01:07 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

รวม WEB ที่ใช้ CODE

รูปย่อ

  • WEB2.GIF



#140381 "ให้เหล้า เท่ากับแช่ง"

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 25 December 2008 - 09:30 AM ใน เว็บบอร์ด DMC

6. ทำให้เป็นโรคกระเพาะ /
เนื่องจากกินเหล้า จนลืมกินข้าว ปลา เราว่ากินนม หรือผลไม้จะดีกว่า
จากวารสารนี้จ้า
reference: prospective study of gastric and duodenal ulcer and its relation to. smoking, alcohol and diet. Am J Epidemiol 13552 1-530,1992

Alcohol increases the production of stomach acid, which will irritable an ulcer and worsen symptoms. Alcohol also relaxes the lower esophageal sphincter (LES), allowing stomach contents to reflux back up into the esophagus. If you still want to consume alcohol, find out how and when to consume alcohol when you suffer from heartburn.
แปลว่า แอลกฮอล์จะเพิ่มการหลั่งกรด และยัง ทำให้หูรูดปิดกระเพาะส่วนล่างคลายตัว จึงทำให้กรดไหลย้อนกลับมาที่หลอดอาหาร (esophagus) ถ้ายังดื่มเหล้าต่อไป คุณจะรู้สึกความเจ็บจากโรคแสบร้อนทรวงอก จุกเสียด แน่นหน้าอก

Don't smoke.
Smoking stimulates the production of stomach acid. It can also delay the healing of the ulcer, and has been linked to a recurrence of ulcers. Find out the other reasons it's good to stop smoking if you suffer from heartburn.

และไม่ใช่แค่เหล้า บุหรีก็เป็นสาเหตุของโรคนี้ด้วยจ้า
แปลว่า การสูบบุหรีทำให้กรดในกระเพาะมากขึ้น และทำให้โรคกระเพาะหายช้าลง เป็นกระเพาะมากขึ้นนั่นเอง
ref: Health's Disease and Condition content is reviewed by the Medical Review Board

7.เป็นเหตุให้น่าอดสู อดสู คือ น่ารังเกียจ เช่น เมาแล้วอเอะโวยวาย เมาแล้วนอนข้างถนน เมาแล้วอาเจียน

8.ต่อจากอาเจียน คือ ทำให้บ้านเมืองสกปรก

จากมงคลชีวิตโทษของสุรา หรือโทษของเหล้าเบียร์ ยาเสพติด ในมงคลที่ 20 สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
โทษข้อที่ ๑ เหล้าทำให้เสียทรัพย์
โทษข้อที่ ๒ เหล้าเป็นเหตุก่อวิวาท
โทษข้อที่ ๓ เหล้านำโรคมาให้
โทษข้อที่ ๔ เหล้าทำให้เสียชื่อเสียง
โทษข้อที่ ๕ เหล้าเป็นเหตุให้ทำน่าอดสู
โทษข้อที่ ๖ เหล้าบั่นทอนกำลังปัญญา

9. ทำให้คนอื่นเดือดร้อน จากที่ต้องมาเก็บสิ่งที่คนดื่มสุราก่อ ไว้ เคยดูโฆษณา ของสสส.ที่ แม่ต้องมาเก็บเช็ดถูอาเจียนที่ลูกเมากลับบ้านมา




#141423 "ให้เหล้า เท่ากับแช่ง"

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 02 January 2009 - 07:04 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

บุหรี่

การสูบบุหรี่และยาสูบอื่น ๆ เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้ การสูบบุหรี่เพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งปอด (ประมาณ 80-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดมีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่) นอกจากนั้นยังเป็นสาเหตุของโรคปอดอื่น ๆ เช่น โรคถุงลมโป่งพอง (en:emphysema) หญิงมีครรภ์ที่สูบบุหรี่มีโอกาสแท้งลูกมากขึ้น และเด็กที่คลอดออกมาอาจมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ การสูบบุหรี่ยังเพิ่มโอกาสของอาการหัวใจวาย และโรคมะเร็งประเภทอื่น ๆ อีกด้วย ผู้สูบบุหรี่อาจดูแก่กว่าปกติเนื่องจากควันบุหรี่จะเพิ่มรอยเหี่ยวย่นบนผิวหนัง เนื่องจากการสูบบุหรี่มีผลเพิ่มอัตราเมตาบอลิซึม ดังนั้นอาจส่งผลให้ผู้สูบมีน้ำหนักลดลง [ต้องการแหล่งอ้างอิง]นิโคติน ซึ่งเป็นสารกระตุ้นประสาท (en:stimulant) ในบุหรี่นั้น มีผลเป็นสารเสพติด (en:addictive) และลดการอยากอาหาร (en:appetite suppressant) ผู้ที่เลิกการสูบบุหรี่มักจะทดแทนอาการอยากบุหรี่ด้วยการกินขนม ซึ่งส่งผลให้หนึ่งในสามของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นนิโคตินยังอาจเป็นสารพิษ หากเด็กหรือสัตว์รับประทานก้นบุหรี่โดยอุบัติเหตุ
โอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งปอดจากการสูบควันนั้นไม่แน่นอน ขึ้นกับลักษณะของการสูบ สารที่สูบ และความถี่ จากสถิติพบว่า คนที่สูบบุหรี่มีโอกาสจะเป็นโรคมะเร็งปอดประมาณ 11-17% [1] หรือ 10-20 เท่าของคนที่ไม่สูบ [2] การสูดสารพิษและสารก่อมะเร็งจากควันบุหรี่ เช่น เรดอนและเรเดียม-226 เชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็ง ไร่ยาสูบในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี เนื่องจากการใช้ปุ๋ยที่มีปริมาณฟอสเฟตสูง



#140061 "ให้เหล้า เท่ากับแช่ง"

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 23 December 2008 - 04:13 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2552 ที่จะถึงนี้ เห็นโฆษณาในทีวี รณรงค์เกี่ยวกับ การเลิกให้เหล้าเป็นของขวัญปีใหม่ ."ให้เหล้า เท่ากับแช่ง" เหล้าทำให้เป็นโรคตับแข็ง เบาหวาน หัวใจ ไต ขาดสติ เกิดอุบัติเหตุ แล้วก็ตายไว ฯลฯ แล้วก็สวัสดีปีใหม่ครับพี่ เท่ากับแช่งให้ตายไว ๆ เสียสุขภาพ โทษของเหล้า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง อย่าเสียรู้เสียของ หรือกระเช้าเหล้าที่จัดแบบสำเร็จรูปเลยคะ สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา ก่อให้เกิดการเสพติด และผลกระทบต่อ ร่างกายและทรัพย์สิน” การมอบกระเช้าที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ร่วมรายการอยู่ด้วย เป็นสิ่งทำลายคุณภาพชีวิต...สินค้าตัวอื่นยังมีสินค้าที่มีคุณภาพ และมีประโยชน์ไม่ว่าพวกอาหารเสริม ขนมไทย ๆ เสื้อผ้า ยังมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าครับ



คิดว่าสื่อโฆษณาตัวนี้ เป็นสื่อที่ดีมาก คงเปลี่ยนแปลงความคิดของหลาย ๆคน ก่อนที่จะเลือกซื้อกระเช้าของขวัญปีใหญ่กันนะครับ
ห่วงใย สุขภาพทุก คน ครับ

โอกาสนี้ ขอเชิญชวนกันคิดข้อเสียหรือโทษของเหล้า เบียร์ บุหรี ยาเสพติดรวมให้ได้มากที่สุด

ขอเริ่มเลยนะครับ
1. เสียเงินทองไปให้การซื้อ
2. เสียเวลาซื้อ
3. เหล้าทำให้เสียภาพพจน์คนดี เหล้าทำให้กลายเป็นนักเลงหัวไม้ได้
4. เพราะเหล้าทำให้ขาดสติ จึงเกิดทำร้ายร่างกายขึ้น ผัว-เมีย ทะเลาะกัน
เดี๋ยวต้องมีโฆษณา หยุดทำความรุนแรงต่อผู้หญิง หนึ่งเสียงช่วยหยุดความรุนแรงต่อผู้หญิงต่ออีก
5. เกิดโรคตับแข็งต่างๆ


ZTHK1HYNUgY



#133372 นั่งสมาธิแล้ว ปวดไหล่มากค่ะ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 11 November 2008 - 11:26 AM ใน เว็บบอร์ด DMC

ทานยาแก้ปวด พาราเซต 2 เม็ด หายปวดเลย



#137157 www.dmc.tv ออกบูธประชาสัมพันธ์เวปไซต์ที่ห้างสยามเซ็นเตอร์

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 04 December 2008 - 06:13 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

สาธุ ๆ อนุโมทนาด้วยครับ



#138176 ---บะหมี่น้ำ 1 ชาม เรื่องสั้นแสนประทับใจ---

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 11 December 2008 - 04:14 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

บะหมี่น้ำ 1 ชาม เรื่องสั้นแสนประทับใจ

รูปภาพแนบ

  • b9514140.gif

ไฟล์แนบ




#138209 ---บะหมี่น้ำ 1 ชาม เรื่องสั้นแสนประทับใจ---

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 11 December 2008 - 06:11 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

ขอบคุณครับ



#138178 ---บะหมี่น้ำ 1 ชาม เรื่องสั้นแสนประทับใจ---

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 11 December 2008 - 04:24 PM ใน บทความดี๊ดี ... จากสมาชิก

บะหมี่น้ำหนึ่งชาม


เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" บนถนน ซัปโปโร การกินบะหมี่โซบะในคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ร้านบะหมี่ขายดีในวันสิ้นปี "ร้านฮอกไก" นี้ก็เช่นกัน ในวันนี้คนแน่นร้านแทบทั้งวัน

จนกระทั่งถึงเวลา 22.00 น. คนก็เริ่มน้อยลง โดยปกติแล้วบนถนนสายนี้คนจะแน่นขนัดไปจนถึงเช้าตรู่ แต่วันนี้ทุกคนจะต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปต้อนรับปีใหม่กัน ดังนั้นถนนสายนี้จึงปิดร้านเร็วกว่าปกติ เถ้าแก่ของร้าน "ฮอกไก" เป็นคนซื่อ และเถ้าแก่เนี้ยก็เป็นคนอัธยาศัยใจคอดี

ในคืน วันส่งท้ายปีเก่า พอลูกค้าคนสุดท้ายกลับไป ในขณะเถ้าแก่เนี้ยก็จะปิดร้าน ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบา ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่ง พาเด็กชายสองคน คนหนึ่งประมาณ 6 ขวบกับอีกคนหนึ่งประมาณ 10 ขวบเข้ามาในร้าน เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยม เหมือนกันทั้งสองคน ส่วนหญิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ทลายสก๊อตเก่า ๆ เชย ๆ "เชิญนั่งครับๆ" เถ้าแก่ร้องทักทายออกมา หญิงคนนั้น เอ่ยปากอย่างขลาดกลัวว่า "ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมค๊ะ" เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังสบตากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก "ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ" เถ้าแก่ เนี้ยพาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะเบอร์สองชิดกำแพง แล้วตะโกนบอกไปทางห้องครัวว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่แค่หนึ่งก้อน เถ้าแก่คิดแล้วก็ใส่บะหมี่เพิ่มไปอีกครึ่งก้อน ต้มบะหมี่ได้ชามเบ้อเริ่ม ทั้งเถ้าแก่เนี้ยและสามแม่ลูกต่างก็ไม่รู้เรื่อง สาม แม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่กินกันอย่างเอร็ดอร่อย กินพลางพูดพลาง "ทานเถอะครับ" ลูกคนพี่พูด "แม่ทานหน่อยสิครับ"ลูกคนน้อง พูดไปก็คีบบะหมี่ให้แม่กิน ไม่นานก็กินบะหมี่หมดชาม จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วทั้งสามคนก็ชมว่า " ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ(ครับ)" พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้วลาจากไป "ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"



ทั้งเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยต่างก็กล่าวขอบคุณ วันเวลาผ่านไป ทั้งคู่ต่างก็ทำงานไป วันแล้ววันเล่ายุ่งๆตั้งแต่เช้าจรดเย็น และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี วันที่ 31 ธันวาคมก็เวียนมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง ในวันส่งท้ายปีเก่า ร้านบะหมี่ "ฮอกไก" ก็ยังคงขายดีและดูเหมือนจะขายดีกว่าปีีที่ผ่านมา สองตายายยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับการค้าขาย และแล้ววันที่วุ่นวายก็จบสิ้นลง

22.00น.กว่า ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะ ปิดร้านอยู่นั้น ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบา ๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือหญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทที่เก่า และ เชย เถ้าแก่เนี้ยก็นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้ายปีเก่าของปีที่แล้วนั่นเอง "ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั๊ยค่ะ" " ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะค๊ะ" เถ้าแก่เนี้ยนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว โต๊ะเบอร์สอง ตะโกนไปพลางว่า "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่รับคำพลาง จุดเตาที่เพิ่งจะดับไปพลาง "ได้ครับ บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" เถ้าแก่เนี้ยแอบไปพูดที่ข้างหูของเถ้าแก่ว่า " นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ" "ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้รู้มั๊ย" สามีตอบพลาง แล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วก็ยิ้ม ภรรยาก็พูดขึ้นว่า"เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ" ฝ่ายสามีเดินไปตักบะหมี่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไปให ้สามแม่ลูก สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ กินไปพลางคุยไปพลาง เสียงคุยของสามแม่ลูกดังถึงหูของตายาย "หอมจังเลย…ยอดไปเลย… อร่อยจริง ๆ " "ปีนี้สามารถกินบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว" "ถ้าปีหน้าสามารถมากินได้อีกก็ดีนะสิ" กินเสร็จก็จ่ายเงิน ไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)" มองตามหลังสามแม่ลูก จนลับหายไป สองตายายก็ยกเรื่องสามแม่ลูกมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปได้ระยะหนึ่ง ในวันสิ้นปีของสามปีมานี้ กิจการของร้าน ฮอกไกดีมาก สองตายายต่างก็ยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกัน แต่พอเลย 21.00น.ไปแล้ว สองตายายก็เริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา พอ ถึง 22.00น. พนักงานในร้านต่างก็รับอั้งเปาแล้วก็แยกย้ายกันกลับไป



พอคนกลับไปหมดแล้วเจ้าของร้านทั้งสองก็ช่วยกันเอาป้าย ราคาบะหมี่ในร้านที่เขียนไว้ว่า "บะหมี่ชามละสองร้อยเยน" ที่แขวนไว้ตามผนังทั้งหมดพลิกกลับหลัง แล้วช่วยกันเขียนใหม่ว่า "บะหมี่ชามละร้อยห้าสิบเยน" 30นาทีก่อนเถ้าแก่เนี้ยก็เอาป้าย "จองแล้ว" ไปวางไว้บนโต๊ะเบอร์สอง เหมือนกับว่าจะมีเจตนา รอแขกที่ลูกค้าออกจากร้านไปหมดแล้วถึงจะมาอย่างนั้นแหละ

22.30น. ในที่สุดสามแม่ลูกก็ปรากฎตัวขึ้น พี่ชายสวมเครื่องแบบมัธยมของรัฐแห่งหนึ่ง น้องชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ทที่พี่ชายสวมเมื่อ ปีก่อนดูหลวมและไม่พอดีตัว เด็กทั้งสองคนโตขึ้นมาก ส่วนผู้เป็นแม่ก็ยังคงสวมเสื้อโค้ทลายสก๊อตที่ทั้งเก่าและเชยแถมสีซีดตัว เดิม "เชิญค่ะ เชิญค่ะ" เถ้าแก่เนี้ยกล่าวทักทายอย่างมีน้ำใจ มองใบหน้าอันยิ้มแย้มและท่าทางต้อนรับอย่างเต็มที่ของเถ้าแก่เนี้ย ทำให้ผู้เป็นแม่นั้นเปล่งคำพูดออกมาอย่างงกงกเงิ่นเงิ่นว่า "รบกวนช่วยทำบะหมี่น้ำให้สักสองชามได้ไหมค่ะ" "ได้ค่ะ เชิญนั่งทาง นี้ค่ะ" เถ้าแก่เนี้ยนำแม่ลูกไปนั่งยังโต๊ะเบอร์สอง แล้วรีบเอาป้าย"จองแล้ว"ออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วตะโกนบอกไปทาง ครัวว่า "บะหมี่น้ำสองชาม" "ได้ครับ บะหมี่น้ำสองชามได้เดี๋ยวนี้แหละครับ" เถ้าแก่พลางตอบ พลางโยนบะหมี่ลงไปในหม้อน้ำสาม ก้อน สามแม่ลูกกินไปพูดไป ดูแล้วเหมือนมีความสุขกันมาก สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่ได้รับรู้ถึงความสุขที่พวกเขาได้รับกันในใจก็พลอยเบิกบานไปด้วย "ลูกรัก วันนี้ แม่ต้องขอบคุณลูก ๆ เป็นอย่างมาก" "ขอบคุณ ?" "ทำไมครับ" "เรื่องเป็นอย่างนี้ คือคุณพ่อของลูกที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปได ้ทำให้คนอีกแปดคนได้รับบาดเจ็บ และทางบริษัทประกันก็ไม่รับผิดชอบในส่วนนั้น ในช่วงหลายปีมานี่ทำให้เราต้องจ่ายเงิน เดือนละห้าหมื่นเยนทุกเดือน" "เอ๊ะ เรื่องนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้วนี่ครับ" ผู้เป็นพี่ตอบ ส่วนเถ้าแก่เนี้ยได้แต่ตั้งใจฟังอย่างเงียบ ๆ อยู่หลังโต๊ะทำอาหาร "แต่เดิมนั้นเเราต้องชำระหนี้ไปจนถึงปีหน้าเดือนมีนาคม แต่ตอนนี้เราได้ชำระหนี้ไปหมดแล้ว" "จริง ๆ หรือ ครับ แม่" "จริงสิจ๊ะ นี่เป็นเพราะว่าพี่ชายของลูกขยันไปส่งหนังสือพิมพ์ ส่วนตัวลูกเองก็ช่วยแม่ซื้อกับข้าวทำอาหาร ทำให้แม่ไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ทางบริษัทจึงได้ให้เงินเบี้ยขยันพร้อมทั้ง เงินโบนัสพิเศษอื่น ๆ อีก จึงทำให้วันนี้สามารถชำระในส่วนที่เหลือได้หมด" "ว้าว แม่ครับ พี่ครับ อย่างนี้ก็วิเศษสิครับ แต่ว่าต่อไป ขอให้ผมได้ช่วยทำอาหารต่อไปเถอะนะครับ" "ผมก็จะส่งหนังสือพิมพ์ต่อนะครับ ไอ้น้องชาย เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันสู้หน่อย แล้วนะ" "ขอบใจลูกทั้งสองมาก ขอบใจจริง ๆ " "แม่ครับผมกับน้องก็มีความลับจะบอกกับแม่เหมือนกันครับ คือ ในวันอาทิตย์วัน หนึ่งของเดือนพฤศจิกายนโรงเรียนของน้องได้แจ้งให้ผู้ปกครองไปเยี่ยมชมนักเรียนในห้องเรียนในวันพบผู้ปกครอง คุณครูของ น้องยังได้แนบจดหมายมาอีกหนึ่งฉบับว่า เรียงความของน้องได้ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของฮอกไกโด เพื่อไปแข่งขันเรียงความ ทั่วประเทศ นี่ผมได้ยินมาจากเพื่อน ๆ ของน้องนะครับผมถึงทราบ ดังนั้น ในวันนั้นผมจึงไปเป็นตัวแทนแม่ไปร่วมในงานวันพบผู้ปกครองของน้อง" "จริงหรือลูก แล้วต่อมาล่ะ" "หัวข้อที่คุณครู ให้เรียงความคือ "ความปรารถนาของข้าพเจ้า" น้องได้เอาเรื่องของบะหมี่น้ำหนึ่งชามมาเขียนเป็นเรียงความ แล้วยังได้อ่านต่อหน้า ทุกคนด้วย" "เรียงความเขียนว่า…หลังจากที่คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว ได้ทิ้งหนี้สินให้เรามากมาย เพื่อที่จะชำระหนี้ คุณแม่ต้องทำงานดึกดื่นหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แม้แต่เรื่องของผมที่ต้องไปส่งหนังสือพิมพ์ น้องก็ยังเอาไปเขียนเลย…" "ยังมีอีก น้อง ยังเขียนถึงในคืนวันที่ 31 ธันวาคม พวกเราสามคนแม่ลูกได้มาล้อมวงกันกินบะหมี่น้ำ อร่อยมาก…สามคนกินบะหมี่น้ำแค่ชามเดียว คุณตาคุณยายเจ้าของร้านยังกล่าวขอบคุณพวกเราอีก แล้วยังอวยพรวันปีใหม่ให้พวกเราอีก เสียงเหล่านั้นเหมือนกับว่าให้ กำลังใจให้เข้มแข็งที่จะยืนหยัดมีชีวิตอยู่ต่อไป พยายามปลดเปลื้องหนี้สินทั้งหลายของคุณพ่อให้หมดให้เร็วที่สุด…"

"ด้วยเหตุนี้ น้องจึงได้ตัดสินใจว่าโตขึ้นน้องจะเปิดกิจการร้านบะหมี่ แล้วจะต้องเจ้าของร้านบะหมี่ยอดเยี่ยมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย แล้ว ยังจะให้กำลังใจแก่ลูกค้าทุกคน…ขอให้มีความสุขครับ…ขอบคุณครับ…"สองตายายเจ้าของร้านบะหมี่ที่ยืนฟังอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่จู่ ๆ ก็หายตัวไป พวกเขาไม่ได้หายไปไหนเลยเพียงแต่คุกเข่ากันอยู่ใต้โต๊ะ ในมือถือปลายผ้าขนหนูกันคนละข้าง พยายามซับน้ำตาที่ ไหลไม่ยอมหยุดเหมือนทำนบพังนั้นอย่างไม่ลดละ "พอน้องอ่านเรียงความจบ คุณครูก็พูดว่า วันนี้พี่ชายได้มาเป็นตัวแทนของคุณ แม่ ดังนั้นขอเชิญพี่ชายขึ้นมากล่าวอะไรสักหน่อยค่ะ " "จริงหรือลูก แล้วลูกทำอย่างไรหล่ะ" "ก็มันกระทันหันเกินไป ตอนแรก ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ผมจึงพูดว่า…ขอบคุณทุกคนที่เอาใจใส่น้องผมเป็นอย่างดี น้องผมต้องไปจ่ายตลาดซื้อกับ ข้าวกลับมาหุงหาอาหารทุกวัน ดังนั้นในเวลาที่เพื่อน ๆ ทุกคนมีกิจกรรมกันในตอนเย็นก็มักจะอยู่ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ได้เพราะ ต้องรีบกลับบ้าน เมื่อเป็นอย่างนี้คงจะทำให้ทุกคนวุ่นวายกันพอสมควร

เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้ยินน้องอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่น้ำ หนึ่งชาม ผมรู้สึกอายมาก แต่พอได้เห็นน้องยืดอกอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่น้ำหนึ่งชามด้วยเสียงอันดังนั้นจนจบ ถึงได้รู้สึกว่า ความรู้สึกอายเมื่อสักครู่นี้ถึงจะเรียกว่าเป็นความอายจริง ๆ " "หลายปีมานี้ ความกล้าของคุณแม่ที่จะสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามนั้นเพื่อ กินกันสามคนนั้น ผมกับน้องจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด ผมและน้องจะต้องขยัน และดูแลแม่เป็นอย่างดี และผมขอฝากน้องของผม ให้ทุกคนช่วยดูแลด้วยครับ" สามแม่ลูกกุมมือกันเงียบ ๆ ตบไหล่ กินบะหมี่หมดอย่างมีความสุขกว่าทุก ๆ ปี จ่ายเงินไปสามร้อย เยนกล่าวขอบคุณค้อมตัวลงเคารพและเดินออกจากร้านไป มองตามหลังสามแม่ลูกไป เจ้าของร้านจึงได้รู้สึกว่าปีนี้ได้ผ่านไปแล้ว จริง ๆ พร้อมกับกล่าวว่า "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"

และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งปี......

พอถึงเวลา 21.00 น. ทางร้านฮอกไกก็วางป้าย"โต๊ะจอง" ไว้บนโต๊ะเบอร์สองและเฝ้ารอคอยการมาเยือนของสามแม่ลูกเช่นเคย แต่ในปีนั้นสามคนแม่ลูกไม่ได้มาปรากฏตัวที่ร้านเลย ปีที่สอง ปีที่สาม โต๊ะเบอร์สองก็ยังคงว่างอยู่เช่นเดิม สามแม่ลูกไม่ได้มาที่ร้านฮอกไกอีกเลย กิจการของร้านฮอกไกดีมาก เรียกว่า ดีวันดีคืนเลยทีเดียว ภายในร้านมีการตกแต่งใหม่ โต๊ะเก้าอี้ก็มีการเปลี่ยนใหม่ จะมีก็แต่โต๊ะเบอร์สองที่เก็บรักษาไว้เหมือนเดิม "นี่มันเรื่องอะไรกัน" ลูกค้าหลายคนต่างก็ถามด้วยความกังขา เถ้าแก่เนี้ยก็เลยเล่าเรื่องบะหมี่หนึ่งชามให้แก่ลูกค้าฟัง โต๊ะเก่าตัว นั้นวางอยู่กลางร้านเหมือนกับว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่ง และก้อไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งลูกค้าทั้งสามอาจจะกลับมาอีก พวกเขาหวังว่าจะใช้โต๊ะเก่าตัวนั้นในการต้อนรับลูกค้าทั้งสามของเขา โต๊ะเบอร์สองตัวนั้นเปลี่ยนเป็นชื่อว่า "โต๊ะแห่งความ สุข" ลูกค้าต่างก็พูดต่อ ๆ กันไป มีนักเรียนหลายคนอยากเห็นโต๊ะตัวนี้ถึงขนาดที่ว่านั่งรถมาจากที่ไกลแสนไกลมากินบะหมี่ และ เจาะจงที่จะนั่งโต๊ะตัวนี้

ผ่านวันที่ 31 ธันวาคม ไปอีกหลาย ๆ ปี เจ้าของร้านค้าในระแวกใกล้เคียงร้านฮอกไก พอถึงวันสิ้นปีหลัง จากปิดร้านแล้วก็มักจะมารวมตัวฉลองโดยการกินบะหมี่ที่ร้านฮอกไก กินไปพลาง ก็รอเสียงระฆังส่งท้ายวันสิ้นปีเก่าไปพลาง แล้วทุกคนก็ไปวัดเพื่อไหว้พระด้วยกัน เป็นธรรมเนียมมา 5-6 ปีแล้ว

ในวันนี้พอเลย 21.30น.ไปแล้ว เจ้าของร้านขายปลามาถึง ก่อนพร้อมทั้งนำซาซิมิมาด้วย ต่อจากนั้นก็มีคนมาเรื่อย ๆ เป็นระยะ บ้างก็เอาเหล้ามา บ้างก็เอาอาหารกับแกล้มมา ปกติแล้วก็จะ รวมตัวกันได้ประมาณ 30-40 คน ต่างก็คึกคักกันมาก ทุกคนที่มานั้นต่างก็รู้ตำนานเกี่ยวกับโต๊ะเบอร์สอง ทุกคนก็พยายามไม่เอ่ยถึงมันแต่ในใจต่างก็คิดกันว่า วันนี้"โต๊ะจอง"ตัวนั้นไม่มีคนที่พวกเขาเฝ้ารอมานั่ง มันคงจะว่าง เปล่าเพื่อส่งท้ายปีเก่าอีกเช่นเดิม พวกเขาบ้างก็กินเหล้า บ้างก็กินบะหมี่ บ้างก็เข้า ๆ ออก ๆ พอเตรียมกับข้าวกับแกล้ม ต่างก็กิน กันไปคุยกันไป พูดเรื่องการค้าบ้าง คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แม้แต่น้ำทะเลขึ้นลง ในระยะนี้บ้านไหนมีเด็กเกิดใหม่ ก็นำมาพูดคุย ในวงสนทนา คุยมันทุก ๆ เรื่อง จนเหมือนกับว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน

เวลาผ่านไปจนถึง 22.30น. ทันใดนั้นเองประตูร้านก็ถูก ผลักออกเบา ๆ ทุกคนในร้านหยุดพูดคุยกัน สายตาทุกคู่มองตรงไปยังประตูร้าน ชายหนุ่มสองคนยืนสง่าในชุดสูทสากล พาด โอเวอร์โค้ทไว้บนแขน พอเห็นว่าผู้ที่มาเป็นใครทุกคนก็รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลง และเริ่มสนทนากันต่อไปอย่างคึกคัก
ในขณะที่เถ้าแก่เนี้ยกำลังจะพูดว่า "ขอโทษค่ะ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ" เพื่อปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ได้รับเชิญอยู่นั้น ก็มีหญิงคนหนึ่งสวม ชุดกิโมโนเดินเข้ามายืนระหว่างกลางของชายหนุ่มทั้งสองคน ทุกคนในร้านแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินคุณนายผู้นั้นพูดว่า "เอ้อ…รบกวน…รบกวนช่วยทำบะหมี่ให้สามชามได้ไหมค๊ะ" ทันทีที่เถ้าแก่เนี้ยได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที


เวลาผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว ภาพของสามแม่ลูกในความทรงจำ กับภาพของ สามแม่ลูกตรงหน้า เธอพยายามจะนำทั้งสองภาพมาวางซ้อนกัน เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ที่โต๊ะทำบะหมี่ ชี้นิ้วไปยังทั้งสามแม่ลูก "พวกคุณ .. พวกคุณ" เขาพูดได้เพียงแค่นั้น คำพูดทุกคำจุกอยู่ที่คอ ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนเห็นท่าทีของเถ้าแก่เนี้ยที่ทำอะไร ไม่ถูกก็เลยพูดกับเถ้าแก่เนี้ยว่า "พวกเราสามคนแม่ลูก ที่เมื่อสิบสี่ปีก่อนในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชาม ทานกันสามคนไงครับ และพวกเราก็ได้รับกำลังใจจากบะหมี่น้ำชามนั้น พวกเราจึงได้สามารถยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้"
"หลังจากนั้น ก็อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับยายที่อำเภอชิกะ ปีนี้ผมสอบผ่านได้เป็นนายแพทย์แล้ว ตอนนี้ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดแผนกกุมาร เวชที่โรงพยาบาลเกียวโต ปีหน้าเดือนเมษายนก็จะย้ายมาประจำโรงพยาบาลกลางของซัปโปโรแล้ว" "วันนี้พวกเราก็เลยแวะมา ที่โรงพยาบาลเพื่อทำความรู้จักและฝากเนื้อฝากตัว แล้วเลยไปไหว้สุสานของคุณพ่อ และน้องชายที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันว่าจะเป็น เจ้าของกิจการร้านบะหมี่นั้น ขณะนี้ได้ทำงานในธนาคารเกียวโต ได้เสนอความคิดที่เริดเรออย่างหนึ่งก็คือ ปีนี้ในวันส่งท้ายปีเก่า พวกเราสามคนแม่ลูกจะมาเยี่ยมคารวะเจ้าของร้านบะหมี่ฮอกไกที่ซัปโปโร และทานบะหมี่น้ำสามชามของร้านฮอกไกด้วย" สองตายายฟังไปพลาง พยักหน้าไปพลางด้วยน้ำตาคลอเบ้า เถ้าแก่ร้านขายผักที่นั่งอยู่ตรงหน้าประตู พยายามใช้แรงอย่างเต็มที่ ที่จะกลืนบะหมี่คำที่คาอยู่ในปากลงไปในคอ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า "อ้าว…เถ้าแก่… เป็นอะไรไปหล่ะ อุตสาห์เตรียมการมาตลอดสิบ ปีเพื่อเฝ้าคอยวันนี้ "โต๊ะจอง" ตัวนั้นไงที่พวกเถ้าแก่จองให้ลูกค้าที่จะมาตอนหลังสิบโมงของคืนวันสิ้นปีไง รีบ ๆ ต้อนรับพวกเขาสิ เร็วเข้า" ในที่สุดเถ้า แก่เนี้ยก็ได้สติ ตบไหล่ของเถ้าแก่ร้านขายผัก แล้วพูดว่า "ยินดีต้อนรับค่ะ เชิญนั่งข้างในค่ะ…นี่ตาเฒ่า บะหมี่น้ำสามชามโต๊ะสอง" เถ้าแก่ที่ยืนตะลึงอยู่ก็รีบปาดน้ำตาแล้วรับคำว่า "ครับ..บะหมี่น้ำสามชาม" หากดูกันตามจริงแล้ว


สิ่งที่เถ้าแก่ร้านบะหมี่ทั้งสองได้ ให้ไปมันไม่ได้มีค่ามากมายอะไรเลย มันเป็นแค่เพียงบะหมี่ไม่กี่ก้อน คำพูดที่จริงใจและให้กำลังใจเพียงไม่กี่คำ รวมทั้งคำอวยพร ว่า "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"ก็เท่านั้นเอง แต่มันกลับให้ผู้ที่ถูกความจริงอันโหดร้ายบีบให้จมอยู่ในสถานการณ์คับขับ ได้สามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้ง



#123876 ขอคำอธิบายดีๆไปตอบคำถามเรื่องพระเวสสันดรหน่อยค่ะ

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 21 September 2008 - 10:28 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

เรื่องนี้พระนาคเสน กับ ท่านคุณานันทะ เคยตอบด้วยนะครับ
หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะ ก็เคยตอบด้วยครับ



#137098 พรุ่งนี้ พาคุณพ่อ มาหอฉันกันดีไหม

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 04 December 2008 - 01:36 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

พาคุณพ่อ คุณแม่ มาหอฉัน ถวายผ้าห่ม และ ภัตตาหาร
มีความสุขกันอีกวันดีไหมครับ

ครอบครัวจะได้มีความสุขมาก ๆ ครับ



#151142 องค์พระภายนอกที่ ทำบุญ 3 หมื่น

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 01 April 2009 - 09:14 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

มาร่วมทุ่มสุดฤทธิ์.ปิดเจดีย์



#125821 รายงาน ความคืบหน้าหล่อทองกับ dmc.tv

โพสต์เมื่อ โดย eq072 บน 03 October 2008 - 02:32 PM ใน เว็บบอร์ด DMC

ร้ายกาจจริง ๆ สุดยอด