ท่านปลื้มครับ....เพราะท่านเกิดมาสร้างบารมีและท่านก็รู้ผลของบุญที่จะตามมาในอนาคต
ยิ่งปลื้มเยอะ..บุญบารมีก็เยอะครับพอได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ..รัศมีจะสว่างขยายตามกำลังของใจครับ
พวกเราลูกหลานหลวงพ่อยิ่งเหนื่อยยิ่งมีอุปสรรค์ก็ต้องยิ่งปลื้มให้มากนะครับ...จะได้มีบารมีติดตัวไปเยอะๆแล้วเราจะได้ตามไปช่วยงานหลวงพ่อได้เยอะๆครับ

สาธุครับ....
ถ้าทุกวัดใช้คาถานี้..รับรองพุทธศาสนาของเราเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ....

เราเป็นผู้ชายกล่าวว่า..คุณครู...อุปัชฌาย์อาจารย์(เพราะเราได้บวชมีพระอุปัชฌาย์)

ส่วนผู้หญิงไม่ได้บวชก้อกล่าวแค่ครูบาอาจารย์ไงครับ

หลวงพ่อท่านแค่บอกผู้หญิงเฉยๆ..เพื่อให้ผู้หญิงได้ท่องถูกต้องไม่ต้องท่องตามท่านทั้งหมด

ผมเพิ่งไปมาตอนวันมาฆบูชาครับตอนนั้นสองจิตสองใจว่าจะอยู่ร่วมงานที่วัดพระธรรมกายหรือไปสังเวชนียสถานดี
แต่ก้อต้องตัดใจไปสังเวชนียสถานเพราะต้องทำงานด้วยคือไปกับบริษัททัวร์ของพี่ชาย...
ยังไงก้อเอาบุญมาฝากทุกคนด้วยนะครับ.....อ้อดูรูปได้ที่นี่ครับ

http://www.oceansmil...a/1/2390-1.html

สาธุฯ..ครับ
ภาพสวย..ดนตรีไพเราะ...ส่วนเนื้อเรื่องขอชมฉบับเต็มๆก่อน(ดูคร่าวๆน่าจะเยี่ยมครับ)

สร้างด้วยศรัทธาจริงๆ

รบกวนสอบถามหน่อยครับ..หลานชายอายุสิบหกปี
ช่วงปิดเทอมมีเวลาว่างอยู่..มีการอบรมที่ไหนบ้างครับ..
พี่สาวฝากถามมา...อยากให้หลานไปอบรมน่ะครับ..

...........ส่วนหัตถิปาลกุมาร ได้แก่เราผู้ตถาคตนั่นเอง...

สาธุฯ

"การที่คิดว่าเราไม่ยึดติด...นั่นก็คือการยึดติด..."

และแล้วผมก้อหาเจอจนได้....

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ นี้ในเบื้องแรกนั้น เทพเจ้าเป็นผู้กล่าวนมัสการพระพุทธองค์ก่อน ดังพระองค์ตรัสเทศนาไว้ใน พระจตุราคมนิกาย ดังต่อไปนี้

๑. ณ กาลสมัยหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเรา เสด็จไปทรมานอารวกะยักษ์ แคว้นอาระวีนคร ขณะที่พระองค์เสด็จไปประทับรออารวกะยักษ์อยู่ในวิมานนั้น อารวกะยักษ์ไปประชุม ณ เทวสันนิบาตยังไม่กลับ สาตาคิรายักษ์กับสหายเหมวะตายักษ์ออกจากวิมานแห่งตนแล้วเหาะไป เพื่อจะนมัสการพระองค์ที่พระเชตวันวิหาร ณ กรุงสาวัตถี เมื่อไม่พบพระพุทธเจ้าจึงเหาะกลับมาทางวิมานของอารวกะยักษ์ ขณะที่เหาะข้ามวิมานของอารวกะยักษ์ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ ภายในนั้น ด้วยพุทธานุภาพ สาตาคิรายักษ์กับเหมวตายักษ์ก็หมดกำลังฤทธิและตกลง เมื่อยักษ์ทั้ง ๒ เห็นพระสัมมาสัมพุทะเจ้าเสด็จประทับอยู่ในวิมานของอารวกะยักษ์นั้น จึงประคองมือขึ้นนมัสการกล่าวว่า นะโม แปลว่า ข้าพเจ้าขอถวายความนอบน้อม เป็นคำรพแรกในสมัยพุทธกาล อันเป็นที่มาของบท นะโม

๒. เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เสด็จประทับอยู่ ณ เวฬุวันวิหาร แขวงกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น อสุรินทราหู มหาอุปราชของท้าวเวปจิตติ ในอสูรพิภพ ได้มานมัสการพระพุทธเจ้าและกล่าวว่า ตัสสะ แปลว่า ผู้มีกิเลสอันสิ้นแล้ว ดังนี้

๓. เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เสด็จประทับอยู่ ณ ควงไม้ราชายตนะ ในคราวที่พระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณใหม่ๆ นั้น ตะปุสสะกับภัลลิกะพานิชชาวเมืองสะเทิมได้น้อมนำข้าวสตุก้อนสตุผงเข้าไปถวาย แล้วแสดงตนเป็นอุบาสกถึงรัตนะ ๒ คือพระพุทธ และพระธรรม ครั้งนั้นท้าวจาตุมหาราชได้นำบาตรไปถวายพระพุทธองค์เพื่อเป็นภาชนะรับอาหาร แล้วได้กล่าวนมัสการว่า ภะคะวะโต แปลว่า พระผู้มีพระภาค

๔. เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา เสด็จประทับอยู่ในกุฎี ณ ป่าไม้สน ใกล้สาวัตถีนคร พระองค์ทรงประชวรลงพระโลหิต ท้าวสักกะเทวราชได้นำเอาผอบทองมารองรับพระบังคนแล้วยกขึ้นทูลพระเศียรของ พระองค์ไปเททิ้งในแม่น้ำ พร้อมด้วยกล่าวนมัสการว่า อะระหะโต แปลว่า ผู้เป็นพระอรหันต์

๕. ในคราวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ทรงเสด็จไปทรมานพกาพรหม ผู้มีทิฏฐิเห็นผิดเป็นชอบโดยเห็นว่าตายแล้วสูญ บาปบุญไม่มี ท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่และสร้างโลกเป็นต้น ณ พรหมโลกครั้งนั้น เมื่อพระองค์ทรงทรมานพกาพรหมด้วยวิธีเปลี่ยนกันซ่อนตัวและเที่ยวหา พกาพรหมพ่ายแพ้และยอมฟังพระธรรมเทศนา เมื่อเป็นสัมมาทิฏฐิเห็นชอบแล้วจึงกล่าวนมัสการว่า สัมมาสัมพุทธัสสะ แปลว่า ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ

บท นมัสการทั้ง ๕ ตอนนี้ แต่ละตอนเทพเจ้านำมากล่าวเริ่มแรก เป็นนมัสการต่างคราวต่างวาระกัน สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้ในคัมภีร์จตุราคมนิกายดังกล่าวแล้ว รวมความเป็น นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ซึ่งแปลสำนวนย่อว่า ข้าพเจ้าขอถวายความนอบน้อม แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นพระอรหันต์ ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบพระองค์นั้น ดังนี้ฯ
คาถาระบุผู้ตั้งนะโม

นะโม สาตาคิรายักโข ตัสสะ จะ อะสุรินทะโก

ภะคะวะโต โลกะปาลา อะระหะโต สักโก ตะถา

สัมมาสัมพุทธัสสะ มะหาพ๎รัหมา ปัญจะ เทวา ปะติฏฐิตาติ.

สาตาคิรายักษ์ นมัสการว่า นะโม

อสุรินทราหู นมัสการว่า ตัสสะ

ท้าวจตุมหาราช นมัสการว่า ภะคะวะโต

ท้าวสักกะเทวราช นมัสการว่า อะระหะโต

ท้าวพกามหาพรหม นมัสการว่า สัมมาสัมพุทธัสสะ

ทั้ง ๕ นี้เป็นที่มาและมูลเหตุของนะโม ฯลฯ ซึ่งพระองค์ตรัสเทศนาไว้ในจตุรานิคมนิกายดังกล่าวแล้ว ฯ
บทนมัสการ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ขอน้อบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ฯ

บทนมัสการนี้ ประกอบด้วยบทที่เป็นคำบาลี ๕ บท มี นะโม เป็นต้น นับเรียงพยางค์ได้ ๑๘ พยางค์ บท ๓ บท คือ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ประกาศพระคุณของพระพุทธเจ้า ๓ ประการ คือ พระมหากรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาคุณ ตามลำดับ

อย่างนี้ต้องชวนมาบวช....

ขอบคุณครับคุณหัดฝัน....แต่มันเป็นคนละบทกันกับของคุณหัดฝันครับ...ที่คุณหัดฝันพูดคือ...การสวดภาณยักษ์ครับ

คำตอบแบบเดียวกันกับของคุณ slumomax ครับ คือเอาคำสรรเสริญของแต่ละคำมาร้อยกรองกันครับ....
แต่ผมยังหาความหมายของแต่ละคำ..และจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูดคำไหนครับ

ผมเคยอ่านที่มาของบทสวดนโม...ว่าเป็นคำพูดของ..พรหม..ยักษ์...ที่สรรเสริญพุทธองค์

แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว...รบกวนใครพอรู้มาอธิบายหน่อยครับ..ว่ามีที่มายังไง...แล้วสวดแล้วหมายความว่ายังไง

สาธุครับ...ร่วมด้วยช่วยกัน...

กิจกรรมหล่อหลอมคือ...กิจกรรมที่ทำรวมกันเพื่อให้ทุกคนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน...มาหลอม..แล้วหล่อ...ให้เป็นใจเดียวกัน

อย่างตอนผมบวชหมื่นรูป(ตอนอยู่เขาแก้วเสด็จ)...กิจกรรมนี้คือร่วมกันทำความสะอาด..พัฒนา..ทำทางเดิน....ภายในศูนย์อบรม

ซึ่งพวกเรารับบุญกันอย่างเบิกบาน...ไม่มีใครขี้เกียจ..เพราะรู้ว่างานทุกอย่างคือบุญ...ใครรับบุญของกลุ่มตัวเองเสร็จ..ก้อไปช่วยรับบุญกับกลุ่มของเพื่อนต่อ....อย่างผมนี่นะ..รับมาหมดทุกบุญเลย..คิดถึงแล้วยังปลื้มอยู่เลย....อ้อ..เอาบุญมาฝากด้วยครับ..อิอิ

สาธุ....ครับ...กับเรื่องที่มาเล่า..


ผมล่ะกลัวมนต์นีซะจริงๆ...เฮ้อ...กลัวเพราะอยากลองนี่แหละ

มันก็แค่กรรมเก่าได้ช่อง...เราก็ต้องทำใจให้ใส..อย่าให้มันมีโอกาส....ทำใจใสๆไม่ได้..ก็ให้เฉยๆ...ถ้าเฉยไม่ได้อีก...ก็มองดูมัน...ดูมันไปเรื่อยๆ....เรื่อยๆ....ดูไปๆ...ว่ามันจะเจ็บไปได้นานแค่ไหน...เจ็บเพราะอะไร..ทำไมเราต้องเจ็บ.....ดูไปๆ..นะ..จ้ะ

สาธุครับ...คุณหัดฝันตอบตรงและดีมากครับ...

คนเรามีหลายจำพวก....หลายจริต...มีหลายประเภท...วิธีการไปสู่นิพพานก็ต่างกัน..แต่เป้าหมายเหมือนกัน....แม้แต่คนต่างศาสนาก็ตามที

พระพุทธเจ้าของเรา...ก็มีรูปแบบการสร้างบารมีที่แตกต่างกัน...ศรัทธา..วิริยะ..หรือว่าปัญญา....ความช้าเร็วในการบรรลุโพธิญาณ...
และจำนวนสรรพสัตว์ที่พระองค์ทรงช่วยก็แตกต่างกัน....จะชอบแบบไหนอยู่ตัวเอง...แต่ขอเพียงอย่าให้ออกจากหลักพุทธศาสนา..อันมีละชั่ว..ทำดี..ทำใจให้ผ่องใส....หรือทาน..ศีล..ภาวนาก็เป็นดี....

ขอต่ออีกนิด....การทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นบาปอันใหญ่หลวง...ตรงข้ามการรวมสงฆ์รวมศาสนาให้มั่นคงเป็นบุญอันมหาศาลเช่นกัน
..................การเบี่ยงเบนคำสอนของพุทธองค์เป็นกรรมหนัก...ส่วนการสั่งสอนธรรมอันเที่ยงแท้ก็เป็นบุญใหญ่เช่นกัน...

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรวบรวมพระศาสนาให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง..แล้วค้นหาคำสอนดั้งเดิมของพระองค์กันจริงๆเสียที...

สาธุๆๆ......
ขอบคุณมากครับ.....
บุญจากการบวชครั้งนี้ของผม...ขอให้คุณ tnawut ได้รับไปเต็มๆนะครับ

ขอบคุณมากครับ...
แต่อยากจะบอกว่า..คอมผมเป็นไรไม่รุพอโหลดมาแล้ว..มันอ่านไม่ได้ครับ...

ผมเป็นคนหนึ่งที่จะบวชพระโครงการ 7000 รูปของหลวงพ่อครับ ตอนนี้กำลังซ้อมท่องคำขานนาคอยู่ แต่ยังจำไม่ได้เลย
ท่องไปท่องมา..ก้อเกิดความสงสัยว่ามันแปลว่าอะไร...รบกวนถามผู้สัดทัดบาลี วานช่วยแปลให้ด้วยนะครับ ได้เป็นคำต่อคำเลยยิ่งดี
จะได้เข้าใจ..และจำคำที่ที่ท่องได้ด้วยครับ

อ้อ..ขอแบ่งบุญบวชให้อนุโมทนากันถ้วนหน้านะครับ