คำอธิษฐาน
#1
Posted 16 April 2006 - 06:02 AM
ไม่ว่าทำบุญอะไรแบบไหน ก็อธิษฐานหมายความว่า
การทำบุญนั้นเป็นการหวังผลตอบแทน
ดังนั้นจึงเป็นการทำบุญที่เจือด้วยกิเลส คือไม่ได้กำจัดกิเลสหรือไม่
#2
Posted 16 April 2006 - 09:33 AM
ไม่ว่าทำบุญอะไรแบบไหน ก็อธิษฐานหมายความว่า
การทำบุญนั้นเป็นการหวังผลตอบแทน
ดังนั้นจึงเป็นการทำบุญที่เจือด้วยกิเลส คือไม่ได้กำจัดกิเลสหรือไม่
ตอบ 1.การทำบุญแล้วอธิษฐานจัดเป็น1ในบารมี10ทัศน์ นั้นก็คืออธิษฐานบารมี ถ้าการอธิษฐานใด อธิษฐานแล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน เป็นไปเพื่อการอุ้มชูกิเลส ให้ฟองขึ้นฟูขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่เป็นไปเพื่อการละกิเลส อธิษฐานให้เป็นไปเพื่อการสร้างภพสร้างชาติต่ออย่างไม่มีที่สิ้นสุด การอธิษฐานอย่างไรก็ยังต้องเจือด้วยกิเลสมากอยู่
2.แต่การอธิษฐานใด ที่อธิษฐานแล้วเป็นไปเพื่อการ ลด ละ กิเลส การบรรเทากิเลสที่หนาให้เบาบางลง เป็นไปเพื่อการสิ้นภพสิ้นชาติ สิ้นตัณหาต่างๆนานา เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หรือ ที่พระโพธิสัตว์ปราถนาจะขนสัตว์เข้าสู่พระนิพพาน อันนี้จะตอบว่าไม่มีกิเลสก็เห็นไม่ควร เพราะขึ้นชื่อว่าความอยาก ความปราถนา ความต้องการ หรืออาจจะเป็นฉันทะไม่ใช่โลภ แต่ถึงอย่างไรแล้ว ก็ยังจัดว่าเป็นกิเลสอยู่ แต่ กิเลสนี้ก็คงจะน้อยกว่าข้อแรกที่กล่าวมา _/ \_
**********************************************************
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .
#3
Posted 16 April 2006 - 12:50 PM
ตั้งเป้าหมายเพื่อไห้ร่ำรวย สวยฉลาด ก็เพื่อจะได้สิ่งเหล่านั้นเอามาเป็นประโยชน์ปัจจัยในการ สร้างบารมียิ่งๆขึ้น
เพื่อดับกิเลสของตนและมนุษยชาติต่อไป นำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายไปสู่ฝั่งพระนิพพาน
#4
Posted 16 April 2006 - 01:50 PM
สำหรับเรื่องการอธิษฐานนั้น ก็มีทั้งอธิษฐานที่ไม่สมควร เช่น
1. อธิษฐานขออย่างเดียวโดยไม่สร้างเหตุประกอบ ได้แก่ นิทาน จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า ฯลฯ การขอแบบนี้ ไม่ว่าจะขอในสิ่งดี หรือไม่ดีก็ตาม แต่ไม่ประกอบเหตุ ย่อมเป็นสิ่งไม่สมควร ไม่ว่าจะอธิษฐานขอบรรลุธรรม ขอสิ่งของเงินทอง แต่ไม่สร้างบุญประกอบ การขอแบบนี้ไม่ถูกต้องครับ
2. อธิษฐานโดยสร้างเหตุประกอบ แต่ไม่ครอบคลุม เป้าหมายทั้ง 3 แบบ (เป้าหมายชาตินี้ เป้าหมายชาติหน้า เป้าหมายสูงสุด) เช่น ขอให้รวย สวย ฉลาด อย่างเดียว แต่ไม่อธิษฐานให้ได้เป้าหมายสูงสุด คือ ให้ได้บรรลุธรรม ก็เป็นการอธิษฐานที่เป็นอันตรายอยู่ดี
ดังนั้น การอธิษฐานที่เหมาะสมที่สมบูรณ์ที่สุดคือ ต้องอธิษฐานให้ครอบคลุมทั้ง 3 เป้าหมาย หรือ รองลงมา ก็อธิษฐานเฉพาะเป้าหมายสูงสุดอย่างเดียวก็ได้ เช่น บางท่านอธิษฐานขอบรรลุธรรมโดยเร็วพลันอย่างเดียว ก็ได้ครับ
#5
Posted 16 April 2006 - 02:43 PM
#6
Posted 16 April 2006 - 05:08 PM
#7
Posted 16 April 2006 - 06:16 PM
การทำบุญหวังผลบุญไม่ได้หมายความว่าเราโลภ อยากได้โน่น อยากได้นี่ แต่มันเป็นการออกแบบชีวิตในภพชาติต่อไป เพื่อแก้ไขในสิ่งที่เราไม่สมหวังให้สมหวัง หรือดีอยู่แล้วแต่อยากให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก
การอฐิษฐานสำคัญมาก เพราะจะเห็นได้จากหลายๆ เคสที่ทำบุญแล้วไม่ได้อฐิษฐานไว้ ยังทำให้ไปเกิดนอกเขตพระพุทธศาสนา ถึงแม้จะรวยล้นฟ้าแต่ถ้าไม่พบเนื้อนาบุญก็ไม่มีประโยชน์ ก็อย่าลืมอฐิษฐานกันให้รอบคอบและรัดกุมนะครับ
อ้อ ผมไม่ได้ไปไหนเลยสงกรานต์นี้ อยู่กับหลวงพ่อตลอด 4 วันเลย ได้บุญครบทุกอย่างทั้งปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา สรงน้ำรัตนวิหารคต ทำความสะอาดลานธรรม พับผ้าไตร พับกระดาษทิชชู่ วันนี้เอาความรู้ที่พอมี ไปช่วยซ่อมคอมให้หลวงพี่มาด้วยครับ เอาบุญมาฝากทุกท่านครับ
#8
Posted 16 April 2006 - 08:53 PM
คำตอบถ้านำไปใช้เพื่อตอบให้กับผู้ที่ไม่เข้าใจวัดแล้วก็น่าจะพอเขาใจ ในเวปบอร์ดแห่งอื่น ๆ
มีการถกเถียงกันมากแต่ยังไม่พบคำตอบ
เช่นการทำบุญแล้ว รวยเร็ว รวยรวด รวยอัศจรรย์ นั้น บางคนอาจจะเข้าใจผิด แต่ถ้ามาดูคำ
อธิษฐานอื่น ๆ ประกอบนั้น ก็จะเข้าใจว่าต้องการเป้าหมายสุดท้ายคือนิพพาน ( กำจัดกิเลส )
เมื่อคำอธิษฐานแบบนี้มันยังผิดอยู่เพราะไม่สมบูรณ์ เลยอยากถาม
- พระโพธิสัตว์เมื่อบำเพ็ญทานบารมี หรือบริจาคทานทุกชนิดนั้น อธิษฐานในใจอย่างไร
บ้าง
- ต้องอธิษฐานอย่างไร ป้องกันไม่ให้กิเลสพอกพูนและกิเลสลดลงแต่ชีวิตมีความสุข
ร่ำรวยเป็นเศรษฐีทุกชาติ ตราบที่ยังไม่เข้านิพพาน
- การทำบุญทำทานนั้น ผลของทานก็คือทรัพย์สมบัติรูปสัมบัติ ถ้าอธิษฐานให้มีปัญญา
เมื่ออธิษฐานแล้วจะได้ผลหรือไม่ ?
#9
Posted 16 April 2006 - 10:54 PM
บ้าง
ตอบ พระโพธิสัตว์แต่ละองค์ทำบุญแล้วอธิษฐานอย่างไรนั้น เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วทุกองค์ คือ จะต้องอธิษฐานตั้งความปราถนาที่เพื่อที่จะได้ตรัสรู้ การที่จะได้ช่วยให้สรรพสัตว์ทั้งหลายให้เข้าสู่พระนิพพานด้วย ส่วนแต่ละองค์จะอธิษฐานเพิ่มเติมต่อจากนั้นอย่างไร ก็สุดแต่ที่พระโพธิสัตว์จะปราถนา ตามสติปัญญาความฉลาดของตนคิดได้ระลึกได้ เป็นไปตามเหตุปัจจัยในขณะนั้น
*****************************************************************************
ตอบอุปมาบุญเหมือนเงิน ถ้าเงินเพียงพอที่จะซื้อบ้านใหญ่ๆโตๆสักหลังเราก็สามารถซื้อได้ แต่ถ้าหาก เงินไม่พอก็ซื้อไม่ได้ บุญก็เช่นกัน หากบุญที่เราทำนั้นเพียงพอที่จะส่งผลให้สิ่งที่เราปราถนานั้นสำเร็จ สิ่งที่ปราถนาก็สำเร็จ แต่ถ้าบุญไม่พอก็ไม่สำเร็จ อยากรวยต้องให้ทาน อยากได้รูปสมบัติต้องรักษาศีล อยากได้ปัญญาต้องหมั่นเข้าหาบัณฑิต สนทนาธรรม นั่งสมาธิ ถึงจะได้ตามปราถนา_/ \_
******************************************************************************
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .
#10
Posted 17 April 2006 - 01:48 AM
***บุญใด ที่ข้าพเจ้าใด้ทำในบัดนี้ เพราะบุญนั้น และการอุทิศแผ่ส่วนบุญนั้น ขอให้ข้าพเจ้า ทำให้แจ้ง โลกุตตระธรรม ๙ ในทันที ข้าพเจ้า เป็นผู้อาภัพอยู่ ยังต้องท่องเที่ยวไป ในวัฏสงสาร
***ขอให้ข้าพเจ้า เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรณ์ แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงฐานะ แห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ
***ขอให้ข้าพเจ้า พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ พึงยินดีในการรักษาศีล ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕ พึงเว้นจากเปลือกตมดังกล่าว คือ กามคุณ
***ขอให้ข้าพเจ้า ไม่พึงประกอบด้วย ทิฏฐิชั่ว พึงประกอบด้วย ทิฏฐิที่ดีงาม ไม่พึงคบมิตรชั่ว พึงคบแต่บัณฑิตทุกเมื่อ
***ขอให้ข้าพเจ้า เป็นบ่อที่เกิดแห่งคุณ คือ ศรัทธา สติ หริ โอตัปปะ ความเพียร และขันติ พึงเป็นผู้ที่ ศัตรูครอบงำไม่ได้ ไม่เป็นคนเขลา คนหลงงมงาย
***ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเสื่อม และความเจริญ เป็นผู้เฉียบแหลม ในอรรถและธรรม ขอให้ญาณของข้าพเจ้า เป็นไปไม่ข้องขัด ในธรรมะที่ควรรู้ ประดุจลมพัดไปในอากาศฉะนั้น
***ความปราถนาใดๆ ของข้าพเจ้า ที่เป็นกุศล ขอให้สำเร็จ โดยง่ายทุกเมื่อ คุณที่ข้าพเจ้า กล่าวมาแล้วทั้งปวงนี้ จงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า ทุกภพทุกชาติ
***เมื่อใด พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้แสดงธรรมเครื่องพ้นทุกข์ เกิดขึ้นแล้วในโลก เมื่อนั้น ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากกรรมอันชั่วช้าทั้งหลาย เป็นผู้ได้โอกาส แห่งการบรรลุธรรม
***ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ความเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ ได้บรรพชา อุปสมบทแล้ว เป็นคนรักศีล มีศีล ทรงไว้ซึ่งพระศาสนา ของพระบรมศาสดา
***ขอใด้เป็นผู้มีการปฏิบัติธรรมได้ โดยสะดวก ตรัสรู้ได้พลัน กระทำให้แจ้ง ซึ่งอรหัตผลอันเลิศ อันประกอบด้วยธรรมะ มีวิชชา เป็นต้น
***ถ้าหากพระพุทธเจ้า ไม่บังเกิดขึ้น แต่กุศลธรรม ของข้าพเจ้า เต็มเปี่ยมแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ญาณ เป็นเครื่องรู้เฉพาะตน อันสูงสุดเทอญฯ
สำหรับตัวอย่างของการอธิษฐานจิตอย่างง่ายและครอบคลุมตามแบบฉบับของผม มีดังนี้
***"ด้วยบุญกุศลที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ตั้งใจกระทำบำเพ็ญไว้แล้วด้วยดี ขอจงมาเป็นเครื่องกำกับรักษากาย วาจา ใจ อีกทั้งธาตุธรรมเห็น จำ คิด รู้ ของข้าพระพุทธเจ้า มิให้กระทำบาปอกุศลทุกชนิดด้วยกาย วาจา ใจ และขอให้บุญกุศลทั้งหลายเหล่านั้น จงมาเป็นเครื่องหนุนนำให้ข้าพระพุทธเจ้า ได้สร้างสมแต่บุญกุศลโดยถ่ายเดียว นับแต่ปัจจุบันกาลนี้และตลอดไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งเข้าสู่พระนิพพาน ถึงที่สุดแห่งธรรม จงทุกประการเทอญฯ"
#11
Posted 17 April 2006 - 02:49 AM
ขอบคุณคุณรักบุญครับ
พระโพธิสัตว์ต้องการตรัสรู้ธรรม นั้นคือเมื่อทำทานก็อธิษฐานให้ได้ตรัสรู้และ
การตรัสรู้ธรรมนั้นเป็นเป้าหมายระยะไกล แต่เป้าหมายระยะใกล้ ๆ ก็น่าสนใจ
การอธิษฐานนั้นต้องประกอบเหตุให้ถูกด้วยจึงได้ผล
สาธุครับ คุณเกียรติก้องธรนินทร์
คำอธิษฐานที่ดีนี้ก็คือการตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง ส่วนการอธิษฐานให้ได้ผลบุญที่ทำให้
ชีวิตมีความสุขสะดวกสบายนั้นต้องอธิษฐานควบคู่กันไปด้วยหรือไม่
การอธิษฐานนั้น น่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายตนเองมากกว่าครับ
ส่วนการอธิษฐานให้ผลบุญ ช่วยให้ รูปร่างสวยงาม มีทรัพย์สมบัติ และสติปัญญา พลานามัย
นั้นน่าจะทำให้กิเลสพอกพูนมากกว่า ผมคิดถูกไหมครับ
#12
Posted 17 April 2006 - 09:21 AM
ชีวิตมีความสุขสะดวกสบายนั้น ต้องอธิษฐานควบคู่กันไปด้วยหรือไม่
จำเป็นต้องอธิษฐานกำกับนะครับ เพื่อชีวิตของเราจะได้บริบูรณ์พร้อม และมีความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
นั้นน่าจะทำให้กิเลสพอกพูนมากกว่า ผมคิดถูกไหมครับ
ถ้าเรารู้จักอธิษฐานให้เป็น ก็ไม่ทำให้กิเลสพอกพูนหรอกครับ คุณทศพลก็อธิษฐานกำกับสิครับว่า ขอให้ได้ลักษณะมหาบุรุษเป็นที่สุดแห่งรูปสมบัติ ได้สมบัติจักรพรรดิไว้ใช้สงเคราะห์ทั้งโลกและธรรมได้อย่างเต็มที่เต็มกำลัง มีดวงปัญญาดุจดั่งพระปัญญาญาณอันบริสุทธิ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีอายุขัยยืนยาว ปราศจากเสียซึ่งสรรพเคราะห์ สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพอุปัทวะ เสนียดจัญไรใดๆ ก็ขออย่าได้มาพ้องพาน ดังนี้
***ถ้าจะสรุปให้ง่ายขึ้นก็ให้อธิษฐานว่า รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศสรรเสริญ สุข ทั้งปวงอันเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลนี้ ขอจงเป็นไปเพื่อการสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มเปี่ยม บริสุทธิ์บริบูรณ์ ยิ่งๆ ขึ้นไปโดยถ่ายเดียวไม่มีถอนถอย นับแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ถึงที่สุดแห่งธรรม จงทุกประการเทอญฯ
ปล. ขอกราบอนุโมทนาบุญต่อทุกท่าน สำหรับทุกๆ บุญที่ได้ทำผ่านมาในช่วงปีใหม่ไทยนี้อีกครั้งหนึ่งนะ สาธุ... สาธุ... สาธุ...
#13
Posted 17 April 2006 - 03:15 PM
อนุโมทนาครับ
พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว
#14
Posted 17 April 2006 - 03:16 PM
เหมือนเราบำเพ็ญทานบารมีอย่างเดียว เพื่อให้ได้บรรลุนิพพาน เราจะสมหวังหรือไม่ครับ
ทาน ทำให้ได้ทรัพย์ สมบัติ ศีล ทำให้ได้ รูปสมบัติ ภาวนา ทำให้ได้ คุณสมบัติ (มีปัญญา)
เราทำแต่ทานอย่างเดียว ย่อมไม่ได้ รูปสมบัติ และไร้ปัญญาครับ
เช่นเดียวกัน เราบำเพ็ญแต่ ทานบารมีอย่างเดียว แต่ไม่บำเพ็ญบารมีที่เหลืออีก 9 ทัศ ศีลบารมี ปัญญาบารมี ไปจนถึง เนกขัมมะบารมี ย่อมไม่มีทางบรรลุนิพพาน เพราะบารมีไม่ครบ 10 ทัศนั่นเองครับ
#15
Posted 14 February 2007 - 11:25 AM