Jump to content


- - - - -

อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินว่าจะออกเคสเรื่องไหนวันไหน


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
5 replies to this topic

#1 *สาธุชน คนธรรมดา*

*สาธุชน คนธรรมดา*
  • Guests

Posted 22 July 2005 - 11:44 AM

อยากถามทีมงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งเคสให้หลวงพ่ออ่านในแต่ละวันว่า ใช้กฎเกณฑ์อะไรในการคัดเลือกเคสออกอากาศครับ

#2 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 posts
  • Gender:Male

Posted 22 July 2005 - 07:13 PM

ประสานงานส่งข้อความของคุณทั้งหมดไปให้แล้วนะครับ และขออนุญาติตัดข้อความบางส่วนออกไป ก่อนจะ post สู่สาธารณะครับ

รบกวนขอ email คุณด้วยนะครับ ทางทีงาน intermiracle จะตอบคำถามทั้งหมดกลับไปทางอีเมลล์ครับ

หรือส่ง email ของคุณไปที่ [email protected] หรือ [email protected]

#3 *สาธุชน คนธรรมดา*

*สาธุชน คนธรรมดา*
  • Guests

Posted 22 July 2005 - 08:08 PM

อยากให้ตอบที่เวปบอร์ดแหละครับ เอาเท่าที่ทางทีมงานตอบได้ก็พอ เพราะผมคิดว่า มีอีกหลายๆ คนก็คงอยากรู้คำตอบเหมือนกัน สังเกตุจากจำนวนคนที่กด view เข้ามาดูน่ะครับ

#4 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 posts
  • Gender:Male

Posted 23 July 2005 - 03:21 AM

อันนี้ตามความเห็นของผมฝ่ายเดียวนะครับ คำว่า case study แปลว่ากรณีศึกษา เป็นเพียงแค่ตัวอย่างศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรม ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้บอกอยู่เสมอว่า เรื่องกฏแห่งกรรมนั้นเป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ที่ผ่านมานั้นไม่มีเรื่องไหนที่ซ้ำกันเลย จึงจำเป็นต้องเลือกเพียงบางเรื่องเพื่อเตือนสติ และสอนนักเรียนอนุบาลฝันในฝันให้เห็นโทษภัยของความประมาท ตั้งใจสั่งสมบุญ และบำเพ็ญภาวนาเพื่อให้นักเรียนอนุบาลฝันเป็นกันทุกคน ซึ่งจริงๆแล้ว ท่านอยากจะให้นักเรียนอนุบาลทุกๆ ท่านฝันเองได้ทุกคน เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ ที่ท่านจะสามารถฝันให้ลูกๆทุกๆ คนได้

การที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตากับนักเรียนอนุบาลฝันในฝันทุกๆ วัน ก็ถือเป็นความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านที่ได้สละเวลาที่มีค่ายิ่งในการทำหน้าที่ ที่แท้จริงของท่านมาพบกันพบเราทุกๆ วัน ซึ่งเวลาที่เสียไปในแต่ละวันนั้น จำเป็นที่จะต้องให้เกิดคุณประโยชน์มากที่สุด อายุอานามของท่านก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งยังเรื่องสุขภาพ การที่ท่านจะต้องเมตตาฝันในฝันในแต่ละวัน ท่านจะต้องเหนื่อยขนาดไหน แค่เราฝึกสมาธิกัน 1 ชม. ยังร้องโอยกันเลยใช่ไหมครับ อีกทั้งบางเคสเขียนมายาวมาก ซึ่งท่านเองก็เคยบอกว่า ยาวเกินกว่าที่จะฝันวันเดียวจบ

จริงๆ แล้วแม้ case study แต่ละเรื่องจะไม่ซ้ำกันเลย แม้ต้นเหตุของปัญหาจะแตกต่างกัน แต่ถ้าสังเกตดีๆ วิธีที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อแนะให้แก้ไขปัญหานั้น เหมือนกันหมดทุกเคสเลยครับ ดังนั้นก่อนที่เคสของเราจะได้ออกอากาศ ลองนำวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมือนกันทุกเคสนั้นมาประยุกต์ใช้กันปัญหาของเราก่อนดีไหมครับ เผื่อบางทีปัญหาที่มีอยู่ก็สามารถที่จะคลี่คลายได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องรบกวนพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านฝันในฝันให้เลยครับ

ช่วงนี้มีตัวเล็กๆ มาทำบุญวัดละบาท แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อก็เมตตาอ่านจดหมายของทุกๆคน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ทั้งหลายโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องพระพุทธศาสนาในอนาคต มันไม่สำคัญเลยครับว่าเด็กๆ จะทำบุญวัดละบาท หรือวัดละร้อย พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็บอกกับเด็กๆ ทั้งหลายอยู่เสมอว่า รอหน่อยนะ ท่านอยากจะอ่านของทุกๆ คนเลย

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกลูกๆ เสมอว่าเวลาของท่านนั้นเหลือน้อยเต็มที ท่านจึงขอร้องพวกเราว่า อย่าคิดว่าพวกเราเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ แต่ให้คิดว่าท่านเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ จึงเป็นหน้าที่ของลูกๆ ทุกคนนะครับ ที่จะทำเป้าหมาย ปณิธานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้เป็นความจริง ดังนั้นอย่าไปกังวลใจเลยนะครับ ว่าเคสของเราจะได้ออกเมื่อไหร่ เรามาช่วยกันทำเป้าหมายของท่าน และของหมู่คณะให้เป็นจริงกันเถิดครับ

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ --//\--

#5 แจ่ม

แจ่ม
  • Members
  • 196 posts

Posted 09 August 2005 - 03:47 PM

อันนี้ขอบอกเล่าจากประสบการณ์นะคะ
ก่อนอื่นเลยคือว่า สำหรับดิฉันการส่งเคส เป็นการให็ธรรมทาน คือ ยอมเขียนเรื่องราวของตัวเองแม้ว่าในบางครั้งนี่เป็นเรื่องราวที่เราเองไม่เคยคิดอยากจะบอกใครเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอับอาย เพื่อให้หลวงพ่อฝันในฝันและนำมาสอนเรื่องของกฏแห่งกรรม ดิฉันไม่คิดว่าการส่งเคสนี่เป็นสิ่งที่ทำไปเพื่อที่เราจะถามหลวงพ่อว่าเราเคยเกิดเป็นอะไร เคยทำอะไรมาถึงเป็นอย่างนี้ เพียงอย่างเดียว ดิฉันเชื่อว่าผู้ชมดีเอ็มซีทุกคนอยากจะรู้ว่า เอ๊ะ แล้วชีวิตของเราที่มันเป็นอย่างเนี้ย เราเคยทำอะไรมาบ้าง และเชื่อว่ามีคนนับพันที่ส่งเรื่องราวของตัวเองเข้าไปรอคิวกับทางทีมงาน เพราะฉะนั้นทีมงานก็ต้องทำงานในการคัดเลือกหัวข้อที่คิดว่าไม่ซ้ำกัน
และไม่เหมือนใครให้มากที่สุด และในเคสนั้นๆก็ควรจะมีพ้อยท์หลักๆในการที่จะมาศีกษากัน ยกตัวอย่าง อย่างเช่นเรื่องการได้รับทุนการศึกษา ทำไมถึงมีบางคนได้รับทุนประเภทต้องใช้คืนบางคนได้ทุนแบบไม่ต้องใช้คืน เป็นต้น ส่วนเคสอื่นๆนั้นถ้าประเด็นหลักๆยังไม่ชัดแจ้งนักก็คงต้องรอคิวให้เคสอื่นออกอากาศก่อน อีกอย่างนึงคือความสมบูรณ์ของเนื้อเรื่องและข้อมูลถ้ายังไม่สมบูรณ์ทีมงานก็ต้องมาเรียบเรียงและสัมภาษณ์ใหม่อีกครั้ง ส่วนเรื่องของเทรนด์ก็เป็นอีกอันนึงค่ะ อย่างเช่นเทรนด์ของนรกขุม 3 ชนไก่ เป็นต้น ถ้าคนที่เคยส่งเคสมาแล้ว หรือเห็นว่าเคสของตัวเองมีความใกล้เคียงกับหัวของของช่วงนั้นๆแล้วก็มีโอกาสได้ออกอากาศในช่วงนั้นเลย ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีตัวอย่างหลายๆตัวอย่างมาให้ฟังกัน เราจะได้สรุปความและจำได้ง่ายขึ้น
เพื่อนของดิฉันเคยส่งเคสไปครั้งหนึ่งและได้ออกอากาศไปแล้ว แต่เพื่อนของดิฉันคนนี้น่ะเค้าไม่เคยมาวัดเลย เคยแต่ได้ยินชื่อ ไม่เคยเป็นประธานงานบุญอะไรให้กับวัด ก็คงพอจะสบายใจได้นะคะว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติที่ตัวเจ้าของเคส แต่อยู่ที่เนื้อเรื่องของเคสค่ะ

#6 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4,109 posts
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

Posted 04 February 2007 - 07:26 AM

บางเคสออกเร็วช้า บางทีมันขึ้นกับ Trend ว่าตอนนั้น เน้นเรื่องอะไรเป็น Theme หลัก ถ้าเคสของใครเข้าแก๊ปก็อาจจะเร็วกว่า เรื่องที่ต่างออกไป (ความคิดเห็นส่วนตัว) กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ