ทำไมอำนาจแห่งความมืดถึงได้ร้อนแรงยิ่งนัก!
#31
Posted 16 July 2008 - 05:08 PM
...สู้อุตส่าห์ไปเสียอารมณ์กะพวกอวิชชา
ไม่เป็นไร พวกเรา รักกัน เป็นเสมือนพี่น้องกัน
ทุกคน จะคอยเชียร์ และให้กำลังใจ และร่วมรบด้วยเสมอนะจ๊ะ
ท่านนักรบเผ่าพันธ์ตะวัน
#32
Posted 16 July 2008 - 05:35 PM
#33
Posted 16 July 2008 - 06:00 PM
ผมเองก็มี web blog ส่วนตัว เอาไว้ chat กับเพื่อนกัลยาณมิตรที่เข้าวัดเราฯบ้าง หรือที่กำลังจะเข้าบ้าง..(ก็ชวนๆกันไป ดีกว่าอยู่เปล่าๆ อิ อิ)..
อยู่ๆก็มีสมุนลูกกระจ๊อกพญามารนี่แหล่ะ โผล่มาจากไหนไม่ทราบ (ทั้งที่มาและที่ไป--สงสัยจะเป็นพวก Unidentified Flying Object หรือ UFO--ว่าไปนั่น) มาถึงก็ปล่อยลูก--เกลี้ยกล่อม--ก่อน คือเค้าพยายาม (อย่างหนัก) ที่จะให้ข้อเท็จ-จริงเชิงลบที่กำลังอินเทรนด์เกี่ยวกับวัดเราฯ (สงสัยว่าจะเท็จ มากกว่า--ฮา) ถ้าเราแสดงท่าทีอ่อนปวกเปียกให้เค้าเห็น เช่น chat ตอบกลับเค้าไปว่า จริงเหรอนี่, ไม่แน่ใจน้า, หรือคุณรู้ได้ไงน่ะ อะไรทำนองนี้ครับ เดี๋ยวเดียวพวกเล่นใส่ข้อมูลมาเป็นชุดๆ เล่นเอาตอบกลับแทบไม่ทัน (แต่เค้าก็ขยันพิมพ์ให้ข้อมูลเหลือเกิ้น..ถ้าจับไปนั่งพิมพ์รายงานส่งครู สบายไปแล้ว..)..
หลังจากลูก เกลี้ยกล่อม เริ่มได้ผล พวกก็ซัดลูก กอบโกย คือรีบดึงเราให้เข้าเป็นพวกพ้องทันที ไม่ให้ตั้งตัวแม้แต่จะคิด (ไม่รู้จะรีบไปไหนของเค้า..) แล้วก็ด่วนสรุปให้เสร็จว่าทีหลังอย่าน่ะ อย่าไปน่ะ อย่าทำน่ะ (บุญน่ะ) วัดอื่นน่ะได้ วัดนี้ห้าม ฯลฯ (สงสัย บิดาเค้าท่าจะเป็นนายกฯ--อีกหน่อยคงออกกฎหมายห้ามคนไปวัด..)
โดยที่เค้าหารู้ไม่ว่าผมก็กำลังใช้ลูก กลมกลืน คือเค้าว่ามาเราก็ เหรอครับเนี่ย, ครับพี่, จะลองเอาไปคิดดูคร้าบบ..ทำนองนี้ครับ เล่นซะเนียนจนแนบสนิท สนิทแน่น กลืนไปได้แต่ตัว แต่หัวใจยังรักการสร้างบารมีอยู่อย่างเต็มร้อย..
วิธีการเหล่านี้ นอกจากเราจะเลี่ยงวิบากกรรมที่จะเกิดจากวจีกรรม มโนกรรมภายในใจเราแล้ว ยังช่วยให้เหล่ามิจฉาทิษฐิบุคคลเหล่านั้น คลายพิษให้เราเก็บซะราบคาบเลย เล่นเอาปล่อยออกมาซะหมดใส้หมดพุงเลยครับ ทำให้เราประเมินระดับสติปัญญาของคนเหล่านี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ..
รู้ร้อย ชนะร้อย รู้พัน ชนะพัน รู้ทั้งหมด มาเท่าไหร่ ก็เอาชนะได้ทั้งหมด..
สาธุคร้าบบบบ..
#34
Posted 16 July 2008 - 06:32 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#35
Posted 16 July 2008 - 06:52 PM
#36
Posted 16 July 2008 - 07:41 PM
ก่อนเราจะไปทำหน้าที่ยอดกัลยณมิตร ต้องกลั่นใจให้ใสๆ ก่อน
โดยนึกถึงบุญบารมีอันยิ่งที่เราจะทำหน้าที่ลูกพระธรรมทุกครั้ง
ขณะทำก็ให้ตั้งจิตไว้ด้วยความเมตตากรุณาอย่างใหญ่ว่า
เพื่อนผู้ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันนี้ เขาน่าสงสารเพียงไรในความไม่รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
และให้นึกถึงมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเราที่จะรื้อสัตว์ขนสัตว์รื้อวัฏฏะสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยจ้ะ
หลังทำหน้าที่เสร็จแล้วให้รีบกลับมากลั่นใจให้ใสๆ อีกรอบเป็นการส่งท้าย
ถือว่าเป็นการรบของลูกพระธรรม ทหารแห่งกองทัพธรรมอย่างมียุทธศาสตร์จ้ะ
ขออนุโมทนาสาธุการ กับการทำหน้าที่นำแสงสว่างนี้ไปสู่ชาวโลกของทุกท่านจ้ะ
ปล. เลือกใช้ธรรมาวุธตามเหมาะตามควรกับสถานการณ์นะจ๊ะ
#37
Posted 16 July 2008 - 08:03 PM
*เค้าพิมพ์มาว่า--ความคิดเห็นที่ 201
ลัทธินี้ดีนี่หว่า ใครบริจาคเยอะได้ขึ้นสวรรค์
-- ออกจะไปทางเหน็บแนมนิดๆ..--เป็นเป็นถ้อยคำที่แก้และให้เขาเข้าใจได้ง่ายกว่าบางข้อความครับ
*ผมตอบไปว่า--
ตอบคุณ คห.201 วัดพระธรรมกายไม่ใช่ลัทธิ เข้าใจกันใหม่ด้วยครับ
วัดนี้ได้ประกาศเป็นวัดโดยกระทรวงศึกษาธิการตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 ในชื่อ "ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม" และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดวรณีธรรมกายาราม" ซึ่งมาจากชื่อของ วรณี สุนทรเวช ผู้บริจาคสถานที่ และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น "วัดพระธรรมกาย" เหมือนในปัจจุบัน
วัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนา ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2522 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 96 ตอนที่ 15 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 โดยมี พระอธิการไชยบูลย์ ธมฺมชโย (ปัจจุบันเป็นที่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์) เป็นเจ้าอาวาส และมีพระเผด็จ ทตฺตชีโว (ปัจจุบันเป็นที่ พระภาวนาวิริยคุณ) เป็นรองเจ้าอาวาส
---อนึ่งการบริจาคเยอะอาจจะไม่ได้ขึ้นสวรรค์เสมอไป ต้องดูที่วัตถุทานด้วยว่าบริสุทธิ์ไหม? ถ้าเงินที่ได้มาจากอาชีพที่ไม่บริสุทธิ์ เป็นมิจฉาอาชีวะ ทำไปก็ได้บุญน้อย หรือไม่ได้บุญเลย และต้องมีเจตนาที่บริสุทธิ์ด้วยโดยมีใจผ่องใส ในขณะก่อนทำทาน ขณะทำทาน และหลังทำทานด้วย และต้องมีบุคคลบริสุทธิ์ คือ ผู้รับเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์มีคุณธรรม ยิ่งมีคุณธรรมมากเท่าใด บุญก็ ยิ่งได้มากไปตามส่วน เช่นทำบุญกับ พระพุทธเจ้า ก็ได้บุญมากกว่าทำบุญกับบุคคลทั่วไป และยิ่งผู้ให้มีศีลบริสุทธิ์แล้วด้วยบุญก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก--->ข้อนี้ต้องมาพิสูจน์กันครับว่าจริงไหม มาดูพระในวัดพระธรรมกาย และฟังเทศน์สอน ปฎิบัติธรรมดู แล้วจะพบคำตอบ แต่ไม่ใช่มาครั้งเดียวแล้วด่วนสรุปนะครับ เพราะใจขึ้นสนิมมา จนมาให้มันสะอาดทีเดียวเลยเป็นไม่มี ก็ต้องมาล้างใจกัน ผู้ที่เคยทำบาปกรรมก็ให้ลืมไปให้หมดแล้วอย่าทำกรรมใหม่เพิ่ม ทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว ยังไม่สายที่จะแก้ไขครับ
ผมไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายก็ถือว่าทำบุญไม่เยอะมากมายนะครับ(แต่ถ้าผมรวยผมก็ทำเยอะครับ) ทำตามกำลังตัวเอง ใครรวยมีตังก็ทำเยอะได้ ใครจน ก็ทำตามกำลัง จากกรณีผู้เคยเข้าใจวัดผิดคิดแต่ก็มาเข้าใจถูกได้ เพราะเขาได้พิจารณาดูว่าตัวเราเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากและไม่ได้เข้าไปศึกษาวัดอย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อได้เข้ามาสัมผัสกับวัดพระธรรมกายแล้วมันตรงกันข้ามกับที่เค้าว่ากันเลย..
----แล้วมีวัดไหนบ้างครับ ที่สอนให้คนทำทานเยอะๆแล้วไปนรก ลองพิจารณาดูนะครับ ยิ่งทำยิ่งได้จริงๆ คนที่ทำบุญแล้วยังจนอยู่ก็อย่าเพิ่งไปโทษบุญ ว่าบุญไม่ช่วย ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะกรรมที่เคยได้ทำไว้มันส่งผลอยู่ บุญเป็นสิ่งเดียวที่จะเป็นตัวสู้กับบาปที่เคยทำไว้ได้ บุญก็เหมือนการรดน้ำต้นไม้ ทำไปเรื่อยๆเราก็ได้ เหมือนกับใส่ปุ๋ยให้ต้นไม้เจริญเติบโตและมีผลให้เราได้เชยชม คนที่จนในปัจจุบันนี้ก็เนื่องมาจากผลกรรมในอดีตที่เคยเป็นคนตระหนี่ไม่ทำทาน เวลาทำก็น้อย เพราะความตระหนี่เข้าครอบงำ ซึ่งทางวัดพระธรรมกายก็สอนให้คนตัดความตระหนี่เพื่อที่จะรื้อผังจนครับ เพราะเราเกิดมาเพื่อสร้างบารมี ตราบใดที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฎฎะ บุญเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ...และคนที่รวยนั้นก็เพราะในอดีตชาติ ได้ทำทานไว้มาก นี่แหละครับ ที่ต้องทำทานกันให้มากๆ หรือทำตามกำลังที่ตนเองมีอยู่ นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่ของวัดพระธรรมกายได้สอนไว้ และยังมีอีกมากมายที่มีประโยชน์ทำให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ทุกด้าน หรืออาจจะเป็นสื่งที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลย ซึ่งความรู้นั้นก็ได้มาจากวิชชาธรรมกาย
-----ถ้าวัดไม่ดีจริง แล้วทำไมคนทั่วโลก เกือบทุกประเทศในมุมโลกจึงสนใจในการปฎิบัติและสั่งสมบุญไปกับวัด --นั้นหมายความว่าคนเราเหล่าโง่เขลาเบาปัญญาเหรอครับ? เพราะแต่ละคนเป็นผู้มีปัญญาทางโลกมาก จบด๊อกเตอร์อะไรมากมาย และบางคนรวยติดมหาเศรษฐีTop10ของประเทศไทยก็มาวัดพระธรรมกาย ถ้าเขาเหล่านั้นโง่อย่างที่หลายคนบอกว่ามาวัดนี้แล้วโง่ เขาคงไม่มีปัญญาหาเงินเป็นมหาเศรษฐีได้หรอกครับ..บางคนอาจจะรู้ว่าคนมาวัดมีแต่คนไทย แต่ตอนนี้ไปทั่วโลก หลากเชื้อชาติแล้ว ...อย่าเชื่อจนกว่าจะได้เห็นครับ..แล้วคุณจะรู้ได้ด้วยตัวคุณเอง
---ปล.การกลั่นใจให้ใส ทำใจให้หยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกาย และเปี่ยมด้วยเมตตา แผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ทุกคนนี้วิเศษจริงๆครับ ทำให้ผมใจเย็นขึ้น(อดีตคนใจร้อน) และมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ได้
#39
Posted 18 July 2008 - 03:39 PM
แต่เดี๋ยวนี้ถือคติ "เล่นกับสุนัข สุนัขเลียปาก"
เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า...
#40
Posted 18 July 2008 - 09:53 PM
ถ้าแค้น.. ดับแค้นให้ได้ก่อน เพราะมันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม..
แล้วเร่งทำความเพียร.. ยิ่งสำเร็จได้ลึกซึ้งแค่ไหน ธรรมมะละเอียดลึกซึ้งเพียงใดยิ่งดี..
หากใครแสดงปาฏิหารย์ได้ ก็จงทรมานมิจฉาทิฏฐิ ในวิถีทางที่ไม่เป็นวิบากกรรม
แบบนี้น่าจะ OK ที่สุด
คล้ายกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทรมานชฎิลให้สลดใจฉะนั้นแล..
หรือหากแสดงปาฏิหารย์ไม่ได้.. อย่างน้อยธรรมมะของท่านก็จะก้าวหน้า ละเอียดเพียงพอ
ที่จะไปต่อกร ไปอธิบายธรรมมะให้คนเหล่านี้เข้าใจได้โดยดี..
แต่หากธรรมมะเรายังไม่ถึงไหน.. จงถอยออกมาเถิด..
นี่แหละคือสิ่งที่หลวงพ่อท่านเป็นห่วงลูกๆของท่าน และบอกว่าไม่ต้องไปดู ไม่ต้องไปสนใจ..
(เอาเวลาไปปฏิบัติธรรมให้รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเองก่อนดีกว่า.. อันนี้เราเติมเอง.. )
และเมื่อเราคิดว่าเราเจ๋งจริงแล้ว.. ก็อย่าลืมพิจารณาดอกบัว 4 เหล่าด้วย..
แนวคิด วิธีการของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สุดยอดแล้ว..
เรา Copy วิธีการของพระองค์มาใช้ได้เลยจ้า..
คราวหลังมีอะไรจำไว้.. นึกถึงแบบอย่างที่ดีคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,
หลวงปู่, คุณยายอาจารย์, หลวงพ่อธัมมะ เอาไว้..
ว่าพระองค์ และมหาปูชนียาจารย์ ท่านเจออะไรมาบ้างแล้วท่านเลือกตอบสนองอย่างไร..
รวมทั้ง.. ท่านตักเตือนพวกเราไว้ว่าอย่างไรบ้าง..
ด้วยจิตคารวะทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#41
Posted 18 July 2008 - 09:56 PM
คือ กอบกู้ชื่อเสียง และความจริงของวัดกลับคืนมาครับ..
บุญนี้ก็จะช่วยให้ คุณสุภาพบุรุษ072 ยามเมื่อตกอับ หรือถูกรุมกินโต๊ะ ก็จะมีคนคอยช่วยเหลือจ๊ะ..
อื้อหือ คุณ homer324 เพิ่งรู้นะคะเนี๊ยะ ว่าฝ่ายโน้นเค้ามีวิทยายุทธ ขนาดนั้นเลย .... กะลังคิดว่าว่างๆ จะไปเขียน blog บ้าง ...สงสัยต้องคิดไหม่ซะละมั้่ง
ตอบคุณ ณ 072
อย่าลังเลใจครับ สิ่งไหนทำแล้วเกิดบุญ ให้ทำไปเลยครับ เพราะเราไม่รู้ว่าวันใด เราจะหยุดหายใจน่ะครับ (อิ อิ)..
พี่เลี้ยงกัลยาณมิตรออกเยอะไป วิทยายุทธก็หมั่นฝึกปรืออยู่ทุกวัน ลงสนามจริงบ้าง (ประไร) จะได้เห็นความจริงของชีวิตน่ะครับ เอาเป็นประสพการณ์ไว้สอนตัวเองและเล่าสู่กันฟังน่ะครับ...ทำดี ต้องดีจริงครับ
เป็นกำลังใจให้น่ะครับคุณ ณ 072