Jump to content


Photo
- - - - -

2549-01-14: ให้เธอได้อบอุ่น ตื่นกลางวิมาน


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
9 replies to this topic

#1 aoi

aoi
  • Members
  • 356 posts

Posted 19 January 2006 - 04:14 PM

สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
เรื่อง ให้เธอได้อบอุ่น ตื่นกลางวิมาน
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2549


ครอบครัวเจ้าของเคสมีลูกชาย 2 คน ขณะนี้คนโตอายุ 12 ขวบ คนเล็กคือน้องปออายุ 9 ขวบ ตอนน้องปออายุได้ 6 ขวบ ได้มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง มองเห็นภาพซ้อนเป็นบางครั้ง ในตอนเช้าบางวันก็จะอาเจียนมาก เจ้าของเคสจึงพาน้องปอไปตรวจจึงพบว่าเป็นโรคร้าย เมื่อทราบผลการตรวจแล้วเจ้าของเคสมีความเสียใจเป็นอย่างมาก จิตใจกระวนกระวาย ทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งได้มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งคือ พี่ชายของภรรยาเจ้าของเคส ได้แนะนำให้เจ้าของเคสรู้จักการทำสมาธิ โดยให้แผ่น CD ที่มีเสียงหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ ซึ่งเมื่อเจ้าของเคสทำตาม จิตใจก็สงบลง หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของเคสและครอบครัวก็ได้มาวัด ก่อนเข้าวัดน้องปอเป็นเด็กขี้อาย ขี้งอน เอาแต่ใจเป็นบางครั้ง แต่เมื่อน้องปอมาวัดบ่อยขึ้น น้องปอก็เปลี่ยนไปกลายเป็นเด็กที่กล้าพูด กล้าถาม ไม่งอน ไม่โกรธ บางครั้งเวลาที่คุณแม่น้องปอหงุดหงิดกับการทำตัวของน้องปอ แต่น้องปอกลับบอกคุณแม่ว่า "แม่จะโกรธน้องปอก็โกรธไปเถอะ แต่น้องปอไม่โกรธแม่หรอก เพราะหลวงพ่อสอนให้น้องปอแผ่เมตตาทุกวัน" เมื่อได้ยินอย่างนั้นภรรยาเจ้าของเคสที่กำลังโกรธอยู่กลับน้ำตาคลอซึ้งใจมาก และก็นำคำพูดของน้องปอไว้เตือนสติไม่ให้หงุดหงิดง่ายอีกต่อไป

น้องปอได้เข้าวัดเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองแล้ว ซึ่งคุณหมอให้ความหวังกับเจ้าของเคสไว้เพียง 2 ปี ครอบครัวของเจ้าของเคสจึงเอาบุญเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะน้องปอตั้งใจสั่งสมบุญเป็นอย่างมาก เจ้าของเคสมักจะเห็นน้องปอนั่งพนมมืออยู่หน้าจอโทรทัศน์ดูช่อง DMC ในช่วงสวดมนตร์ทำวัตรเย็น ในช่วงแรกน้องปอมีความรู้สึกเสียใจบ้างเมื่อสวดมนต์ทำวัตรเย็นเสร็จแล้วจะได้ยินคำว่า "เรามีความตายเป็นธรรมดา เราจะต้องพลัดพรากจากของรัก ของชอบใจ ด้วยกันหมดทั้งสิ้น" เนื่องจากกลัวจะไม่ได้เจอคุณพ่อ, คุณแม่ และพี่ชายอีก เจ้าของเคสจึงต้องอธิบายว่าที่น้องปอได้ยินเป็นเรื่องที่ต้องเกิดกับทุกคนจริง แต่สิ่งที่จะไม่เหมือนกันก็คือ เมื่อคนเราตายไปแล้วจะไปในที่ๆ ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับบุญที่สะสมแตกต่างกัน และถ้าใครมีใจใสก็จะไปสวรรค์ น้องปอหยุดคิดสักพักก็พยักหน้ารับว่าเข้าใจ หลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

น้องปอเป็นที่รักของทุกๆ คน ชอบใส่บาตร ชอบปล่อยปลา สวดมนต์ นั่งสมาธิตรึกองค์พระ (สาธุ) บางทีเมื่อน้องปอเดินผ่านกระจกก็หัวเราะ แล้วให้คุณแม่ดูในกระจกแล้วบอกว่าภาพตัวเองในกระจกเป็นองค์พระ น้องปอชอบไปวัดปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะงานบุญใหญ่ ซึ่งทางครอบครัวเจ้าของเคสไม่เคยขาดเลย (สาธุ) น้องปอจะมีความสุขมากและจะตะโกนต้อนรับหลวงพ่อว่า "กราบนมัสการครับหลวงพ่อ" ด้วยเสียงที่มีความปิติมาก เจ้าของเคสเคยถามว่า "ถ้าพ่อจะพาน้องปอไปเที่ยวต่างประเทศกับไปปฏิบัติธรรมจะเลือกไปไหน" น้องปอตอบทันทีว่า "ไปปฏิบัติธรรมดีกว่า โดยเฉพาะที่สวนพนาวัฒน์" น้องปอชอบนั่งสมาธิมาก ในวันอาทิตย์ที่น้องปอจะมาวัดจะช่วยงานเจ้าหน้าที่ภาค ทำงานทุกๆ อย่าง อย่างมีความสุข มี 4 คำที่น้องปอพูดวันละหลายๆ ครั้งเมื่อมาวัดคือ "มีงานอีกมั้ย" น้องปอได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรโดยการชวนญาติๆ ให้มีโอกาสมาสร้างบุญร่วมกับหลวงพ่อ

เมื่อตอนที่ครอบครัวของเจ้าของเคสเข้าวัดใหม่ๆ น้องปอได้มีโอกาสสร้างพระประจำตัวถวายพระสังฆธิการ 55 องค์ (สาธุ) โดยที่คุณลุงคือพี่ชายคนที่ 3 ของภรรยาเจ้าของเคสและคุณป้าน้องปอได้ร่วมบุญด้วย และน้องปอก็ได้ทำหน้าที่บอกบุญและร่วมบุญสร้างอาคารภาวนา 60 ปี, บุญสามแสนองค์สามแสนปลื้ม, บุญหอฉันท์คุณยายอาจารย์, บุญเสาแก้ว 1 ต้น, บุญเสาแก้ว 300 ต้น, บุญ 266 วัดภาคใต้ และทุกๆ บุญ (สาธุ) แม้พี่สาวคนที่ 1 และ 2 ของภรรยาเจ้าของเคส ที่ยังไม่เห็นด้วยกับการทำทานและยังไม่ศรัทธาวัด แต่เพราะความรักหลานจึงร่วมทำบุญทุกครั้งเมื่อเวลาน้องปอไปชวนทำบุญ

น้องปอปฏิบัติแบบนี้เป็นเวลา 2 ปีกว่า ควบคู่ไปกับการรักษาตัว ในบางช่วงที่น้องปอได้รับความเจ็บปวดจากการรักษา ครอบครัวเจ้าของเคสก็ระลึกนึกถึงบุญเป็นที่ตั้ง บางเวลาที่น้องปอปวดหัวมากๆ น้องปอก็จะรีบนั่งสมาธิ ซึ่งไม่เคยเห็นน้องปอแสดงความเจ็บปวดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ช่วงสุดท้ายเมื่ออาการทางสมองมากขึ้น น้องปอจะไม่ค่อยได้ยินเสียงคุณแม่ และเพื่อเป็นการเตรียมตัวคุณแม่จึงได้ตกลงกับน้องปอว่า "ถ้าวันใดไม่ได้ยินเสียงของแม่ (ที่จะคอยเตือนให้ตรึกถึงองค์พระ) แม่จะเอามือของแม่ลูบที่ท้องน้องปอแทน เพื่อเป็นการเตือนให้นึกถึงองค์พระ" เจ้าของเคสและภรรยาใช้วิธีนี้เตือนน้องปอบ่อยๆ จนน้องปอจากไป

เจ้าของเคสก็ป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกันซึ่งเป็นรอบที่ 2 แล้ว ครั้งแรกก่อนที่เจ้าของเคสจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง ได้ใช้ชีวิตอย่างนักกีฬา ชอบสังสรรค์ ชีวิตส่วนหนึ่งใช้ในการออกกำลังกาย แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นนักเที่ยวตัวยง เพราะความที่มีเพื่อนเยอะจึงได้มีการสังสรรค์กันบ่อย เจ้าของเคสดื่มเหล้ากับเพื่อนคุยกันจนถึงตี1ตี2จึงจะได้กลับบ้าน ปี 2543 เจ้าของเคสคลำเจอก้อนเนื้อเล็กๆ ที่ใต้รักแร้ หมอ 3 ท่านแรกวินิจฉัยว่าน่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองอักเสบไม่น่าจะเป็นมะเร็งเพราะอายุยังไม่มาก ร่างกายก็แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ เจ้าของเคสจึงได้ตัดสินใจไปตรวจกับหมออีกท่านหนึ่ง แล้วผ่าชิ้นเนื้อออกมาพิสูจน์ หมอจึงแจ้งผลว่าเป็นมะเร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ้าของเคสเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ ซึ่งก่อนหน้านั้นภรรยาบอกให้เลิกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเลิก


หลังจากที่เปลี่ยนการดำเนินชีวิตใหม่ควบคู่ไปกับการรักษา พอหมอให้ยาเคมีบำบัดในครั้งสุดท้ายเจ้าของเคสก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะจากการที่ร่างกายอ่อนแอลงจากการให้ยาเคมีบำบัด เจ้าของเคสกลับติดอีสุกอีใสจากคนในบ้าน แทนที่ตุ่มอีสุกอีใสจะขึ้นตามผิวหนังกลับเกิดขึ้นภายในร่างกายแทน ซึ่งทำให้เจ็บปวดทรมานมาก เมื่ออาการทุเลาลงแล้วร่างกายก็แข็งแรงขึ้น ทุกคนคิดว่าคงจะหายจากมะเร็งแล้วไม่กลับมาเป็นอีก แต่เมื่อปี 2548 มะเร็งก็กลับมาใหม่ โดยครั้งที่ 2 คลำเจอก้อนเนื้อที่โคนขาหนีบ ซึ่งมะเร็งได้ซ่อนตัวอยู่ในมัดกล้ามเนื้อ ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ทุกวิถีทางเพื่อให้หายขาด

ก่อนหน้าที่เจ้าของเคสจะได้มารู้จักกับวัดพระธรรมกาย เจ้าของเคสมักจะพบเห็นภาพพระองค์หนึ่งอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่รู้จัก ซึ่งเหมือนกับจ้องมองมายังเจ้าของเคส ไม่ว่าจะไปที่ใดบางครั้งก็เหมือนกับท่านยิ้มให้ บางครั้งก็เหมือนกับท่านกำลังตำหนิอยู่ โดยเฉพาะเวลาเจ้าของเคสคิดอะไรที่ไม่ดี แม้แต่เพื่อนเจ้าของเคสที่เป็นคนนับถือเจ้า อยู่ดีๆ ก็เอาภาพพระองค์นี้มาให้โดยที่ไม่ได้บอกอะไร เมื่อเจ้าของเคสพาน้องปอมาวัดทำให้พบกับภาพพระองค์นั้นอีก ซึ่งก็คือภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่สดนั่นเอง ทำให้เจ้าของเคสรู้สึกประหลาดใจมาก และเพิ่งมาทราบภายหลังว่าพระที่คุณพ่อเจ้าของเคสให้ไว้ห้อยคอตั้งแต่เด็กก็คือ หลวงปู่สด โดยที่เจ้าของเคสไม่ได้ทราบมาก่อน

พ่อตาเจ้าของเคสสร้างฐานะขึ้นมาด้วยสองมือเปล่า โดยเริ่มต้นเปิดร้านขายน้ำแข็ง เมื่อสะสมเงินทองได้มากก็เปิดร้านขายยา เมื่อฐานะมั่นคงท่านจึงแต่งงาน และมีลูกด้วยกัน 7 คน ภรรยาเจ้าของเคสเป็นคนที่ 5 ท่านขยายกิจการเรื่อยมาจนสามารถเป็นตัวแทนขายรถได้หลายประเภท ท่านเป็นคนใจกว้างมาก ลูกน้องบริวารรักท่านทุกคน แต่เหตุการณ์เปลี่ยนไปเมื่อแม่ยายเจ้าของเคสเสียชีวิตลงเมื่อปี 2542 อีก 2 ปีต่อมาท่านก็ได้แต่งงานใหม่กับสาวโสดวัย 48 ปี ซึ่งทำให้ท่านเปลี่ยนไปมาก จากที่เคยเป็นคนใจกว้าง เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ กลับกลายเป็นคนตะหนี่มาก ลูกน้องบริวารจึงได้กระจัดกระจายหนีหายไป ภรรยาคนใหม่ของท่านเข้ากับทุกคนไม่ค่อยได้ ชีวิตในบั้นปลายของท่านแทนที่จะสงบสุขกลับกลายเป็นความวุ่นวายแทน


หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา


คำถาม

1. น้องปอทำบุญอะไรจึงมีแต่คนรักใคร่เอ็นดู และบุญใดทำให้น้องปอเป็นเด็กมีระเบียบรับผิดชอบตัวเองทุกเรื่อง มีความอดทนแม้ยาม
เจ็บป่วยก็ไม่ทุรนทุราย เป็นเสมือนผู้ใหญ่ในร่างเด็กครับ



[attachmentid=1308]

- เพราะบุญที่เคยสงเคราะห์ญาติและบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนามาส่งผล และมีนิสัยที่ติดข้ามชาติมาสมัยที่เกิดเป็นทหาร กอปรกับ
ปัจจุบันได้ฝึกสมาธิด้วย



2. ตอนที่น้องปอมีชีวิตอยู่เห็นองค์พระจริงหรือไม่ครับ หรือเป็นแต่เพียงภาพนิมิตครับ


[attachmentid=1309]

- เป็นกุศลนิมิตที่ชัดเจนแต่ยังไม่เข้าถึงพระธรรมกาย แต่ก็เป็นสมาธิในระดับบรรเทาทุกข์ทรมานจากโรคภัย และก็มีกำลังกุศลที่ส่งให้ไปสู่
สุขคติโลกสวรรค์



3. ในระยะสุดท้ายที่น้องปอเริ่มไม่ได้ยิน พูดไม่ได้ และมองไม่เห็น ภรรยาของลูกจะนำหูฟังสวมหูน้องปอและเปิดแผ่น CD การทำสมาธิ
ของหลวงพ่อไว้เกือบตลอดเวลา น้องปอได้ยินและรับรู้หรือไม่ครับ น้องปอรู้สึกอย่างไรกับพ่อแม่บ้างตอนนั้น การที่น้องปอขยับตัวไม่ได้
เค้ารู้สึกอึดอัดเหมือนถูกกักขังหรือเปล่าครับ และก่อนที่น้องปอจะออกจากกายหยาบได้รับทุกขเวทนาหรือไม่ครับ


[attachmentid=1310] [attachmentid=1311]

- ในช่วงนั้นไม่ได้ยินแต่รับรู้ได้อย่างเดียวว่าพ่อและแม่เตือนให้ระลึกถึงองค์พระ มีความรู้สึกหลับๆ ตื่นๆ จึงไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ แต่รู้สึก
ถึงบุญและกระแสบุญที่ได้รับ และไม่รู้สึกทรมานเหมือนคนถูกขังเพียงแค่รู้สึกหมดแรงขยับไม่ได้เท่านั้น และไม่ได้รู้สึกว่ามีทุกขเวทนา
ใดๆ หลับแล้วก็ตื่นขึ้นกลางวิมานทองของชั้นดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตเสบียง



4. การหลับแล้วตื่นกลางวิมานโดยไม่มีเทวรถมารับกำลังบุญแตกต่างกับมีเทวรถมารับอย่างไร ในหมู่ชาวสวรรค์ชื่นชมยินดีอย่างไหนมากกว่า
กันครับ และการที่น้องปอได้เปลี่ยนร่างจากเด็กเป็นเทพบุตรหนุ่มทันที ทำไมถีงเป็นเช่นนั้นครับ เทพบุตรใหม่มีอะไรฝากบอกมาบ้างครับ


[attachmentid=1312] [attachmentid=1313]

- จะมีกำลังบุญแตกต่างกันคือ ถ้ามีเทวรถมารับจะดีกว่าเพราะมีกำลังบุญมากกว่า การกลับไปดุสิตบุรีเทวโลกจะสง่างามกว่า ในหมู่ชาว
สวรรค์จะชื่นชมยินดีในการมีเทวรถมารับมากกว่า ด้วยกำลังบุญที่พ่อ แม่ หรือญาติให้ทำไม่ใช่ทรัพย์ที่ตนเองหามาเพราะยังเด็กอยู่ รวมกับ
ตัวเองทำบุญตามประสาเด็กจึงให้ได้ไปแบบนั้น และเปลี่ยนสภาพจากเด็กเป็นเทพบุตรหนุ่มเลย กำลังยิ้มแย้มตรวจดูทิพยสมบัติด้วยความ
บันเทิง



5. บุญเก่าในอดีตชาติของน้องปอทำมาอย่างไรครับ จึงส่งผลให้น้องปอกลับดุสิตบุรีได้ เค้าจะได้อยู่ที่ดุสิตบุรีนานหรือไม่ครับ เพราะชาตินี้ทำ
บุญเพียงสั้นๆ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายหรือเปล่าครับที่น้องปอจะได้รับวิบากกรรม และอายุสั้น ต่อไปนี้น้องปอจะมีอายุเป็นปกติหรือไม่ครับ


[attachmentid=1314] [attachmentid=1315]

-เพราะบุญที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องในช่วงท้ายของชีวิต อีกทั้งได้เคยทำบุญกับหมู่คณะมาหลายชาติ ดังนั้นก่อนมาเกิดก็มาจากดุสิตบุรีวงบุญ
พิเศษเขตบรมโพธิสัตว์ แม้วิบากกรรมมาตัดรอนก็ได้กลับไปอยู่ที่เดิม เทพบุตรได้ฝากอนุโมทนาบุญและขอบคุณทุกคนที่ได้ให้น้องปอ
ทำบุญ และบุญนี้ทำให้ได้กลับดุสิตบุรี บุญเก่าและบุญใหม่ที่น้องปอทำมาสามารถอยู่ที่ดุสิตบุรีได้นาน แต่อย่าชะล่าใจให้คุณพ่อ คุณแม่
และญาติทำบุญอุทิศไปให้เรื่อยๆ ชาตินี้ไม่ใช่ชาติสุดท้ายของวิบากกรรมนี้ แต่บุญได้ตัดรอนวิบากกรรมลงไปเยอะแล้วแต่ยังไม่หมด



6. ลุงและป้าของน้องปอสร้างบุญร่วมกันมาอย่างไรครับ โดยเฉพาะป้าของน้องปอที่รักและสงสารน้องปอมาก ถึงกับให้เงินน้องปอทำหลายๆ
บุญ และก็เป็นห่วงน้องปอเหมือนลูกเลยทีเดียว


[attachmentid=1316] [attachmentid=1317]

- เนื่องจากเป็นคู่บุญบารมีกันมาหลายชาต

Attached Files



#2 aoi

aoi
  • Members
  • 356 posts

Posted 19 January 2006 - 04:25 PM

อ้อยได้แก้ไขสีแล้วค่ะ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาตอบตัวหนังสือถึงได้ตกลงมาอยู่อีกบรรทัด ขออภัยในความไม่สวยงามค่ะ
อ้อย
เราเกิดมาสร้างบารมี




#3 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

Posted 19 January 2006 - 05:04 PM

สู้ๆ ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง

#4 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 posts
  • Gender:Male

Posted 19 January 2006 - 08:02 PM

อนุโมทนาค่ะ เพิ่งจาได้อ่านเครสจนจบ ก็ มีเครสแรกเลยค่ะ น้องปอนี่น่ารักจริงๆ เราโตแล้วก็ต้องสู้ ค่ะ อิอิ
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#5 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1,368 posts

Posted 19 January 2006 - 08:15 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ...ได้ปัญญาบารมีไปเต็มๆ เลยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#6 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

Posted 19 January 2006 - 11:54 PM

เขียนละเอียดดีจัง

อนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ

dangdee

#7 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 posts
  • Interests:N/A

Posted 20 January 2006 - 12:06 AM

อนุโมทนาบุญครับ...
..................


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#8 aoi

aoi
  • Members
  • 356 posts

Posted 20 January 2006 - 07:33 AM

กราบขอบพระคุณทุกความคิดเเห็นเลยนะค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านเลยค่ะ

อ้อย
เราเกิดมาสร้างบารมี




#9 Pro

Pro
  • Members
  • 134 posts

Posted 22 January 2006 - 10:45 AM

อนุโมทนาบุญครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ

#10 pp_072

pp_072
  • Members
  • 209 posts
  • Interests:ดีครับ

Posted 24 January 2006 - 04:56 PM

อนุโมทนาบุญครับ

พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว

พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว