อยากให้รูปแบบการเรียนการสอนในโรงเรียนอนุบาลเราเป็นอย่างไร ?
#1
Posted 02 November 2004 - 08:06 PM
หมายเหตุ ท่านที่จะตอบโพลด้านบนต้องล็อกอินสมาชิกก่อนครับ
ท่านที่จะแสดงความเห็นคริ๊กที่ Post Reply ครับ
#2 *mi*
Posted 02 November 2004 - 08:13 PM
เหมือนเดิมดีที่สุด พระราชว่าอย่างไร ดีที่สุดดดดดในโลกกกกกก
ใครเก่งนัก ลองมาสอนแทนสิ
#3 *Loki*
Posted 02 November 2004 - 08:21 PM
#4 *london*
Posted 02 November 2004 - 08:23 PM
กราบไปถึงหลวงพ่อด้วยครับ
ลูกลอนดอน
#5 *คนสงสัย*
Posted 02 November 2004 - 08:26 PM
#6 *aRt*
Posted 02 November 2004 - 08:32 PM
#7
Posted 02 November 2004 - 08:45 PM
#8 *Ekchat Mankhong*
Posted 02 November 2004 - 08:45 PM
#9
Posted 02 November 2004 - 08:53 PM
รอตะวัน(ธรรม)ส่องแสงที่โตเกียว
#10 *ลูกไต้หวัน*
Posted 02 November 2004 - 09:07 PM
ดังนั้นอยากให้รายการนี้คงอยู่ต่อไปค่ะ
อีกอย่างนึง เพื่อนที่เป็นชาวไต้หวัน เขาเริ่มสนใจเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ซึ่งเขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่นี่ ได้มีโอกาสฟังเคสสตั๊ดดี้จากที่ลูกเล่าให้ฟัง เขายังหัวเราะและอินไปกับเรื่องเลย และชมว่าคุณครูไม่ใหญ่เป็นคนเล่าเรื่องราวได้สนุกมาก น่าฟัง และบอกว่า เขาทึ่งการทำงานแบบนี้ของวัดพระธรรมกาย วัดที่เขาศรัทธาที่ไต้หวันแม้จะใหญ่ แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ขนาดนี้ค่ะ
ขอให้คุณครูไม่ใหญ่ได้เมตตาและเล่าเรื่องราวต่างๆแบบนี้ให้พวกเราฟังทุกวันนะคะ อยู่ต่างประเทศ การได้ฟังธรรมะจากคุณครูไม่ใหญ่ ถือเป็นทิพยโอสถขนาดเอกทีเดียวค่ะ
#11
Posted 02 November 2004 - 09:37 PM
ลูกพระราชนากาโน่
#12
Posted 02 November 2004 - 09:49 PM
#13 *นั่งสมาธิมากๆดีกว่า*
Posted 02 November 2004 - 10:01 PM
#14 *Guest*
Posted 02 November 2004 - 10:12 PM
และเหมาะกับทุกเพศทุกวัยอยู่แล้ว
ในเรื่องของเวลา คิดว่า ประมาณ 2 ชม. คือ 19.30-21.30 น. เพื่อ หลวงพ่อจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไป และลพ.จะได้ไม่ดึก ช่วงนี้อากาศเย็น อยากให้ ลพ.แข็งแรง สุขภาพดี สอน พวกเราไปตลอดค่ะ
#15 *anchalee072*
Posted 02 November 2004 - 10:52 PM
#16
Posted 03 November 2004 - 12:34 AM
#17
Posted 03 November 2004 - 12:46 AM
#18 *PanprasertFamily*
Posted 03 November 2004 - 01:46 AM
อาจารย์สมพักตร์ ปั้นประเสริฐ ให้ความเห็นว่า ฝันในฝันเราชอบ เราจะฟัง ถ้าใครไม่ชอบก็ปิดไปสิ แล้วอยากจะไปฟังวิชาการอะไร ก็ไปหาฟังเอาเองแบบที่ตัวเองชอบเอาสิ แบบนี้คนอื่นเค้าชอบน่ะ
ดร.สรินรัตน์ ศุขะบุตร ยืนยันมั่นคงว่า จะฟังแบบเดิม แบบเดียว เพราะว่าแบบเดิมทำให้เป็นคนเดิม และหลวงพ่อท่าน creative อยู่แล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาคิดเอง แค่ตามหลวงพ่อให้ทันก็เหนื่อยแล้ว ยังไม่ต้องคิดอะไรใหม่ให้ท่านเลย เพราะท่านคิดของท่านได้เองอยู่แล้ว แค่ตามท่านให้ทันให้ได้ ก็จะแย่แล้ว ขอให้หลวงพ่อหายป่วยและแข็งแรงยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ อยู่กับพวกเราไปตลอดเลยนะคะ
ดร.สุพิชญา ปั้นประเสริฐ ขอเรียกร้องให้หลวงพ่อกลับมาด่วน คิดถึงมากแล้วค่ะ ทุกคำสอน ทุกภาพ ทุกเพลง คือสิ่งที่ตอกย้ำให้ทำความดี ให้สร้างแต่กรรมดี ทำให้จิตใจสงบ และทำให้ชีวิตทุกๆ วัน เปี่ยมไปด้วยการสร้างสมบุญบารมี ความดีล้วนๆ ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่ความบริสุทธิ์ ได้โปรดอย่าทำลายสื่อสี่ขาว เพียงสื่อเดียวที่เหลืออยู่ในโลกนี้ ไปจากพวกเราอีกเลย .. ถ้ามีเวลาว่าง ช่วยไปโจมตีสื่ออื่นๆ ที่ทำลายสังคมจะดีกว่า เช่น การขยายบ่อนคาสิโน การโฆษณาเหล้าบุหรี่ มอมเมาประชาชน หรือรายการสอนเล่นไพ่ หนังสือโป๊ ทำให้เกิดการชิงสุกก่อนห่าม และเป็นเอดส์ เป็นต้น .. มีความสุขหรือคะ ที่มีสื่อเช่นนี้เต็มบ้านเต็มเมือง
จากใจถึงใจ .. หวังว่าคงจะเข้าใจ
จากชาวไทยในอเมริกา ผู้เห็นคุณค่าของสื่อสีขาว
#19
Posted 03 November 2004 - 08:29 AM
ส่วนวันเสาร์ก็ให้หลวงพี่รูปอื่นนำนั่งสมาธิแทน
เพราะตอนนี้ผม(คิดเอาเอง)ว่า คุณครูไม่ใหญ่สุขภาพไม่เต็ม 100เท่าใหร่
ผมเป็นห่วงคุณครูไม่ใหญ่มาก อยากให้ท่านได้พักผ่อนซัก 1 วัน
ผมคิดได้แค่นี้แหละครับ
#20 *ลูกสีลม-ก.ท.ม.*
Posted 03 November 2004 - 09:46 AM
รายการสนุกและไม่น่าเบื่อเลยค่ะ ชอบที่มีเพลง มีพูด และภาพประกอบ
ถ้าเป็นรายการที่เทศน์สอนอย่างเดียว และผู้สอนทำหน้าตาจริงจัง พวกเราคงไม่ติดรายการกันขนาดนี้หรอกค่ะ
ขอให้เป็นรูปแบบเช่นเดิมค่ะ
#21 *เกียรติขจร รักษาประโยชญ์*
Posted 03 November 2004 - 09:50 AM
#22 *ลูกซ.กัปตันบุช-สี่พระยา*
Posted 03 November 2004 - 10:18 AM
บางครั้งเคยคิดว่า ช่วงที่อ่านจดหมาย อยากให้พระอาจารย์รูปอื่นช่วยอ่าน เพื่อให้เบาแรงท่าน แต่ก็ทราบว่า ไม่มีใครทำได้ดีเท่าหลวงพ่อ
คุณแม่ไม่ได้มาวัด แต่ก็พูดเสมอว่า ครูไม่ใหญ่ต้องมาพูดทุกวันอย่างนี้ ก็เหนื่อยแย่เลย
เข้าใจที่หลวงพ่อทบทวนเนื้อหาเดิมให้ฟังบ่อยๆ เพราะท่านห่วงใยลูกของท่านทุกคน ทั้งนักเรียนเก่าหรือนักเรียนใหม่เสมอกันหมด
ถ้าวันไหนหลวงพ่อไม่ได้สอน ลูกก็ไม่งอแง เพราะรู้ว่าท่านเหนื่อยมาก ลูกตั้งใจนั่งสมาธิตามที่พระอาจารย์ฉัตตัญชโญนำนั่ง
ชอบฟังเพลงตะวันธรรมทุกเพลง ฟังกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ คำพูดสละสลวย ความหมายลึกซึ้ง และไพเราะมาก แต่เพลงภาษาลาวไม่ค่อยถนัด
ชอบที่สุดคืออรรถกโถที่เป็นอรรถกโถ ชั่วชีวิตนี้หาใครพูดให้เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงไม่ได้ นอกจากคุณครูไม่ใหญ่เพียงผู้เดียว นับเป็นบุญหูและเป็นบุญของชีวิตที่ได้รับฟังสิ่งเหล่านี้
#23 *Guest*
Posted 03 November 2004 - 10:59 AM
#24 *จิราวดี ศรีสุวรรณ*
Posted 03 November 2004 - 11:02 AM
ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ที่คุณครูไม่ใหญ่ เมตตาให้กับลูก ๆ ในฝันในฝันทุกคน นับว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ดีที่สุด และมีค่ามากที่สุดแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาคำใดมาเปรียบเปรยได้ (ถึงแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยก็ยังไม่หวั่น นึกถึงและทำเพื่อ ลูก ๆ เสมอ)
ขอให้เป็น แบบเดิมนะคะ แต่ถ้าคุณครูไม่ใหญ่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ ลูก ๆ ยินดีเสมอเจ้าค่ะ เชื่อฟังคุณครูไม่ใหญ่ทุกอย่างเจ้าค่ะ
ลูกรัก คิดถึงและเป็นห่วงคุณครูไม่ใหญ่มากเจ้าค่ะ ถึงแม้ว่าจะอยู่แสนไกล ก็อยากเห็นคุณครูไม่ใหญ่ลงฝันในฝันทุกวันเลยนะเจ้าคะ
อย่าลืมลูก ๆ ที่อยู่ Boston นะเจ้าคะ
จากลูกที่อยู่ Boston
#25
Posted 03 November 2004 - 11:35 AM
ผมนักเรียนอนุบาลฯ ได้สักพักหนึ่งแล้วครับ ชอบรายการนี้มาก ติดตามทุกครั้งที่มีโอกาส ได้ดูเกือบทุกวัน วันไหนดูสดไม่ทันก็ต้องดูที่ฉายซ้ำ ผมสนับสนุนให้จัดรูปแบบรายการเหมือนเดิม เพราะได้ความรู้รอบด้านจากคุณครูไม่ใหญ่ เมื่อไม่ได้พบท่านในโรงเรียนฯ รู้สึกเลยว่าชีวิตขาดสิ่งสำคัญไปเลยทีเดียว และอยากจะขอเสนอให้ปรับปรุงนิดหน่อยเกี่ยวกับช่วงที่ ท่องวาทะธรรมประจำวันและการบ้าน 10 ข้อ อยากให้หัวหน้าชั้นท่องให้กระฉับกระเฉงขึ้นหน่อยครับ รู้สึกอืดอาดไปนิดหนึ่งครับ และอีกข้อหนึ่งคือ อยากให้คุณครูไม่ใหญ่ได้มีพักผ่อนด้วยครับ เป็นห่วงสุขภาพท่านมากๆ ครับ อาจจะจัดรายการวัน จ-ศ พัก เสาร์-อาทิตย์ (ใจจริงอยากให้มีโรงเรียนฯ ทุกวันเลย แต่ห่วงสุขภาพครูไม่ใหญ่มากกว่า) อย่างไรก็ยอยากให้มีรายการโรงเรียนฯ โดยที่มีครูไม่ใหญ่ ดำเนินรายการเหมือนเดิมนะครับ ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของเหล่าลูกพระราชฯ ทั้งหลาย เป็นหลักที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนักเรียนฯ ตลอดไปครับ
#26 *Punnashammo*
Posted 03 November 2004 - 11:39 AM
#27
Posted 03 November 2004 - 11:59 AM
สิ่งที่คุณครุไม่ใหญ่คิด และ กระทำอยู่ดีทั่สุดแล้วครับอย่าได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย เพี่ยงอย่างเดียวที่คิดคือเป็นห่วงสุขภาพคุณครูไม่ใหญ่มาก อยากให้คุณคูรไม่ใหญ่พักผ่อนมาก ๆ ครับผม จะได้มีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นขวัญ และ กำลังใจ ให้กับลูก ๆ ทุกคนนานตลอดไป จากใจที่รักและเป็นห่วงคุณครูไม่ใหญ่มาก
ลูกพระราชที่เพ่งเกิด จาก Boston
#28 *ลูกๆที่ตลิ่งชัน*
Posted 03 November 2004 - 12:18 PM
#29 *เกียรติคุณ เพิ่มอรุณ*
Posted 03 November 2004 - 12:57 PM
ผมเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันมาตั้งแต่เริ่มเปิดเรียน เมื่อวาน (2 พย. 47) ได้เขียนแสดงแนวคิดเห็นไปแล้ว แต่จำกัดด้วยเวลา อาจทำให้ความคิดเห็นไม่สมบูรณ์ ดังนั้นขอเสนอความเห็นอีกครั้งครับ ผมมีความเห็นว่า ควรจะคงแนวการสอนของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาให้มี ภาพ พูด เพลง แนวฝันในฝันไว้เหมือนเดิมครับ ไม่ควรเปลี่ยนไปเป็นแนววิชาการ เพราะ
การสอนของนักวิชาการศาสนาทั้งหลายในปัจจุบัน ล้วนสร้างคนขึ้นมาสองประเภท คือ
1. คนที่มองข้ามการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา โดยเห็นว่าไม่ต้องสนใจมาก ไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่กลับไปให้ความสำคัญกับการอ่านหนังสือธรรมะ แล้วใช้ปัญญามนุษย์ขบคิดตีความ เหมือนการเรียนศาสตร์แขนงอื่นทั่วๆไป ที่ทำกันแบบนี้ โดยคนพวกนี้เชื่อว่า เพียงทำกันแบบนี้ก็จะบรรลุและหลุดพ้นได้ ซึ่งคนพวกนี้มักจะเข้าใจไปว่า ตนเองมีปัญญามาก สิ่งที่ตนคิด และทำนั้นถูกต้อง
ผมเห็นว่า ยิ่งคนพวกนี้เกิดขึ้นมามากเท่าใด พุทธศาสนาย่อมเสื่อมลงมากเท่านั้น เพราะสัจธรรมที่ลึกซึ้งจะอันตรธาน ไม่มีผู้เข้าถึง และสุดท้ายก็ย้อนมาเป็นทุกข์แก่คนทั้งหลายเหล่านั้นเองครับ
เหมือนคนผลิตยาพิษขึ้นมาให้คนอื่น และตนเองกินด้วยยังไงยังงั้นเลย
2. คนที่เบื่อต่อแนวการสอนวิชาการในพุทธศาสนา ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะพอฟังคำสอนโดยนักวิชาการเหล่านี้แล้ว ยากต่อการเข้าใจ ก็ไม่มีอารมณ์ปฏิบัติ ก็เลยไปหลงไหล ในเรื่องของไสยเวท ซึ่งเป็นศาสตร์ปลอมปนเข้ามาในพระพุทธศาสนา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นเช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่พระพุทธศาสนาเสื่อมไปจากประเทศอินเดียครับ
วิธีการแก้ไขความคิดเห็นเหล่านี้ เราจะต้องมีแนวการสอนธรรมะในพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง ว่าการเข้าถึงธรรมะที่ลึกซึ้งนั้น ไม่ใช่ใช้ปัญญามนุษย์คิดเอง แต่จะต้องทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา จนเข้าถึงธรรมะที่ลึกซึ้งที่อยู่ภายใน และต้องมีไสตล์การสอนที่เข้าใจง่าย ทำให้คนทั้งหลายเห็นว่า ธรรมะแม้ลึกซึ้งแต่เข้าถึงง่าย ซึ่งจะทำให้ความเข้าใจในธรรมะของคนทั้งหลายสามารถแผ่ขยายไปในวงกว้าง ประโยชน์ก็จะเกิดแก่คนทั้งหลายครับ
สิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างก็คือ หากนักวิชาการเหล่านี้เก่งจริง คงจะช่วยให้
1. คนทั้งหลายทั่วโลก รอดพ้นจากบุหรี่และสุรา ซึ่งพาไปสู่ห้วงทุกข์ในมหานรกขุม 5 แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมา (ก่อนโรงเรียนจะตั้งขึ้น) มีแต่คนที่จะติดสิ่งเสพติดเหล่านี้เพิ่มขึ้น รวมทั้งนักวิชาการเหล่านี้ก็ติดด้วย เพราะตัวเองมองข้ามศีลนั่นเอง สุดท้ายก็จะต้องไปใช้ชีวิตในอบายเช่นกัน
2. คนทั้งหลายทั่วโลก มี 2 เพศกันก็พอ หรือรู้จักยับยั้งอารมณ์คุมกำหนัด กันบ้าง ไม่มาเป็นเช่นนี้ ที่มีเพศที่ 3 เกิดขึ้นมามาก จนเป็นที่ยอมรับของสังคม อีกทั้งมีอาชีพรองรับอารมณ์เหล่านี้ เกิดขึ้นมามากขึ้นและมากขึ้น
3. เรื่องคดโกง การพนัน ฯลฯ ลดลงไปได้ ไม่สวนทวนเพิ่มขึ้นมาในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา
มีแต่โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันที่มีแนวการสอนแบบปัจจุบันที่เป็นอยู่เท่านั้นที่จะช่วยได้
1. ทำให้คนเลิก ละอบายมุขทั้งหลาย มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแบบที่เป็นวงกว้าง รวมทั้งคุณพ่อผมด้วยก็เลิกได้แล้ว
2. ทำให้คนคุมกำหนัดของตัวเองกันมากขึ้น สถานที่ประกอบอาชีพเหล่านี้พากันปิดตัวลงกันเป็นแถว
3. ส่วนผู้ที่เคยพลาดไปแล้ว ก็หันมาปฏิบัติธรรมและลืมอดีตกันได้โดยสิ้นเชิง กันมากขึ้นและมากขึ้น
ส่วนความเห็นอื่นๆ เช่นให้มีนั่งสมาธินั้น ผมเห็นว่าทุกวันใน DMC ก็มีช่วงเวลาสอนนั่งแบบเต็มๆ อยู่แล้วครับ ตั้งวันละ 2 เวลา ดังนั้นช่วงฝันในฝันนี้จึงเป็นเพลง ภาพ พูดดีกว่าครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอให้โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เจริญเติบโต เป็นประโยชน์ต่อคนทั้งหลายในวงกว้างขวางยิ่งๆขึ้นไปครับ
นับถือ
เกียรติคุณ เพิ่มอรุณ
#30 *สุพีชา เพ็ญภาค (JAPAN)*
Posted 03 November 2004 - 01:01 PM