เรื่องนี้อยากจะรู้ไว้ประดับความคิด
เพราะว่าในสังคมส่วนใหญ่จะมีแต่เหตุแบบนี้อยู่มาก
อยากรู้มากเลยคะ
การทำร้ายร่างกายพ่อแม่จะตกนรกขุมไหนคะ
Started by แครอทจัง, Sep 06 2008 05:37 PM
4 replies to this topic
#1
Posted 06 September 2008 - 05:37 PM
#2
Posted 06 September 2008 - 06:32 PM
---เปรตเถียงพ่อแม่---
เปรตปากเท่ารูเข็ม หูอยู่ใต้คาง เท้าใหญ่ มือใหญ่
หูจะอยู่ข้างใต้ เถียงพ่อเถียงแม่ เถียงไม่มีเหตุผล
การให้เหตุผลจะไม่เรียกว่าเถียง แต่ก็ต้องดูจังหวะ
เวลาและอารมณ์ ของคุณพ่อคุณแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย
ผู้มีศีลมีธรรม ว่าท่านมีเวลาและอารมณ์ไหม
ถ้าเราเถียงข้าง ๆ คู ๆ ปากเท่ารูเข็ม อดอยาก
เข้าได้แต่ด้ายอย่างเดียว เมล็ดข้าวมันใหญ่กว่าเส้นด้ายนะ
กินไม่ได้นะ คือ ตัวใหญ่แต่ปากเล็กเท่ากับรูเข็ม
หูอยู่ใต้คาง พูดแล้วไม่ฟัง
มือโตเท้าโต คือ ขอเงินพ่อแม่ ไปติดยาเสพติด สุรา การพนัน
ตบตีพ่อแม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่า ไปตบตีบุพการี ผู้มีพระคุณ
พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเรามาแท้ ๆ
พระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่
รับชมได้มีทั้งหมด 6 ตอนครับ
http://www.dmc.tv/programs/pred.html
โทษสูงสุดคือ การทำอนัตริยกรรม ก็ลงอเวจีมหานรกครับ
เปรตปากเท่ารูเข็ม หูอยู่ใต้คาง เท้าใหญ่ มือใหญ่
หูจะอยู่ข้างใต้ เถียงพ่อเถียงแม่ เถียงไม่มีเหตุผล
การให้เหตุผลจะไม่เรียกว่าเถียง แต่ก็ต้องดูจังหวะ
เวลาและอารมณ์ ของคุณพ่อคุณแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย
ผู้มีศีลมีธรรม ว่าท่านมีเวลาและอารมณ์ไหม
ถ้าเราเถียงข้าง ๆ คู ๆ ปากเท่ารูเข็ม อดอยาก
เข้าได้แต่ด้ายอย่างเดียว เมล็ดข้าวมันใหญ่กว่าเส้นด้ายนะ
กินไม่ได้นะ คือ ตัวใหญ่แต่ปากเล็กเท่ากับรูเข็ม
หูอยู่ใต้คาง พูดแล้วไม่ฟัง
มือโตเท้าโต คือ ขอเงินพ่อแม่ ไปติดยาเสพติด สุรา การพนัน
ตบตีพ่อแม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่า ไปตบตีบุพการี ผู้มีพระคุณ
พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเรามาแท้ ๆ
พระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่
รับชมได้มีทั้งหมด 6 ตอนครับ
http://www.dmc.tv/programs/pred.html
โทษสูงสุดคือ การทำอนัตริยกรรม ก็ลงอเวจีมหานรกครับ
#3
Posted 06 September 2008 - 08:30 PM
ไม่ใช้หนูทำคะ อย่าเข้าใจผิด
#4
Posted 07 September 2008 - 01:01 PM
ไม่ได้เจรจาพาทีมาเสียนาน มาวันนี้ขุนศึกฯ ขอออกโรงสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ
อัน "บิดามารดา" ย่อมได้ชื่อว่า เป็นพระอรหัต เป็นพระอรหันต์ เป็นพระพรหมของผู้เป็นบุตร ฉะนั้น บุตรผู้ประพฤติทุจริตล่วงละเมิดต่อท่านไม่ว่าด้วยอาการทางกาย วาจา ใจ ย่อมมีโทษมหันต์ตามลำดับดังนี้คือ
๑. กรณีกล่าวจีทุจริต กรรมนี้จัดเป็นครุกรรม ย่อมทำให้บุตรผู้ล่วงละเมิดเป็นผู้มีคติเบื้องหน้าเศร้าหมอง เมื่อถึงคราวตายเพราะกายแตก ย่อมไปบังเกิดใน "โรรุวมหานรก" อันเป็นมหานรกขุมที่ ๔ มีไว้สำหรับลงทัณฑ์อดีตมนุษย์ผู้มีใจบาปหยาบช้า ประพฤติล่วงวจีทุจริตต่อบิดามารดา (อาทิ ทุ่มเถียงโดยไม่มีเหตุผล โป้ปดมดเท็จ สบถถ้อยวจีที่ทำให้บิดามารดาต้องช้ำใจ เป็นต้น) และผู้อื่นอยู่เนืองนิจ โดยคำแปลของโรรุวมหานรกนั้น หมายถึง "มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้" เกณฑ์อายุเฉลี่ยของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๔,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๕๗๖,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๕๗ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๘๓๑,o๔o,ooo ล้านปีมนุษย์
๒. กรณีทุบตีทำร้ายร่างกาย กรรมนี้จัดเป็นครุกรรม แต่นับว่ายังมีผลน้อยกว่าการทำปิตุฆาตและมาตุฆาต ย่อมทำให้บุตรผู้ล่วงละเมิดเป็นผู้มีคติเบื้องหน้าเศร้าหมอง เมื่อถึงคราวตายเพราะกายแตก ย่อมไปบังเกิดใน "ยันตปาสาณนรก" อันเป็นนรกขุมบริวารของอเวจีมหานรก ซึ่งอยู่ถัดออกไปนับเป็นส่วนหนึ่งของนรกภูมิในแดนยมโลก สำหรับการลงทัณฑ์ สัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลที่เป็นกุมภัณฑ์จับเอาไปไว้ในระหว่างภูเขา ๒ ลูกที่มีลักษณะสัณฐานเป็นยนต์หมุนกระทบกัน โดยสัตว์นรกที่ถูกลงทัณฑ์จะมีลักษณะเหมือนกับอ้อยที่ถูกหีบเพื่อคั้นเอาน้ำ ต้องเสวยทุกขเวทนาอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้ตราบจนสิ้นกรรม
๓. กรณีฆ่าบิดามารดา องค์บรมศาสดาตถาคตตรัสไว้ว่า "เจตนานี้ เป็นตัวกรรม" ในกรณีของบุตรที่ฆ่าบิดามารดาโดยเจตนาจงใจ แม้ไม่รู้ว่านั่นคือ บิดามารดาของตัว บุตรผู้ฆ่าย่อมได้ชื่อว่า ต้องอนันตริยกรรม หากจะกล่าวถึงอนันตริยกรรมในพระพุทธศาสนานี้ มีอยู่ด้วยกัน ๕ ประการ เรียกว่า "ปัญจานันตริยกรรม" ได้แก่ ฆ่าบิดา (ปิตุฆาต) ฆ่ามารดา (มาตุฆาต) ฆ่าพระอรหันต์ (อรหันตฆาต) ทำพระพุทธเจ้าให้ทรงห้อพระโลหิต (โลหิตุบาท) และทำความแตกแยกให้เกิดขึ้นในท่ามกลางสงฆ์ (สังฆเภท) ซึ่งครุกรรม ๕ ประการดังได้กล่าวนี้ ผู้ละเมิดย่อมได้ชื่อว่า เป็นอาภัพพสัตว์ เพราะเหตุว่าเป็นกรรมที่เป็นสัคคาวรณ์ คือ กั้นสวรรค์ เป็นมรรคาวรณ์ คือ กั้นมรรคผล แม้จะเกาะชายจีวรของพระตถาคตตั้งหน้าตั้งตาบำเพ็ญกุศลไปจวบจนสิ้นอายุขัย กุศลกรรมทั้งหลายเหล่านั้น ก็มิอาจยังให้พ้นจากนรกได้ โดยคติของผู้ฆ่าบิดา มารดา และผู้ประพฤติผิดในอนันตริยกรรมอีก ๓ ประการที่เหลือ เมื่อสิ้นชีพแล้ว ย่อมมีคติเที่ยงแท้ที่จะไปบังเกิดใน "อเวจีมหานรก" (หมายถึง "มหานรกที่ปราศจากคลื่นแห่งความสุข") มหานรกขุมนี้นับว่าเป็นมหานรกขุมที่ลึกที่สุด ร้อนที่สุด ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ขอบล่างสุดของภพ ๓ เกณฑ์อายุเฉลี่ยของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีระยะเวลายาวนานถึง ๑ อันตรกัป โดยประมาณ
ปล. คิดว่าน้องแครอทจังคงมาใหม่ ยังเสียพี่ขอให้ไปศึกษาทบทวนเรื่องราวเกี่ยวกับมหานรก ๘ ขุมในกระทู้นี้: http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3358 ถ้าจะให้ดีพี่ขอแนะนำว่าให้ปรินท์อายุเกณฑ์ในมหานรกทั้ง ๘ ขุมจากความเห็นที่ ๔ ออกมาติดไว้บนโต๊ะทำงาน หรือหน้ากระจก หรือบนหัวนอน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจตนเองด้วยก็แล้วกันนะครับ
อัน "บิดามารดา" ย่อมได้ชื่อว่า เป็นพระอรหัต เป็นพระอรหันต์ เป็นพระพรหมของผู้เป็นบุตร ฉะนั้น บุตรผู้ประพฤติทุจริตล่วงละเมิดต่อท่านไม่ว่าด้วยอาการทางกาย วาจา ใจ ย่อมมีโทษมหันต์ตามลำดับดังนี้คือ
๑. กรณีกล่าวจีทุจริต กรรมนี้จัดเป็นครุกรรม ย่อมทำให้บุตรผู้ล่วงละเมิดเป็นผู้มีคติเบื้องหน้าเศร้าหมอง เมื่อถึงคราวตายเพราะกายแตก ย่อมไปบังเกิดใน "โรรุวมหานรก" อันเป็นมหานรกขุมที่ ๔ มีไว้สำหรับลงทัณฑ์อดีตมนุษย์ผู้มีใจบาปหยาบช้า ประพฤติล่วงวจีทุจริตต่อบิดามารดา (อาทิ ทุ่มเถียงโดยไม่มีเหตุผล โป้ปดมดเท็จ สบถถ้อยวจีที่ทำให้บิดามารดาต้องช้ำใจ เป็นต้น) และผู้อื่นอยู่เนืองนิจ โดยคำแปลของโรรุวมหานรกนั้น หมายถึง "มหานรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้" เกณฑ์อายุเฉลี่ยของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๔,ooo ปีอายุกัป โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๕๗๖,ooo,ooo ปี (หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๕๗ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์) และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้ จึงเท่ากับ ๘๓๑,o๔o,ooo ล้านปีมนุษย์
๒. กรณีทุบตีทำร้ายร่างกาย กรรมนี้จัดเป็นครุกรรม แต่นับว่ายังมีผลน้อยกว่าการทำปิตุฆาตและมาตุฆาต ย่อมทำให้บุตรผู้ล่วงละเมิดเป็นผู้มีคติเบื้องหน้าเศร้าหมอง เมื่อถึงคราวตายเพราะกายแตก ย่อมไปบังเกิดใน "ยันตปาสาณนรก" อันเป็นนรกขุมบริวารของอเวจีมหานรก ซึ่งอยู่ถัดออกไปนับเป็นส่วนหนึ่งของนรกภูมิในแดนยมโลก สำหรับการลงทัณฑ์ สัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลที่เป็นกุมภัณฑ์จับเอาไปไว้ในระหว่างภูเขา ๒ ลูกที่มีลักษณะสัณฐานเป็นยนต์หมุนกระทบกัน โดยสัตว์นรกที่ถูกลงทัณฑ์จะมีลักษณะเหมือนกับอ้อยที่ถูกหีบเพื่อคั้นเอาน้ำ ต้องเสวยทุกขเวทนาอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้ตราบจนสิ้นกรรม
๓. กรณีฆ่าบิดามารดา องค์บรมศาสดาตถาคตตรัสไว้ว่า "เจตนานี้ เป็นตัวกรรม" ในกรณีของบุตรที่ฆ่าบิดามารดาโดยเจตนาจงใจ แม้ไม่รู้ว่านั่นคือ บิดามารดาของตัว บุตรผู้ฆ่าย่อมได้ชื่อว่า ต้องอนันตริยกรรม หากจะกล่าวถึงอนันตริยกรรมในพระพุทธศาสนานี้ มีอยู่ด้วยกัน ๕ ประการ เรียกว่า "ปัญจานันตริยกรรม" ได้แก่ ฆ่าบิดา (ปิตุฆาต) ฆ่ามารดา (มาตุฆาต) ฆ่าพระอรหันต์ (อรหันตฆาต) ทำพระพุทธเจ้าให้ทรงห้อพระโลหิต (โลหิตุบาท) และทำความแตกแยกให้เกิดขึ้นในท่ามกลางสงฆ์ (สังฆเภท) ซึ่งครุกรรม ๕ ประการดังได้กล่าวนี้ ผู้ละเมิดย่อมได้ชื่อว่า เป็นอาภัพพสัตว์ เพราะเหตุว่าเป็นกรรมที่เป็นสัคคาวรณ์ คือ กั้นสวรรค์ เป็นมรรคาวรณ์ คือ กั้นมรรคผล แม้จะเกาะชายจีวรของพระตถาคตตั้งหน้าตั้งตาบำเพ็ญกุศลไปจวบจนสิ้นอายุขัย กุศลกรรมทั้งหลายเหล่านั้น ก็มิอาจยังให้พ้นจากนรกได้ โดยคติของผู้ฆ่าบิดา มารดา และผู้ประพฤติผิดในอนันตริยกรรมอีก ๓ ประการที่เหลือ เมื่อสิ้นชีพแล้ว ย่อมมีคติเที่ยงแท้ที่จะไปบังเกิดใน "อเวจีมหานรก" (หมายถึง "มหานรกที่ปราศจากคลื่นแห่งความสุข") มหานรกขุมนี้นับว่าเป็นมหานรกขุมที่ลึกที่สุด ร้อนที่สุด ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ขอบล่างสุดของภพ ๓ เกณฑ์อายุเฉลี่ยของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีระยะเวลายาวนานถึง ๑ อันตรกัป โดยประมาณ
ปล. คิดว่าน้องแครอทจังคงมาใหม่ ยังเสียพี่ขอให้ไปศึกษาทบทวนเรื่องราวเกี่ยวกับมหานรก ๘ ขุมในกระทู้นี้: http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3358 ถ้าจะให้ดีพี่ขอแนะนำว่าให้ปรินท์อายุเกณฑ์ในมหานรกทั้ง ๘ ขุมจากความเห็นที่ ๔ ออกมาติดไว้บนโต๊ะทำงาน หรือหน้ากระจก หรือบนหัวนอน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจตนเองด้วยก็แล้วกันนะครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี
#5
Posted 08 September 2008 - 08:58 AM
ตอนที่ผมยังเด็กสัก 4-5 ขวบ ผมอยากได้ของเล่น แต่แม่ไม่พาไปซึ้อ ตอนแม่เผลอผมใช้ไม้ตีแม่อย่างแรง เดชะบุญไม่ถูกจุดสำคัญเช่นท้ายทอย ไม่งั้นผมคงได้ทำอนันตริยกรรมแล้ว ต่อมาตอน 8 ขวบ ผมเตะฟุตบอลล้มแขนยันพื้น ทำให้ข้อศอกขวาหลุดผิดรูปมาจนถึงปัจจุบัน (น่าจะเป็นข้างที่เคยทำร้ายแม่เพราะถนัดขวา)