จะผิดศีลข้อกาเมไหมค่ะ
#1
Posted 15 May 2008 - 11:04 AM
#2
Posted 15 May 2008 - 11:38 AM
#3
Posted 15 May 2008 - 11:47 AM
เวลาพี่มีเเฟนจะมีคนมาทำให้หวั่นไหวครับ หรือว่าถ้าพี่คิดเกินไป ก็จะมีคนเเบบนี้เเหละที่จะทำให้พี่ต้องอกหักจากเเฟนครับ
ขึ้นอยู่กับว่าพี่ทำอะไรไว้ครับ
เช่นถ้าขโมยของเเล้วคืน สักวันของเราจะหายเเต่ได้คืนมา
ถ้าว่าบาปไหม ผิดศีลข้อ3(ในศีล5น่ะ)ไหม ไม่ผิดศีลครับเเค่เป็นมโนกรรม เป็นทางไปเเห่งอบายเฉยๆ เเต่มีวิบากกรรมครับขึ้นอยู่กับเราทำอะไรไว้ มันอาจเป็นเพราะพี่เคยอธิฐานจิตไว้ชาติก่อนครับ เช่นในสมัยพุทธกาลเคยมีหญิงคนหนึ่งเคยไปทำอะไรกับสุนัข ตอนนั้นหญิงอาบน้ำอยู่เจอสุนัขตัวผู้เกิดอารมณ์ เดี๋ยวมาตอบต่อครับ
#4
Posted 15 May 2008 - 12:12 PM
จึงไปทำอะไรกับสุนัข เเล้วมีคนไปถามหรือยังไม่ทราบครับจำไม่ค่อยได้เเล้ว ถามว่าทำไมต้องเป็นเเบบนี้ พระพุทธเจ้าท่านจึงบอกว่า ผู้หญิงคนนี้เคยอธิฐานจิตไว้ว่า ขอให้เป็นสามีภรรยาในชาติครับ ก็เลยเป็นเเบบนี้ล่ะครับพี่ลองอธิฐานจิตเเบบนี้ดูน่ะครับ
( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
' หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอร ิยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน
คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว
ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ
โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร
อาจจะเปลี่ยนได้น่ะครับเช่นเข้านิพพานเป็นที่สุดเเห่งธรรม
เข้าใจความรู้สึกครับ เพราะก่อนที่พจน์จะเข้าวัดเเบบนี้ได้ พจน์ก็เเสบบบบมากๆเลยครับเลยเข้าใจอารมณ์ครับ
เเละตอนนี้ก็เเสบเเต่มีขอบเขตนิดหนึ่ง
พจน์ก็เป็นเเบบพี่ครับ
พจน์ก็อธิฐานเเบบนี้ทุกวันเลย เเล้วพยายามคิดว่าใครจะเป็นคู่เราก็เป็นคู่เรา คู่กันเเล้วไม่เเคล้วกันครับ พยายามทำความดีให้มากสุดครับ เเล้วก็คิดว่าที่เอาโดนเเบบนี้เพราะกรรมที่เราเคยทำไว้ครับ ยอมรับมันเหมือนใช้หนี้ครับกู้เขามาเเล้วต้องใช้คืน เเล้วเร่งทำความดี โดยเฉพาะนั่งสมาธิ พจน์นั่งทุกๆครั้งที่มีอารมณ์เเบบนี้ขึ้น นั่งทุกวันวันละ5นาทีก็ได้ถ้าเหนื่อยมาก เเล้วพยายามทำความดี ถ้าเขาเป็นคู่เราเขาจะต้องเห้นความดีของเราเเละกลับมาหาเราถ้าเราคู่กัน เเต่ถ้าไม่ใช่ก็เป็นบททดสอบครับ ถ้าวันนี้เขาไม่เห็น วันหน้าจะต้องมีใครเห็นเเน่ๆ เเละเขาคนนั้นจะทำให้มีความสุขครับ
เป็นกำลังใจให้พี่น่ะครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
ออ ลืม ลองถือศีล8ดูน่ะครับสบายใจดี
#5
Posted 15 May 2008 - 01:27 PM
บาปน่ะบาปแน่ครับ แม้บาปทางกายไม่มีแต่บาปทางใจน่ะมีครับ ส่วนเรื่องศีลนั้นไม่ขาดแต่หากคบกันต่อไปคุณคิดว่าจะประคองความสัมพันธ์ให้อยู่เท่านั้นได้งั้นหรือครับ ผมขอเตือนว่า อย่าประมาท ดูอย่างประโยคของคุณที่ผมยกมาก็ได้ ยืนยันได้เป็นอย่างดีกว่าคุณเริ่มคิดมากกว่าพี่ชายน้องชายแล้ว แล้วต่อไปล่ะความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร แล้วต่อไปล่ะคุณจะรักษาศีลอยู่ได้อีกหรือ อนาคตเป็นเรื่องที่ยากต่อการคาดเดานะครับ แม้ตั้งใจไว้เป็นอย่างดี แต่เวลามันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ของแบบนี้เรียกว่าได้อย่างเสียอย่างนะครับ หากคุณอยากพัฒนาความสัมพันธ์คุณก็เสี่ยงต่อการละเมิดศีล หากคุณต้องการรักษาศีลคุณก็ต้องเลิกพัฒนาความสัมพันธ์ครับ
ไม่ได้เชียร์ให้คุณแยกกัน แต่อยากเตือนคุณไว้หากจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขา เดินทางสายกลางดีที่สุดครับ เจอหน้าก็ทักทายกันแค่พอหอมปากหอมคอ หรือชวนเขาพูดเรื่องบุญกุศลก็ได้ แต่หากจะเริ่มมีการพูดเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ หลีกหนีให้ไกลเป็นดีที่สุดครับ รักตัวเองก่อนจะไปรักคนอื่นนะครับ หุหุ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
Posted 15 May 2008 - 03:37 PM
#7
Posted 15 May 2008 - 09:22 PM
ตัดใจเสียเถอะค่ะ ถ้าไม่อยากวนเวียนอยู่ในวัฏจักรอย่างที่ผ่านๆ มา(ผิดหวัง เสียใจ ถูกทิ้ง) ในวันที่เราสามารถตัดเค้าออกไปจากใจได้ เราจะรู้สึกโล่ง เบาสบาย สบายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกรักความอิสระที่ตัวเองได้รับ ทั้งอิัสระทางกาย และทางใจ ไม่ต้องคอยกังวลว่าเค้าจะคิดยังไง ไ่ม่ต้องคอยถามตัวเองว่าเราจะเอายังไง ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง
ต้องยอมเจ็บในวันนี้นะคะ เพื่อจะให้พบกับความสุขในภายหน้า อย่างตอนเราไม่สบาย เรายังต้องฝืนทานยาเพื่อให้หาย บาดเจ็บก็ต้องทนเจ็บให้หมอผ่าตัด เพื่อให้หายจากโรค ถ้ายังกลัวไม่กล้ารักษา ก็ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป ฉันใดก็ฉันนั้นล่ะค่ะ
เริ่มแรกมันอาจจะยาก แต่ต้องไม่ยอมแพ้นะคะ(ยอมแพ้ต่อจิตใจฝ่ายอกุศล) คุณอาจคิดว่าเค้าดี ....เอ่อ..ถ้าเค้าดีจริง เค้าก็คงไม่ทิ้งคุณไปในตอนนั้นหรอกค่ะ และถ้าเค้าเพิ่งจะเห็นความดีของคุณ ..มันไม่สายไปหน่อยเหรอคะ ที่จะมาเห็นความดีตอนนี้ แถมจะเอานรก(ศีลข้อกาเม)มาให้อีก
ที่สำคัญเค้าคิดยังไง ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญหรอกนะคะ สิ่งที่สำคัญก็คือ เราคิดอย่างไร เราทำอย่างไรตะหาก
ถ้าเริ่มแรกมันยาก ก็แนะนำนะคะ ให้ลองไปปฏิบัติธรรมระยะยาว 7 วัน แล้วก็อธิษฐานขอให้เรามีกำลังใจที่เข้มแข็ง ให้เราสามารถตัดใจได้ ให้เราเห็นภัยในการคบกับคนที่มีเจ้าของ
เวลามีงานบุญใหญ่ที่วัด ก็ให้มาร่วมบุญ และเอาบุญนั้นอธิษฐาน อาจจะขอบารมีปูชณียาจารย์ที่เราเคารพ ช่วยให้เรามีจิตใจเข้มแข็งด้วยก็ว่ากันไป....อธิืษฐานทุกๆ วัน คำอธิษฐานนั้นจะคอยตอกย้ำให้เรามีกำลังใจเข้มแข็งขึ้นด้วย และยิ่งตอกย้ำให้เรามั่นใจในสิ่งที่เราทำ
ยอมก้าวออกมาจากวังวนนั้นเถอะค่ะ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก .... มันช่างมีความสุข โล่ง เบา สบาย อย่างบอกไ่ม่ถูกค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ ที่สำคัญรักตัวเองดีกว่าค่ะ ถ้ายังไม่รู้จักรักตัวเอง ก็คงยากนะคะ ที่จะหาคนที่จะมารักเราจริง ...พูดจริงๆ นะคะ
ปล. ขออภัยด้วยถ้าีมีคำพูดใดทีี่ไม่เหมาะสม กรุณาท้วงติงจักมีพระคุณอย่างสุง
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
Posted 15 May 2008 - 09:38 PM
#9
Posted 15 May 2008 - 09:54 PM
ทางที่ดี หมั่นสั่งสมบุญ ด้วยการ ทำทาน รักษาศีล5 และศีลอุโบสถอย่าให้ขาด และหมั่นเจริญสมาธิ และอธิฐานขอให้พ้นจากวิบากกรรมนั้น จะดีที่สุดค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#10
Posted 15 May 2008 - 10:24 PM
เรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์อันใดกับชีวิตเลย
ลองศึกษา Case Study ที่เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ
และ Case Study เรื่องประเภทเกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้ เลสเบี้ยน กระเทย ดูสิ
ทุก Case คือตัวอย่างของคนที่มีรัก.. และมีทุกข์ตามมา.. อย่างแสนสาหัส..
ตอบจากใจจริง.. การที่คุณ MoO_MoO เกิดมาเป็นหญิง..
ก็เพราะคุณกำลังเป็นเหยื่อของวิบากกรรมที่ทำมาในอดีตชาตินั่นเอง
สิ่งนี้ทำให้เกิดรูปกายที่เป็นหญิง..
Step การเสวยวิบากกรรมกาเม.. คร่าวๆพอจะมีดังนี้..
(บางคนอาจจะกระโดดข้ามบาง Step ไป เพราะมีบุญอื่นๆมาอุ้มไว้บ้าง
บางคนถึงกับไปสวรรค์ก่อน แต่เมื่อวิบากกรรมกาเมส่งผล ก็จะประมาณนี้นะ)
1. ในชาติที่เกิดเป็นชาย เจ้าชู้ มากรัก ได้ผู้หญิงแล้วทิ้งไปมีใหม่ หรือชอบเที่ยวผู้หญิง
2. ไปมหานรกขุม 3 ยาวนาน.. ยาวนาน.. (เราไม่แน่ใจว่าไปอุสทะนรกก่อนหรือเปล่า) รับบุญใดๆไม่ได้เลย แม้มีคนทำให้
3. ยมโลกขุม 3 ยาวนาน.. รับบุญได้บ้าง หากมีคนทำให้
4. เปรต, อสุรกาย ที่มีร่างกายพิลึกกึกกือ พิสดารพันลึก ตามวิบากกรรม ยาวนาน..
5. หนอนในส้วม ยาวนาน..
6. เป็นสัตว์เดรัจฉานที่ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เช่น สุนัข แมว ลูกลิง(มักจะโดนลิงจ่าฝูงกัดอันฑะขาด)
วัวควาย(มักจะโดนเจ้าของตอน) ฯลฯ เป็นสุนัข เป็นแมว ก็โดนตอน ไม่ว่าเป็นอะไรก็มักโดนจับตอน
และเป็นแต่ละอย่างก็หลายร้อยชาติ ยาวนาน..
7. เกิดเป็นมนุษย์ครั้งแรก.. คือ โสเภณี ยาวนานหลายร้อยชาติ..
8. กระเทย เกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้ เลสเบี้ยน ชอบแบบไหนเลือกเอาเลย..
แล้วแต่วิบากกรรมเจ้าชู้จะหนักไปทางไหน ตอนเป็นชายหรือเป็นหญิงเจ้าชู้มากกว่ากัน
ยาวนานหลายร้อยชาติ..
9. เมื่อกรรมเบาบางลง.. ได้เกิดเป็นหญิงปกติที่มีปัญหาครอบครัว เรื่องทำนองบ้านแตกสาแหรกขาด
เพราะคุณพ่อคุณแม่เจ้าชู้บ้าง.. เพราะแฟนเจ้าชู้ ทิ้งไปบ้าง.. ฯลฯ ตามสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้
10. วิบากกรรมเบาบางลงอีก.. ได้เกิดเป็นหญิงธรรมดาที่มีครอบครัวปกติ
11. วิบากกรรมเบาบางลงอีก.. ได้เกิดเป็นหญิงธรรมดาที่ไม่ปรารถนาการมีสามีเลย
ต้องการประพฤติพรหมจรรย์อย่างเดียว กระทั่งอาจจะอยากปฏิบัติธรรม และได้กระทำดังนั้นด้วย
12. หากข้อ 11. ได้ถือศีล 8 อย่างแน่วแน่ บริสุทธิ์ ตลอดชีวิต และทำทาน ศีล ภาวนามากพอ
แล้วมีการอธิษฐานอย่างมุ่งมั่น.. ก็จะจะได้เกิดเป็นชาย ได้เพศบริสุทธิ์ ได้บวชเรียน (ซึ่งแล้วแต่การอธิษฐาน)
ใน Step นี้ บ้างคนก็มาไม่ถึงสักที.. เพราะปรารถนาและพึงพอใจในการเป็นหญิง แต่ก็จะเป็นหญิงที่ดี
เช่นนางวิสาขา เป็นต้น..
แต่การเป็นหญิง.. ให้พึงระลึกไว้ว่า เสียเปรียบทั้งทางโลก และทางธรรม
ทางโลกก็รู้ๆอยู่ อย่างน้อยก็ยืนฉี่ไม่ได้.. และมีภัยร้ายรอบด้านที่อาจจะทำให้เราวนกลับไป
สู่วงจรอุบาทว์ของการผิดศีลกาเมอีก.. ไปนรก เปรต อสุรกาย หนอนในส้วม สัตว์เดรัจฉาน โสเภณี ฯลฯ..
ทางธรรมก็คือ.. ส่วนใหญ่แล้วจะบวชพระไม่ได้ในแต่ละวาระที่พบพระพุทธศาสนา
เพราะมีเรื่องจุกจิกเยอะ.. ปกครอง+คุ้มครอง+คุ้มภัยได้ลำบาก.. ทำให้สั่งสมบุญบารมีตามคนอื่นไม่ทัน
หากระหว่าง Step ที่กล่าวมา.. เกิดไปพลาดทำผิดศีลกาเมอีก.. ก็จะวนกลับไปเสวยวิบากกรรมอีก..
ไม่จบไม่สิ้นสักที.. น่ากลัวยิ่งนัก
คิดได้ดังนี้แล้ว.. อยู่คนเดียวประพฤติพรหมจรรย์จะดีที่สุด....
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#11
Posted 16 May 2008 - 12:34 AM
#12
Posted 16 May 2008 - 06:46 AM
#13
Posted 16 May 2008 - 01:05 PM
#14
Posted 16 May 2008 - 09:34 PM
#15
Posted 19 May 2008 - 09:09 PM
นานๆไป ใจก็จะไม่รู้สึกอะไร ต้องบังคับใจตัวเองให้ได้
ไม่คุยกัน ก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่รุนแรงถึงตาย
แต่ถ้าปล่อยไป คุยกัน คุยไปคุยมา ก็จะถลำไปเรื่อยๆ จนถึงหยุดไม่ได้ ก็จะแย่ นรกนั้นรุนแรงยิ่งกว่าตายซะอีก