Posted 04 August 2008 - 10:28 PM
มีอยู่ช่วงหนึ่งผมช่วยงานที่วัดเรา งานบุญใหญ่งานหนึ่ง แผนกรับลงทะเบียนเจ้าภาพ จะมีสาธุชนมาลงทะเบียน ลงชื่อกับผม เนื่องจากเขียนไม่กี่บรรทัด ก็เลยไม่ได้จัดเก้าอี้ให้นั่ง ใช้วิธีก้มลงเขียนเพื่อความรวดเร็ว เพราะต้องเข้าไปฟังระเบียบการกับรับของที่ระลึกด้วย
และแล้ววันนั้นก็เป็นวันที่ทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นชุดอุบาสิกาเท่านั้นที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
มีดาราสาวสวยท่านนึงมาลงทะเบียนที่โต๊ะตรงหน้าผม เธอเยื้องย่างมาในชุดกางเกงผ้ายีนส์เข้ารูปสีขาว กับเสื้อแขนสั้นสีขาวตัวสั้นเสมอขอบกางเกง เสื้อตัวหลวมๆใส่สบายๆ ถ้าเธอยืนโพสท่าเป็นนางแบบเฉยๆก็ไม่เป็นไรครับดูสวยดีเสียอีก ไม่ผิดระเบียบด้วยเพราะเป็นสีขาวล้วนทั้งชุด แต่พอเธอก้มลงเขียนชื่อเท่านั้นแหละครับ (กลองรัว) โอ้...พระเจ้าช่วย กล้วยทอด ผมสามารถมองผ่านคอเสื้อเธอ เห็นเข้าไปจากลำคอถึงขอบกางเกงด้านหน้าได้เลยโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆทั้งสิ้น เพราะอยู่ระดับเดียวกับสายตาผมพอดี ครับ เสื้อเธอที่เราเห็นว่าเรียบร้อยกันนั้นแหละครับ เนื่องจากตัวเสื้อที่ค่อนข้างหลวมและคอเสื้อเป็นคอวีแหลมๆ พอเธอก้มลงเขียนเท่านั้น เนื้อผ้าก็ถ่วงตัวเสื้อด้านหน้าลง แถมช่วงคอด้านหน้าก็ไม่มีคอเสื้อช่วยปิด ก็เลยมองลอดเข้าไปเห็นไปถึงไหนต่อไหน(ก็ถึงเท่าที่เงยหน้ามาเห็นพอดีนั่นแหละ)
หลังจากที่ผมมองจนพอใจ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้ว...เอ๊ย...ไม่ใช่ หลังจากหายตกตะลึง ตึง ตึงแล้ว ผมก็บอกเธอไปตรงๆเลยว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนั้นไม่ทันนึกด้วยว่าเธอจะตบเอาหรือเปล่า เธอตกใจมาก(ไม่ยักกะโดนตบหน้าแฮะเรา) ผู้นำบุญที่พามาก็ตกใจเพราะไม่ได้สังเกตุมาก่อน จะพากันออกไปหาซื้อชุดมาเปลี่ยน แต่คุณป้าที่นั่งข้างๆ ท่านสละเหรียญคุณยายอาจารย์ที่คุณป้าท่านทำเป็นเข็มกลัดมากลัดปิดคอเสื้อเอาไว้แทนก่อนเพื่อจะได้ร่วมพิธีต่อ ก็รอดตัวไปหนึ่งยก
ยังครับเรื่องยังไม่จบครับ หลังจากเธอฟังเจ้าหน้าที่ชี้แจงเรื่องต่างๆเรียบร้อยแล้ว เธอก็คลานกระดุ๊บ กระดุ๊บเข้าไปรับของที่ระลึกจากพระอาจารย์ ก็เกิดเหตุอีกจนได้ คือว่า พอเธอก้มลงกราบพระอาจารย์ ด้วยความที่เป็นกางเกงยีนส์รัดรูป กับเสื้อตัวสั้น เนื้อกางเกงที่ตึง ก็จะดึงขอบกางเกงให้ร่นต่ำลงไป ขณะเดียวกันขอบเสื้อด้านหลังก็ถูกดึงรั้งขึ้นไปข้างบนจากกริยาก้มกราบท่าเทพธิดา นึกภาพกันเองนะครับเพราะงานนี้ผมก็ไม่เห็นเหมือนกัน(เสียดาย...อุ๊บส์...ใครตบหัวผม) พี่ผู้หญิงท่านนึงเป็นคนบอกเธอครับ สรุปก็เลยต้องออกไปหาซื้อชุดกันหน้าวัดกันจนได้ เธอก็น่ารักมาก ยินดีรับฟังแล้วแก้ไข แล้วยังรักการทำบุญ ใจไม่ตก ไม่หนีกลับ น่าสรรเสริญจริงๆ คนดีครับคนดี รับฟังแล้วพิจารณาถึงความถูกต้องเหมาะสมโดยไม่มีอคติ นับถือ นับถือ
ที่เขียนมานี่ก็เพื่อต้องการให้ทุกท่านเห็นว่า แค่ชุดขาวอย่างเดียว คงไม่พอแล้ว ผมว่าทางเจ้าหน้าที่คงอยากจะประกาศให้เป็นชุดอุบาสิกาเลยที่เดียวแหละครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาดูแลจัดระเบียบความเหมาะสม แต่คงดูจะเหมือนการบังคับกันมากเกินไปก็เลยยังอนุโลมให้แค่สีขาวเท่านั้น ส่วนรูปแบบก็คงปล่อยให้ตามที่มีกันมา ก็ช่วยพิจารณาให้พอเหมาะพอสมกันแล้วกันครับ
อย่าว่าแต่คุณผู้หญิงนะครับ คุณผู้ชายก็น่าสนใจไม่น้อยหน้ากันเท่าไหร่ครับ พวกที่ชอบใส่กางเกงชุดผ้าฝ้ายบางๆสีขาวกับเสื้อผ้าป่านคอกลมสีขาวบางๆที่ชอบมาใส่เดินไปเดินมาบนสภาฯนะครับ รู้ไหมครับว่า มันมองทะลุเข้าไปเห็นกางเกงในรอสโซสีสายรุ้งของท่านนะครับ ว๊าย...มันทรมานใจผมครับ(รับบ่ได้ แมนรับบ่ด๊ายยยย) ยิ่งพอเปียกน้ำด้วยแล้ว ก็มองเห็นอะไรต่อมิอะไร(แล้วมันอะไรล่ะ) เดี๋ยวผมอดใจไม่ไหว มันจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นมานะครับ (ว่าแล้วก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดน้ำลายที่กำลังไหลย้อย...เอื้อก...ชั้นในสีพื้นๆก็มีตั้งเยอะไม่ใส่ กลับใส่สีสายรุ้ง วุ๊ย..คิดอะไรกันอยู่)
เอาละครับ ตลกกันพอแล้ว คงไม่หนักหนากันหรอกนะครับ ถ้าจะมีชุดอุบาสก-อุบาสิกาไว้ใส่กันท่านละชุดนะครับ อาทิตย์ละครั้งเอง ช่วยๆกันรักษาบรรยากาศกันครับ ลองคิดดูซิครับ ทุกคนแต่งตัวเหมือนกัน นั่งนิ่งๆ สงบๆ เป็นล้านๆคน มันน่าประทับใจขนาดไหน พอทุกคนใส่เหมือนกันหมด คนที่มาใหม่เขาก็จะเข้าใจและปฏิบัติตามโดยอัตโนมัติไงครับ ไม่ต้องเสียเวลาชี้แจง ระบบระเบียบก็จะเกิดขึ้นเป็นนิสัยที่ดีๆต่อหมู่คณะ ต่อตนเองติดตัวไปนานเท่านานครับ
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ .....
ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน .....
ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ .....
อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ