Jump to content


Photo
- - - - -

ช่วยเตือนสติ เพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
14 replies to this topic

#1 253555

253555
  • Members
  • 66 posts

Posted 17 September 2008 - 08:26 PM

สวัสดีค่ะ ....ทุกท่าน
ดิฉันอยากรู้วิธีการคิด และวิธีทำใจ หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
1. ดิฉันเป็นคนขี้ใจน้อยมาก และพยายามรักทุกคนมาก จึงทำให้เครียดอยู่เสมอ หากคนที่รัก และรู้จักมีอาการห่างเหิน ก็จะทำให้เสียใจ และหมดกำลังใจ อยู่เสมอ
2. ถ้าเราเจอคนที่รักเอาเราไปนินทา จะแก้ปํญาหอย่างไร
3. ช่วยบอกวิธีการสร้างกำลังใจให้กับตนเอง ควรทำอย่างไรดีค่ะ

จากคนใหม่...ผู้ไม่เข้าใจโลก

#2 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2,511 posts

Posted 17 September 2008 - 08:30 PM

รักสันโดษ คือคำตอบเดียว

รักสันโดษ ไม่ได้แปลว่า ไม่มีเพื่อน แต่ถ้าคุณเข้าใจคำว่า "รักสันโดษ" อย่างแท้จริง คุณจะมีความสุขมาก เพราะคุณจะมีความรักล้นเหลือให้กับคนทั้งโลก และ ไม่อยู่อย่างโดดเดี่ยว โดยที่ไม่มีคนต้องคอยอยู่ใกล้ตัว อีกต่อไป พูดยาก ต้องเข้าใจเองนะคะ ขอให้พบกับความสุขในเร็ววัน
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#3 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1,124 posts

Posted 17 September 2008 - 08:44 PM

เหตุเกิดที่ใจ ต้องดับที่ใจ

นั่งธรรมะให้เยอะๆ แล้วอธิษฐานค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#4 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 posts

Posted 17 September 2008 - 08:58 PM

แต่ก่อนดิฉันก็เป็นคนขี้ใจน้อยมากๆ หลังๆนั่งธรรมะมากๆเข้าเปลี่ยนไป อย่างสิ้นเชิง ไม่เคยแคร์เรื่องไร้สาระเลย ไม่สนใจว่าเพื่อนที่เรารักจะนินทาเราว่าไง เพราะเชื่อหลวงพ่อที่ท่านพูดว่า ถ้าสนใจก็เป็นเรื่องเป็นราว ถ้าไม่สนใจก็เป็นลมเป็นแล้ง
มีความสุขทั้งเวลาอยู่คนเดียว รวมถึง เมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นๆ คนที่ชอบคิด ลบ ๆ พูด ลบ ๆ อยู่ใกล้ๆ ก็โน้มน้าวเค้าจนเขาไม่ค่อยจะพูด ลบ ๆเลย มีแต่พูดดีๆ และที่สำคัญ กลายเป็นว่าไม่เห็นจะน้อยใจใครเลย .....ทำไมเราเปลี่ยนไปอย่างนี้ งงเหมือนกัน คงเพราะนั่งธรรมะมากเข้า มากเข้า ก็เลย เปลี่ยนเองจากภายใน

#5 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1,212 posts

Posted 17 September 2008 - 10:18 PM

คำตอบว่า "รักสันโดษ" ของคุณฟ้าร้าง ตรงเป้าหมายตรงประเด็นที่สุด

พูดง่ายๆก็คือ คุณต้องมีความสุขในตนเองมากจนกระทั้งล้นเหลือให้กับคนอื่นๆได้สบายๆ โดยไม่ต้องการเรียกร้องความสุขเพิ่มเติมจากคนอื่นอีก

ปัญหาทั้ง ๓ ข้อของเจ้าของกระทู้ล้วนมาจากสาเหตุเดียวกัน คือ การขาด "SELF-ESTEEM"

คือ การนับถือตนเอง ตระหนักในคุณค่าแห่งตน จะทำให้จิตใจมั่นคงเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้

คนที่มี "SELF-ESTEEM" จะเป็นคนที่ "รักสันโดษ" โดยอัตโนมัติ

"การรักษาศีล" เป็นวิธีหนึ่งในการเสริมสร้าง "SELF-ESTEEM"

เพราะเป็นการสร้างกำลังใจในการนับถือตนเอง จะงามสง่าในที่ประชุมชน เพราะมั่นใจในคุณงามความดีแห่งตน

แม้อยู่ต่อหน้ามหาเศรษฐีทุศีล ก็บอกตนเองได้ว่า เราตายก็ไปสุคติ ส่วนเขาทุคติ เราต้องสงสารเขา ชี้ทางสว่างแก่เขา เป็นต้น

#6 sunflower

sunflower
  • Members
  • 7 posts

Posted 18 September 2008 - 07:02 AM

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ ตอนนี้ก็พยายามเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายตลอดเวลาเลยค่ะ

#7 usr24472

usr24472
  • Members
  • 124 posts

Posted 18 September 2008 - 07:31 AM

รักสันโดษแปลว่าอะไร ขยายความให้กับคนที่มีความรู้น้อยหน่อยคะ


#8 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 posts

Posted 18 September 2008 - 10:02 AM

วางอุเบกขา ให้มาก สอนตัวเองให้ได้ว่านี่คือโลกธรรม ให้ใจเราใส เรานิ่งที่สุดอย่าหาเรื่องที่ทำให้ใจขุ่นมัวมาคิด
ถ้ารู้ว่ากำลังมีอาการ ก็ต้องนั่งหลับตาและปลงให้ได้เยอะๆ อย่างที่ผู้รู้เขาได้แนะมาข้างต้นนั่นแหล่ะค่ะ ถูกต้องแล้ว

#9 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 posts

Posted 18 September 2008 - 10:43 AM

จะรักคนอื่น ต้องหัดรักตัวเองให้เป็นก่อนค่ะ แล้วอะไรก็ไม่สามารถทำร้ายเราได้เลยค่ะ

รักตัวเอง ไม่ใช่เห็นแก่ตัวนะคะ ต้องแยกให้ออก

นั่งสมาธิ มาก ๆ แล้วจะเป็นทางออกค่ะ

เอาใจช่วยนะคะ

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#10 homer324

homer324
  • Members
  • 522 posts

Posted 18 September 2008 - 10:48 AM

ความใจน้อย น้อยใจ น้อยอกน้อยใจ ใจเหลือน้อย (แล้วน่ะ)..ฯลฯ

เป็นกันทุกคนล่ะครับ ไม่ว่าเด็ก หรือผู้ใหญ่..ชาย หรือหญิง มนุษย์ หรือเทวดา..สุนัข หรือแมว..ฯลฯ

เคยเห็นสุนัขไหมครับ..เวลามันน้อยใจเจ้าของ (เพราะเจ้าของเอาใจออกห่าง-ไปรักสุนัขตัวใหม่ โดยเฉพาะลูกสุนัข)..

กิริยาที่มันแสดงออกมา มักจะแสดงท่าทีหวงเจ้าของ ขู่คำรามใส่สุนัขตัวใหม่ทันที แต่ก็ยังรักเจ้าของเท่าเดิม (หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ)..นี่คือสัตว์เดรัจฉาน..

สำหรับคนทั่วไป ที่ยังอยู่ในโลกแห่งความยึดมั่นถือมั่นอยู่ (มาก) เวลาน้อยใจ ก็มักจะแสดงกิริยาต่างๆนาๆ เพื่อแสดงออกให้คนที่ตนรักได้รับรู้ว่า นี่กำลังน้อยใจ (ตัวเอง) อยู่น่ะ..เพื่อเรียกร้องความสนใจ จึงทำได้ทุกอย่าง..

แต่สำหรับคนที่ศึกษาวิชชาพระพุทธศาสนา มาอย่างต่อเนื่อง ก็พบว่า ความน้อยใจ ก็คือนิวรณ์อย่างหนึ่ง ที่คอยกั้นขวางความดี เป็นอุปสรรคในการปฎิบัติธรรม เมื่อรู้ดังนี้ ปัญญาก็เกิด จึงเกิดคำถามขึ้นในใจต่อมากว่า ทำอย่างไรจึงจะกำจัดเจ้าความน้อยใจนี้ออกไปจากใจ อย่างถาวร..

หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย กล่าวไว้ทำนองนี้ -- นิวรณ์ นี้แพ้ใจที่หยุด ที่นิ่ง ยิ่งหยุดยิ่งนิ่งมากเท่าใด นิวรณ์ หรือความน้อยอก น้อยใจ นี้จะอยู่รน ทนไม่ได้ ย่อมหมดสิ้นไป--

เมื่อไม่มีความน้อยอกน้อยใจ (อีกต่อไป) ความมากอกมากใจ หรือใจที่เปิดกว้าง ใจที่เป็นสุข ก็จะมาแทนที่ (ทันควัน)..

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดังนั้นคำตอบ ในคำถามทั้งสามข้อข้างต้น โดยเฉพาะข้อสามเรื่องของการสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง..

ผมว่า..การเพิ่มชั่วโมงการนั่งสมาธิ ทำใจให้หยุด ให้นิ่ง ให้นาน ให้แนบแน่น มากที่สุด และการคบบัณฑิต คบกัลยาณมิตร จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดเลยล่ะครับ..

#11 usr20663

usr20663
  • Members
  • 65 posts

Posted 18 September 2008 - 12:29 PM

ดูในคำถามแล้ว เกี่ยวกับ"ใจ"ทั้งหมด แสดงว่าจิตใจกำลังอ่อนแอครับ

ในทางโลก ถ้าร่างกายอ่อนแอ เราจะต้องพักผ่อน ทานอาหารครบ๕หมู่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ร่างกายก็จะแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน เชื้อโรคจะทำอันตรายร่างกายเราไม่ได้

แต่ถ้าจิตใจเราอ่อนแอ เราจะต้องใช้"ธรรมะ"ในการขัดเกลาจิตใจ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้จิตใจ จะทำให้จิตใจหนักแน่นต่อสิ่งที่จะมากระทบ กำลังใจก็จะเกิด เพราะจิตใจแข็งแกร่งขึ้น ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งกระทบ(เปรียบเหมือนเชื้อโรค)

ดังนั้น การปฏิบัติธรรมและกุศลบุญเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ครับ



#12 Litt

Litt
  • Members
  • 12 posts

Posted 18 September 2008 - 12:52 PM

ใช้วิธีปลงค่ะ สิ่งที่เราพบเจอในปัจจุบันก็มาจากภาพในอดีตของเราเอง
ก็ฟังเคสกฏแห่งกรรมเยอะๆ จะช่วยให้เข้าใจโลกได้มากขึ้น

เมื่อก่อนก็เคยเป็นคล้ายๆกับคุณ minova คิดมากๆๆ คิดอยู่ซ้ำๆๆซากๆๆ
จนได้ยินหลวงพ่อฯเทศน์สอนว่า ถ้าคิดไม่ออก ก็ให้ออกจากความคิดนั้นเสีย...

ตอนนี้คิดถึงตัวเองมากขึ้นทุกวัน การคิดถึงตัวเองในด้านสุขภาพกายและจิต
คิดว่าวันนี้เรายังมีเรื่องอะไรที่มีประโยชน์ให้ทำอีกบ้างไหม..แล้วก็เริ่มลงมือทำเลย

พอเรารักตัวเองและให้เวลาตัวเองมากขึ้น คนอื่นๆก็เลยเริ่มกลับมาให้ความสนใจเรามากกว่าเดิมค่ะ..


#13 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 posts

Posted 18 September 2008 - 01:09 PM

เป็นคล้ายๆเราเลย..

นั่งสมาธิให้มาก.. รักตัวเองให้มาก..
หมายถึงกายในกาย..
เมื่อมีที่พึ่งภายในแล้ว.. เรื่องราวภายนอกจะเป็นเรื่องธรรมดาไปทันที.. happy.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#14 usr20221

usr20221
  • Members
  • 57 posts

Posted 18 September 2008 - 01:26 PM

เคยเป็นเหมือนกันค่ะ พอเป็นก็นึกคำหลวงพ่อค่ะ ต้องตกหลุมรักตัวเองก่อนค่ะ แล้วก็ เวลามีปัญหา ดูพ่อเราเป็นแบบอย่างค่ะ หนักแค่ไหนก็ไม่เคยหมดกำลังใจเลยค่ะ รักพ่อเราจิงจิงเล๊ย..

#15 รักวัด

รักวัด
  • Members
  • 58 posts

Posted 18 September 2008 - 04:59 PM

ต้องเข้าใจธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ค่ะ จิตใจมนุษย์ขึ้นๆลงๆ และเราก็ไม่สามารถทำให้ใครมารักเราได้ตลอดเวลา เราไม่สามารถทำให้ใครมาพอใจเราได้ตลอดเวลา คุณยายอาจารย์สอนว่า คนมีกิเลส แต่บุญไม่มีกิเลส ดังนั้นให้มารักบุญมากๆเหมือนที่รักวัดกำลังเป็น รักที่จะทำบุญทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะ ทาน ศีล ภาวนา และการทำหน้าที่กัลยาณมิตร รับรองเราจะไม่ผิดหวัง หรือน้อยใจอีกต่อไป