Jump to content


Photo
- - - - -

สถานที่ปลดทุกข์ เห็นสุขทันตา (สุขพิมาน)


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
1 reply to this topic

#1 กัปตัน

กัปตัน
  • Members
  • 9 posts
  • Gender:Male

Posted 19 September 2008 - 03:42 PM

สวัสดีทุกท่านครับ happy.gif

"คนจะไปอินเดีย จะสุขก็สุขได้ทุกเรื่อง เรียกว่าเรามีอิสระจะเลือกสุขเลือกทุกข์ได้ตามใจ แต่ถ้าจะเป็นความทุกข์ก็เห็นจะเป็นเรื่องเดียวแท้ๆ ที่ใหญ่และใกล้ตัวที่สุด พอทุกข์ปรากฎขนลุกขนชันขึ้นมา คงเลือกที่เลือกทางไม่ได้ จะหาห้องน้ำเพื่อย้ายถ่ายเทออกไปก็ยาก...ต้องนั่งเดือดร้อนทนทุกข์ เพราะหาที่ปลดทุกข์ไม่ได้นั่นเอง..."

ด้วยเหตุนี้แหละครับ ผู้เคยทุกข์ รู้ทุกข์ รู้ทางออกจากทุกข์ และรู้วิธีดับทุกข์ จึงได้มาร่วมกันลงขัน ร่วมไม้ร่วมมือ สร้างสถานที่บรรเทาทุกข์ให้ตนและผู้อื่น เป็นที่ชื่นใจ ขอนำมาเล่าให้ท่านที่สนใจฟังครับ

Attached File  s1.jpg   47.75KB   83 downloads

ความเป็นมา

ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คราวเดินทางนมัสการสังเวชนียสถาน โอกาสที่คุณยายอาจารย์ตรีธา เนียมขำ เจริญอายุ ๘๐ ปี ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ได้ปรารภว่า น่าจะมีที่สักแห่งหนึ่งพอสร้างห้องน้ำ ที่พักถวายเพลพระ ใกล้ๆ กับชายแดน น่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ลำบาก ให้คนแสวงบุญ คุณยายบอกว่า ขอให้ท่านเจ้าคุณดำเนินการให้ด้วย จะเป็นบุญกุศลอย่างมาก จากนั้นได้รับปัจจัยบริจาคมาเป็นทุนเริ่มต้นในการจัดสร้าง จึงน้อมรับมาปฏิบัติ

พระราชรัตนรังษี
๙ มีนาคม ๒๕๔๙

ทำบุญปลดทุกข์ เห็นสุขทันตา

เป็นที่ทราบกันดีว่า...การเดินทางสู่แดนพุทธองค์ ประเทศอินเดียนั้น สิ่งที่ผู้แสวงบุญทำใจลำบากมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเข้าห้องน้ำห้องสุขา...เพราะที่อินเดีย กล่าวขวัญกันมากว่าเป็นประเทศที่มีห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก...ด้วยเวลาเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งต้องมีกฎกติกา มารยาท ในการเข้าห้องน้ำว่า...หญิงซ้าย ชายขวา พระคุณเจ้าด้านหน้า แม่ชีด้านหลัง...โดยมีรถทัวร์ที่นั่งกันมาเป็นศูนย์กลาง ก็คือต้องไปทุ่งกันหรืออาศัยราวป่า ข้างกำแพงเก่าบ้าง ป่าถั่วแระบ้าง หรือไม่ก็ลงทุ่งข้าวสาลีนั่นเอง เป็นความลำบากสำหรับผู้ไม่คุ้นเคย...

(แต่สำหรับท่านที่มาบ่อยจะชอบมาก เพราะบรรยากาศการเข้าห้องน้ำที่อินเดียนั้น เลือก Location ได้ตามใจ ไม่ต้องรอคิว...และก็สะอาดแบบธรรมชาติ) smile.gif

Attached File  s2.jpg   35.93KB   88 downloads

พระธรรมทูตไทย สายประเทศอินเดีย นำโดยท่าน เจ้าคุณพระราชรัตนรังษี ได้มองเห็นความลำบากนี้ จึงได้มอบหมายให้ไปดำเนินการซื้อที่ดินเพื่อการสร้างพุทธวิหาร บริเวณใกล้ด่านโสเนารี (Sonauli) ห่างจากเขตชายแดนอินเดียก่อนเข้าสู่ลุมพินีแดนประสูติประเทศเนปาลประมาณ ๒ กิโลเมตร...สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในการก่อสร้างอันดับแรกนั่นก็คือการสร้างห้องน้ำ...เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญ...ทั้งชาวพุทธไทยและชาวพุทธประเทศอื่นๆ และจะขยายโครงการเป็นที่แวะพักรับประทานอาหารถวายเพลพระ พร้อมทั้งสร้างเป็นสำนักงานพระธรรมทูต สายประเทศอินเดียและเนปาล อีกทั้งยังจะเป็นที่อำนวยความสะดวกกรณีด่านปิด วีซ่า หนังสือเดินทางมีปัญหา พระธรรมทูตก็คอยให้การช่วยเหลือได้ที่นั่น

Attached File  s3.jpg   29.66KB   81 downloads

เบื้องต้นท่านเจ้าคุณอาจารย์ให้ไปเจรจาขอเช่าที่ดินวัดพม่า ซึ่งพม่ามีที่ดินอยุ่แล้ว แต่ผู้เขียน ไม่เห็นด้วย...เพราะเกรงว่าหากมีผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวในกาลข้างหน้า...ในที่สุดเพื่อความสบายใจของคณะทำงาน ก็ตัดสินใจซื้อที่ดินในนามมูลนิธิวัดไทยกุสินารา...และดำเนินการก่อสร้าง จนได้เป็นรูปร่างสำเร็จ ใช้สอยได้แล้วตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา ปี ๒๕๕๐ จนผู้แสวงบุญส่วนใหญ่จะเรียกว่า สุขาราม หรือแดนสุขาวดี ณ ขณะนี้สร้างเสร็จ เป็นห้องน้ำห้องสุขา รวม ๓๕ ห้อง...สำหรับอุบาสิกา ๒๐ ห้อง อุบาสก ๑๐ ห้อง พระสงฆ์อีก ๕ ห้อง ตามอัตราส่วนของจำนวนผู้มาแสวงบุญ

Attached File  s4.jpg   23.68KB   82 downloads

มีปรัชญาการเชิญชวนทำบุญกับห้องน้ำนี้ว่า ทำบุญปลดทุกข์ เห็นสุขทันตา ก็เป็นอันว่า มีเจ้าศรัทธาร่วมสร้างเป็นอันมากจนเกินความคาดหมาย ดั่งที่เห็น และจะมีโครงการขยายสาขาทั่วสังเวชนียสถานต่อไป พร้อมยังมีมุมอินเดียน้อย...ให้ท่านได้นั่งซดกาแฟอร่อย ชิมโรตีร้อนๆ ผสมนมข้น...ช้อปปิ้งของที่ระลึก ดำเนินการโดยนักศึกษาไทยในอินเดียและ มีหมากอินเดียให้เคี้ยวเพื่อเข้าบรรยากาศจริงๆ ในช่วงรอทำเอกสารเข้าสู่ประเทศเนปาล...หวังว่าท่านคงสบายใจเรื่องห้องน้ำได้แล้วฯ


อ้างอิง "ชีวิตและงานพระธรรทูตไทย ในอินเดีย" โดย ดร.พระมหาคมสรณ์ คุตตธมฺโม , พระราชรัตนรังษี ( ปีก่อนท่านจัดกิจกรรม ๒๒ เมษายน ทำบุญอายุสมงคล พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ครับ ดูที่ http://www.dmc.tv/pa...from_Nepal.html )

_______________________________________


การสร้างเวจกุฎี ห้องน้ำห้องส้วม มีอานิสงส์มากครับ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสถึงช่างทอง สร้างเวจกุฎีถวายบูชาพระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวยสุขในสุคติโกลสวรรค์ และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน

พระองค์เองก็เคยสร้างเวจกุฎี และที่สำหรับอาบแก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้งสัตยธิษฐานว่า ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยผลแห่งอานิงส์ ที่ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ครั้นทำลายขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวย ทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจากชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ

Attached File  s5.jpg   20.47KB   79 downloads

ขอให้ทำถูกต้องและมีความเพียรเถิด ธรรมะเป็นของจริงถึงเวลาแล้วเห็นเอง
ต้องใช้วิธีตะล่อมใจทีละเล็กทีละน้อย ... ใจก็จะยอมหยุดที่ศูนย์กลางกายเอง

#2 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1,212 posts

Posted 21 September 2008 - 10:06 PM

สาธุ