Jump to content


Photo
* * * * * 1 votes

ทำไมนั่งสมาธิแล้วไม่เคยเห็นองค์พระเลยคะ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
13 replies to this topic

#1 Nu~NamMonz~

Nu~NamMonz~
  • Members
  • 107 posts

Posted 16 October 2008 - 03:37 PM

รบกวนพี่น้องชาว DMC นิดนึงค่ะ
เนื่องจาก ได้นั่งสมาธิปฎิบัติธรรมมาซักพักแล้ว แต่การนั่งสมาธิที่ได้ก็ไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าไหร่ คือ
ใจจะคิดเรื่อยเปื่อยอยู่เสมอๆ และไม่สามารถนำมาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายได้เลย
ไม่ทราบว่านี่เป็นเรื่องปกติของคนนั่งสมาธิใหม่รึเปล่าคะ
รบกวนผู้รู้แนะนำด้วยนะคะ

ต้องขอโทษด้วยหากการตั้งกระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้ซ้ำซ้อนนะคะ
เพราะจากที่อ่านกระทู้อื่นๆมาบ้างแล้ว พยายามทำตามคำแนะนำที่ได้มาแล้ว ก็ยังไม่สามารถทใจหยุดนิ่งได้เลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ


หนูชื่อ "น้องคิดดี" ค่ะ ^_^

#2 usr23299

usr23299
  • Members
  • 97 posts

Posted 16 October 2008 - 03:52 PM

เมื่อหยุดแรก ติดสนิท ถูกส่วนเข้า ก็จะเกิดผลของการปฎิบัติธรรมที่ดีครับ หมั่นทำความเพียรไปเรื่อยๆสักวันเราก็จะสมปรารถนาในการเข้าถึงธรรม (ป.ล.ไม่ต้องกังวลว่าจะมืดหรือสว่าง หรือจะเห็นอะไรทำใจนิ่งๆ ภาพอะไรเกิด หรือฟุ้งก็เฉยๆ หรือภาวนาสัมมาอะระหัง ทำเสียว่าเรามานั่งพักผ่อน หลับตาทำคล้ายๆกำลังจะนอนหลับ หลับหลอกๆ กระทั่งใจหยุดถูกส่วน วูบตกศูนย์ ถ้าไม่ถนัดในการนึกภาพ ก็ทำใจนิ่งเฉยๆไม่ต้องคิดอะไร ถ้าเอาใจไวศูนย์กลางกายไม่ได้ ให้วางใจสบายตรงไหน วางตรงนั้น แล้วมันจะดิ่งไปเองครับ)

#3 เข้ากลางดีที่สุด

เข้ากลางดีที่สุด
  • Members
  • 64 posts
  • Gender:Male

Posted 16 October 2008 - 04:16 PM

เป็นธรรมดาที่เมื่อเริ่มนั่งใจจะคิดถึงเรื่องราวต่างๆเพราะว่าเราได้คิดและทำเรื่องราวต่างๆมามากมายทั้งชีวิต ทุกคนต่างต้องเจอเหมือนกันหมดนั่นแหละเพียงแต่จะมากหรือน้อยตามประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา นั่งไปเรื่อยๆเดี๋ยวจะค่อยๆหายคิด(ฟุ้ง)เรื่องต่างๆลงเรื่อยๆจนใจจะหยุดในที่สุดเองครับ เวลานั่งถ้าฟุ้งเรื่องราวต่างๆก็ให้ใช้นิมิตช่วยจะดีครับ จะเป็นองค์พระที่เราชอบหรือสิ่งที่ดีๆที่เรานึกแล้วสบายใจให้นึก(ตรึก)ถึงสิ่งนั้นไปเรื่อยๆเดี๋ยวใจจะหยุดนิ่งได้เร็วขึ้น
วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนครับต้องขอตัวก่อนไว้วันหลังมีโอกาสจะมาบอกเทคนิคการนั่งให้อีกเผื่อจะช่วยได้นั่งดีขึ้น
วันนี้ขอตัวก่อนครับ


#4 peter10

peter10
  • Members
  • 331 posts

Posted 16 October 2008 - 04:52 PM

รับรอง มีคนมายกมือ เป็นเพื่อนคุณ อีกมากมาย
ก็นั่งต่อไป ทำใจใสๆ
ทำตามที่ครูบาอาจารย์บอก
แม้ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นพื้นฐานต่อไปเรื่อยๆคับ
ที่สำคัญ แค่ได้ทำ ก็มีความสุขมากแล้วนะคับ
เพราะฉะนั้นถ้าตรึกได้ ก็ไม่ต้องพูดกันล่ะคับ
เลือกเอา บัวมีสี่เหล่า
เลือกเอา ใจใสๆ

#5 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 posts

Posted 16 October 2008 - 06:23 PM

ไปอ่านกระทู้นี้นะ...
มีคำตอบ ทุกอย่าง เรื่องปัญหาการนั่งสมาธิจ้ะ
กระทู้ของ คุณ สิริปโภ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1554


#6 พจน์เอง

พจน์เอง
  • Members
  • 44 posts

Posted 16 October 2008 - 06:24 PM

อย่าคิดมากครับ
นั่ง ชิวๆๆครับ
ให้นั่งถือว่า เราได้รับการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
พอพัฒนาตัวเองถึงระดับหนึ่ง ใจจะใสครับ
นึกหลวงปู่หลวงพ่อคุณยายไปเรื่อยๆครับ

เเละอธิฐานจิตครับ สำคัญมาก ทำทุกบุญต้องอธิฐานว่า ให้เข้าถึงวิชาธรรมกาย อะไรก็ว่าไปครับ
เเล้วพยายามปลื้มบุญครับ เเบบหลับตาต้องเห็นภาพพระ หรือกำลังถวายปัจจัยก็ว่าไปครับ
เเบบว่านั่งไป นึกหน้าหลวงพ่อเวลาท่านบอกว่า ยิ้มกันหรือยังจ๊ะ ไปครับ
มีความสุข ดี ส่วนองค์ช่างเถอะครับ เดี๋ยวก็ได้ครับ
อนุโมทนาบุญครับ



#7 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1,296 posts
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

Posted 17 October 2008 - 09:00 AM

ก่อนอื่นต้องถามก่อนครับว่า นั่งแต่ละครั้งใช้เวลาเท่าไหร่ ติดละครหรือดูทีวีหรือไม่ ทำงานเครียดหรือเปล่า หากใช้เวลานั่งแค่15-20หรือครึ่งชม.ก็อย่าพึ่งคิดมากครับสำหรับมือใหม่ ขนาดผมนั่งมาหลายปีแล้ว คืนละ2ชม. ยังมืดตื้อมืดมิด มีฟุ้งบ้างอยู่เลยครับ ได้แต่ความสบาย

อยากจะแนะนำอย่างนี้นะครับ คือให้เลิกคิด อยากเห็นองค์พระซะ ยิ่งอยากก็ยิ่งไม่เห็น หากเป็นมือใหม่ให้นั่งเอาสบายอย่างเดียวไปก่อนครับ พิจารณาดูว่าการที่เรามานั่งสมาธิเราได้ความสบายเช่นไร ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเรื่องอื่นใช่ไหม นั่งพิจารณาไปเรื่อยๆให้ใจเราคุ้นและเกิดอารมณ์สบาย เมื่อเราสบายเดี๋ยวใจก็หยุดเองครับ แล้วเดี๋ยวทุกอย่างจะราบรื่นเองครับ อ้อ ที่สำคัญนะครับ ละคร รายการทีวี หากเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะครับ เพราะเรารับความวุ่นวายมาทั้งวันแล้ว อย่าไปเอาเรื่องไร้สาระมาใส่ใจเราเพิ่มขึ้นอีก เพราะไม่งั้นใจไม่มีทางสงบแน่ครับ


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#8 Nu~NamMonz~

Nu~NamMonz~
  • Members
  • 107 posts

Posted 17 October 2008 - 09:56 AM

ตอนแรกๆก็นั่งไม่นานหรอกค่ะ ถ้านั่งเองอย่างมากก็ 15 - 20 นาที
ใจมันไม่ตั้งน่ะค่ะ

แต่เมื่อคืนก่อน พอดีได้ฟังเรื่องจากอนุบาลฝันในฝันวิทยา เรื่องของพระที่ท่านเป็นโรคเก๊าต์น่ะค่ะ ท่านได้นั่งนานถึง 6 ชม. แลวโรคเก๊าต์ก็หายเป็นปลิดทิ้ง จากที่ก่อนหน้านั้นไปหาหมอ หมอบอกว่าจะไม่หายจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต

จากเรื่องนี้ ทำให้ตั้งใจว่าจะทำให้ได้อย่างพระท่าน ก็เลยตั้งใจนั่งให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามฝืนใจตัวเองที่เป็นคนใจร้อน ใจไม่ตั้ง ให้นั่งได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ผลก็คือ คืนก่อน นั่ง (นั่งไปหลับไป) ได้2 ชม.ครึ่งค่ะ
ส่วนเมื่อคืนนี้ นั่งได้ 1 ชม. ค่ะ

แต่อย่างที่บอกว่าก็ยังไม่เห็นอะไรอยู่ดีค่ะ

แต่น่าแปลกมากๆ เพราะคืนแรกที่เริ่มต้นนั่ง ต่อให้เปิดเสียงหลวงพ่อ ก็รู้สึกหงุดหงิดมากๆ ลุกบ้าง ยืดขาบ้าง

พอมาเมื่อคืนนี้ นั่งได้พริ้มเลยค่ะ ไม่มีหงุดหงิดเลย แต่ง่วงซะมากกว่า (- -")

เจ้ามารนี่มันคงรู้ว่าเราแพ้เรื่องง่วง ก็เลยเล่นเราเรื่องง่วงเลย

คืนนี้ก็เลยกะว่าจะเริ่มนั่งตั้งแต่หัวค่ำ จะได้ไม่ง่วง จะทำสถิติ นั่งให้ได้ซัก 3 ชม.เลยค่ะ

สู้ตาย happy.gif



หนูชื่อ "น้องคิดดี" ค่ะ ^_^

#9 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 posts

Posted 17 October 2008 - 10:21 AM

ดิชั้นนั่งมาเกือบ 10ปี ก็ใจหยุดถึงจะเห็น ส่วนใหญ่ใจไม่หยุดก็มืดสนิท ถามตัวเองก่อนว่าเราทำใจหยุดนิ่งสนิทได้จริงไหมแล้วเราก็จะรู้คำตอบ อย่าใจร้อนธรรม เป็นของเย็น ถ้าไม่เย็นไม่สบาย ไม่เห็นธรรมค่ะ

#10 ณนนท์

ณนนท์
  • Members
  • 57 posts

Posted 17 October 2008 - 12:12 PM

ลองวิธีนี้ดูก็ได้นะครับ
Download เสียงหลวงพ่อนำนั่งสมาธิมาฟัง
จะทำให้เราเข้าใจว่าเราผิดพลาดตรงไหน
http://www.kalyanami...ing.asp?catid=2
เลือกไฟล์ที่สั้นๆประมาณ 15-20 นาทีก่อนครับ

#11 เตรียมอนุบาล

เตรียมอนุบาล
  • Members
  • 33 posts

Posted 17 October 2008 - 02:12 PM

ขอบคุณทุกๆกระทู้ รวมถึงเจ้าของกระทู้ครับ ได้ประโยชน์มากเลยครับ happy.gif

#12 จอมเทพ

จอมเทพ
  • Members
  • 466 posts

Posted 17 October 2008 - 10:12 PM

คุณ Numonz ครับ

เห็นไม่เห็นมันไม่เห็นจะเป็นไร

เห็นไม่เห็นอย่าใส่ใจจะได้ไหม

เห็นไม่เห็นเราเท่านั้นที่เข้าใจ

เห็นไม่เห็นไม่มีใครเขาว่าคุณ


ถ้าอยากเห็นจะไม่เห็นอย่างที่อยาก

ถ้าไม่อยากอาจไม่ยากอย่างที่ลุ้น

ถ้าอยากเห็นไม่ยากหรอกแค่ลงทุน

อย่าไปลุ้นอย่าไปเร่งจะเจ๋งเอง



เฉย นะลูก เฉยๆไว้ พ่อพร่ำบอก

พ่อบอกผ่านDMCจนจะเจ้ง

หวังให้ลูกนั่งธรรมะไม่ตัวเกร็ง

มันจะเจ๋งได้อย่างไรลูกไม่ทำ




กุญแจวิเศษ

กุญแจวิเศษ

#13 VCO

VCO
  • Members
  • 322 posts

Posted 18 October 2008 - 03:03 AM

ไม่ได้มีคุณคนเดียวหรอกค่า..... smile.gif
ดิฉันชอบคำพูดของหลวงพ่อที่ว่า ยิ่งมืดยิ่งดึก ยิ่งดึกยิ่งใกล้สว่าง
ดิฉันใช้คำพูดนี้มาเป็นกำลังใจให้ตนเองตลอดค่ะ


#14 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1,340 posts
  • Location:Ladkrabang

Posted 27 October 2008 - 09:41 PM

ได้อ่านข้อความแล้ว ก็ขอเดาว่า เจ้าของกระทู้ คงนั่งสมาธิ มายังไม่ถึงปีแน่ๆ เลย

ถ้ายังเพิ่งนั่งได้ ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ ที่ยังนั่งมืด ขนาดคนนั่งมาหลายปี แล้ว หลายๆ ก็ยังมืดอยู่เลย

สำหรับดิฉัน นั่งมา 5 ปีแล้ว

และเพิ่งนั่งอย่างจริงจัง คือพยายามนั่งทุกๆ วัน และวันละหลายนาที ก็เพิ่งจะ ประมาณ ปีนึงได้ (แต่ก็ยังไม่ได้ทุกวัน)

จนตั้งใจว่า วันละอย่างน้อยหนึ่่งชม. โดยที่ไม่ลุกจากที่ ก็ประมาณ สองสามเดือนที่ผ่านมาได้
จากมืดตื้อมืดมิด ตอนนี้ดิฉันสว่างแล้วค่ะ

อยากถามเจ้าของกระทู้ว่า นั่งมามากน้อยแค่ไหน? ถ้าเพิ่งนั่ง ก็อย่าเพิ่งท้อใจไปเลยค่ะ มีคนอีกมากมาย ที่ยังนั่งมืดมิด แต่ท่านเหล่านั้นไม่เคยท้อเลย เพราะมั่นใจว่าสักวันเราก็จะเป็นผู้สว่าง


คุณยาย ยังนั่งตั้งสองปี กว่าจะได้ดวงธัมฯ (โดยแอบนั่งในห้องพระ ประมาณ วันละ 10-20 นาที แต่ใจยายรักธรรมะมากๆ) ---ถ้าจำข้อมูลผิดก็ขออภัยด้วยค่ะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป