ขอถามเรื่องการนั่งสมาธิ
#1
Posted 23 October 2008 - 07:15 PM
คือผ่านไปยังฐานต่อไปอะครับ
แล้วที่ว่าเห็นดวงจิตนั้นเป็นยังไงครับ
(ขออภัยหากไม่เข้าใจคำถาม เพราะผม งง งง)
#2
Posted 23 October 2008 - 08:18 PM
แต่ว่าความรู้สึกเบื้องต้น น่าจะรู้สึกว่ามีความสุขเหมือนกันนะคะ หากว่านั่งถูกวิธี
ยังไงก็รอผู้รู้มาตอบละกันค่ะ
แต่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ คิดว่าไม่สำคัญเท่ากับนั่งแล้วรู้สึกมีความสุขค่ะ
เพราะว่าหากกังวลกับเรื่องนี้มากๆ การนั่งอาจจะทำให้ตึงได้ค่ะ
#3
Posted 23 October 2008 - 08:43 PM
ทำดีต้องทำจริง ต้องตัวจริงเท่านั้นที่ทำได้
และนั่นคือพวกเรา ได้รวมพลังยิ่งใหญ่
เป็นดาวแห่งความดี ต้องดีจริงต้องตัวจริง
#4
Posted 23 October 2008 - 09:08 PM
ธรรมชาติของจิตคนเรา มันซัดส่ายไปมาหาที่เกาะที่จับได้ยากครับ การทำสมาธิก็คือการฝึกเพื่อให้ใจมันหยุดนิ่ง โดยใช้บริกรรมนิมิต(นึกภาพ) หรือบริกรรมภาวนา(ท่อง) เป็นเครื่องรวมใจของเราให้หยุดนิ่ง การฝึกสมาธิภาวนา ไม่ว่าจะวิธีใหนๆ ก็เพื่อให้ใจรวมหยุดนิ่งทั้งนั้น เมื่อจิตหยุดนิ่งแล้ว ก็มีระดับของการหยุดนิ่งเข้าไปอีก เรียกระดับของความหยุดนี้ว่า ฌาน เช่น ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยะฌาน หรือจตุฌาน ฯลฯ
แต่พระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา ท่านค้นพบสิ่งที่มากกว่านั้น เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนเหล่าสาวกเอาไว้เมื่อครั้งพุทธกาล คือการเอาใจที่หยุดนิ่งรวมตัวได้แล้ว น้อมเอามาหยุดลงไปที่ศูนกลางกายของเรา คือเหนือสะดือขึ้นมา2นิ้วมือ ซึ่งจดศูนกลางกายตรงนี้ เป็นจุดกึ่งกลางทั้งหมดของร่างกาย เป็นจุดศูนถ่วงของร่างกายเรา หรือที่เรียก่าCenter of gravity หรือที่พระพุทธเจ้าท่านเรียกว่า มัฌชิมาปฏิปทา
เมื่อหลวงปู่ท่านค้นพบคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า ท่านจึงหยุดใจต่อไป หยุดในหยุดไปที่ศูณกลางกายแห่งนั้น ท่านก็พบว่า ในกายของเรานี้มันมีดวงจิตดังเดิมแท้ของเรา มีสภาพเป็นดวงใสเป็นแก้วประภัสร ซึ่งท่านพบว่าเป็นดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายมนุษของเรา ไม่มีดวงนั้นก็ไม่มีชีวิต และหยุดต่อไปในกลางของกลางดวงจิตนั้นๆอีกหลายดวง ที่มีชื่อมีหน้าที่ เรียกต่างกันไป ก็พบกายซ้อนกันอยู่หลายกาย แต่ละกายก็มีดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายนั้นๆอยู่เป็นชุดๆเถาๆไป จนสุดตลอด กระทั่งถึงกายสุดท้าย ที่เรียกว่า กายธรรมอรหัตผล ในที่สุด
ส่วนเรื่อง ฐาน ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ฐานของจิตแต่ละฐานเป็นที่ตั้งเป็นทางผ่านของดวงจิตของเรา แต่ที่สำคัญที่สุดคือฐานที่7ครับ
#5
Posted 23 October 2008 - 09:24 PM
Attached Files
#6
Posted 24 October 2008 - 12:34 AM
เพิ่งหัดนั่งสมาธิได้ไม่นาน
1.บางวันนั่งได้นิ่ง ๆ เห็นแต่ความมืด ใจไม่คิดอะไร หรือคิดอะไรแล้วจำไม่ได้ ตัวชา ๆ เหมือนหลับ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่ามารู้สึกตัวอีกที ก็ออกจากสมาธิ
2.แต่วันที่คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ล้านแปด พยายามไม่คิด ก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ เป็นภาพอดีต มาต่อ ต่อ ต่อ ต่อ ให้เห็นในความมืด แต่ท่อง สัมมาอะระหัง ช้า ๆ ได้ต่อเนื่องนะคะ จนออกจากสมาธิ
เท่าที่หัดนั่งมา เป็น 2 แบบนี้ ตลอด
ควรปรับปรุงอย่างไรเพิ่มเติมดีคะ
หัดนั่งมา ได้ไม่ถึง 2 เดือนค่ะ ขอบคุณค่ะ
#7
Posted 24 October 2008 - 10:03 AM
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#8
Posted 24 October 2008 - 11:52 AM
พระอาจารย์ท่านเคยสรุปให้ฟังว่า ความฟุ้งที่เกิดจากเวลานั่งสมาธิมีหลายแบบครับ
1. เขาเรียกว่า ฟุ้งแหลก คือ จิตมีเรื่องให้คิดล้านแปด ถ้าเป็นแบบนี้ ท่านแนะนำว่า ให้เปลี่ยนอิริยาบถ คือ ลุกไปดื่มน้ำดื่มท่า ปล่อยใจให้สบายๆ นำเสื้อผ้าหลวมๆ มาใส่ แล้วลองมานั่นใหม่อีกทีน่ะครับ
2. เขาเรียกว่า ฟุ้งซ่านและฟุ้งน้อย คือ จิตมีเรื่องคิดไม่มาก ถ้าอย่างนี้ให้ประคองใจไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดีเอง
#9
Posted 24 October 2008 - 12:48 PM
ระวังป้องกัน นิวรณ์5...ไว้...
- หมั่นฝึกอินทรีย์สังวร สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจ...พัฒนาสติ ยกระดับเป็นมหาสติ
- รู้จักประมาณในการกิน...อิ่มเกินไปนั่งแล้วจะง่วง ฟุ้งซ่าน หิวเกินก็จะโหยทรมานสังขาร
- ทำงานไม่คั่งค้าง(ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง)...มิฉะนั้นเวลานั่งสมาธิจะมีเครื่องกังวล จัดตารางเวลาทางโลก-ทางธรรมให้ลงตัวพอดี
Attached Files
#10
Posted 24 October 2008 - 05:31 PM
จะไปฝึกเพิ่มค่ะ
จะลดอาหารด้วยค่ะ
ขออนุญาตถามเพิ่มค่ะ
มีคนรู้จักกัน
เขาเวลาทำจิตนิ่ง ๆ ตัวจะโยก ๆ
มีความหมายไหมคะ
แก้ได้ไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
#11
Posted 24 October 2008 - 06:48 PM
คือผ่านไปยังฐานต่อไปอะครับ
แล้วที่ว่าเห็นดวงจิตนั้นเป็นยังไงครับ
(ขออภัยหากไม่เข้าใจคำถาม เพราะผม งง งง)
วางใจนิ่งๆ ที่072 อย่างสบายๆ เท่านั้น คือวิธีเดียว
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านยืนยันเสมอ
..ไม่มีวิธีอื่นใดอีก
คิดไม่เห็น เห็นไม่คิด พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
ท่านมักกล่าวเสมอ
ก็หมายถึงว่า เมื่อใจเราละเอียดเท่าใด
เราก็จะรู้ ได้เท่านั้น
เห็นภาพ ก็จะไม่สงสัย เอง
ที่ถาม เพราะยังไม่เห็นน่ะจ้ะ
ไม่ต้องงงจ้ะ
ฝึกไปเถิด ..วันนึงจะไม่ถาม
เขาเวลาทำจิตนิ่ง ๆ ตัวจะโยก ๆ
มีความหมายไหมคะ
แก้ได้ไหมคะ
ก็เป็นอาการปกติ นะจ๊ะ ของบางคน ที่ใจเริ่มละเอียด
เดินทางถูกแล้ว อย่ากังวล ทำต่อไปจะดีขึ้น ละเอียดขึ้น
เห็นอะไร รู้สึกอะไร วางใจนิ่งๆ ที่072
ให้ทำเฉยๆ ดูสักแต่ดู
#12
Posted 27 October 2008 - 08:03 PM
ช่่วยตอบแบบนี้แล้วไม่รู้ว่าตรงคำถามหรือไม่
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป