Jump to content


Photo
- - - - -

นมัสการหลวงพ่อ และเรียนผู้ใจบุญ มีปัญหาทุกข์ใจค่ะ


  • You cannot start a new topic
  • Please log in to reply
11 replies to this topic

#1 usr27446

usr27446
  • Members
  • 6 posts

Posted 14 December 2008 - 08:31 PM

นมัสการหลวงพ่อ และเรียนผู้ใจบุญ ทั้งหลาย มีปัญหาทุกข์ใจค่ะ
คือว่าดิฉันเพิ่งได้เสียพ่อไป ในคืนวันที่พ่อเสีย ฉันได้ไปหาพ่อประมาณสามทุ่มครึ่งกว่า ๆ ได้ ตอนนั้นฉันมาด้วยใจที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมกับซื้อผัดไท 2 ห่อ และผัดซีอิ๊ว อีก 1 ห่อ มาให้พี่สาว กับพี่เขยทาน ส่วนผัดซีอิ๊ว ดิฉันทานเอง แล้วก็กะว่าให้พ่อกินบ้าง ตอนนั้นดิฉันเข้าไปหาท่าน ท่านนอนหลับอยู่ ดิฉันก็สะกิด ท่าน 2 -3 ที ท่านก็ตื่น ท่านตื่นมาด้วยความรู้สึกดี หน้าตาผ่องใส บอกว่าวันนี้ได้ออกกำลังกาย คือ ถอนหญ้าหน้าบ้าน ทั้งวัน ดิฉันก็บอกพ่อว่า โถ่ทำอีกแล้วเดี๋ยวก็เหนื่อยหรอก (อืมม คือว่าพ่อของดิฉันเป็นโรคหัวใจ แล้ว ก็ทำบอลลูนมากว่า 10 ปี และก็เพิ่งทำบายพาสมาได้ ปี กว่า ๆ ดิฉันเคยห้ามไม่ให้ท่านทำงานหนัก แต่ท่านก็ไม่ยอม เดี๋ยวให้อยู่เฉย ๆ ก็ไม่ดี ถ้างั้นก็เลยบอกท่านไปว่า ทำได้ แต่อย่าหักโหมนะ เพราะตลอดเวลาหลังจากทำบายพาสมา ท่านเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นว่าเล่น )
พอเห็นพ่อยิ้มหน้าตาสดใส ก็ชวนกินผัดซีอิ๊วด้วยกัน ซึ่งการกินตอนดึก ๆ สัก 3 -4 ทุ่ม เป็นเรื่องปกติของพ่อ เพราะบางทีเขาหิวก็จะหาอะไรให้ทาน แต่คืนนั้นทานไปได้ 4-5 คำ ก็บอกว่าพอแล้ว ก็โอเค ดิฉันว่าก็น่าจะพอแล้ว แล้วก็ให้ท่านทานน้ำ แล้วสักพักก็หลับไป อืม ตอนนั้นก็มีพี่สาวเข้ามานั่งทานด้วยกัน คุยกันสนุกสนาน พร้อมหลานอีกคนด้วย มีความสุขมาก
แต่พอได้สักประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ ดิฉันก็หลับสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงหายใจของพ่อดัง ครือ ๆ ก็ตกใจ สะกิดพ่อ ก็ไม่รู้ตัว ด้วยความตกใจ ก็รีบไปหาพี่สาว ว่าพ่อแย่แล้ว ตอนมาเห็นท่านดร็อปไปนิดนึง พี่สาวก็ช่วยทำ CPR ขั้นพื้นฐานให้ คือนวดหัวใจและเป่าปากให้ ตอนนั้นฉันโกลาหลมาก และบอกพี่เขย และญาติข้างบ้าน ให้รีบออกรถด่วน สัก กี่นาทีไม่รู้ แต่ก็เร็วมาก พอถึงรพ. หมอก็ช่วยเต็มที่ ประมาณ ครึ่งชม. หมอก็ออกมาบอกว่า ที่คนไข้หายใจได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ แต่ไม่ตอบสนองแล้ว พ่อเสียแล้ว
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันเร็วมาก ๆ ดิฉันไม่อยากเชื่อเลย แต่มันเกิดขึ้นแล้ว และก่อนหน้านี้พ่อก็บอกว่า พ่ออาจไปเมื่อไหร่ก็ได้ ดิฉันก็บอกพ่อไปว่าไม่เอาไม่พูดนะ ดิฉันทุกข์ใจว่า ถ้าดิฉันไม่ปลุกท่านมาทาน ซึ่งมันจะมีส่วนในกระบวนการทำงานเผาผลาญหรือป่าว ทำให้ท่านต้องไปเร็ว อืมม พ่ออายุ 78 กว่า ๆแล้ว ค่ะ ดิฉันทุกข์ใจมากค่ะ นอนไม่หลับ แต่ก่อนไม่เคยสวดมนต์ก่อนนอนเลย แต่พอพ่อเสีย ก็พึ่งสวดมนต์ตลอด รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง บางทีก็ฝันถึงท่าน ว่าท่านจากไปโดยที่ท่านไม่รู้ตัว แต่บางทีช่วงที่ช่วยเหลือท่านตอนทำนวดหัวใจ เป่าปาก ท่านจะรู้ไหมคะ ตอนท่านเสียตาซ้ายท่านเปิด นิด ๆ มีน้ำตาด้วย ตอนนี้ท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ และทุกวันนี้ตั้งแต่ท่านเสีย ก็จะตักบาตร และอธิษฐานให้ และกรวดน้ำให้ท่านตลอดค่ะ
อืมม และในวันที่ 5 ธ.ค. นี้ ดิฉันก็ได้หลับตอนช่วงใกล้ เที่ยงฝันถึงท่าน ว่าได้เจอท่าน ท่านยิ้ม ในฝันฉันบอกว่าไปว่า อ่าว ป๊าไปแล้วนี่ ท่านก็ยิ้ม ดิฉันจับมือท่านดีใจมาก และในฝันนั้นก็มีพระกำลังสวดมนต์อยู่ ก็อำลากับพ่อว่า ไปฟังพระสวดมนต์นะ พ่อก็ลาเหมือนไปฟังพระสวดมนต์ ค่ะ
มันเกิดอะไรขึ้นกับดิฉันค่ะ ดิฉันทำผิดไหมคะ บางทีดิฉันก็กลัว บางทีก็อยากจะเจอท่าน แต่ก็กลัว ไม่รู้จะพึ่งอะไร ก็นึกถึงพระ สวดมนต์ และดู DMC ทุกวันค่ะ ก็เริ่มทำให้คลายความกังวลได้ แต่สิ่งลึก ๆ ก็ยังคาใจอยู่ นมัสการหลวงพ่อและผู้ใจบุญ ช่วยตอบคลายปัญหาให้ดิฉันหน่อยนะคะ ขอบคุณมาก ๆๆ ค่ะ

#2 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 posts
  • Gender:Male

Posted 14 December 2008 - 08:51 PM

ดูจากที่เล่ามา รู้สึกคุณพ่อจะไปดีนะครับ ไม่ต้องทรมานมาก แล้วลูกหลานก็อยู่กันใกล้ๆ สร้างความเบิกบานให้กับท่านก่อนจากไป อายุ 78 ก็เกินกว่าอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ยุคนี้แล้วครับ ถือว่าอายุยืน เพราะฉะนั้นอย่าทุกข์ใจไปเลยครับ สิ่งที่ทำได้เวลานี้ก็คือ ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อุทิศบุญกุศลไปให้ท่านนะครับ

#3 justmin

justmin
  • Members
  • 132 posts
  • Gender:Female

Posted 14 December 2008 - 09:59 PM

ถูกต้องอย่างที่คุณ Dhamma Bot กล่าวไว้แล้วค่ะ อย่าทุกข์ใจไปเลยเราทำดีที่สุดแล้ว การพลัดพลาดจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ เกิด มีอยู่ และดับไป เป็นของธรรมดาค่ะ ก่อนหน้านี้ก็พบปัญหาเช่นเดียวกับคุณคือได้สูญเสียคุณพ่อแบบคาดไม่ถึงเหมือนกัน ที่พึ่งที่ดีที่สุดคือพระรัตนตรัยในตัวของเราเองค่ะ ทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนา สม่ำเสมอ อุทิศส่วนกุศลให้ท่านบ่อยๆให้มีทิพยสมบัติได้ใช้สอยบริบูรณ์ สุขคติมีที่ไปค่ะ...

#4 usr27446

usr27446
  • Members
  • 6 posts

Posted 14 December 2008 - 10:07 PM

ขอขอบคุณทุกๆคำตอบค่ะ ขอบคุณที่ให้กำลังใจค่ะ แล้วจะปฏิบัติตามที่บอกค่ะ

#5 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2,477 posts
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

Posted 14 December 2008 - 10:38 PM

คุณพ่อ ของผมก็จากไปอย่างฉุกละหุก ด้วยโรคหัวใจเหมือนกันครับ

ท่านทรมานด้วยอาการเสียดแน่นอก
แต่เมื่อได้รับการปฐมพยาบาล และนำส่งถึงทีมแพทย์
กระทั่งบรรเทาทุกขเวทนาแล้ว และอาการโดยรวมดีขึ้นแล้ว จองเตียง ห้องพักได้แล้ว
จู่ ๆ ก็ชีพขจรอ่อน ต้องปั๊มหัวใจ สักพักก็วายชนม์

ที่เล่ามานี้ ก็เพราะการตายคุณพ่อของผม อย่างไม่ทันเตรียมใจ คล้ายกับกรณีคุณพ่อเจ้าของกระทู้

จึงขออุทิศบุญกุศลที่ผมกระทำไว้ดีแล้ว ถึงคุณพ่อเจ้าของกระทู้
ให้มีความสงบสุขในสัมปรายภพ ด้วยครับ


ส่วนเจ้าของกระทู้ ก็ควรหมั่นบำเพ็ญกุศล อุทิศบุญ ตอบแทนพระคุณบิดา
อย่างที่กระทำไว้ดีแล้ว ประหนึ่งเกลือ รักษาความเค็ม นะครับ

เพราะการทำความดีใด ๆ เพื่ออุทิศบุญ ตอบแทนพระคุณบิดา อย่างต่อเนื่องเป็นกิจวัตร นิสัย

ตัวเจ้าของกระทู้เอง ย่อมได้รับผลดี
คือ ความสงบใจ คลายกังวล ความทุกข์ทางใจ และความสุข ความเจริญในชีวิต ครับ

ขออนุโมทนาในทุกกุศลกรรมที่เจ้าของกระทู้ กระทำไ้ดีแล้ว ด้วยครับ
Attached File  Sa_Dhu_Anumonatami.gif   22.04KB   57 downloads

ถ้าคุณแม่ ยังอยู่ ดูแลเอาใจใส่ ประหนึ่งท่านเป็นเทวดาในบ้าน พระอริยในบ้าน ด้วยนะครับ

ความกตัญญู กตเวที ต่อบุพการี เป็น เครื่องหมายของคนดี
บุตรทุกคน ควรทำความดีแก่บุพการี ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

มงคลที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=9089

อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ
กตปุญฺโญ อุภยตฺถ นนฺทติ
ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ
ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต . . . ฯ ๑๘ ฯ


คนทำดีย่อมสุขใจในโลกนี้
คนทำดีย่อมสุขใจในโลกหน้า
คนทำดีย่อมสุขใจในโลกทั้งสอง
เมื่อคิดว่าตนได้ทำแต่บุญกุศล ย่อมสุขใจ
ตายไปเกิดในสุคติ ยิ่งสุขใจยิ่งขึ้น

Here he is happy, hereafter he is happy,
In both worlds the well-doer is happy;
Thinking; 'Good have I done', thus he is happy.
Furthermore he is happy,
When gone to the state of bliss.

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#6 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 posts

Posted 14 December 2008 - 10:51 PM

คุณพ่อดิฉันก็ไปอย่างไม่ทันตั้งตัวเช่นกันค่ะ คุณพ่อเป็นเส่นเลือดแดงใหญ่ที่กลางท้องโป่งพอง ถ้าแตก ก็ เสียชีวิตสถานเดียวทันที ดิฉันก็ทราบมานานกว่า 20 ปี จนถึงวันที่ท่านไป ท่านปวดท้อง ( ปวดที่เส้นเลือดใหญ่) พาไปส่งห้องฉุกเฉิน คุยกันอยู่ดีๆ หันหลังมา 5 วินาที หันกลับไปคุณพ่อตาเหลือบขึ้นบน หน้าซีด ปากซีด ตัวซีด ดิฉันก็ทราบโดยทันทีเพราะดิฉันเรียนจบพยาบาลว่าไม่รอดแน่ ก็เรียกหมอซีพีอาร์เลย แล้วบอกหมอว่าขอพี่อยู่ด้วยนะหมอจะทำอะไรทำไป พี่ขอทบทวนบุญให้คุณพ่อพี่ก่อน รีบโทรหาพี่ น้อง แล้วก็เริ่มพรรณนาบุญที่คุณพ่อได้ทำมาส่วนหมอก็ใส่ท่อช่วยหายใจ ดริปยา คุณพ่อก็ยังไม่มีมีชีพจร ดิฉันบอกหมอว่า ขอเวลาอีก 2 ชั่วโมง เดี๋ยวพี่น้องพี่มาไม่ทัน หมออย่าพึ่งหยุดนะ ปั๊มต่อไป ดิฉันจำได้ว่าพูดเรื่องบุญตลอด 2 ชั่วโมงจนเสียงหมดเพราะตะโกนใสหูคุณพ่อเนื่องจากท่านเป็นคนหูตึง แต่มั่นใจว่าคุณพ่อไปดีแน่เพราะทำบุญใหญ่ๆให้ถี่ยิบ
ดิฉันก็เป็นกำลังใจให้คุณ จขกท ด้วยนะคะ เพราะการที่เราพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นเรื่องธรรมดา ทำให้เราสังวรณ์ไว้ว่า ความตายไม่มีนิมิตรหมาย เราหรือใครๆก็อาจ จากเราไปไดอย่างไม่ทันตั้งตัว


#7 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1,296 posts
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

Posted 15 December 2008 - 09:16 AM

จากที่ได้อ่านมาคุณเจ้าของกระทู้คงเป็นกังวลกลัวว่าตัวเองจะทำผิดที่ปลุกท่านใช่ไหมครับ

จากสติปัญญาอันน้อยนิดของผมลองประมวลรวมเคสต่างๆที่ได้เคยรําเรียนมาจากคุณครูไม่ใหญ่ ขอบอกว่าคุณเจ้าของกระทู้ไม่ต้องวิตกครับ เพราะไม่เกี่ยวกับคุณเจ้าของกระทู้เลยแม้แต่น้อย ท่านจากไปก็เพราะถึงเวลาของท่านแล้วนั่นเอง แถมคุณเจ้าของกระทู้ยังได้ปรนิบัติต่อคุณพ่อก่อนท่านเสียจนทำให้ท่านมีความสุขในช่วงชีวิตช่วงสุดท้าย เป็นการแสดงความกตัญญูต่อคุณพ่อเสียอีก ดังนั้นอย่าได้วิตกไปครับ และตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือ ลืมมันไปซะ อย่าให้ใจมีความเศร้าความกังวลใจอย่าให้มันมาปิดกั้นใจ และหมั่นสั่งสมบุญบารมีอุทิศให้คุณพ่อเพื่อให้ท่านได้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในโลกหน้า

คุณจขกท.รู้ไหมครับ ว่าเรื่องของคุณเจ้าของกระทู้ใกล้เคียงกับเรื่องของพระสุมมาสัมพุทธเจ้าเลยทีเดียว ผมขอยกเอามาเปรียบเทียบให้คุณเจ้าของกระทู้ทราบเพื่อความสบายใจของคุณเจ้าของกระทู้นะครับ

เมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใกล้เสด็จดับขันพระปรินิพพาน หลังจากที่พระองค์ทรงประกาศละสังขารแล้ว ในระหว่างที่พระองค์เดินทางไปยังเมืองกุสินารา พระองค์ได้รับบิณฑบาตรจากนายจุนทะกัมมารบุตรซึ่งถือได้ว่าเป็นภัตตาหารมื้อสุดท้ายของพระองค์ ในครั้งนั้นหลังจากพระองค์ทรงฉันภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว ไม่นานได้เกิดประชวรทำให้นายจุนทะกัมมารบุตรกังวลใจกลัวว่าตนจะทำบาปใหญ่ พระองค์จึงทรงปลอบใจนายจุนทะกัมมารบุตรว่าอย่าได้เป็นกังวล และยังบอกนายจุนทะกัมมารบุตรว่าบุญภวายภัตตาหารที่เป็นมหาทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นทานที่ให้บุญมากมี2ครั้งด้วยกันคือ 1. บุญจากการถวายภัตตาหารมื้อแรกก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ของนางสุชาดา (ในตำราหลายเล่มเขียนบอกว่าเป็นอาหารมื้อแรกหลังจากที่พระองค์ตรัสรู้ ส่วนภัตตาหารมื้อแรกก่อนการตรัสรู้เป็นภัตตาหารที่เด็กเลี้ยงโคนำมาถวาย ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากที่พระองค์รับบาตรจากนางสุชาดาจึงทรงอธิษฐานว่าหากพระองค์จะตรัสรู้ขอให้ถาดทองนี้ลอยทวนกระแสนํา ซึ่งเด็กเลี้ยงโคไม่น่ามีถาดทองได้) และ2. คือบุญจากการถวายภัตตาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่พระองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

หากลองเปรียบเทียบดูแล้ว อาหารของคุณจขกท.จึงเปรียบเสมือนเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของคุณพ่อ ผมคิดว่าคุณเจ้าของกระทู้น่าจะได้บุญกตัญญูต่อบุพการีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเสียมากกว่า เพราะฉนั้น อย่าได้เป็นกังวลใจไปเลยครับ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#8 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 posts

Posted 15 December 2008 - 03:05 PM

คุณพ่อของเจ้ากระทู้ เสียชีวิตเพราะหมดอายุขัยครับ ไม่เกี่ยวกับที่ปลุกพ่อมากินข้าวครับ เพราะฉะนั้นอย่ากังวลเป็นทุกข์ใจเลยครับ เพราะเราทำหน้าที่ของลูกดีที่สุดแล้วได้ปรนนิบัติท่านตราบถึงวาระสุดท้ายของชีวิต การฝันถึงท่านก็เป็นิมิตหมายที่ดีที่ฝันเห็นพ่อและเสียงพระสวดมนต์หรือมีจิตผูกพันจึงฝันไปเช่นนั้น ให้เจ้าของกระทู้ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่าได้ขาด และอุทิศบุญกุศลไปให้ท่านครับ เพราะในเวลานี้สิ่งที่ท่านต้องการเพียงอย่างเดียว คือ บุญครับhappy.gif

#9 1081900

1081900
  • Members
  • 16 posts

Posted 15 December 2008 - 05:52 PM

คุณ usr27446
ได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญูค่ะ ดูแลตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
แม้ท่านละโลกไปแล้วก็ยังตอบแทนพระคุณท่าน
ด้วยการทำบุญอุทิศกุศลไปให้ท่าน
จิตที่เป็นกุศลและผูกพันกับคุณพ่อ
จึงฝันบอกเหตุไปในทางที่ดี
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ


#10 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3,579 posts

Posted 16 December 2008 - 04:00 PM

เป็นดังที่คุณสุภาพบุรุษ072กล่าว ท่านหมดอายุขัย ไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจุบันทันด่วนที่ จขกท.เข้าใจ ดังนั้นไม่ว่าจะปลุกท่านหรือไม่ หรือไม่ว่าท่านจะกินผัดซีอิ้ว ผัดไท หรือไม่ ก็ต้องหมดอายุขัย เพราะท่านก็เหมือนกับรู้จึงเตรียมบอกลาทุกๆคนไว้อยู่แล้ว

โดยหลักวิชา คตินิมิต ท่านใสนะ ไปอย่างสงบ แล้วอย่าลืมอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอนะ...สาธุ

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#11 เข้ากลางดีที่สุด

เข้ากลางดีที่สุด
  • Members
  • 64 posts
  • Gender:Male

Posted 16 December 2008 - 11:34 PM

อย่ากังวลไปเลย หมั่นทำบุญ รักษาศีลและเจริญสมาธิส่งบุญไปให้ท่านเยอะๆนั่นแหละคือสิ่งที่ท่านต้องการในตอนนี้และยังทำให้เราสบายใจขึ้นด้วยเพราะบุญเท่านั้นคือที่พึ่งที่แท้จริงของคนเรา

#12 usr27446

usr27446
  • Members
  • 6 posts

Posted 17 December 2008 - 07:08 PM

ขอขอบคุณทุก ๆ คำตอบนะคะ รู้สึกดีขึ้นมากค่ะ และขออนุโมทนาทุกท่าน ให้มีความเจริญ อายุ วรรณะ สุขะ พละ นะคะ