คัดลอกมาจาก
www.thaireaderclub.com
ชีวิตคนเราเมื่อพิจารณาให้ดีแล้ว มันสั้นนัก มีเกิดและดับเป็นธรรมดาโลก
แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นี่ซิ
มนุษย์ผู้มีปัญญาจึงควรที่จะดำรงชีวิตอย่างชาญฉลาด
พระพุทธเจ้าเคยอบรมสั่งสอนมนุษย์ไว้ว่า
ทรัพย์สินที่พึงได้จากการประกอบกิจการงานต่าง ๆ นั้น ควรแบ่งออกเป็น 4 กองเท่า
ๆ กัน
กองแรก เก็บสะสมไว้ใช้ยามขัดสน
กองสอง ใช้จ่ายเพื่อทดแทนผู้มีพระคุณ
กองสาม ใช้เพื่อความสุขส่วนตัว
กองสี่ ใช้เพื่อสร้างสรรค์ความดีงามให้แก่สังคม
แล้วการทำงานของมนุษย์ล่ะ
หลายคนยังมัววุ่นแก่การทำงานโดยไม่ยอมแบ่งเวลาเหลียวหลังมองถึง
บุคคลที่รักและห่วงใยตนเองเลยหรือ???
มนุษย์บางคนทุ่มเวลาทั้งหมดให้แก่หน้าที่การงาน พร้อมกับคิดว่า
การกระทำดังนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
แต่นั่นคือการกระทำที่โง่เขลาเป็นที่สุด
ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน แต่ผู้ใดที่ทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับงาน
โดยไม่ยอมแบ่งปันเวลาให้แก่ผู้ใด
แม้กระทั่งตัวเองเป็นมนุษย์ที่เขลาเบาปัญญาที่สุด บริหารไม่ได้แม้กระทั่งเวลา
24 ชั่วโมงของตัวเองในแต่ละวันแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะบริหารอะไรได้
ทำไมมนุษย์ผู้ชาญฉลาดจึงไม่แบ่งปันเวลาให้เสมือนหนึ่งการแบ่งปันกองเงิน
ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าบ้างเล่า...
ไม่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นสี่กองเท่า ๆ กันหรอก
เพียงแต่แบ่งปันเวลาในแต่ละส่วนให้เหมาะสมเท่านั้น
8 ชั่วโมงสำหรับการทำงาน เพื่อความก้าวหน้ามั่นคงในชีวิต
8 ชั่วโมงสำหรับการพักผ่อน
เก็บเรี่ยวแรงไว้ต่อสู้กับหน้าที่การงานและอุปสรรคในวันพรุ่งนี้
5 ชั่วโมงสำหรับการเดินทาง เพื่อประกอบกิจการต่าง ๆ
2 ชั่วโมงสำหรับโลกส่วนตัวของตนเอง
59 นาที สำหรับดูแลและรักษาความสะอาดของที่อยู่อาศัย และช่วยเหลือสังคม
และ 1 นาทีของคุณ
ที่มอบให้กับคนที่รักและห่วงใยคุณโดยไม่นำเวลาอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเพียง 1 นาทีนี้ มันมีค่ามากเกินกว่าคณานับได้ในความรู้สึกของเขาคนนั้น
จงอย่ากล่าวว่า " ไม่มีเวลา... "
เพราะเวลาเป็นสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดในโลกนี้ที่มีให้แก่มนุษย์
มนุษย์ทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่า ๆ กัน ไม่มีใครมีเวลามาก
และไม่มีใครมีเวลาน้อยไปกว่านี้
24 ชั่วโมงใน 1 วัน ที่มหาเศรษฐี หรือยาจก
มีเท่าเทียมกันไม่ขาดเกินแม้แต่เศษเสี้ยวของวินาที
ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ผู้ใดที่กล่าวว่า " ไม่มีเวลา "
จึงเป็นผู้ล้มเหลวในการบริหารเวลา 24 ชั่วโมง
ในแต่ละวันของตนเองอย่างสิ้นเชิง และใช้คำว่า " ไม่มีเวลา "
เป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกปิด ความล้มเหลวเรื่องเวลาของตนเองอย่างขลาดเขลา
มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต
จึงไม่ใช่ผู้ที่เก่งแต่การทำงานอย่างเดียว
แต่มนุษย์ผู้ฉลาดและประสบความสำเร็จในชีวิต
ต้องเป็นผู้ที่รู้จักแบ่งสัดส่วนเวลาวันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ได้อย่างลงตัว
วันละ 24 ชั่วโมงของตนเอง ที่มีไว้สำหรับการทำงาน การพักผ่อน การเดินทาง
มิตรภาพ ความรัก ความอบอุ่น ความห่วงใย ความเอื้ออาทร ฯลฯ
โดยไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต
นี่แหละ คือมนุษย์ผู้ชาญฉลาดที่รู้จัก " ใช้เวลา "
แล้ววันนี้..คุณจะยังอ้างเหตุผลว่า
" ไม่มีเวลา " อีกหรือ?
ไม่มีเวลา ไม่มีในโลก
Started by Pro, Jan 15 2006 12:36 PM
5 replies to this topic
#1
Posted 15 January 2006 - 12:36 PM
#2
Posted 15 January 2006 - 12:52 PM
พอๆกับ
ไม่ได้ไม่ีมี ไม่มีไม่ได้ ต้องได้ให้ดี ต้องดีให้ได้ และดีกว่าดีที่สุด
คติประจำใจผม เอง
ไม่ได้ไม่ีมี ไม่มีไม่ได้ ต้องได้ให้ดี ต้องดีให้ได้ และดีกว่าดีที่สุด
คติประจำใจผม เอง
#3 *ผู้มาเยือน*
Posted 15 January 2006 - 05:16 PM
อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
dangdee
dangdee
#4
Posted 15 January 2006 - 06:21 PM
ผมเคยทราบมาว่า..การบริหารทรัพย์ให้แบ่งเป็น 4 หมวด ดังนี้ครับ
1.ใช้หนี้...คือให้นำทรัพย์ไปใช้เจ้าหนี้อย่าไปคั่งค้างเดี๋ยวจะติดกรรมกัมไป
2.ปล่อยกู้..นำไปประกอบสัมมาอาชีพ ให้งอกเงย
3.ทิ้งลงเหว...ไปซื้อข้าวปลาอาหาร ปัจจัยสี่
4.ฝังดิน...ให้ทาน..
ผิดถูกอย่างไร..แนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ
อนุโมทนาบุญครับ...
1.ใช้หนี้...คือให้นำทรัพย์ไปใช้เจ้าหนี้อย่าไปคั่งค้างเดี๋ยวจะติดกรรมกัมไป
2.ปล่อยกู้..นำไปประกอบสัมมาอาชีพ ให้งอกเงย
3.ทิ้งลงเหว...ไปซื้อข้าวปลาอาหาร ปัจจัยสี่
4.ฝังดิน...ให้ทาน..
ผิดถูกอย่างไร..แนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ
อนุโมทนาบุญครับ...
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#5
Posted 15 January 2006 - 10:25 PM
QUOTE
1.ใช้หนี้...คือให้นำทรัพย์ไปใช้เจ้าหนี้อย่าไปคั่งค้างเดี๋ยวจะติดกรรมกัมไป
2.ปล่อยกู้..นำไปประกอบสัมมาอาชีพ ให้งอกเงย
3.ทิ้งลงเหว...ไปซื้อข้าวปลาอาหาร ปัจจัยสี่
4.ฝังดิน...ให้ทาน
2.ปล่อยกู้..นำไปประกอบสัมมาอาชีพ ให้งอกเงย
3.ทิ้งลงเหว...ไปซื้อข้าวปลาอาหาร ปัจจัยสี่
4.ฝังดิน...ให้ทาน
เคล็ดวิชาเยี่ยมมากเลยครับ โมทนาบุญด้วยครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#6
Posted 16 January 2006 - 02:06 AM
ที่พูดๆ กันว่า ไม่มีเวลาน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก เป็นเพราะ เราให้ความสนใจ/ให้เวลากับสิ่งอื่น (นอกตัว) มากเกินไป แต่ให้ความสนใจ/ให้เวลากับสิ่งที่ควรสนใจ (ภายใน) น้อยกว่า จึงกล่าวว่า "ไม่มีเวลา"