ผมดูเเล้วรู้สึกปลื้มมากมาย รุ่นแรกๆนี่ คง สนุกกันน่าดูนะครับเนี่ย แล้วทุกคนที่ดูรู้สึกอย่างไรมาเเชร์กันครับ ....
วันนี้ใครได้ดู mv ของธรรมทายาทปี2530บ้างครับ......
Started by Daemusin, Jan 22 2010 10:06 PM
5 replies to this topic
#1
Posted 22 January 2010 - 10:06 PM
คนที่ไม่มีปัญหาคือคนที่ไม่ได้ทำ
#2
Posted 23 January 2010 - 10:40 AM
สมัยอบรมธรรมทายาท ก็ได้ดูช่วงปฐมนิเทศ เจ้าหน้าที่จะฉายรุ่นบุกเบิกเหมือนกันครับ
เช่นพายุมา เหล่าธรรมทายาท ต้องช่วยกันจับกลด กลางทุ่งน่า
กลดบางหลังก็ปลิวไปกับกระแสลมและฝนบ้าง จะเห็นความอดทนความเพียรของเหล่าธรรมทายาท
มีการเดินธุดงค์ ดูแล้วรู้สึกประทับใจ
รุ่นผม หลังฝึกร่างกายที่เขาชนไก่จะเดินทางไกลไปเพื่อปลงผม ที่วัดถ้ำพุหว้า ระยะทางประมาณ30กิโลเมตร
ยิ่งช่วงใกล้ถึงวัดยิ่งต้องหมดแรงเพราะทางขึ้นเขาชันมาก แต่พอเจอวัดกลางป่าที่งดงาม จิตใจยิ่งฟูฟ่อง
เพราะวัดสวยงามน่ารื่นรมมากทีเดียวครับ
เดินตั้งแต่ ตี 4 ถึง 12.00 พอดี ระหว่างทาง จะเจอชาวบ้านในป่า มาร่วมอนุโมทนบุญตลอด2ข้างทาง
พอถึงวัดถึงได้ทราบว่าฝนพันปีเป็นอย่างไร
สำหรับรุ่นผม จะเป็นรุ่นขุดถ้ำครับเพื่อใช้ถ้ำสร้างโบสถ์ ต้องช่วยกันขุดถ้ำทั้งคืน บางคืนแทบไม่ได้นอน
บางคืนนอน ๆ อยู่ซักเที่ยงคืนถึงตี 2 น้ำท่วมกลด จนต้องนั่งหลับแช่น้ำฝนในกลดกันเลย
บางคนปักกลดช่องน้ำไหลพอดี เจอกระแสน้ำจนกลดล่ม
รุ่นผมไม่แน่ใจว่าเป็นปีเดียวหรือเปล่าที่ธรรมทายาทต้องฝึกตัวต่างสถานที่
คือใช้สถานที่ วัดถ้ำพุหว้าเป็นวัดป่าบนยอดเขา จ.กาญ ฝึกตัวแล้วกลับมาที่วัดพระธรรมกายช่วงใกล้บวช
บริเวณที่ใช้อบรมจะเป็นยอดเขาที่พื้นไม่สม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยเกล็ดหินเล็ก ๆ
หลังจากปลงผมแล้วต้องมีการถอดรองเท้า เดิน ผลคือถ้าเดินไม่ระวังก็โดนเกล็ดหินทิ่ม
เพราะหินจะมีลักษณะเล็กและแหลมมาก ผมโดนประจำ อาจจะเป็นคนเนื้อบางก็ได้ ต้องค่อย ๆ ดึงหินที่เท้าออกอย่างระมัดระวัง
บางครั้งเลือดก็ออกมาซิบ ๆ
สำหรับบรรยากาศดีมากครับป่าเขาลำเนาไพรเหมาะแก่การปฎิบัติธรรม อาจมีเสียงไก่แจ้ขันบ้างเวลานั่งสมาธิ
นึกซะว่าเป็นเศษกรรมที่เราทำมาในอดีต
ยังอยู่ในความทรงจำผมเสมอครับคิดถึงเมื่อ คิดถึงเมื่อไหร่ก็ปลื้มแสนปลื้มครับ
ถ้าหากจะให้เขียนผมคิดว่ามีเรื่องมากมายเลยหล่ะครับ
ความทรงจำจากการฝึกฝนตนเองก่อนและหลังบวช
เช่น เรื่องที่ต้องกลั้นน้ำตาของกลุ่มธรรมทายาทที่วัดถ้ำพุหว้า
จากเพื่อนธรรมทายาทเพิ่งเรียนจบ วิศวที่ มช. หนีพ่อแม่มาบวช และพ่อแม่กับญาติอีกรถตู้มาตามไม่ให้บวชอีก หนีมาครั้งนี้ครั้งที่ 3
ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งเกือบจะถึงวันบวชอยู่แล้ว เพื่อนที่ประพฤติดีและตั้งใจมาตลอดต้องจากไป
โดยไปเก็บกลดตนเองและเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยความเศร้าโศก
หลังจากนั้นก็ไปขอคุณพ่อคุณแม่มากล่าวลา เพื่อนที่กลุ่มธรรมทายาทและพระพี่เลี้ยงด้วยความอาลัย
ทุกคนต้องกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่มีใคร ต้านทาน ต่อความอาลัยนี้ได้แม้แต่ พระพี่เลี้ยง
หลังจากนั้นก็ได้พบกับเพื่อนอีกครั้ง ที่หลังโบสถ์ยืนประนมมือร้องไห้สงบนิ่งด้วยชุดขาว
โดยเหล่าธรรมทายาทกำลังเวียนประทักษิณเพื่ออุปสมบท
เป็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจมากว่า การบวชไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้อย่างง่าย เลย
การบวชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
ฉะนั้นแสนรูปนี้จะเป็นแสนรูปที่ยิ่งใหญ่และเป้นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
แต่ก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ด้วยบุญและบารมีของทุกท่านที่ได้ช่วยกัน
อนุโมทนาบุญครับ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชายครับ
เช่นพายุมา เหล่าธรรมทายาท ต้องช่วยกันจับกลด กลางทุ่งน่า
กลดบางหลังก็ปลิวไปกับกระแสลมและฝนบ้าง จะเห็นความอดทนความเพียรของเหล่าธรรมทายาท
มีการเดินธุดงค์ ดูแล้วรู้สึกประทับใจ
รุ่นผม หลังฝึกร่างกายที่เขาชนไก่จะเดินทางไกลไปเพื่อปลงผม ที่วัดถ้ำพุหว้า ระยะทางประมาณ30กิโลเมตร
ยิ่งช่วงใกล้ถึงวัดยิ่งต้องหมดแรงเพราะทางขึ้นเขาชันมาก แต่พอเจอวัดกลางป่าที่งดงาม จิตใจยิ่งฟูฟ่อง
เพราะวัดสวยงามน่ารื่นรมมากทีเดียวครับ
เดินตั้งแต่ ตี 4 ถึง 12.00 พอดี ระหว่างทาง จะเจอชาวบ้านในป่า มาร่วมอนุโมทนบุญตลอด2ข้างทาง
พอถึงวัดถึงได้ทราบว่าฝนพันปีเป็นอย่างไร
สำหรับรุ่นผม จะเป็นรุ่นขุดถ้ำครับเพื่อใช้ถ้ำสร้างโบสถ์ ต้องช่วยกันขุดถ้ำทั้งคืน บางคืนแทบไม่ได้นอน
บางคืนนอน ๆ อยู่ซักเที่ยงคืนถึงตี 2 น้ำท่วมกลด จนต้องนั่งหลับแช่น้ำฝนในกลดกันเลย
บางคนปักกลดช่องน้ำไหลพอดี เจอกระแสน้ำจนกลดล่ม
รุ่นผมไม่แน่ใจว่าเป็นปีเดียวหรือเปล่าที่ธรรมทายาทต้องฝึกตัวต่างสถานที่
คือใช้สถานที่ วัดถ้ำพุหว้าเป็นวัดป่าบนยอดเขา จ.กาญ ฝึกตัวแล้วกลับมาที่วัดพระธรรมกายช่วงใกล้บวช
บริเวณที่ใช้อบรมจะเป็นยอดเขาที่พื้นไม่สม่ำเสมอ และเต็มไปด้วยเกล็ดหินเล็ก ๆ
หลังจากปลงผมแล้วต้องมีการถอดรองเท้า เดิน ผลคือถ้าเดินไม่ระวังก็โดนเกล็ดหินทิ่ม
เพราะหินจะมีลักษณะเล็กและแหลมมาก ผมโดนประจำ อาจจะเป็นคนเนื้อบางก็ได้ ต้องค่อย ๆ ดึงหินที่เท้าออกอย่างระมัดระวัง
บางครั้งเลือดก็ออกมาซิบ ๆ
สำหรับบรรยากาศดีมากครับป่าเขาลำเนาไพรเหมาะแก่การปฎิบัติธรรม อาจมีเสียงไก่แจ้ขันบ้างเวลานั่งสมาธิ
นึกซะว่าเป็นเศษกรรมที่เราทำมาในอดีต
ยังอยู่ในความทรงจำผมเสมอครับคิดถึงเมื่อ คิดถึงเมื่อไหร่ก็ปลื้มแสนปลื้มครับ
ถ้าหากจะให้เขียนผมคิดว่ามีเรื่องมากมายเลยหล่ะครับ
ความทรงจำจากการฝึกฝนตนเองก่อนและหลังบวช
เช่น เรื่องที่ต้องกลั้นน้ำตาของกลุ่มธรรมทายาทที่วัดถ้ำพุหว้า
จากเพื่อนธรรมทายาทเพิ่งเรียนจบ วิศวที่ มช. หนีพ่อแม่มาบวช และพ่อแม่กับญาติอีกรถตู้มาตามไม่ให้บวชอีก หนีมาครั้งนี้ครั้งที่ 3
ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งเกือบจะถึงวันบวชอยู่แล้ว เพื่อนที่ประพฤติดีและตั้งใจมาตลอดต้องจากไป
โดยไปเก็บกลดตนเองและเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยความเศร้าโศก
หลังจากนั้นก็ไปขอคุณพ่อคุณแม่มากล่าวลา เพื่อนที่กลุ่มธรรมทายาทและพระพี่เลี้ยงด้วยความอาลัย
ทุกคนต้องกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่มีใคร ต้านทาน ต่อความอาลัยนี้ได้แม้แต่ พระพี่เลี้ยง
หลังจากนั้นก็ได้พบกับเพื่อนอีกครั้ง ที่หลังโบสถ์ยืนประนมมือร้องไห้สงบนิ่งด้วยชุดขาว
โดยเหล่าธรรมทายาทกำลังเวียนประทักษิณเพื่ออุปสมบท
เป็นภาพที่ทำให้ผมรู้สึกตื้นตันใจมากว่า การบวชไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้อย่างง่าย เลย
การบวชเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
ฉะนั้นแสนรูปนี้จะเป็นแสนรูปที่ยิ่งใหญ่และเป้นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
แต่ก็กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ด้วยบุญและบารมีของทุกท่านที่ได้ช่วยกัน
อนุโมทนาบุญครับ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชายครับ
#3
Posted 23 January 2010 - 12:09 PM
อ่านเเล้วซึ้ง น้ำตาจะไหล
คนที่ไม่มีปัญหาคือคนที่ไม่ได้ทำ
#4
Posted 25 January 2010 - 11:21 AM
ขออนุโมทนาบุญกับคุณหยุด นิ่ง ใส ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ
#5
Posted 25 January 2010 - 01:57 PM
ข้อความของคุณ หยุด นิ่ง ใส
กินใจมากเลยครับ
กินใจมากเลยครับ
#6
Posted 26 January 2010 - 02:29 PM
ich habe sech für leute fünfe mache möng numme 2meine sohn numme3neffenumme4neffe schwiegersohn numme5bruder bei dei tempel ins bankkok im have big bun sae tur