แก้ข้อกล่าวหา
#1
Posted 24 April 2006 - 11:47 AM
เราขอทราบรายละเอียด สร้างองค์พระ ความเป็นมา ขั้นตอนและวัสดุที่ใช้สร้าง
และขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยครับ
#2
Posted 24 April 2006 - 12:51 PM
1) คนในวัดที่เค้ารู้จักมีเพืยงคุณและเค้าน่าจะเชื่อคุณมากที่สุด
2) คุณเป็นคนที่มีเวลาอยู่กับเค้ามากกว่าใครทั้งหมดในวัดแห่งนี้ การทำหน้าที่กัลยาณมิตรต้องอาศัยเวลาในการประคับประคองดูแล จนกว่า เค้าจะแข็งแกร่งพอที่จะเดินอย่างอาจหาญแข็งแกร่งบนเส้นทางสร้างบารมีแห่งนี้ครับ
แนะนำนะครับ ถ้าเป็นคนที่มีการศึกษาดีอยู่แล้วและพอจะเปิดใจนะครับ ให้ไปหาและเอาคำถามเหล่านี้ไปให้ผู้ประสานงานดู แล้วบอกเค้าว่า ผมขอสื่อและหลักฐานทั้งหมดที่จะแก้ข้อกล่าวหาทุกข้อ แล้วคุณก็อ่านสื่อเหล่านี้ ทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับตัวเองก่อน ถ้าตรงไหนสงสัย ก็สอบถามเพิ่มเติมกับผู้ประสานงาน
พอคุณมั่นใจว่า คุณพร้อม มีข้อมูลแน่นพอที่จะเป็นทนายแก้ต่างให้พระศาสนาก็ เอาสื่อเหล่านี้ไปให้เค้าอ่านครับ บอกเค้าไปเลยว่า คำถามที่คุณสงสัยมีคำตอบอยู่ในนี้ แล้ว ถ้าเค้ามีคำถามเพิ่มเติม ก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้วครับ ที่จะต้องทำหน้าที่เป็นทนายแก้ต่างให้พระศาสนา
ผมคิดว่า ลูกพระธัมฯ ทุกคนจะต้องพร้อมที่จะศึกษาเรื่องเหล่านี้นะครับ เพื่อเอาไปใช้ตอบปัญหากับคนในสังคม เพราะถ้าคุณตอบไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคือ คุณจะถูกสังคมตัดสินว่าคุณงมงาย ไร้สาระ และ ทางวัดก็จะถูกสังคมพิพากษาว่า วัดหลอกลวง ทำให้คนงมงาย พุทธพานิช นิกายใหม่ ฯลฯ สารพัดจะกล่าวหา
ดังที่ ครั้งหนึ่งตอนที่วัดถูกโจมตีจากสื่อต่างๆ ต่อเนื่องตลอดปี คุณอนันต์เคยไปกราบหลวงพ่อในช่วงนั้นและบอกว่า "ทำไมสังคมไม่เข้าใจวัดเลย" หลวงพ่อกลับตอบว่า "อย่าไปโทษเค้าเลย ทั้งหมดเป็นความผิดของเรา เพราะเราทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้ไม่สมบูรณ์ อธิบายแก่สังคมได้ไม่ดีพอ ไม่กว้างพอ ไม่ลึกพอ ทำให้เค้าไม่เข้าใจ"
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#3
Posted 24 April 2006 - 02:46 PM
#4
Posted 24 April 2006 - 03:18 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#5
Posted 24 April 2006 - 03:20 PM
![](http://i75.photobucket.com/albums/i316/DoraMac/WE-love-King.gif)
![](http://www.bloggang.com/data/joysa/picture/1149218098.gif)
#6
Posted 24 April 2006 - 05:53 PM
ที่เก่งๆเช่น ปธ 9 หรือพระที่จบ ดอกเตอร์ ตอบปัญหาได้ถูกต้องยกตัวอย่าง
ได้ดี มีเหตุ มีผลรองรับ ตอบตรงจริต บางคนชอบปาฏิหาร บางคนชอบวิชาการ
แล้วแต่จริตแต่ละคน บางคนมาวัดแล้วยังไปติดใจในเรื่องไร้สาระก็เยอะก็มี
#7
Posted 24 April 2006 - 06:15 PM
#8
Posted 24 April 2006 - 11:11 PM
คลิกที่ลิงค์นี้ได้เลยค่ะ มี 49 หน้า ขนาดไฟล์ 1.08 MB
http://www.kalyanami...k.asp?bookid=90
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#9
Posted 25 April 2006 - 02:53 PM
แล้วก็จะมีการให้ข้อมูล เช่น ประวัติหลวงปู่ ประวัติคุณยาย ประวัติหลวงพ่อ เขาดูแล้ว ในขณะที่ใจเปิดรับ (ฝึกสมาธิ 7 วัน) เขาจะเข้าใจได้อย่างง่ายๆ ทีเดียวครับ
#10
Posted 25 April 2006 - 04:31 PM
เขามองว่าวัดเป็นอย่างไรก็จากคนวัดที่เขาเห็นนั่นแหละคร้าบ
เพราะมันปิดบังกันไม่ได้ ดังที่ว่าศีลนั้นรู้เห็นด้วยการอยู่ร่วมกัน
คนที่การศึกษาดีมาก หน้าที่การงานสูง โดยมากย่อมมีทิฐิมากเป็นธรรมดาอันเนื่องมาจากการสมมติที่ซ้ำซ้อนมากมายที่เขาผ่านมา (และสามารถทำได้ดีเสียด้วย)
ผมว่าคนแบบนี้ต้องขายตัวเราเองออกไปก่อน ถ้าเขาไว้ใจวางใจเชื่อใจในเราก็ง่ายขึ้น
ข้อข้องใจหรือข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็มีความจำเป็นต้องหาคำตอบให้เขา ทั้งนี้เพื่อตัวเราเองและเพื่อตัวเขาด้วย
ผมว่าคุณทำได้ดีมากๆ แล้วจนสามารถเชิญเขามาร่วมมงานบุญใหญ่ได้ ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับในส่วนนี้
ข้อข้องใจที่ท่านเขียนมา ผมก็คิดว่าผู้ประสานงานช่วยท่านได้ดีที่สุด
สำหรับความเข้าใจส่วนตัวของผมนั้น
1) สร้างเจดีย์ทำไม-ผมว่าสร้างขึ้นเพื่อเป็นอุปกรณ์สำหรับสร้างคนดี กลไกทั้งหลายที่เราต้องฟันฝ่าเพื่อให้ถาวรสถานนี้สำเร็จนั้นล้วนเป็นแบบฝึกหัดที่หล่อหลอมให้หมู่คณะเป็นคนดีพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อการสร้างความดีทั้งนั้น ถ้าเหลียวมองอัตราการเติบโตขององค์กรช่วงก่อนสร้างและช่วงหลังจากสร้างเจดีย์น่าจะเห็นอัตราการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันมากทั้งปริมาณและคุณภาพ ในส่วนละเอียดก็ต้องไปหาแหล่งความรู้เอาเองต่างหากนะครับ
2) เรื่องบุคคลที่ถูกกล่าวหา-อันนี้ผมไม่ทราบว่าใครโดนกล่าวหา กล่าวหาว่าอยางไร ใครเป็นคนกล่าวหา เมื่อโดนกล่าวหาแล้วทำให้เกิดอะไรขึ้น อันนี้คุณอาจไม่ต้องไปแก้ตัวให้ใครเพราะเข้าไม่ถึงข้อมูล แต่พยายามร้างความเข้าใจในโปรเจคนี้ให้มากยิ่งขึ้นมากกว่า ท่าจะว่าไปแล้วผลแคร์ตัวคุณเองมากกว่าคนคนนั้นเสียอีก เพราะคุณน่าจะได้ทราบในรายละเอียดที่มากขึ้น ถ้ามีเวลาผมแนะนำให้บวชธรรมทายาทครับ เพราะการแปลงเพศภาวะทำให้คุณสามารถรับทราบข้อมูลบางอย่างที่ดีมากๆ ขึ้นเลย
3) เรื่องรายละเอียดทั้งหลายนั้นผู้ประสานงานช่วยได้ หนังสือมากมายก็มีให้อ่าน ถ้าไม่ถนัดอ่านลองขอเวลาผู้ประสานงานสักท่านครึ่งวันนั่งคุยแบบตัวต่อตัวไปเลย อาจขอเป็นพระอาจารย์สักรูปก็ได้ครับ เพียงแต่แสดงความตั้งใจอย่างมุ่งมั่น ผมรับรองมีคนช่วยคุณได้มากมาย แต่ขอให้รู้ไว้ก่อนตรงนี้ว่าทุกขั้นตอนของโครงการ การเลือกสรรวัสดุบุคลากรทุกอย่าง กระทำลงไปอย่างรอบคอบ ผ่านการพิจารณา ทดลองทดสอบโดยละเอียด ละเอียดจนผมวางใจ หมดใจเลยครับ
โชคดี
#11
Posted 25 April 2006 - 06:45 PM
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย...แต่เค้าก็ได้ทำบุญกับวัดเราแล้ว
คือ เค้ามีสายบุญร่วมกับเราแล้ว เป็นโอกาสของเจ้าของกระทู้แล้วที่จะเป็นกัลยาณมิตรให้เค้าค่ะ
ตัวเราเองเราก็ไม่ค่อยสนใจรายละเอียดพวกนี้ด้วยซิค่ะ
เพราะไม่ไปใสนใจว่า ใครได้ผลประโยชน์จากการสร้างเจดีย์ หรือหล่อพระ หรือผลประโยชน์อะไรภายในวัด..หรือใครจะยังไงอะไรกัน เพราะเราคิดว่า ท่านหล่อก็ต้องซื้อวัตถุดิบ ของไม่ใช่ได้มาฟรี ๆ แล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกล่ะ ที่มากมาย...ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เงิน ถึงแม้อาจมีคนถวายวัตถุดิบให้ท่าน เป็นเจ้าภาพถวาย แต่คน ๆ หนึ่งหรือคนกลุ่ม ๆ หนึ่งจะช่วยไปได้แค่ไหน...
เราคิดว่า ท่านคงคำนวณอย่างดีแล้วควรใช้เท่าไหร่ยังไง ให้คุ้มค่าแล้วอยู่นานเท่าที่ท่านบอกได้อย่างสบาย ๆ ส่วนจะมีส่วนต่างเท่าไหร่ยังไง แล้วไปไหน ก็ไม่คิด แต่ก็ขอให้อยู่ในพุทธศาสนาก็โอเคแล้ว..
เราถือว่า เราทำไปแล้ว ตั้งใจทำไปแล้ว สบายใจแล้ว แต่ก็เพียงขอให้ท่านใช้เม็ดเงินของเราใช้ให้เกิดประโยชน์ และคุ้มค่ามากที่สุดก็โอเคแล้ว
ที่เค้าคิดแบบนั้น เพราะใจเค้ายังไม่ละเอียดมากพอนั่นเอง ยังไม่เข้าใจ ทุกคนมีสิทธิ์คิดได้ แต่ที่เค้าคิด...เค้าคิดถึงผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงิน ไม่ได้คิดถึงผลประโยชน์ทางนามธรรมที่ชาวไทย ชาวพุทธและชาวโลกได้รับ มันคุ้มค่ากว่าเยอะเลย
ขนาดศาสนา ๆ อื่นเค้ายังมีสถานที่ที่รวมใจเป็นหนึ่งได้เลย แล้วทำมั๊ย! ศาสนาพุทธจะทำมั่งไม่ได้ เป็นสิ่งที่เหมือนสิ่งจูงใจ เค้าในเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยกล่อมจิตใจเค้าให้เชื่อในบุญในบาป
ต่อไปจะเป็นสิ่งที่มีค่าในเมืองไทยแห่งหนึ่ง ไว้ให้ลูกหลานได้ระลึกถึงคนในยุคเรา ๆ ไว้เป็นแหล่งรวมคนทำคุณงามความดี
ก็เหมือนหลาย ๆ ท่านบอกพาขึ้นพณาวัฒน์ หรือ หากเค้าไม่สะดวก ก็พยายามชวนมาอย่างน้อยอาทิตย์ต้นเดือน หรือ ยามที่เค้าว่างงาน ไม่ติดภาระกิจอะไร หรือใช้วันเสาร์ พาเค้ามาวัด
มาดูวีดีโอ ก็น่าจะดีนะค่ะ
อยากจะเล่าให้ฟังว่า ตอนหลวงพี่ ที่ท่านอดีตนามสกุล โต...(จำนามสกุลเก่าท่านไม่ได้) เหมือนว่า พ่อเรากับพ่อท่านรู้จักกัน หากจำไม่ผิด ท่านเป็นเภสัชกรค่ะ...ตอนปีสร้างวัดใหม่ ๆ ตอนนั่นท่านเป็นอุบาสกอยู่...ท่านมาติดต่อกับพ่อของเรา เพื่อเอารถไปขนทรายขนของเข้าไปวัด คือ ท่านมาจ้างรถพ่อเราว่างั้นเถอะ (ตอนนั้นยังเด็ก ไม่รู้อะไรเลย เสียดายพ่อไม่พาเข้าแต่ตอนนั้น เหมือนคนมีบุญแต่กรรมบัง อิอิ แต่ยังไง ก็มาพบมาเจอกันจนได้ ดีใจสุดๆ )พ่อเราก็ถามว่า ต้องการค่าคอมอะไรเพิ่มเหรอเปล่า ท่านตอบว่า ไม่ต้อง ให้คิดตามจริง และก็ขอให้ถูก ๆ หน่อยเพื่อประหยัดเงินวัด ส่วนเรื่องพ่อท่านคิดยังไงไม่ได้ถาม เดี๋ยวหากถามกลัวไปสร้างแผลในใจท่านอีก ไม่เอาดีกว่า ก็ฟังท่านเล่าให้ฟังเฉย ๆ แต่ก็มีต่อว่า นิด ๆ หน่อย ๆ
"เออ! ป๋านะป๋า มีบุญแต่กรรมบัง จริง ๆ"เราคิดในใจ ปล่อยให้เราเสียโอกาสไปได้ หรือ ล็อคบุญยังไม่ส่งผล อิอิ
ยิ่งหากเพื่อนเจ้าของกระทู้ ท่านได้คุยกับบุคคลที่โอกาสได้เงินเดือน ๆ เป็นหลักหลายหมื่น มีโอกาสเติบโตหน้าที่การงานทางโลกที่ดี แล้วทำมั๊ยท่านเหล่านั้น จึงยอมสละมาเพียงเพื่อได้สร้างบารมีกับหลวงพ่อและหมู่คณะ อันนี้น่าจะเปิดใจเค้าได้เยอะ...คนเก่งต้องคุยกับคนเก่งด้วยกัน ได้เท่าทันกันหรือคุยกับคนเก่งทางโลกที่เข้าใจวัด อีกคนต้องเก่งทางธรรมะ
อีกวิธีคือ ติดดาวธรรม
ตรงนี้ต้องขอขยายค่ะ พิมพ์ตกไป
ต่อไปจะเป็นสิ่งที่มีค่าในเมืองไทยแห่งหนึ่ง ไว้ให้ลูกหลานได้ระลึกถึงคนในยุคเรา ๆ นอกจากระลึกนึกถึง องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว แล้วได้มีโอกาสได้ทำคุณงามความดี เดินตามรอยพระศาสดา ไว้เป็นแหล่งรวมคนทำคุณงามความดี
#12
Posted 25 April 2006 - 09:56 PM
อยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆจัง ( แม้จะนาน ก็จะคอย )
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#13
Posted 23 February 2007 - 01:18 PM