16 replies to this topic

[PS-Junior]

ปกติแล้วเนี่ยเรื่องธรรมะละเอียดส่วนใหญ่เราจะได้ฟังจากการฟังเทศน์จากพระอาจารย์ ไม่ค่อยได้มีหนังสือพิมพ์เป็นรูปเล่ม และส่วนมากคนที่จะได้ฟังก็มักจะต้องเข้าอบรมเช่น ไปพนาวัฒน์ หรือเข้าค่ายอบรมธรรมทายาท สมาธิแก้ว หรือถ้าเป็นชายก็บวชพระธรรมทายาท

พอดีน้องสาวอบรมสมาธิแก้วอยู่ มาเล่ารื่องละเอียดที่พระอาจารย์สอนมาเป็นเล่มเลย น่าสนใจมากทีเดียว

จึงอยากทราบว่าโดยทั่วไปถ้าอยากรู้เร่องธรรมะละเอียดพวกนี้เราจะศึกษาได้อย่างไรบ้างค่ะ ถ้าไม่ได้มีโอกาสไปอบรม (นอกเหนือจากที่บอกให้นั่งไปดูเองนะค่ะ อันนั้นยังพยายามอยู่ค่ะ)

[ฟ้ายังฟ้าอยู่]

ไม่ค่อยมีใครทำเป็นรูปเล่มหรอกค่ะ อีกอย่าง การเขียนออกมาเป็นรูปเล่ม ไม่มีอะไรดีค่ะ ก็เหมือนกับการอวดอุตริ (หากเป็นพระก็ผิดวินัยสงฆ์) ส่วนมากเขาไม่บอกต่อกันเท่าไรหรอกค่ะ ที่ไม่บอกต่อ ก็เพราะว่าเกรงว่าจะผิดเพี้ยนจากของเดิม ผิดเพี้ยนจากของจริง หรือต้นฉบับมากน้อยแค่ไหน อันนี้ไม่รับประกัน เขาก็เลยบอกว่าอยากรู้ ก็ต้องไปดูเองไงคะ

ถ้าอยากรู้ธรรมะละเอียด โดยมากก็ต้องหาโอกาสปฎิบัติธรรม ให้ใจใสๆ ซะก่อน สังเกตดูได้ ว่าต้องไปปฏิบัติธรรมหลายๆ วัน ให้ใจคนฟังใสพอที่จะสามารถรับฟังได้ พระอาจารย์ท่านถึงจะเล่าค่ะ เพราะถ้าหากว่าไม่ปฏิบัติธรรม เขาพูดอะไรไป ก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ มีแต่จะยิ่งทำให้สงสัยหนักกว่าเก่า

แต่ถ้าอยากรู้เรื่องสนุกๆ ก็ลองหาหนังสือของป้าหวิน (อุบาสิกาถวิล วัตติรางกูล) มาอ่านก็ได้ หรือถ้าอยากได้นิยายแนวอนาคต ก็ลองอ่าน สหัสวรรษที่ 3

ลองหาดู แถวๆ สภาธรรมกายสากลวันอาทิตย์ ตามบูธต่างๆ ก็น่าจะพอมีค่ะ

ที่แน่ๆ เข้าโรงเรียนทุกวันสิคะ บางวันคุณครูไม่ใหญ่ ก็เล่าให้ฟังบ้างเหมือนกันค่ะ

[PS-Junior]

สาธุค่ะ และขอบคุณที่ช่วยเปลี่ยนหัวข้อให้ชื่อดูไพเราะขึ้นด้วยนะค่ะ

ที่จริงก็ได้ฟังมาพอควรแต่ไม่ค่อยประติดประต่อหน่ะค่ะ

[สิริปโภ]

เข้าอบรม ปฏิบัติธรรมพิเศษบ่อยๆสิครับ เช่น ธรรมทายาท สมาธิแก้ว หมู่บ้านปฏิบัติธรรม หรือไม่ก็เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่วัดเลยครับ

[MiraclE...DrEaM]

อืม...ต้องระวังในลักษณะการเล่าแบบต่อๆ กันมานะครับ มักจะมีส่วนที่เพี้ยนๆ ดังนั้นดีที่สุดคือรอฟังจากทางโรงเรียนอนุบาลดีกว่าครับ ว่าแต่อยากจะรู้ธรรมละเอียดไปเพื่ออะไรครับ...บางทีรู้มากจะยากนาน แล้วอาจจะฟุ้งซ่านก็ได้นะครับ

[PS-Junior]

ว่าแต่อยากจะรู้ธรรมละเอียดไปเพื่ออะไรครับ

ก่อนอื่นเพื่อความเข้าใจตรงกัน เรื่องธรรมะละเอียดที่พูดคือถ้าเจาะจงไปเลย เราหมายถึงเกี่ยวกับ เรื่องพญามาร ธรรมกายขาว ธรรมกายฝ่ายดำ เทา การปราบมารของหลวงปู่ คุณยายอาจารย์หนะค่ะ

ส่วนตัวนะค่ะ วันก่อนที่น้องเล่าเรื่องธรรมะละเอียดให้ฟังมาบ้าง (ไม่ได้ฟังเป็นนิทานนะค่ะ ยังงั้นจะฟุ้งซ่าน) มันกระตุ้นทำให้รู้สึกอยากจะนั่งธรรมะให้ใสไวๆ เพื่อหนีจากการเป็นทาสพญามาร แต่ก็ไม่ถึงกับเครียดอะไรมากหรอกนะค่ะ ไม่ใช่นั่งเครียด นะค่ะ

[niwat]

เราจะต้องทำใจของเราให้ละเอียดก่อนดีกว่าครับ
แล้วจึงไปอ่านหรือฟังเรื่องละเอียด นั้นๆ
จะทำให้เราพิจารณาได้ง่ายขึ้น

ลองขึ้นไปปฏิบัติธรรมพิเศษบางซิครับ
แล้วจะพบและได้ฟังเรื่องราวดีๆมากมาย

[CEO]

อยากรู้จัง อยากรู้จัง อยากรู้จัง

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

จึงอยากทราบว่าโดยทั่วไปถ้าอยากรู้เร่องธรรมะละเอียดพวกนี้เราจะศึกษาได้อย่างไรบ้างค่ะ ถ้าไม่ได้มีโอกาสไปอบรม (นอกเหนือจากที่บอกให้นั่งไปดูเองนะค่ะ อันนั้นยังพยายามอยู่ค่ะ)

คุณแนนครับ "อดีตทำเมา อนาคตทำเมา ปัจจุบันธัมโม" ครับ อยู่กับปัจจุบันดีกว่านะครับ ปัจจุบันในที่นี้ก็คือ เราควรสนใจว่า ในแต่ละรอบของการปฏิบัติธรรม เราควรปรับอะไรที่เป็นจุดบกพร่องในการปฏิบัติของเราบ้าง โดยส่วนตัวผมแล้ว สำหรับเรื่องละเอียดทุกเรื่องที่ได้รับฟังมา ผมฟังเพื่อเป็นปกิณณกะธรรม เป็นกำลังใจในการสร้างบารมีแต่เพียงเท่านั้น รู้ไว้ใช่ว่าติดขาติดแข้งครับ อีกอย่างต้องพิจารณาที่ตัวของผู้พูดด้วยว่า ผู้พูดเป็นผู้รู้ธรรมเห็นธรรมหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่ ก็ยากที่จะเชื่อถือ เพราะหามาตรฐานของความถูกต้องอันใดไม่ได้ เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับคนตาบอดมานั่งถกกับคนตาบอด ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยใช่ไหมครับ? เพราะไม่เห็นธรรมะด้วยกันทั้งคู่ สู้เอาเวลาไปทำหยุดทำนิ่งส่วนตัวของเราเองเสียจะดีกว่าว่า เออ! ที่ตอนนี้เรายังปฏิบัติไปไม่ถึงไหน เรายังทำใจหยุดใจนิ่งไม่ได้น่ะ เราวางใจไว้ถูกสิบ ถูกศูนย์ ถูกส่วนหรือเปล่า? ที่นั่งแล้วยังมึนตื้ออยู่ เพราะเรากดลูกนัยน์ตาหรือเปล่า? เราเค้นภาพนิมิตที่ปรากฏเกิดขึ้นภายในหรือเปล่า? สนอย่างนี้จะดีกว่านะครับ สำหรับกรณีที่ผู้พูดเป็นผู้ที่เชื่อถือได้ อาทิ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านมหาฉัตรชัย และพระอาจารย์พิเศษที่พระเดชพระคุณฯ มอบหมายให้มาพูดโดยตรง กรณีนี้ ให้เราน้อมรับมาเก็บไว้เพื่อเป็นกำลังใจในการสร้างบารมี แต่อย่าพึ่งเชื่อถือ ๑oo% ล่ะ เราต้องน้อมนำเอาสิ่งที่ท่านให้มาปฏิบัติเพื่อพิสูจน์คำครูของเราให้รู้ ให้เห็น ให้เป็นด้วยตัวของเราเอง เพราะพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สอนให้เชื่อตามหลักของเหตุและผล และเชื่อในปัญญาที่เกิดจากการตรัสรู้ที่เกิดที่มีขึ้นภายในตน และเมื่อได้รู้เห็นธรรมเหล่านั้นด้วยตนเองแล้ว ได้พิจารณาด้วยวิปัสสนาญาณโดยแยบคายแล้ว จึงเทียบรู้เทียบเห็นกับครูบาอาจารย์ของเรา และเทียบรู้เทียบเห็นกับการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริงดังนี้แล้ว เมื่อนั้น จึงควรเชื่ออย่างเต็มเปี่ยมและแน่นแฟ้นครับ

ปล. นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ผมขออนุญาตงดตอบปัญหาธรรมะภาคอจินไตยที่เกินภูมิรู้ภูมิธรรมที่ผมมีผมเป็นทุกกรณีนะครับ เนื่องจากหากสิ่งที่ผมพูดไป ไม่ตรงกับสิ่งที่มีอยู่จริงในเหตุละเอียดแล้วล่ะก็ นอกจากจะกลายเป็นว่าผมได้หยิบยื่น "สัทธรรมปฏิรูป" ให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการไปทำให้เขามีทิฏฐิวิบัติอีกด้วย (ในกรณีที่ผู้อ่าน/ฟังเป็นผู้ที่มีอินทรีย์อ่อนและคล้อยตามง่าย) แถมตัวผมเองยังจะมีวิบากกรรมพ่วงแถมไปอีกเป็นต้นว่า เวลารู้ เห็น เป็นธรรม ก็จะรู้เห็นแบบจริงครึ่ง เท็จครึ่ง เพราะผมได้ปลูกต้นจริงบ้าง ไม่จริงบ้างเอาไว้กับผู้อื่น ผลที่ออกมาก็ย่อมเป็นเช่นนั้น และ/หรือวิบากกรรมในอีกกรณีหนึ่งที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ "เห็นน่ะเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นน่ะไม่จริง" ครับ เพราะฉะนั้น ขอออกปากไว้ก่อนเลยว่า ผมไม่กล้าเสี่ยงหรอกครับ มันได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ นะครับ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย

[MiraclE...DrEaM]

ส่วนตัวนะค่ะ วันก่อนที่น้องเล่าเรื่องธรรมะละเอียดให้ฟังมาบ้าง (ไม่ได้ฟังเป็นนิทานนะค่ะ ยังงั้นจะฟุ้งซ่าน) มันกระตุ้นทำให้รู้สึกอยากจะนั่งธรรมะให้ใสไวๆ เพื่อหนีจากการเป็นทาสพญามาร แต่ก็ไม่ถึงกับเครียดอะไรมากหรอกนะค่ะ ไม่ใช่นั่งเครียด นะค่ะ

สาธุครับ...คุณจังกึม ถ้าการฟังธรรมะละเอียดเป็นไปเพื่อการทำใจให้ละเอียด ในการบรรลุธรรม ก็ต้องอนุโมทนาสาธุด้วยครับ แต่ถ้าฟังเอามันอย่างเดียวแบบที่คุณจังกึมว่าจะทำให้ฟุ้งซ่านได้ง่ายๆ ครับ แบบที่ผมโพสไว้ไงครับว่า ถ้ารู้มากจะยากนาน

แต่ยังไงก็ต้องอนุโมทนา...สาธุ กับคุณจังกึมด้วยนะครับ ขอให้ธรรมะก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

ขอให้คุณแนนได้เห็นธรรมะชัดใสแต่ยังเยาว์วัย รู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอด ตรงไปตามครรลองคลองธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ทรงบรรลุไว้ดีแล้ว ไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเลยนะครับ

[glouy]

อนุโทนาบุญกับ ทุกท่าน นะครับ.สาธุ

[PS-Junior]

ขอให้คุณแนนได้เห็นธรรมะชัดใสแต่ยังเยาว์วัย รู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอด ตรงไปตามครรลองคลองธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ได้ทรงบรรลุไว้ดีแล้ว ไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเลยนะครับ

แต่ยังไงก็ต้องอนุโมทนา...สาธุ กับคุณจังกึมด้วยนะครับ ขอให้ธรรมะก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ

ขอน้อมรับค่ะ สาธุๆๆๆ ขอให้สมปรารถนาไวๆ

[หัดฝัน]

ท่านใดคิดว่า ฟุ้งซ่านแล้ว ไม่มีปัญหา ให้ดู Case Study ของพี่เป็นตัวอย่างนะครับ มันจะส่งผลให้เราขี้หลงขี้ลืมข้าวของ และทำงานผิดพลาดในบางครั้งด้วยล่ะครับ อีกทั้งยังวิตกกังวลเกินเหตุด้วยล่ะครับ ยกตัวอย่างสมัยพี่รู้เรื่องธรรมะฝ่ายอกุศลใหม่ๆ แบบรู้จำ (สิบกว่าปีแล้ว) พี่กลัวมาก กลัวว่า เราจะแพ้ เห็นเขาเก่งเหลือเกิน กลัวไปสารพัด ไม่มีประโยชน์เลยอย่างที่คุณ มิราเคล ดรีมว่าไว้ จนเมื่อได้ปฏิบัติธรรมจึงรู้ว่า ทุกอย่างมันมีขั้นมีตอน ให้ทำไปตามขั้นตอนแล้วปัญหาจะค่อยๆ คลี่คลาย ตามระดับความสูงส่งของใจเราน่ะครับ

[Omena]

เรื่องละเอียดน่ะ ถ้าฟังน่ะ เขาให้รู้ไว้ลืมค่ะ
ใช้สร้างกำลังใจ ให้เราปฏิบัติธรรม
รู้มากก็เท่านั้น ถ้ายังไม่ได้ธรรมะก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากเลยค่ะ

[R.J.]

เป็นคนนึงที่ชอบฟังธรรมะละเอียดค่ะ แต่ฟังมากก็ฟุ้งมาก นั่งสมาธิไม่ค่อยได้ผลดีเท่าไหร่ค่ะ ตอนนี้เลยปรับให้ใจเฉย ๆ ค่ะ
แต่ถ้าอยากฟังจริง ๆ ก็ดูจาก DMC ช่วงฝันในฝันสิคะ

[บุญเย็น]

รู้ตัวอยู่ที่ปัจจุบันดีที่สุด เมื่อรู้ตัวมากขึ้นดวงแก้วก็จะใสขึ้น ละเอียดขึ้น ปัญญาก็จะละเอียดขึ้น ฉะนั้นเมื่อใจเราละเอียดขึ้นเพียงใดก็จะได้รู้เรื่องละเอียดขึ้นเพียงนั้นนะครับ ถ้ารู้อย่างนี้ตามลำดับแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติธรรมของเรา ถ้ารู้เรื่องละเอียดโดยที่ใจของเรายังละเอียดไม่พอ มันจะเกิดปัญหาในการปฏิบัติธรรมนะครับ ท่านผู้มีประสบการณ์คงทราบดี