ตำนานการสร้างพระพุทธรูป
จากหนังสือจดหมายระหว่างทางไปอินเดียของหลวงจีนฟาเหียนได้กล่าวถึงตำนานการสร้างพระพุทธรูป ดังนี้
เมื่อพระพทุธองค์เสด็จไปประทานเทศนาโปรดพระมารดาในสวรรค์พรรษาหนึ่ง พระเจ้าประเสนชิต
กรุงโกศลราช มีความรำลึกถึงพระพทุธองค์ เนื่องจากมิได้เห็นมาช้านานจึงตรัสให้นายช่างทำพระพุทธรูปขึ้น
ประดิษฐานไว้เหนืออาสนะที่พระพุทธเจ้าเคยประทับ ครั้นพระพุทธองค์กลับจากสวรรค์ จึงตรัสสั่งให้รักษา
พระพุทธรูปนั้นไว้ เพื่อสาธุชนจะได้ใช้เป็นแบบอย่างในการสร้างพระพุทธรูปเมื่อพระองค์ล่วงลับไปแล้ว
ตำนานดังกล่าวยังขัดกับหลักฐานที่เจอโบราณวัตถุว่าถ้าเคยสร้างพระพุทธรูปในสมัยพุทธกาลพระเจ้าอโศก
มหาราชก็คงสร้างพระพุทธรูปเป็นเจดียวัตถุอย่างหนึ่ง แต่ในพุทธเจดีย์ที่พระเจ้าอโศกฯ สร้างไว่ไม่มีพระพุทธรูป
แต่มีรูปอย่างอื่นแทน เช่น รอยพระพุทธบาท พระธรรมจักร เป็นต้น ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าประเพณีการทำพระพุทธ-
รูปยังไม่มีในสมัยนั้น อาจเกิดขึ้นภายหลังในราวปี พ.ศ.๗๐๐ หรือ พ.ศ.๘๐๐
พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมามีรูปแบบที่ต่างไปตามสถานที่ อย่างชาวกรีกทำพระศกเป็นเส้นผมเหมือนคนสามัญชน
แต่ชาวอินเดียเห็นว่าไม่งามได้ดัดแปลงพระศกเป็นรูปก้นหอย รูปหน้าเปลี่ยนเป็นหน้าคนอินเดีย สำหรับประเทศ
อื่นๆ ที่ได้รับแบบอย่างการสร้างพระพุทธรูปก็ได้ดัดแปลงแก้ไขไปตามเห็นสมควรทำให้เกิดพระพุทธรูปแบบต่างๆ
ในอินเดีย ดังนี้
แบบคันธารราฐ (พุทธศตวรรษที่ ๗-๑๒) โดยศิลปินกรีกโรมันแค้วนคันธารราฐ
ในปากีสถาน มีลักษณะเหมือนจริง พระเกศาขมวดมุ่น, พระเนตร, พระกรรณ, พระนาสิก,
พระโอษฐ์ ตลอดจนวงพระพักตร์และริ้วจีวรมีลักษณะจริงอย่างธรรมชาติ บางครั้งมีพระมัสสุด้วย
แบบมธุรา (พุทธศตวรรษที่ ๗-๑๖) กำเนิดทางตอนเหนือของอินเดีย พบในสมัยเดียวกับแบบ
คันธารราฐเป็นพระพุทธรูปแบบชาวอินเดีย ไม่มีมุ่นพระเกศา ประทับอยู่บนสิงห์มีบัลลังก์ประดับด้วย
พระโพธิสัตว์ และเหล่าอุปัฏฐากที่ฐาน รูปร่างอวบอ้วนเข้มแข็งดูมีอำนาจ
แบบอมราวดี (พุทธศตวรรษที่ ๗-๑๐) กำเนิดทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดียที่
เมืองอมราวดีเป็นพระพุทธรูปองค์แรกที่มีลักษณะแบบอุดมคติ รูปแบบได้รับอิทธิพลจากศิลปะมธุรา
ปนกับคันธารราฐ ไม่เหมือนธรรมชาติ เป็นต้นกำเนิดของการสร้างพระพุทธรูปให้กับสมัยต่อๆมา
แบบคุปตะ (พุทธศตวรรษที่ ๑๐-๑๒) ช่างตระกูลคุปตะเป็นผู้สร้างขึ้น ลักษณะจีวรบางแนบเนื้อ
ฐานพระพุทธรูปตกแต่งด้วยดอกบัว หรือรูปสิงห์ มีทั้งแบที่สลักด้วยหินและรูปหล่อสำริด
แบบปาละ (พุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๘) กำเนิดที่แค้วนแบงกอลในสมัยราชวงศ์ปาละ เป็นรุ่นสุดท้ายของ
อินเดีย มีคติพราหมณ์ผสมอยทำให้งานศิลป์ไม่บริสทธิ์ จีวรแนบเนื้อยิ่งขึ้น มีความอ่อนไหว พระพักตร์คม โดยมี
พระขนงและพระโอษฐ์ได้รับการยกขอบคมเป็นสัน พระเนตรอยู่ในลักษณะครึ่งหลับ แสดงการภาวนา มีซุ้ม
ประภามณฑล เครื่องประดับรกรุงรังเกินงาม นิยมทำฐานสองชั้น
อินเดียได้เป็นต้นแบบในการขยายอิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งทำให้พระพุทธรูปแตกต่างกันไปตามศิลปะ
ที่รับเอามา
แหล่งที่มา : พระพุทธรูป , วรภัทร เครือสุวรรณ เรียบเรียง
กำเนิดพระพุทธรูป
[attachmentid=9350]
แต่เดิมนั้นพุทธศาสนาไม่มีรูปเคารพแต่อย่างใด ศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู ซึ่งมีมาก่อนศาสนาพุทธ ก็ไม่มีรูปเคารพเป็นเทวรูปเช่นกัน หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ผู้ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา อยากจะมีสิ่งที่จะทำให้รำลึกถึง หรือเป็นสัญญลักษณ์ขององค์ศาสดา เพื่อที่จะบอกกล่าวเล่าขาน เรื่องราวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงศึกษาค้นคว้าหาทางดับทุกข์ และทรงชี้แนะสอนสั่งผู้คน ถึงการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นอยู่ ที่ก่อให้เกิดความผาสุขในหมู่มวลมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลก
คราวแรกนั้นชาวพุทธก็ได้แต่นำเอาสิ่งของอันได้แก่ ดิน น้ำ และกิ่ง ก้าน ใบโพธิ์ จากบริเวณสังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน),ตรัสรู้ พุทธคยา, ปฐมเทศนา(พาราณสี)และปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาไว้เป็นที่ระลึกบูชาคุณพระพุทธเจ้า
ล่วงมาถึงในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนูปถัมภกที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง เมื่อ 2,200 ปีก่อน หรือหลังจากการดับขันธ์ของพระพุทธเจ้ามา 300 ปี พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทรงส่งสมณะทูต จำนวน 500 รูป ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังเมืองตักกศิลา แคว้นคันธาราฐ จึงมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองที่ประสิทธิประสาทวิทยาการต่าง ๆ นับว่า "เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกทางพระพุทธศาสนา" แต่ก็ยังไม่มีรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้าที่เป็นรูปคน
พระพุทธชินราชพระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า เริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 เมื่อชาวกรีก ที่ชาวชมพูทวีป (อินเดียโบราณ) เรียกชาวต่างแดนว่า "โยนา" หรือ "โยนก" โดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือ พระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธาราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล (Sakala) หลังจากที่ได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า นาคเสน จึงมีเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำพระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำถามคำตอบปุจฉาวิสัชนา ซึ่งถูกเขียนบันทึกเป็นหนังสือและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงมาก เรื่องนี้ก็คือ มิลินทปัญหา - The Milinda Panha or The Questions of King Minlinda) ได้มีการสร้างสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันธาราฐ
พระพุทธรูปรูปแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแคว้นคันธาราฐ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 หรือ 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ว่า แบบคันธาราฐ โดยถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก
แหล่งที่มา http://th.wikipedia....rg/wiki/พ