Jump to content


JARK

Member Since 04 Feb 2006
Offline Last Active Mar 13 2007 02:03 PM
-----

Posts I've Made

In Topic: เสื้อผ้าเกี่ยวกับการทำบุญอย่างไร

19 February 2006 - 09:45 PM

ก่อนอื่นผมขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณด้วย ที่เป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด ซึ่งคนเป็นจำนวนมากในโลกไม่มี
โอกาสดีเช่นกับคุณ ผมเองยังอยากทำบ้างแต่ติดด้วยอะไรหลายอย่าง แต่ก็พยายามช่วยงานเมื่อมีโอกาส
เพราะเป็นภาพดีๆที่อยู่ในใจ นึกทีไรก็มีแต่ปลื้มใจ ดีใจที่ได้ทำ คุณก็เช่นกันคุณได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
เอาบุญเป็นที่ตั้งตามคำสอนของครูอาจารย์ ไม่น้อยอกน้อยใจ เพราะน้อยใจไปมีแต่เสียใจ ใจเสีย หมดกำลัง
ใจ หมู่คณะเสียประโยชน์ เราก็เสียประโยชน์ ตัวผมเองก็พยายามฝึกฝนตนเองให้ทำได้อย่างนี้ คนที่มาวัดมีทั้ง
มาเก่ามาใหม่ ทุกคนกำลังฝึกฝนตนเอง มีทั้งข้อดี ข้อเสียในตัวเอง ความอดทนจึงเป็นจำเป็นที่จะช่วยให้หมู่คณะแข็งแรง
และในฐานะที่เข้าวัดมานานพอสมควร ขอเปิดใจว่า เวลาเห็นคนแต่งตัวแปลกๆ ที่ไม่ใช่ชุดขาวมาวัดจะ ไม่คิดตำหนิแต่กลับคิดดีใจ
ว่า ดีใจจังมีคนมาวัดใหม่อีกแล้ว แม้อยากมอง(ชื่นชม)แต่ก็พยายามทำเฉยๆ เพราะกลัวเขารู้สึกไม่ดี
เพราะเข้าใจว่า ไม่มีใครอยากทำตัวแปลก ทำตัวให้คนตำหนิ ไม่มีใครอยากเป็นตัวประหลาด ในกรณีเช่นคุณ
หากใครที่มองคุณอย่างตำหนิ ได้ทราบว่าคุณได้มาทำหน้าที่ที่ประเสริฐ และทราบปัญหาของคุณ เขาคงเสียใจที่มอง
คุณอย่างนั้นและอยากจะส่งเสริม ให้กำลังใจคุณแน่นอนเลย แต่ที่แน่ๆ เทวดาที่อยู่บริเวณนั้นคงอนุโมทนาชื่นชมคุณ
อย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าไปคิดถึงสายตาเหล่านั้นเลย นึกถึงแต่สิ่งดีๆที่คุณได้ทำ แล้วทำให้มากขึ้นให้ดีขึ้น ทุกอย่าง
อยู่ที่ใจ สำคัญที่ใจ สำเร็จได้ด้วยใจ ผมว่าทุกๆคนอีกมากมายเป็นแสน (มากกว่าคนที่มองตำหนิคุณหลายเท่า)ชื่นชม
สิ่งที่คุณทำ และอยากพร้อมใจกันกล่าวกับคุณด้วยรอยยิ้มว่า "ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ/ค่ะ"
ปล. ในความคิดของผม เรื่องเสื้อผ้ามีความสำคัญน้อยกว่าใจ เพียงแต่ชุดขาวที่เรียบร้อย ช่วยสร้างบรรยากาศการปฏบัติธรรม
ไม่ต้องมากังวลเรื่องแฟชั่น ดูสบายตา ไม่ก่อความกำหนัดในกาม เตือนใจเราเมื่อเห็นชุดขาว ว่าเรากำลังอยู่ในวัดต้องทำใจให้ใสสะอาด
ใจสว่าง
จาก JARK

In Topic: ข้อสงสัยเกี่ยวกับศีล 8

19 February 2006 - 03:37 PM

ขออนุโมทนาบุญกับสมาชิกทุกท่านที่กรุณาให้ความรู้ ความคิดเห็นเรื่องศีลแปด เพราะนอกจากเราจะได้มีหลัก
แล้วยังสามารถนำไปแนะนำผู้อื่นที่สงสัยเช่นเดียวกันได้ คือบางครั้งอยากให้เขาลองถืดศีลแปดบ้าง จะได้บุญมากขึ้น
แต่ก็ไม่อยากให้เขารู้สึกว่ามันยุ่งยาก หมดกำลังใจไปเสียก่อน ผมได้พบหนังสือชื่อว่า "คู่มือเตรียมสอบ บทท่องสอบผ่านสนามหลวง เบญจศีล เบญจธรรม อุโบสถศึล อุปสมบทวิธี " โรงพิมพ์เลี่ยงเซียง มีข้อมูลเกี่ยวกับที่นอนสูงใหญ่ในศีลแปดดังต่อไปนี้ เผื่อสมาชิกผู้รู้
ท่านใดอาจช่วยขยายความ ให้เข้าใจง่ายๆ อย่างน้อยๆก็เพื่อประดับความรู้
ที่นอนสูง
ที่นอนสูง หมายเอาเตียงและตั่งที่ถักทอด้วยหวาย ตอก หรือผูกด้วยผ้าทำด้วยไม้กระดาน มีทั้งแบบเท้าคู้ และเท้าตรง มีสันฐานรี สี่เหลี่ยม
หรือกลม ส่วนเท้าเตียงนั้น กำหนดให้สูงเพียง 8 นิ้วพระสุคต (10 นิ้วกับ 3กระเบียดช่างไม้) ต่ำกว่านั้นท่านไม่ห้าม สูงกว่านั้นไม่สมควร
ถ้าเป็นตั่งสี่เหลี่ยม แม้จะมีเท้าสูงเกิน 8 นิ้วพระสุคตก็ใช้ได้ ถ้าเตียงทำพนักข้างทั้งสามด้าน แม้สูงกว่าประมาณที่กำหนดก็ใช้ได้ เตียง
หรือตั่งมีเท้าสูงเกินประมาณ ติดตั้งอยู่กับที่ยกไปไหนไม่ได้ก็ไม่ควร ถ้าเป็นเตียงไม่มีพนักพิง ทำให้สูงได้อีกนิดหน่อย คือเอาไม้รองเท้าได้อีก สูง 8 นิ้วช่างไม้เท่านั้นจึงควร การห้ามมิให้ใช้ที่นั่งนอนสูงนั้น ก็เพราะไม่ต้องการให้เป็นของโอ่โถงยั่วยวนให้เกิดราคะความกำหนัดยินดี
ที่นอนใหญ่
ที่นอนใหญ่ที่เขาตกแต่งหรือปูลาดด้วยของไม่สมควรนั้น ท่านจัดไว้ 19 อย่างคือ
๑ บัลลังก์สำหรับนั่ง ที่ประดับด้วยรูปสัตว์ มีเสือหรือจระเข้ เป็นต้น
๒ ผ้าขนสัตว์ใหญ่มีขนยาว (คือขนผ้านั้นยาว 4 นิ้ว)
๓ เครื่องปูลาด ทำด้วยขนแกะที่วิจิตรด้วยลายเย็บปัก
๔ เครื่องปูลาดทำด้วยขนแกะมีลายเป็นแผ่น
๕เครื่องปูลาดทำด้วยขนแกะมีลายดอกไม้แน่นเนื่องกัน
๖ เครื่องปูลาดทำด้วยขนแกะวิจิตรด้วยรูปสัตว์ต่างๆ
๗เครื่องปูลาดทำด้ยขนแกะ มีขนขึ้นทั้งสองด้าน
๘เครื่องปุลาดทำด้วยขนแกะมีขนขึ้นข้างเดียว
๙เครื่องปูลาดเป็นชั้น เขาเย็บด้วยหนังเสือ
๑๐ เครื่องปูลาดมีเพดานแดงคาดข้างบน
๑๑ เครื่องปูลาดบนหลังช้าง
๑๒ เครื่องปูลาดบนหลังม้า
๑๓ เครื่องปูลาดบนรถ
๑๔ เครื่องปูนอนทอด้วยด้ายทอง ในระหว่างด้ายไหมขลิบด้วยทอง
๑๕ เครื่องปูลาดทอด้วยไหมขลิบทอง
๑๖ เครื่องปูนอน ทำด้วยขนแกะ ขนาดใหญ่พอนางฟ้อน ๑๖ คนยืนรำได้
๑๗ เครื่องปูนอนอย่างดี ทำด้วยหนังชะมด
๑๘ ที่นอนมีหมอนแดงทั้ง๒ ข้างเตียง
๑๙ ฟูกเบาะยัดนุ่นอย่างเดียว
เครื่องปูลาดทั้ง ๑๙ อย่างนี้เรียกว่าที่นอนใหญ่ คนรักษาอุโบสถศีลไม่ควรนำมาใช้ในขณะรักษาอุโบสถ ที่นอนใหญ่
หมายความตรงๆว่าที่นอนซึ่งนอนได้ตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป อันเป็นที่นอนของคนคู่ ผู้รักษาอุโบสถซึ่งเป็นผู้งดเว้นจาก
การเป็นอยู่แบบคนคู่แล้ว ไม่ควรนอนที่นอนเช่นนั้น