เห็นมาหลายวัดวาน่าแปลกใจ
มันสงสัยเพระขับรถมาบิณฯได้
ไปบวชดูจึงได้รู้ได้เข้าใจ
สองเหตใหญ่ทำไมใช้รถบิณฯ
เพราะญาติโยมที่อยู่ใกล้ไม่ใส่บาตร
ผู้สามารถใส่บาตรได้เป็นนิจสิน
ก็อยู่ใกลเกินกว่าบาทบิณฯ
จะถวิลหาโยมขับก็ยากเย็น
พระจึงต้องมานั่งแล้วก็ขับ
ไปรับบาตรโปรดโยมที่อยากเห็น
พระมาโปรดตอนเช้าๆลมเย็นๆ
ปลื้มไม่เว้นได้ใ่บาตรใจผ่องใส
อีกประการรัตตัญญูพระผู้เฒ่า
จะเดินเหินแข้งเข่าไม่ค่อยไหว
แต่มีตบะรักธรรมวินัย
อยากจะไปบิณฑบาตรด้วยตนเอง
จึงต้องให้พระหนุ่มขับพาไป
โยมใจร้ายเห็นเข้าก็ข่มเหง
หาว่าพระเอาสบายใส่ตนเอง
ไม่กลัวเกรงบาปกรรมที่วาจา
สารถีฆราวาสหายากยิ่ง
มันจำเป็นจริงๆนะโยมจ๋า
อุบาสกยามเย็นร่ำสุรา
พอเช้ามาลืมตามาไม่ทัน
พระเลยต้องขับเองโยมรู้ไหม
จะได้ไปบิณฯได้มีขบฉัน
ได้โปรดโยมให้ได้บุญทุกๆวัน
ขอโยมนั้นโปรดมองอย่างเข้าใจ
เข้าใจวัดเข้าใจพระ ตอนที่4 รถบิณฯได้
เริ่มโดย ตำรวจรักบุญ, Sep 22 2010 08:52 PM
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 22 September 2010 - 08:52 PM
#2
โพสต์เมื่อ 23 September 2010 - 12:38 AM
แถวที่พัก ตอนไป พระท่านจะเดินไป เพื่อบินฑบาตร โปรดญาติโยมฯ ระยะทางประมาณ หนึ่งกิโลเมตรครึ่ง
ถ้าญาติโยมฯ ใส่บาตรแยะมากถือไม่ไหว พระท่านจะถ่ายบาตรและวางไว้เป็นจุดๆ (เพราะหลายๆครั้งก็ไม่มีเด็กวัดช่วยถือ) หากไม่ทำแบบนี้ท่านก็ต้องเดินกลับวัด ญาติโยมที่อยู่ข้างหน้าก็ไม่มีโอกาสได้ใส่บาตร
พอตอนกลับ พระท่านจะมีสารถีขับรถไปรับ และนำภัตาหารที่ถ่ายบาตรไว้ตามจุดต่างๆ กลับวัดด้วย
ถ้าญาติโยมฯ ใส่บาตรแยะมากถือไม่ไหว พระท่านจะถ่ายบาตรและวางไว้เป็นจุดๆ (เพราะหลายๆครั้งก็ไม่มีเด็กวัดช่วยถือ) หากไม่ทำแบบนี้ท่านก็ต้องเดินกลับวัด ญาติโยมที่อยู่ข้างหน้าก็ไม่มีโอกาสได้ใส่บาตร
พอตอนกลับ พระท่านจะมีสารถีขับรถไปรับ และนำภัตาหารที่ถ่ายบาตรไว้ตามจุดต่างๆ กลับวัดด้วย
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#3
โพสต์เมื่อ 24 September 2010 - 12:00 AM
.....ใส่ลงไปแล้ว ถ้าท่านเอาออกไปให้คนอื่น ถ้าใจคิดด้วยอกุศลแล้ว บุญก็หายหมด เพราะทานนั้นถือว่า "ไม่ขาด" วัตถุทานนั้นประกอบด้วยอกุศลจิตเลยทีเดียว
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#4
โพสต์เมื่อ 24 September 2010 - 02:48 PM
เจริญพร
ในทุกสถานการณ์ของทุกๆวงการ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรากฏอยู่ต่อหน้าเราหรือไม่ก็ตาม เมื่อเราได้ไปประสบพบเห็นหรือได้ยินได้ฟังมาแล้ว การตีความหมายของแต่ละคนก็ออกมาไม่เหมือนกัน อยู่ที่พื้นใจ และประสบการณ์แง่คิดมุมมองของแต่ละคน
ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใครอะไรลงไป เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสงสัย และเพื่อไม่ให้ตัวเราติดเศษกรรมการเข้าใจอะไรผิดๆไปจากความเป็นจริง
ขออนุโมทนาบุญกับ คุณตำรวจรักบุญ ด้วย ที่นำบทกลอนมาอธิบายให้โยมอีกหลายๆท่านได้ฉุกใจคิด และทำให้สามารถเปิดโลกทัศน์แง่คิดมุมมองให้กว้างขึ้น
ในทุกสถานการณ์ของทุกๆวงการ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปรากฏอยู่ต่อหน้าเราหรือไม่ก็ตาม เมื่อเราได้ไปประสบพบเห็นหรือได้ยินได้ฟังมาแล้ว การตีความหมายของแต่ละคนก็ออกมาไม่เหมือนกัน อยู่ที่พื้นใจ และประสบการณ์แง่คิดมุมมองของแต่ละคน
ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ก่อนจะตัดสินใครอะไรลงไป เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสงสัย และเพื่อไม่ให้ตัวเราติดเศษกรรมการเข้าใจอะไรผิดๆไปจากความเป็นจริง
ขออนุโมทนาบุญกับ คุณตำรวจรักบุญ ด้วย ที่นำบทกลอนมาอธิบายให้โยมอีกหลายๆท่านได้ฉุกใจคิด และทำให้สามารถเปิดโลกทัศน์แง่คิดมุมมองให้กว้างขึ้น
#5
โพสต์เมื่อ 24 September 2010 - 09:30 PM
Sathu Ka!