การบูชาพระรัตนตรัย ตอนที่ ๑ การจัดโต๊ะหมู่บูชา
โต๊ะหมู่บูชาที่มีพระพุทธรูปเพียงองค์เดียว
ตามปกติชาวพุทธนิยมจัดสถานที่สำหรับบูชาพระรัตนตรัยไว้ประจำบ้านเรือนของตนเองไว้เป็นที่สักการะบูชา เพี่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือนด้วย และเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของบุคคลในครอบครัวด้วย
สถานที่บูชาพระรัตนตรัยนั้น ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ ๔ อย่างคือ
๑. พระพุทธรูป ๑ องค์ ขึ้นไปที่นิยมจะเป็นเลขคี่
๒. กระถางธูป ๑ ใบ
๓. เชิงเทียน ๑ คู่
๔. แจกัน ๑ คู่
ถ้าอาคารบ้านเรือนไม่กว้างขวางก็จะติดตั้งหิ้งพระติดกับข้างฝา ถ้าอาคารบ้านเรือนใหญ่โตกว้างขวาง นิยมมีโต๊ะหมู่บูชาพระ จัดไว้ เป็นสถานที่พิเศษห้องหนึ่งต่างหาก นิยมเรียกว่า "ห้องพระ" ประจำบ้านเรือน
ส่วนพระประธานนั้น นิยมอัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือพระพุทธรูปปางนั่งขัดสมาธิราบหรือนั่งขัดสมาธิเพชร (คือ ขาขวาขัดกับขาซ้าย) การที่นิยมอัญเชิญพระพุทธรูปปางมารวิชัยมาเป็นพระพุทธรูปประจำบ้านเรือนนั้น เพราะเป็นพุทธลักษณะ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงชนะพญามารในวันที่ตรัสรู้ธรรม ณ ควงไม้ศรีมหาโพธิ์ พระพุทธรูปปางมารวิชัยมีพระพุทธลักษณะดังนี้ คือ เป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิราบ (คือ ขาขวาทับขาซ้าย) หรือนั่งขัดสมาธิเพชร (คือ ขาขวาขัดกับขาซ้าย) พระหัตถ์ซ้ายวางหวายไว้ที่หน้าตัก พระหัตถ์ขวาวางคว่ำไว้ที่หัวเข่าขวานิ้วพระหัตถ์ขวาทั้ง ๕ ชี้ลง ณ พื้นดิน พระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้ นิยมกันว่า เป็นพระพุทธรูปที่ป้องกันภยันตราย ความเสนียดจัญไรทุกประการ รักษาคุ้มครองผู้สักการะบูชาให้มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จในสิ่งประสงค์จำนงหมายอันชอบธรรมทุกประการ
เครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัย
เครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัยนั้น ชาวพุทธไทยเราทั้งหลาย นิยมนำมาบูชาเป็นประจำเสมอ ในการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งงานมงคลและงานอวมงคลมี ๓ อย่าง คือ
๑ . ธูป
๒. เทียน
๓. ดอกไม้
ธูปสำหรับบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธูปนั้น สำหรับบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิยมจุดบูชาครั้งละ ๓ ดอก เป็นอย่างน้อย โดยมีความมุ่งหมายว่า พระองค์ทรงมีพระคุณเป็นอันมาก ยากที่จะพรรณนาให้สิ้นสุดได้ แต่เมื่อประมวลกล่าวเฉพาะพระคุณที่เป็นใหญ่เป็นประธานแห่งพระคุณทั้งปวง สรุปได้ ๓ ประการคือ :-
๑. พระปัญญาธิคุณ
๒. พระบริสุทธิคุณ
๓. พระมหากรุณาธิคุณ
ธูปทั้ง ๓ ดอกนั้น สำหรับจุดเพื่อบูชาพระพุทธคุณทั้ง ๓ ประการนี้ แต่บางท่านก็อธิบายความมุ่งหมายแตกต่างออกไปว่าธูป ๓ ดอกนั้น เพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๓ ประเภท คือ :-
๑. อดีตสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต
๒. ปัจจุบันสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจจุบัน
๓. อนาคตสัมพุทธะ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายในอนาคต
ธูป สำหรับจุดบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น นิยมใช้ธูปมีกลิ่นหอม โดยมีความมุ่งหมายว่า ธรรมดากลิ่นธูปนี้เป็นกลิ่นหอมที่อัศจรรย์กว่ากลิ่นหอมต่างๆ ที่ชาวโลกนิยมใช้กัน
กลิ่นหอมที่ชาวโลกนิยมใช้กันอยู่ทุกชนิด เมื่อบุคคลได้สูดดมกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้ กิเลสฟูตัวขึ้น จิตใจฟุ้งซ่าน ไม่สงบ ส่วนกลิ่นหอมของธูปนั้น เมื่อบุคคลได้สูดกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้กิเลสยุบตัวลง
ธูปนั้นแม้จะถูกไฟไหม้หมดไปแล้ว แต่กลิ่นหอมของธูปก็ยังหอมหวลอบอวลอยู่ในบริเวณนั้นได้เป็นเวลานาน ฉันใด พระคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้า ก็เป็นที่ซาบซึ้งเข้าถึงจิตใจของบุคคลทั้งหลาย โดยที่สุด แม้แต่มหาโจร เช่น องคุลิมาล เป็นต้น ย่อมทำให้ผู้นั้นมีจิตใจสงบระงับจากการทำความชั่ว หันหน้าเข้าสู่ความดี และแม้พระพุทธเจ้าจะได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตาม แต่พระพุทธคุณก็ยังปรากฏซาบซึ้งตรึงอยู่กับจิตใจของชาวพุทธทั้งหลายตลอดมาจนกระทั้งทุกวันนี้ ฉันนั้น
เทียนสำหรับบูชาพระธรรม
เทียนนั้น สำหรับบูชาพระธรรม นิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม โดยมีความมุ่งหมายว่าพระศาสนธรรมคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นแยกออกได้เป็น ๒ ประเภท ได้ในคำว่า " ธม.โม พุพพิโธ" แปลว่า "พระธรรม มี ๒ อย่าง" คือ :-
๑. พระวินัย สำหรับฝึกหัดกาย และวาจา ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
๒. พระธรรม สำหรับอบรมจิตใจ ให้สงบระงับจากความชั่วทุกประการ
เทียนที่นิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม ก็เพื่อบูชาพระวินัยเล่ม ๑ และบูชาพระธรรม อีกเล่ม ๑
- เทียน สำหรับบูชาพระธรรมนั้น นิยมใข้เทียนขนาดใหญ่พอสมควรแก่เชิงเทียน ความนิยมใช้เทียนจุดบูชาพระธรรมนั้น มีความมุ่งหมายว่า ธรรมดาเทียนนี้บุคคลจุดขึ้น ณ สถานที่ใด ย่อมกำจัดความมืดในสถานที่นั้น ให้หายหมดไป ทำให้เกิดแสงสว่างขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ฉันใด
- พระศาสนธรรมคำสั่งสอน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น บุคคลใดมาศึกษาอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นแล้ว ย่อมกำจัดความมืด คือ โมหะ ความโง่เขลาเบาปัญญาในจิตใจของบุคคลนั้น ให้หายหมดไป ทำให้เกิดแสงสว่าง คือ ปัญญาเกิดขึ้นในจิตใจของตน ฉันนั้น
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์นั้น มีความมุ่งหมายว่า ธรรมดาดอกไม้นานาพันธุ์ เมื่อยังอยู่ ณ สถานที่เกิดของมัน ก็ย่อมมีความสวยงามตามสมควรแก่สภาพของพันธุ์ไม้นั้น ๆ ครั้นบุคคลเราเก็บดอกไม้นานาพันธุ์ เหล่านั้นมากองรวมกันไว้โดยมิได้จัดสรร ย่อมหาความเป็นระเบียบมิได้ ย่อมไม่สวยงาม ไม่น่าดู ไม่น่าชม ต่อเมื่อนายมาลาการ คือ ช่างดอกไม้ผู้ฉลาด มาจัดสรรดอกไม้เหล่านั้น โดยจัดแจกันหรือจัดใส่พานประดับให้เข้าระเบียบแล้ว ย่อมเป็นระเบียบเรียบร้อยเกิดความสวยงามน่าดู น่าชม ฉันใด
บรรดาพระสงฆ์สาวกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายสมัยเมื่อยังเป็นคฤหัสถ์อยู่บ้านเรือนของตนๆ ย่อมมีกิริยามารยาททางกาย ทางวาจา และจิตใจ เรียบร้อยตามสมควรแก่ภูมิชั้นแห่งตระกูลของตน ๆ หยาบบ้าง ปานกลางบ้าง ละเอียดบ้าง ครั้นคฤหัสถ์เหล่านั้น ซึ่งต่างชาติกัน ต่างตระกูลกันมีนิสัยอัธยาศัยต่าง ๆ กัน มีศรัทธาเลื่อมใสเข้ามาบวชอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่มีระเบียบปฏิบัติเป็นแบบแผนเดียวกัน พระสงฆ์สาวกเหล่านั้นก็จะหาความเป็นระเบียบมิได้ ย่อมไม่เป็นที่ตั้ง แห่งความศรัทธาเลื่อมใสของผู้ได้ประสบพบเห็น ครั้นเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เปรียบเสมือนนายมาลาการผู้ฉลาด ได้ทรงวางพระธรรมวินัยไว้เป็นแบบแผนประพฤติปฏิบัติ จัดพระสงฆ์สาวกเหล่านั้น ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในระเบียบเดียวกัน จึงเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าเคารพน่าสักการะบูชา ฉันนั้น
อนึ่ง ดอกไม้สำหรับใช้บูชาพระสงฆ์ นิยมใช้ดอกไม้ที่เพรียบพร้อมด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ :-
๑. มีสีสวย
๒. มีกลิ่นหอม
๓. กำลังสดชื่น
ดอกไม้ที่บูชาพระ นั้น นิยมจัดเปลี่ยนให้สดอยู่เสมอ อันเป็นนิมิตหมายแห่งความสดชื่น ความรุ่งเรือง ไม่นิยมปล่อยให้เหี่ยวแห้งเป็นนิมิต หมายแห่งความหดหู่ใจ ความเสื่อมโทรม เป็นต้น
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้ทีมีสีสวย แต่ไม่มีกลิ่นหอม เช่น บูชาพระด้วยดอกไม้พลาสติก หรือ ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีรูปร่างลักษณะดี มีรูปสวย แต่คุณภาพไม่ดีดังคำพังเพยว่า " สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม "
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้มีกลิ่นหอม แต่มีสีไม่สวย ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีคุณภาพดี แต่มีรูปร่างลักษณะไม่สวย ไม่งดงาม ดังคำพังเพย " ถึงรูปชั่วตัวดำ แต่น้ำใจดี "
-บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้กำลังสดชื่น ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่เป็นของใหม่ ๆ ไม่ต้องใช้ของที่เขาใช้แล้ว เป็นมือหนึ่ง ไม่ต้องเป็นมือสองรองใคร ดังตัวอย่างเช่น ชูชกมีอายุแก่คราวปู่ได้นางอมิตตดา ซึ่งเป็นสาวแรกรุ่นคราวลูกหลานเป็นภรรยา เพราะอานิสงส์ที่ชูชกได้เคยบูชาพระด้วยดอกบัวตูมที่กำลังสดชื่น ฉะนั้น
สถานที่ตั้งบูชาพระรัตนตรัย
การจัดสถานที่บูชาพระรัตนตรัยนั้น นิยมตั้งหันหน้าพระพุทธรูปไปทางทิศตะวันออก เพราะเป็นทิศที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นทิศแห่งความสำเร็จความประสงค์ ถ้าสถานที่ไม่อำนวย ก็นิยมตั้งหันหน้าไปทางทิศเหนือ ถ้าสถานที่ไม่อำนวยก็นิยม ตั้งหันหน้าไปทางทิศใต้ ทิศใดทิศหนึ่ง ในบรรดาทิศทั้ง ๓ นี้ แต่ไม่นิยมจัดตั้งที่บูชาพระ ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก เพราะถือกันว่า เป็นทิศตรงกันข้ามกับทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศแห่งความสำเร็จความประสงค์ ทิศตะวันตกจึงเป็นทิศแห่งความไม่สำเร็จความประสงค์ เป็นทิศอัสดงคตแห่งพระอาทิตย์ เป็นทิศแห่งความดับ เป็นทิศแห่งความเสื่อม ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งความไม่เจริญ ไม่รุ่งเรือง
สถานที่บูชาพระนั้น นิยมจัดตั้งไว้ทางด้านหัวนอนและจัดให้อยู่ ณ ที่สูงพอสมควร หรือนิยมจัดตั้งไว้ ณ ห้องใดห้องหนึ่งเป็นพิเศษ นิยมเรียกว่า " ห้องพระ " ซึ่งเป็นสถานที่อันเป็นที่เคารพ โดยเฉพาะทุกคนที่เข้าไป ณ สถานที่นั้น สมควรแสดงความเคารพทุกครั้งที่เข้าไป
สถานที่บูชาพระนั้น นิยมจัดตั้งไว้ ณ ที่มั่นคง เมื่อคนเดินผ่านไปมา ไม่เกิดความสั่นสะเทือน ไม่โยกโคลง ไม่สั่นคลอน นิยมถือกันสืบมาว่า ถ้าบ้านใด ที่บูชาพระไม่มั่นคง สั่นคลอน โยกโคลง พระพุทธรูปต้องสั่นสะเทือนอยู่เป็นนิตย์ คนในบ้านนั้นจะหาความสงบสุขได้ยาก มักจะเกิดความระส่ำระสายเดือดร้อนอยู่ร่ำไป
ข้อมูลอ้างอิง:ระเบียบปฏิบัติของชาวพุทธ
พระธรรมวโรดม (บุญมา คุณสมฺปนฺโน ป.ธ.๘)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพมหานคร
พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙
Got It From Kalyanamitra Website
ธูป เทียน ดอกไม้ สำหรับบูชาพระ
เริ่มโดย LiL' Faery, Feb 22 2006 11:55 AM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 11:55 AM
#2
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 02:03 PM
ขอบคุณค่ะ
เคยแต่จุดเทียน หรือจัดดอกไม้บูชาในวันพระเท่านั้น
จากนี้ไปจะทำให้ครบทั้งสามอย่างเลยค่ะ
อนุโมทนาค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 13 March 2006 - 08:29 PM
สาธุค่ะ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
สุนทรพ่อ
muralath2@hotmail
#4 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 14 March 2006 - 04:54 PM
เม่นครับ
#5
โพสต์เมื่อ 15 March 2006 - 12:06 AM
เมื่อจัดเตรียมสถานที่ภายนอกเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมจัดเตรียมห้องภายใน (ใจ) ของเราด้วยนะครับ แล้วจึงบูชาวันทาท่านด้วยใจใสๆ ใจที่เป็นกุศลกันครับ
#6
โพสต์เมื่อ 18 March 2007 - 03:55 PM
สาธุ