ถามศีล ข้อ 3 ของศีล 5 กะ ศีล 8
#1
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 12:12 PM
เพื่อนก็ถามกันมาด้วย แต่ตอบไม่ชัดเจน ตอบไม่เต็มปาก
รบกวนอธิบายหน่อยนะคะ
เรื่องศีลข้อ กาเมฯ
ของศีล 5 กับ ศีล 8 มันต่างกันใช่ไหม
ตามความเข้าใจ(ที่ตอบเพื่อนไป)
กาเมฯของ ศีล 5 มันคือ การไม่ยุ่งกับแฟนคนอื่น แต่แฟนตัวเองน่ะได้
กาเมฯของ ศีล 8 มันคือ การไม่ยุ่งกับแฟนคนอื่น และแฟนตัวเองก็ไม่ได้ด้วย
ใช่ป่ะคะ
อีกอย่างที่คนชอบถาม
ถาม ....."ดูหนังโป๊ ผิดศีลป่ะ"
ตอบ......"ไม่ผิดหรอกค่ะพี่ แต่มันเป็นทางเสื่อม"
ใช่ป่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 01:06 PM
กาเมสุ มิจฉาจาราเวรมณี
เว้นจากประพฤติผิดในกาม หมายความว่า ไม่ประพฤติผิด
ทางประเวณี คือไม่เสพเมถุนธรรม ในหญิง ๓ ประเภท และในชาย
๒ ประเภท. ชายมีภรรยาไม่ฝืนสทารสันโดษ, หญิงมีสามีไม่นอกใจสามี,
หญิงโสดมีผู้ปกครองไม่นอกใจท่าน.
หญิง ๓ ประเภท
๑. สสฺสามิกา หญิงมีสามี คือหญิงที่อยู่กินกับชายอื่นโดยฐาน
เป็นภรรยาอย่างเปิดเผย จะแต่งงานหรือไม่แต่งก็ตาม. ส่วนหญิงที่เป็น
ภรรยาลับของชายอื่นก็สงเคราะห์เข้าในประเภทนี้
๒. มาตาทิริกฺขิตา หญิงที่มารดาเป็นต้นรักษา หมายถึงหญิงผู้อยู่
ในพิทักษ์รักษาของท่าน เช่น พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อาว์ น้อง ญาติ
หรือผู้หลักผู้ใหญ่ปกครองดูแลอยู่.
๓. จาริตฺตธมฺมรกฺขิตา หญิงที่จารีตและธรรมรักษา หมายถึง
๓ จำพวก คือ:-
ก. หญิงที่เป็นเทือกเถาของตน คือ ย่าทวด - ยายทวด, ย่า
- ยาย, แม่. และหญิงที่เป็นเหล่ากอของตน คือ ลูกสาว หลานสาว
เหลนสาว. (นี้ชื่อว่า จาริตฺตรกฺขิตา หญิงที่จารีตรักษา)
ข. หญิงที่อยู่ใต้บัญญัติทรงพระศาสนา คือ ภิกษุณี สามเณรี
ชี อุบาสิกาผู้รักษาอุโบสถศีล หรือหญิงในศาสนาอื่นที่มีข้อห้ามเสพเมถุน.
ค. หญิงที่มีกฎหมายทางบ้านเมืองห้ามสมสู่.
(ทั้ง ข. และ ค. นี้ ชื่อว่า ธมฺมรกฺขิตา หญิงที่ธรรมรักษา)
ชาย ๒ ประเภท
๑. สภริโย ชายมีภรรยา หมายถึงชายที่ยังมีหญิงอื่นเป็นภรรยา
อยู่อย่างเปิดเผย เขาจะแต่งงานหรือไม่แต่งก็ตาม.
๒. จาริตฺตธมฺมรกฺขิโต ชายที่จารีต และธรรมรักษา, หมายถึงชาย
๒ จำพวก คือ:-
ก. ชายที่เป็นเทือกเถาของตนคือ ปู่ทวด - ตาทวด, ปู่ - ตา,
พ่อ. และชายที่เป็นเหล่ากอของตน คือ ลูกชาย หลานชาย เหลนชาย.
ข. ชายที่อยู่ใต้บัญญัติทางศาสนา คือ ภิกษุ สามเณร อุบาสก
ผู้รักษาอุโบสถศีล. หรือชายผู้ถือศาสนาอื่นที่มีข้อห้ามเสพเมถุนธรรม.
รวมความว่า
๑. ชายไม่ร่วมประเวณีในหญิง ๓ ประเภท ดังที่กล่าวแล้ว.
๒. หญิงไม่ร่วมประเวณีในชาย ๒ ประเภท ดังที่กล่าวแล้ว.
๓. ชายมีภรรยาไม่ฝืนสทารสันโดษ คือยินดีเฉพาะภรรยาของตน
เสพหญิงอื่น นอกจากหญิง ๓ ประเภท ไม่เป็นกาเมสุมิจฉาจาร แต่
" สทารสันโดษ " จึงไม่ควรเสพแม้หญิงอื่น.
๔. หญิงมีสามีไม่นอกใจสามี. คือไม่ร่วมประเวณีกับชายอื่นนอก-
จากสามีตน.
๕. หญิงโสดมีผู้ปกครอง ไม่นอกใจท่าน คือเมื่อผู้ปกครองมิได้
ยินยอม ก็ไม่ร่วมประเวณีกับชายโสด
ทั้งหมดเหล่านี้ ชื่อว่า เป็นผู้เว้นจากประพฤติผิดในกาม.
ประพฤติผิดในกามมีองค์ ๓ คือ:-
๑. หญิง - ชาย ที่ตนไม่ควรร่วมประเวณี
๒. จิตคิดจะร่วม ฯ
๓. ทำการร่วม ฯ.
แม้การเกี้ยวพาราสี จับมือถือแขน หรือเพียงแต่เล่นหูเล่นตา หรือ
แสดงพฤติกรรมเยี่ยงชู้สาว ก็สงเคราะห์เข้ากับการประพฤติผิดในกามด้วย.
การร่วมประเวณี ศีลขาด, ถ้าไม่ร่วม, แต่เกี้ยวพาราสีเป็นต้น ศีลไม่ขาด
แต่ก็ด่างพร้อย ไม่บริสุทธิ์ ไม่ควรประพฤติ.
ศีลข้อ 3 สำหรับศีล 5 นั้นยังสามารถมีความสุขทางกามกับคู่ครองของตนได้ แต่ถ้าต้องการจะปฏิบัติธรรมให้ยิ่งขึ้น ก็ต้องลดความสุขและความหมกมุ่นเรื่องกามลง ดังนั้น ศีลข้อ 3 สำหรับศีล 8 จึงให้ละเรื่องกามโดยเด็ดขาดทุกกรณี
ไฟล์แนบ
#3
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 01:28 PM
กาเมฯของ ศีล 8 มันคือ การไม่ยุ่งกับแฟนคนอื่น และแฟนตัวเองก็ไม่ได้ด้วย
ถ้าแค่แฟน คือคบกันเฉยๆ แล้วไปยุ่งก็ผิดตั้งแต่ ข้อ5 แล้วคราบบ
#4
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 03:50 PM
ปฏิบัติ
...ไม่มีจิตคิดละเมิดทั้งในที่ลับที่แจ้ง...จึงไม่ต้องแสวงหาช่องโหว่ในธรรมวินัยว่า...ถึงตรงไหนจึงจะผิดศีล...ตรงนี้ศีลขาดหรือไม่?
- ศีล8 ยกระดับฆราวาสเพื่อประพฤติพรหมจรรย์...โดยตัดเสบียงกาม...ปราศจากความกำหนัดยินดี...อันเป็นอุปสรรคต่อเนกขัมมะบารมี...มุ่งเข้าสู่เส้นทางแห่งอริยมรรค...เพื่อบรรลุเป้าหมายอันสูงสุดของการได้อัตตภาพเป็นมนุษย์
เลิกอยาก ลาหยอก หลุดออกจากกาม เดินตามขันธ์สามเร็วไว
#5
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 03:58 PM
สาธุ กับ คุณ Kodomo_kung ด้วยจ้า
#6
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 04:09 PM
#7
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 04:16 PM
แต่ย้อนไปกรณีแรก แม้ไม่ีรู้ ซึ่งถือว่าไม่ผิดศีล(ศีลไม่ขาด) แต่ศีลก็ด่างพร้อยน่ะครับ เพราะถือว่าเราไม่รอบคอบไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน
บางท่านอาจจะถามว่า ทำไมไม่ยุติธรรมเลย ก็ไม่รู้ก็ย่อมไม่ผิดสิ
ก็อยากอธิบายว่าผู้ Set Program ให้มนุษย์สร้างกรรม จากนั้นก็ Set ให้มีวิบาก คือ ผลของกรรมไว้รองรับนั้น ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ Program นี่ถูก Set ไว้ทำลายมนุษย์มานานแสนนานแล้ว
พระพุทธเจ้าท่านเป็นแต่เพียงผู้ค้นพบ แล้วนำมาเล่าให้พวกเราฟังเท่านั้นน่ะครับ ว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้มี Program Set ไว้นะ อย่าไปทำเชียว มิฉะนั้นจะถูก Program ทำลายเอา เป็นต้น
#8
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 04:43 PM
แต่ถ้าพิจารณาดูองค์แห่งศีลแล้ว ความเห็นส่วนตัวคือร้อยละ 99 ผิดแน่นอนเพราะคงไม่มีผู้ปกครองของหญิงนั้นยินยอมเป็นแน่แท้ เพราะฉะนั้นดีที่สุดคืออย่างที่พี่ wish ว่าไว้ คือ ไม่คิด ไม่ทำเป็นดีที่สุด
#9
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 05:31 PM
#10
โพสต์เมื่อ 26 January 2009 - 09:40 PM
#11
โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 01:41 AM
#12
โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 08:44 AM
#13
โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 09:44 AM
#14
โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 10:16 AM
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#15
โพสต์เมื่อ 27 January 2009 - 03:47 PM
#16
โพสต์เมื่อ 27 June 2010 - 10:35 PM
#17 *legoyuth*
โพสต์เมื่อ 07 December 2010 - 10:20 AM