ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

กรรมของสมเด็จพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 saowanee15

saowanee15
  • Members
  • 207 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 October 2005 - 07:10 PM

คัดลอกมาให้อ่านกันค่ะ
มาจากเว็ปนี้เลยค่ะ
http://larndham.net/...showtopic=15788

กรรมของพระพุทธเจ้าสมณโคดม
พระพุทธเจ้าของเราทรงเผยพระประวัติกรรมและผลของกรรมของพระองค์ กับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะประทับเหนือพระศิลาอันน่ารื่นรมย์ใกล้สระอโนดาด

ทรงกล่าวว่าครั้งหนึ่ง เห็นภิกษุผู้อยู่ป่ารูปหนึ่งจึงได้ถวายผ้าท่อนเก่า โดยตั้งปารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก ผลแห่งกรรมอันเนื่องด้วยผ้าท่อนเก่านั้น ได้สำเร็จในความเป็นพระพุทธเจ้า

ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายโคบาล ต้อนแม่โคไปสู่ที่หากิน เห็นแม่โคดื่มน้ำขุ่นจึงห้ามไว้ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นในภพสุดท้ายนี้ พระองค์กระหายน้ำ จึงไม่ได้ดื่มตามต้องการ เพราะเคยให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย พระอานนท์ไปแล้วไม่ตักมาบอกว่าน้ำขุ่น ต้องตรัสย้ำให้ไปตักใหม่เป็นครั้งที่สอง จึงได้น้ำใสกลับมาเพราะน้ำขุ่นนั้นกลับใส

ชาติหนึ่งเคยเป็นนักเลงชื่อปุนาลี ได้กล่าวใส่ความพระปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่าสุรภิผู้มิได้ประทุษร้าย ด้วยผลแห่งกรรมนั้นต้องไปท่องนรกสิ้นกาลนาน เสวยทุกขเวทนาสิ้นพันปี ด้วยกรรมที่เหลือในภพสุดท้ายก็ถูกใส่ความ เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกา ซึ่งเป็นนักบวชหญิงถูกพวกเดียรถีย์ใช้ให้ทำเป็นไปค้างคืนกับพระสมณโคดม ให้ใครต่อใครหลงผิดทั้งที่นางค้างที่อื่น แต่รุ่งเช้าก็ทำท่าโผเผมาจากเชตวนาราม อีกสองสามวันที่มีคนโจษจันกัน พวกเดียรถีย์ก็จ้างนักเลงไปฆ่านาง ป้ายความผิดว่านางถูกฆ่าปิดปาก คนสงสัยว่าอาจจะจริง ร้อนถึงพระราชาส่งราชบุรุษไปสืบดูตามร้านสุรา ก็จับนักเลงที่ฆ่ากับเดียรถีย์ที่จ้างฆ่ามาลงโทษทั้งหมด


อีกชาติหนึ่งเป็นพราหมณ์ผู้มีความรู้ มีผู้เคารพสักการะ สอนมนต์แก่มานพ 500 ได้ใส่ความภีมฤษีผู้มีอภิญญา มีฤทธิ์มาก หาว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม มานพทั้งหลายก็พลอยชื่นชม เมื่อไปภิกขาจารในสกุลก็เที่ยวกล่าวแก่มหาชนว่าฤษีนี้เป็นผู้บริโภคกาม ผลของกรรมนั้นภิกษุ500 เหล่านี้ทั้งหมดก็พลอยถูกใส่ความด้วย เพราะเหตุแห่งนางสุนทริกาทีถูกนักเลงฆ่าป้ายความผิดให้พระพุทธองค์ ภิกษุทั้งหลายที่อยู่ในเชตวนาราม พลอยถูกหาว่าร่วมกันฆ่าปิดปากนางสุนทริกา และถูกด่าว่า กระทั่งพระราชาจับนักเลงและเดียรถีย์ที่ร่วมกันฆ่านาง จึงสงบ


อีกชาติหนึ่งไปกล่าวใส่ความพระสาวกของพระสัพพาภิภูพุทธเจ้า มีนามว่านันทะ จึงต้องท่องไปในนรกหลายหมื่นปี เมื่อเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ถูกใส่ความมาก และด้วยกรรมที่เหลือ ชาติสุดท้ายนี้จึงถูกนางจิณจมาณวิกา ใส่ความว่าพระองค์ทำให้นางตั้งครรภ์
ชาติหนึ่งเคยฆ่าน้องชายต่างมารดาเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ผลักลงในซอกเขา เอาหินทุ่ม ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงถูกพระเทวทัตเอาหินทุ่มที่เขาคิชกูฏ จนสะเก็ดหินกระเด็นถูกหัวแม่เท้า ห้อพระโลหิตในชาติสุดท้าย

อีกชาติหนึ่งเป็นเด็กเล่นอยู่ในทางใหญ่ เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงเผาสิ่งต่างๆขวางทางไว้ ผลกรรมนั้น ในภพสุดท้ายจึงถูกพระเทวทัตส่งคนตามล่า

ชาติหนึ่งเป็นนายควาญช้าง ไสช้างไล่กวดพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เที่ยวไปเพื่อบิณฑบาต ผลแห่งกรรมนั้น ชาติสุดท้ายถูกช้างนาฬาคิรีดุร้ายเมามัน วิ่งเข้ามาเพื่อทำร้ายในนครอันประเสริฐมีภูเขาเป็นคอกคือกรุงราชคฤห์ ซึ่งมีภูเขาห้าลูกแวดล้อม

อีกชาติหนึ่งเป็นพระราชา เป็นหัวหน้าทหารเดินเท้า ฆ่าบุรุษหลายคนด้วยหอก ผลแห่งกรรมนั้นต้องหมกไหม้อย่างหนักในนรก ด้วยผลที่เหลือแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้าย สะเก็ดแผลที่เท้ากลับกำเริบ กรรมยังไม่หมด

ชาติหนึ่งเคยเป็นเด็กชาวประมง ในหมู่บ้านชาวประมง เห็นชาวประมงฆ่าปลาก็มีความชื่นชม ด้วยผลของกรรมนั้นจึงเกิดเจ็บที่ศรีษะ ในขณะที่วิทูฑภะฆ่าพวกศากยะในกรุงกบิลพัสด์

อีกชาติหนึ่งเคยเป็นบริภาษพระสาวกในพระธรรมวินัยของพระผุสสพุทธเจ้า ว่าท่านจงเคี้ยว จงกินข้าวเหนียวเถิด อย่ากินข้าวสาลีเลย ผลแห่งกรรมนั้นในชาติสุดท้ายนี้ ต้องบริโภคข้าวเหนียวอยู่สามเดือน เมื่อพราหมณ์นิมนต์ไปอยู่เมืองเนรัญชา แล้วลืมถวายอาหาร ได้อาศัยพ่อค้ามาถวายข้าวเหนียวแดงที่มีไว้ให้ม้ากิน

ชาติหนึ่งสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้า เคยทำร้ายบุตรนักมวยปล้ำ ด้วยผลแห่งกรรมนั้นจึงเจ็บที่หลังเรื่อย

ชาติหนึ่งเคยเป็นหมอ แกล้งให้ยาถ่ายแก่บุตรเศรษฐี เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถึงแก่ชีวิต ผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ จึงเป็นโรคปักขันทิกะลงพระโลหิต

อีกชาติหนึ่งได้ชื่อว่าโชติปาละ เคยกล่าวกับพระสุคตพระนามกัสสปะว่า การตรัสรู้เป็นของได้โดยยาก ท่านจะได้จากควงไม้โพธิ์ที่ไหนกัน ด้วยผลแห่งกรรมนั้น ในชาติสุดท้ายนี้ต้องบำเพ็ญทุกกรกริยาเป็นอันมาก สิ้นเวลาถึงหกปี ต่อจากนั้นจึงได้บรรลุการตรัสรู้
“เรามิได้บรรลุการตรัสรู้โดยทางนั้น ได้แสวงหาโดยทางที่ผิด เพราะถูกกรรมเก่าทวงเอา”
พระองค์ทรงหมายถึง มิได้ปฏิบัติธรรมบรรลุพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในทันทีเลย ต้องไปหลงผิดปฏิบัติทางอื่นอยู่หกปี อดอาหารจนแทบสิ้นชีวิตเมื่อบำเพ็ญทุกกรกริยา เปลี่ยนมาฉันอาหารอีก ทำให้ปัญจวัคคีย์โกรธเลิกนับถือหาว่าไม่มั่นคง แต่ภายหลังเมื่อพระองค์ทรงปฏิบัติถูกทางจนบรรลุธรรม ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วจึงไปโปรดปัญจวัคคีย์ ให้หายโกรธ หายเข้าใจผิด

พระพุทธองค์ทรงสรุปการแสดงกรรมอันเกิดจากอดีตชาติทั้งหลายดังกล่าว “เราสิ้นบุญและบาปแล้ว เว้นแล้วจากความเดือดร้อนทั้งปวง ไม่มีความโศก ไม่มีความคับแค้นปราศจากอาสวะ จักปรินิพพาน”

กรรมและผลของกรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้ประจักษ์ มีเนื้อหาให้เห็นว่า กรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก แม้แค่แสดงความชื่นชมกับผู้หลงผิดคิดผิด ยังต้องรับกรรมเช่นภิกษุห้าร้อยรูป ที่พลอยรับกรรมถูกตำหนิด่าว่าเป็นผู้ร่วมกันฆ่านางสุนทริกาเพื่อปิดปาก ไปกล่าวร้ายพระพุทธเจ้าว่าเสพกามกับนาง ซึ่งมาจากกรรมสมัยมานพห้าร้อยคน สมัยพระองค์เป็นพราหมณ์สอน โดยชื่นชมกับคำกล่าวหาใส่ความของพราหมณ์อาจารย์ที่ว่าฤษีบริโภคกาม หรือสมัยพระพุทธองค์เป็นเด็กชาวประมง ชื่นชมกับชาวประมงที่ฆ่าปลา ยังรับกรรมเจ็บที่ศีรษะเป็นต้น

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 04 October 2005 - 02:19 PM

กฏแห่งกรรมจึงเป็นกฏที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง และไม่ควรประมาทในกฏนี้เลย
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 *Guest*

*Guest*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 05 October 2005 - 09:07 AM

ขอบคุณมากๆครับผม

#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 07 October 2005 - 03:37 AM

nerd_smile.gif ดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เรียกได้ว่า "แรงใด... จะเสมอเหมือนด้วยแรงกรรม เป็นไม่มี" ครับ.
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#5 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 04 February 2007 - 04:42 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ

#6 Santinal

Santinal
  • Members
  • 15 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 June 2008 - 02:10 PM

น่ากลัวจริงๆ

ขนาดพระพุทธเจ้า ยังไม่พ้นกรรม

แล้วขนาดเราๆ จะเหลือเรอะ