ทำไมวัดเราไม่มีฌาปนสถานเหมือนวัดอื่น
#1
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 12:14 PM
#2
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 12:27 PM
และอาจมีอีกหลายวัดที่ไม่มี
#3
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 12:50 PM
1. ศีกษาธรรม
2. ปฏิบัติธรรม
3. เผยแผ่ธรรม
หากทางวัดสามารถดำเนินการให้มีการปฏิบัติ 3 หน้าที่นี้ ก็ถือว่า ครบถ้วนตามที่ทรงตรัสไว้น่ะครับ
ส่วนเรื่อง การจัดพิธีศพนั้น สามารถจัดได้ว่า เป็นการสั่งสอนธรรม หรือ เผยแผ่ธรรม อีกรูปแบบหนึ่ง คือ สั่งสอนคนเป็น ให้เห็นว่า คนเราก็เท่านี้ สักวันก็ต้องตาย โดยผ่านพิธีจัดงานศพ
ซึ่ง การเผยแผ่ธรรม นอกจากใช้วิธีการดำเนินการผ่านการจัดงานศพแล้ว ยังสามารถใช้วิธีการอื่นๆ ได้ ตามความเหมาะสม เช่น การจัดเทศน์สอน การจัดอบรม ต่างๆ เป็นต้น ประกอบกับทางวัดอื่น ก็มีการจัดพิธีศพกันหลายๆ วัด สนองศรัทธาญาติโยมด้านนี้ ไม่ได้เป็นที่ขาดแคลนอยู่แล้วครับ จึงเน้นการเผยแ่ผ่ธรรมด้านอื่นๆ แทนน่ะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 01:06 PM
วัดเบญจมบพิตร
วัดสามพระยา
วัดพระเชตุพนฯ
ฌาปนสถานไม่ใช่จำเป็นที่วัดฯต้องมีนี่ครับ ถ้าแค่ฌาปนกิจ รอบๆ วัดพระธรรมกายมีเยอะ
แล้วอีกอย่าง ก็คงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการสร้างวัดฯ ที่เน้นในเรื่องการอบรมและเผยแผ่ครับ
#5
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 05:53 PM
#6
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 07:21 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#7
โพสต์เมื่อ 28 May 2007 - 10:14 PM
#8
โพสต์เมื่อ 29 May 2007 - 08:59 PM
#9
โพสต์เมื่อ 30 May 2007 - 12:02 AM
#10
โพสต์เมื่อ 30 May 2007 - 01:49 AM
#11
โพสต์เมื่อ 30 May 2007 - 05:05 PM
#12
โพสต์เมื่อ 05 June 2007 - 09:18 AM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#13
โพสต์เมื่อ 05 June 2007 - 12:23 PM
เช่น หากอยากให้ลูกหลานเรียนหลักสูตรพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ก็ต้องส่งไปเรียนที่วัดที่เขาจัดสอน ซึ่งวัดพระธรรมกายไม่ได้จัดสอนตรงนี้ แต่หากอยากส่งลูกหลานไปเข้าค่ายอบรมสมาธิ ก็ต้องส่งไปพระวัดพระธรรมกาย หรือ วัดที่เขามีการจัดอบรมแบบนี้ บางวัดก็ไม่มี มันเป็นเรื่องปรกติน่ะครับ