ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

แต๋มหลบพ่อไปอยู่ที่อื่นจะเป็นทางออกที่ดีรึเปล่า


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 น้องแต๋ม

น้องแต๋ม
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 01:31 AM

สำหรับกระทู้ที่แล้วขอบคุณนะคะ ที่ให้คำแนะนำที่ดี แต่กลัวทำไม่ได้ค่ะ และยิ่งอดทนก็ยิ่งเครียดหนักเลย ตอนที่คุณพ่ออาลวาดแต๋มเคยอดทนได้ พอผ่านช่วงนั้นมาได้รู้สึกดีมากๆเลยค่ะ เหมือนว่าเราเอาชนะตัวเองได้ ที่ไม่เถียงพ่อ แต่พอวันรุ่งขึ้นแต๋มตื่นไปเข้าห้องน้ำ ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย พ่อก็พูดจาถากถางเรื่องตื่นสายและไม่หางานทำ(ทั้งๆที่แต๋มไม่เคยขอเงินพ่อเลย แฟนแต๋มส่งให้ทุกเดือน แต๋มเองก้รีบหางานอยู่ แต่พ่อไม่เข้าใจ) ตอนนั้นแต๋มจู๋ๆก็ขว้างของใส่กำแพงที่ด้านข้างตัวพ่อ (ห่างจากตัวพ่อ พอควร) พ่องงเลยค่ะ แต๋มก็งงเพราะยังไม่ทันได้โต้เถียงอะไรเลย ที่สำคัญแต๋มยังไม่รู้สึกว่าตัวเองโกรธด้วยซ้ำไป ปกติต้องเดือดจริงๆนะ และจะขว้างของเฉพาะในห้องเราเท่านั้น เป็นเพราะว่าแต๋มเก็บกดจากวันก่อนรึเปล่า พอมาอีกวันก็เลยควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลย แบบว่าระเบิดเป็น 2 เท่า พอตอนเย็นแต๋มก็เก็บเสื้อผ้าไปพักที่บ้านสมุครสาครค่ะ แต่ไม่มีคนอยู่ แฟนซื้อทิ้งไว้เฉยๆ บ้านหลังใหญ่มาก อยู่คนเดียวได้ 2-3วัน รู้สึกกลัวผีมากๆเลย แต่รู้สึกผิด และไม่อยากทำบาปอีก จึงต้องทน ส่วนแม่คิดถึงเรามาก โทรหาทุกวัน พอวันนี้แต๋มกลับมาถึงบ้านตอนค่ำ ก็สงสารแม่ เพราะไม่มีคนทำความสะอาดเลย เสื้อผ้าเต็มตระกร้า บ้านสกปรกมาก ถ้าวันจันทร์แต๋มไปอยู่ที่นู่นอีก จะขึ้นชื่อว่าไม่ดูแลบิดามารดารึเปล่า ปกติถึงแต๋มจะเถียงพ่อ แต่ก็จะเป็นคนทำความสะอาด ดูแลพ่อแม่ตลอด และพ่อก็มักเป็นตะคริวจากการกินเหล้าจัดบ่อยๆด้วย เคยเป็นถึงขั้นพ่อไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ก็บ่อย ซึ่งแต๋มจะเป็นคนคอยดูแลตลอดเลย คอยสังเกตุถ้าพ่อลิ้นแข็งพูดไม่ได้แต๋มจะชงยา และคอยนวดให้ ซึ่งต้องทำให้ทันที เพราะเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาตได้ แต่ก็ทนกับนิสัยชอบอาลวาดอวดดีของพ่อไม่ไหวเหมือนกัน พอจะทำดีก็มีบาปให้มาลบไป

แต๋มไม่แน่ใจว่าเรื่องการสักยันต์ต่างๆจะเกี่ยวกับนิสัยอาลวาด ข่มผู้อื่นของพ่อไหม ตอนเด็กแต๋มจำได้ว่าพ่อ สักเต็มเลย พ่อเป็นตำรวจค่ะ แม่เคยเล่าว่าสมัยหนุ่มๆพ่อ อยู่กองปราบพิเศษ ต้องปลอมตัวล่อผู้ร้ายบ่อยๆ เสี่ยงตายหลายครั้ง เคยปราบตี๋ใหญ่ด้วย เพื่อนพ่อโดนยิงแต่พ่อไม่เป็นไรเลย พ่อมีเสือพาดกลางที่หน้าอก(แต๋มจำได้ ) ที่หลังมี เก้ายอด มีเจดีย์อะไรก็ไม่รู้เรียกไม่ถูก ที่ไหล่ก็มี ทั้งสองข้างเลย (แต่จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร เพราะเด็กเลยไม่สนใจ)ซึ่งทุกรอยสัก ลงคาถากับอาจารย์ชื่อดังนะคะ แต่ทุกวันนี้เหลือแต่เก้ายอดค่ะ นอกนั้นมาสังเกตุอีกทีก็ไม่เห็นแล้ว แม่บอกว่าของเข้าตัว เพราะไม่ถือศีลถือสัตย์ กินเหล้า พูดหยาบ ผิดในหลายข้อที่เขาห้าม ของเลยเข้าตัว นิสัยก็เลยเป็นแบบนี้ พ่อเคยลืมตัวใช้มือขย้ำคอแต๋มด้วย พอรู้ตัวก็เลยรีบปล่อย แต่ตอนนั้น จำได้ว่า แววตานั้นไม่เหมือนพ่อเลย น่ากลัวมาก เพียงช่วงวูบเดียวเท่านั้นพ่อก็รู้ตัว และคลายมือออก อืม....นี่เป็นแค่เหตุการณ์คร่าวๆนะคะ ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันรึเปล่า แล้วถ้าเกี่ยวจะแก้ไขอย่างไรดี และการหลบไปที่อื่น เพื่อหนีการมีปากเสียงกับพ่อ แต่ไม่ได้ดูแลพ่อกับแม่ หรือการอยู่ดูแล แต่ไม่รู้ว่าจะอดทนได้แค่ไหนนั้น อันไหนจะบาปน้อยกว่ากัน และควรทำไงดีคะ

#2 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 05:48 AM

happy.gif ในบทสวดมนต์ทำวัตรเย็นกล่าวว่า "เรามีกรรมเป็นของตัว ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น" ก็หมายความว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็คือภาพในอดีตที่เราเคยทำมาทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่เราประกอบเหตุมาก่อน ซึ่งก็เป็นผลที่ประสบอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อเราทำความเข้าใจอย่างนี้ก็จะทำให้มีกำลังใจที่จะต้องอดทน อดทน และอดทน เพื่อจะได้หมดวิบากกรรม และที่สำคัญก็อย่าสร้างกรรมใหม่ เพราะจะเป็นวิบากติดต่อไปในอนาคต ซึ่งจะทำให้ต้องไปชดใช้ไม่รู้จักหมดจักสิ้น แล้วให้หมั่นสั่งสมบุญทุกๆ บุญอย่างเต็มที่แล้วอธิษฐานให้ผลบุญไปตัดรอนวิบากกรรมให้หมดไป ให้ทำบ่อยๆ แล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง แล้วหมั่นสร้างสัมมาฐิฏฐิให้เกิดขึ้นในตัวเอง โดยเฉพาะศึกษาCase Study ของบุคคลต่างๆ ซึ่งมีหลากหลาย และมีหลายๆ เคสที่คล้ายๆ ของคุณแต๋ม ก็จะทำให้เราเข้าใจกฏแห่งกรรมเพิ่มมากขึ้นนะครับ จะอย่างใรก็ตาม ขอย้ำว่าพ่อและแม่ก็เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก ทำบุญกับท่านจะได้รับอานิสงค์มาก..ขอเป็นกำลังใจให้อดทนในการทำความดีต่อไปนะครับ...สาธุ rolleyes.gif

#3 justmin

justmin
  • Members
  • 132 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 10:07 AM

ลองคิดอย่างนี้ดูน่ะ เวลาพ่อพูดจาไม่ดีกับเรา ให้ลองคิดว่านั้นเป็นภาพของครอบครัวอื่นที่ไม่ใช่เรา เราจะรู้สึกว่าไม่ทุกข์ร้อนเท่าไรนัก เหมือนที่น้องเล่าเรื่องของน้องให้คนอื่นฟัง เขาก็รับฟังน่ะและเห็นใจด้วย แต่เขาทุกข์เท่าน้องไหม..คำตอบคือไม่ จะทุกข์มากน้อยเพียงไร ขึ้นอยู่ความรู้สึกผูกพัน ความยึดถือ เอาไว้..ของแต่ละคนน่ะ

เมื่อก่อนตัวเองก็เคยเป็น...แบบนั้น ยึดมั่น ถือมั่นมาก รู้สึกว่าทุกข์ รู้สึกว่าหนัก พยายามหาหนทางออกจากปัญหาอยู่ตั้งนาน แท้จริงอยู่ที่ใจตัวเราเองนี้แหละ

ลองเอาใจตัวเองเป็นเหมือนเครื่องกรองน้ำดูซิค่ะ อันไหนหนักก็อย่าถือ อันไหนไม่ดีก็โยนทิ้ง
ตอนแรกก็ดูทำยากน่ะ แต่เริ่มทำดูก่อนซิ ทำเรื่อยๆ..ทำบ่อย ๆ...แล้วก็จะรู้ว่าจริงเหมือนกันแฮะ..

ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ...



#4 Nachpuzzorn

Nachpuzzorn
  • Members
  • 35 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 10:25 AM

smile.gif น้องแต๋มคะ พี่ little sun มีทางเลือกให้ 2 ทางนะคะ ลองพิจารณาดูว่า แบบไหนจะเหมาะกับน้องแต๋ม

1. อยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ต่อไป เพราะสงสารคุณแม่ อยู่คอยดูแลท่านทั้งสอง เอาบุญพิเศษ คือ กตัญญูกตเวที แต่เลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคุณพ่อไม่ได้

วิธีแก้ไข เรื่องกระทบกระทั่งกับคุณพ่อ นั่งสมาธิมาก ๆ หลักในการหลับตาทุกครั้งคือ ผ่อนคลายสบาย นั่งแล้วต้องสบายใจนะคะ นั่งแล้วเครียดใช้ไม่ได้ ทุกครั้งหลังนั่งเสร็จ ให้อธิษฐานเบาๆ ไปในความสบายนั้นว่า ขอให้คุณพ่อใจเย็นลง หลุดพ้นจากวิบากกรรมต่าง ๆ ให้ท่านคิดดี พูดดี ทำดี กับ น้องแต๋ม และคุณแม่ และขอให้เราได้งานดี ขอให้วิบากกรรมไม่ดีทั้งหลายตามไม่ทัน ให้กรรมดีส่งผลก่อน ทำอย่างนี้ทุกวัน อย่าขาดต่อเนื่องกันให้ได้อย่างน้อยวันละ ครึ่งชั่วโมงนะคะ

ผลที่จะได้รับ ถ้าต้องกระทบกระทั่งกับคุณพ่อโดยเลี่ยงไม่ได้ เราก็จะมีวิบากกรรมติดตัว ถ้าเถียง ก็จะเจอลูกหลานไม่เคารพ (แต่ต่างกับใช้เหตุผล ด้วยความใจเย็นนะคะ) ถ้าเมินเฉย อาจหูหนวกได้ ถ้าขว้างของ อาจมือกุดได้ แต่แก้ได้ คือ นั่งสมาธิแบบที่พี่บอกนะคะ แล้วก็อธิษฐาน วันไหนคุณพ่อใจเย็น หรือจะถือเอาวันเกิดพ่อ หรือวันพ่อ ก็ได้ ซื้อพวงมาลัยสวย ๆ ขอขมาท่านว่าสิ่งที่เราล่วงเกินท่านด้วยกาย วาจา ใจ ขอคุณพ่ออโหสิกรรมให้แต๋มด้วยนะคะ ถ้าพ่ออโหสิกรรมให้
ก็ตัดวงจรกรรมได้ทันที น้องก็ไม่ต้องเจอวิบากกรรมร้าย ๆ ดังกล่าว

ซึ่งการขอขมา สามารถทำได้หลายครั้ง เพราะคนเรามักจะเผลอทำผิดอยู่ซ้ำๆ แต่ก็ต้องคิดหาอุบายที่จะไม่ทำให้ท่านรู้สึกว่า เรานี่อะไร พอทำผิด ก็จะขอขมา อย่างนี้ทำผิดได้ร่ำไปหรือเปล่า เราก็ต้องดูจังหวะ เวลา โอกาส ที่เหมาะสม
เช่น ใกล้เทศกาลวันพ่อทีหนึ่ง ก็ถือโอกาสกราบคุณพ่อ พร้อมกับขอขมาไปในตัว อย่างนี้ไงจ้ะ

2. อยู่ที่บ้าน 4 วัน ช่วยคุณแม่ทำงานบ้าน ดูแลท่านทั้งสอง อยู่ทึ่อื่น 3 วัน เพื่อมีเวลานั่งสมาธิมาก ๆ อธิษฐานให้คุณพ่อ คุณแม่ และตัวเอง และเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับคุณพ่อ

อนุญาติให้ใช้วิธีนี้ได้ ในช่วงแรกของการปรับตัวนะคะ เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับคุณพ่อ พอใจเรานิ่งมากขึ้นเราจะรู้เอง แต่ต้องนั่งสมาธิแบบที่พี่บอกนะคะ นั่งสบาย ๆ แล้วก็อธิษฐาน ให้คุณพ่อใจเย็น เป็นสัมมาทิฐฐิ พอใจเรานิ่งมีความสุขกับความสบายที่เรานั่งสมาธิ รู้สึกว่า ไม่ว่าอารมณ์ภายนอกจะมากระทบยังไง เราก็เฉย ๆ เราก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติ

การหลีกไปอยู่ที่อื่นเพื่อเลี่ยงการสร้างวิบากกรรมใหม่ ยิ่งทำกับพ่อแม่หนักมาก ถ้าทำดี ก็ดีโลด ถ้าทำไม่ดี ก็ตรงกันข้ามสุด ๆ ก็ไม่ผิด แต่ในใจเราให้คิดว่า เราต้องตอบแทนพระคุณท่านให้ได้ คิดทุกวัน กลับไปดูแลท่านบ้าง ส่งเงินให้ท่านสม่ำเสมอ กลับไปให้กำลังใจท่าน อย่างนี้ใช้ได้

ทั้ง 2 วิธีนี้ พี่เน้นเรื่อง นั่งสมาธินะจ๊ะ ถ้าเรานั่งแล้วสบายใจ ใจพองๆ มีความสุข แล้วอธิษฐานจิต บุญจะส่งผลเร็วมาก
คุณพ่อจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเลยนะจ๊ะ อ้อ! วิธีนั่งสมาธิ ลองศึกษาในเวป dmc.tv/ และเวปลิงค์ ดูนะจ๊ะ ถ้ามีข้อสงสัยอะไร ก็ถามได้นะจ๊ะ happy.gif

#5 MIHARU

MIHARU
  • Members
  • 620 โพสต์
  • Interests:พระพุทธศาสนา<br />วิทยาศาสตร์

โพสต์เมื่อ 04 August 2007 - 04:06 PM

หนักหน่อยนะคะ ยังไง MIHARU ก็อยากให้คุณแต๋มควมคุมตัวเองให้ได้ก่อน ไม่ให้โกรธ คุมใจได้ ก็จะคุมมือได้ ถ้ายังควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้ ไม่ว่าจะไปอยู่กับใคร เกิดถูกใครทำให้โกรธขึ้นมา ก็ขว้างปาข้าวของอย่างนี้ร่ำไป ต่อไปคนที่อยู่กับคุณแต๋มก็จะมาตั้งกระทู้แบบคุณแต๋มนี่แหละค่ะ ไม่มีใครแก้ไขให้ได้นอกจากตัวคุณเอง ที่รู้ดีที่สุด คุณมีบารมีเรื่องความกตัญญูอยู่แล้ว มีไม่เยอะนะคะ คนที่ได้อยู่กับพ่อแม่ ได้ดูแลท่านขนาดนี้ ทั้งทำงานบ้าน บีบนวดในยามที่ท่านเจ็บป่วย ทำไมคุณทำให้ท่านได้ล่ะคะ เพราะตอนนั้นท่านไม่ได้ทำให้คุณโกรธรึเปล่า
บอกได้แค่ควบคุมตัวเองให้ได้ คุณจะหนีไปอยู่ที่ไหนก็ค่าเท่ากันแหละค่ะ ถ้ายังทนการกระทบกระทั่งไม่ได้แบบนี้ ถือว่ากำลังฝึกตนเองแล้วกันนะคะhappy.gif
Relax & Alert

#6 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2007 - 07:54 PM

ผมขอให้บุญรักษาครับผม

#7 บี

บี
  • Members
  • 151 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2007 - 08:01 PM

ทางออกมีอยู่แล้ว แต่ต้องตั้งสติด้วยครับ
จะทำอะไรตัดสินมันด้วยเหตุและผลนะครับ สู้สู้
ทุกๆคนจะเป็นกำลังใจให้

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 10:05 AM

ถ้าเดาไม่ผิด น้องแต๋มคงเป็นคนที่ไม่ยอมใครอยู่เหมือนกัน ตบะแตกง่าย และที่สำคัญคือเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ไม่คิดยับยั้งชั่งใจ แถมถ้าโกรธหรือโมโหเมื่อไหร่จะไม่ฟังใครทั้งนั้น ใช่ไหมจ๊ะ พี่มั่นใจเพราะเคยเจอเคยคบผู้หญิงที่มีนิสัยคล้ายน้องแต๋มมาก่อน ถ้าน้องแต๋มเป็นอย่างที่พี่ว่า สมาธิจะไม่สามารถช่วยอะไรน้องแต๋มได้เลย เพราะความโกรธครอบคลุมใจน้องแต๋มอยู่เกิน90% ดังนั้นพี่จะแนะนำแตกต่างจากคนอื่น คือให้ย้ายไปอยู่คนเดียวก่อนสักพัก หากน้องแต๋มคิดว่าสามารถช่วยตัวเองได้ แต่ไม่ใช่ย้ายไปอยู่กับแฟนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะยิ่งเลยเถิดไปกันใหญ่ ให้น้องแต๋มย้ายไปเก็บตัวอยู่คนเดียวสักพัก ในช่วงที่อยู่คนเดียวนี้ก็ให้ฝึกทำสมาธิบ่อยๆ ค้นหาตัวเองว่าเกิดมาทำไม เกิดมาเพื่ออะไร แต่ถ้าจะให้ดี พี่ว่าน้องแต๋มขอคุณพ่อคุณแม่ไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์จะดีกว่าไหม ปลีกตัวห่างจากบ้านสักอาทิตย์ ดีกว่าย้ายไปอยู่คนเดียวนะจ๊ะ แถมมีคนคอยให้คำปรึกษาด้วย
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 11:18 AM

ทำอะไรให้คิดก่อนพร้อมมีสติที่จะแก้ปัญหา

เอาใจช่วยคะ

#10 kiangjung

kiangjung
  • Members
  • 119 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 August 2007 - 03:12 PM

เห็นด้วยกับการไปนั่งสมาธินะค่ะ ทำใจให้สงบจะพบทางออก แล้วนั่งทบทวนดูว่าที่พ่อดุด่าเพราะอะไร ยกตัวอย่างตัวเองตั้งแต่เด็กเคยคิดว่าแม่ไม่รักหรือรักเราน้อยกว่าพี่น้องคนอื่น ซึ่งมาทราบอีกทีก็เมื่อโต เรียนจบปริญญาตรีทำงานแล้วหลายปีว่าแม่ไม่ได้รักเราน้อยกว่าคนอื่น รู้สึกดีใจที่แม่รักเราแต่ก็เสียใจที่คิดไม่ดีอย่างนั้น น้องแต้มต้องลองทบทวนดูนะค่ะ ท่านอาจแค่เป็นห่วงเราแต่ดุด่าแรงไปหน่อยก็ได้ค่ะ แต่ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ต้องทนค่ะ ถ้าเราอยู่กับพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับคนอื่นก็ลำบากนะค่ะ

#11 ณ ทะเลจันทร์

ณ ทะเลจันทร์
  • Members
  • 78 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 August 2007 - 05:41 PM

...เหล้า...เฮ้อ..ใครหนอช่างริเริ่มให้มันเกิดมาในโลกนี้...
.. .. ..
ใจหนึ่งก็อยากจะบอกน้องแต๋มว่า "อย่ากังวลในสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้"
แต่พี่ก็เห็นใจและเข้าใจหนูมากเลยล่ะ ที่ต้องเผชิญกับภาวะสงครามอย่างนี้
แล้วหนูเองก็ถือได้ว่าอยู่กลางสมรภูมิทีเดียวเชียว...
เอาเป็นว่าตอนนี้ อยากขอให้หนูอดทนอีกหน่อยนะคะ
พอหนูหางานทำได้ สถานการณ์จะดีขึ้นกว่านี้นะ...พี่คิดว่างั้นนะ
... .... ...
พระอาจารย์เคยบอกว่า "เรามีเพียงโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้ดูแลผู้มีพระคุณ คือ เมื่อเรายังมีลมหายใจ"



 

"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น"  

"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"  "เจตนา..นั้นแหละคือ..กรรม"

"จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ"  "ไม่มีสิ่งเลวร้ายใดที่คนพูดโกหกทำไม่ได้"