มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[kuna]

แม้ว่าศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย รณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีประชาชนที่ยังขาดความรู้ความเข้าอย่างถูกต้องต่อเรื่องนี้อีกมาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จึงจัดโครงการ “อบรมและสนทนากลุ่มผู้ประสานงานการจัดหาผู้บริจาคโลหิต” ณ ห้องประชุม อาคารเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประสานงานการจัดหาผู้บริจาคโลหิตและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนสร้างเครือข่ายผู้ประสานงานการจัดหาผู้บริจาคโลหิต ซึ่งจะทำให้ได้ปริมาณโลหิตเพิ่มมากขึ้น

พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในทุกวันศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ต้องจัดหน่วยออกรับบริจาคโลหิตตามสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานศึกษา และบริษัทเอกชน วันละ 7-8 หน่วย เนื่องจากร้อยละ 60 ของเลือดที่มีผู้บริจาคมาจากการออกหน่วยไปรับถึงที่ จะรอให้คนเดินมาบริจาคที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ อย่างเดียวไม่ได้ แต่บางครั้งการออกหน่วยอาจไม่ได้รับเลือดที่บริจาคตรงตามเป้าที่ตกลงกันไว้ เนื่องจากผู้บริจาคอยู่ในสภาพไม่พร้อมที่จะบริจาคได้ เช่น นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ กินยาแก้อักเสบภายใน 7 วัน เป็นโรคความดันโลหิตสูง มีโรคประจำตัว มีรอบเดือน ตั้งครรภ์ ฯลฯ ทำให้ไม่สามารถบริจาคได้

“ ดังนั้นผู้ประสานงานจัดหาผู้บริจาคโลหิตในแต่ละองค์กร จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนในองค์กร

และเตรียมพร้อมสำหรับการบริจาคโลหิต รวมถึงการจัดเตรียมสถานที่รับบริจาคโลหิตให้เหมาะสม

ก่อนถึงวันที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปรับบริจาคโลหิต”

ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ กล่าวต่อว่า การปฏิบัติตัวถูกต้องในการบริจาคโลหิตไม่เพียงแต่ทำให้โลหิตที่ได้ดีเท่านั้น ยังส่งผลดีต่อตัวผู้บริจาคเองด้วย ที่สำคัญควรดื่มน้ำสะอาด 4-5 แก้วก่อนการบริจาคโลหิตครึ่งชั่วโมง จะส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่น ไม่เพลีย ลดโอกาสการเป็นลมระหว่างหรือหลังบริจาคโลหิต หลังบริจาคโลหิตแล้วต้องรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อให้เลือดกลับมาสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น ซึ่งทางศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติจะมีอาหารเสริมธาตุเหล็ก(ชนิดเม็ด) ให้ผู้บริจาคนำกลับไปทานด้วย และควรทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ผู้ประสานงานการจัดหาผู้บริจาคโลหิตของแต่ละองค์กรต้องรณรงค์เรื่องนี้ต่อด้วย

“คนไทยใจบุญมีผู้มาบริจาคเสมอทั้งหญิง-ชาย ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน อยู่ในกลุ่มอายุ 25-40 ปีมากที่สุด รองลงมาคือนักศึกษาและมัธยมปลาย ซึ่งเป็นช่วงอายุในเกณฑ์ที่สามารถบริจาคได้ โดยร้อยละ 60 ของผู้บริจาคโลหิตบริจาคซ้ำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามปัญหาที่ยังพบอยู่คือคนคิดว่ามีคนบริจาคเลือดเยอะแล้ว ไม่ต้องไปก็ได้ ซึ่งไม่อยากให้คิดเช่นนั้น อยากให้มาบริจาคอย่างสม่ำเสมอมากกว่า เพราะถึงมีผู้บริจาคก็จริง แต่ความต้องการในการใช้เลือดแต่ละวันมีสูง และเลือดสามารถเก็บได้เพียง 35 วัน ส่วนใหญ่เก็บไม่ถึงด้วยเพราะถูกนำไปใช้ก่อนแล้ว ทำให้เลือดสำรองไม่ค่อยเพียงพอ เรียกได้ว่าเป็นแบบได้เลือดมา-ใช้ไป จึงอยากให้ผู้บริจาคมาอย่างสม่ำเสมอ อยากให้เป็นผู้บริจาคตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ครั้งหนึ่งในชีวิต” ผอ.ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติกล่าว

เตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต

ผู้บริจาคต้องมีอายุระหว่าง 17-60 ปี น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัม, นอนหลับพักผ่อนเพียงพอไม่น้อยกว่า 6ชั่วโมง, รับประทานอาหารก่อนบริจาคโลหิตภายใน 4 ชั่วโมง (จะช่วยลดการหน้ามืดคลื่นไส้อาเจียน)

หากผู้บริจาคโลหิตอยู่ในเกณฑ์เหล่านี้ ไม่ควรบริจาค คือ พบว่าน้ำหนักลดในระยะ 3 เดือนอย่างไม่ทราบสาเหตุ, ท้องเสีย ท้องร่วงภายใน 7 วัน, ทานยาแอสไพริน ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวดข้อ หรือยาปฏิชีวนะอื่นๆ, เป็นโรคหอบหืด ลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง ไอเรื้อรัง โรคภูมิแพ้อื่นๆ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไต โรคหัวใจทุกชนิด ไทรอยด์ มะเร็ง โรคโลหิตออกง่ายหยุดยาก เคยเป็นหรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคตับอักเสบ, ทำฟันภายใน 3 วันที่ผ่านมา

ตัวเองหรือคู่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับผู้อื่น, ได้รับการผ่าตัดใหญ่ภายใน 6 เดือน หรือผ่าตัดเล็กภายใน 1เดือน, เจาะหู สัก ลบรอยสัก ฝังเข็มในระยะ 6 เดือน, เคยมีประวัติติดยาเสพติด หรือพ้นโทษในระยะ 3 ปี,เคยเจ็บป่วยต้องรับโลหิตผู้อื่นในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา, ฉีดวัคซีนในระยะ 14 วันหรือฉีดเซรุ่มในระย 1 ปีที่ผ่านมา, เข้าไปในพื้นที่มีมาลาเรียชุกชุมในระยะ 1 ปี หรือเคยป่วยเป็นมาลาเรีย, อยู่ในระหว่างมีรอบเดือน และคลอดบุตร หรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือน

หากต้องการทราบรายละเอียดสอบถามได้ที่โทร.0-2263-9600-99 ต่อ 1770,1771.

[suppy001]

Sa Thu Krub

[usr21591]

เมื่อวานนี้ โอเพิ่งไปบริจาคมาครับ พอดีเป็นวันหยุด ปกติจะบริจาคทุก ๆ 3 เดือนครับ ตอนนี้ก็บริจาคไปแล้ว 17 ครั้ง และก็ได้ใบประกาศ ครั้งที่ 16 แล้วด้วยครับ ปลื้มใจสุด ๆ ครับ ได้เข็มตราสัญลักษณ์ด้วยครับ แต่เมื่อวานเกือบเป็นลมแน่ะครับ แต่ในสู้ซะอย่าง วันนี้ยังรู้สึกเพลีย ๆ อยู่เลย ...................

โอ / เชียงใหม่ เลขประจำตัว 101-42-12725 (ศักดิ์เกรียงไกร ปัญญาวัตร)

อนุโมทนาบุญกะโอด้วยนะครับ

[hk_girlza]

อนุโมทนาบุญค่ะ คุณโอ เราเองก็ชอบบริจาคโลหิตมากๆค่ะ เพราะเป็นการให้เลือดให้เนื้อ ให้ชีวิต แต่ผู้หญิงมีข้อจำกัดทำให้ สามารถบริจาคได้ ปีละ 3 ครั้ง( ในประเทศที่เราอยู่ค่ะ ) ซึ่งเราเองก็บริจาคได้ครบปีละ 3 ครั้ง ในส่วนลึกยังหวังไว้ว่า คงจะมีชีวิตอยู่ยืนยาวให้ได้บริจาคโลหิตได้ครบ 100 ครั้ง ค่ะ

บุญรักษา ^O^

[131072]

สาธุนะค่ะ ที่ท่านทั้งหลายสามาถบริจาคโลหิตกันได้ ดิฉันผอมและไม่แข็งแรงค่ะก็เลยบริจาคไม่ได้ แต่ใจริงแล้วอยากบริจาคมากค่ะ

[usr21485]

สาธุครับ ผมก็บริจาคทุก 3 เดือนครับ

[แสง ประจันต์ 2]

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่บริจาคนะคร้าบ...สา...ธุ...

[hk_girlza]

การบริจาคโลหิต ถือว่า เป็นการให้เลือดให้เนื้อเป็นทานทีเดียว ได้บุญมาก นับเป็นอุปบารมี ผลบุญที่ทันตาเห็นก็คือ ใคร

ที่บริจาคเลือดไป ก็จะได้เลือดใหม่ที่บริสุทธิ์ มีคุณภาพสูง ส่วนอานิสงส์ที่จะได้ติดตัว ข้ามภพข้ามชาติ ไม่ว่าจะไปเกิดกี่ภพ

กี่ชาติก็ตาม จะมีร่างกายแข็งแรง และ สติปัญญาเหนือมุนษย์ทั้งหลาย

สาธุ

[100กะรัต]

อนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค๊ะ

โชคดีจังได้บริจาคเลือดด้วย ส่วนเราพยายามไปให้ตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่ผ่านซักที ออกจากห้องคอตกเลยเพราะไม่ได้บริจาคกับเค้าซักที เจ้าหน้าที่เค้าก็เอาธาตุเหล็กให้เราทานให้มาเป็นสิบกว่าห่อเลย (สงสัยเราไม่ค่อยชอบทาน เนื้อ นมไข่ซักเท่าไหร่) ไม่เป็นไรเดี๋ยวเอาใหม่ สู้ สู้

[Nida49]

ยินดีกับหมู่คณะของเราด้วย ที่มีคนบริจาคโลหิตกันหลายคน ส่วนตัวก็ 23 ครั้งแล้ว ทำทุก 3 เดือน ครั้งต่อไปก็ 18 มี.ค.

ทุกครั้งที่นอนให้เลือดก็นึกถึงขอให้ผลบุญที่เราให้เลือดนี้จงทำให้เราอย่าได้เจ็บป่วย ร่างกายแข็งแรง ถึงแม้ยามต้อง

เจ็บป่วย ก็ขอให้ได้พบคนช่วยดี หมอดี ยาดี มารักษาให้หาย

คิดไว้จะบริจาคตลอดไป จนกว่าจะครบอายุที่จำกัด หรือ สุขภาพไม่อำนวย

คนที่ยังไม่มีโอกาสเพราะสุขภาพไม่อำนวย ก็เปลี่ยนเป็นบริจาคอวัยยะ,ดวงตา หรือ บริจาคร่างกาย ก็ดีนะคะ


ขออนุโมทนาบุญ แบ่งบุญให้กับทุกๆ ท่านด้วยคะ สาธุ

[Dd2683]

อนุโมทนา การบริจาคโลหิต ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ของทุก ๆ ท่าน และนำบุญบริจาคโลหิตของผมมาฝากให้ด้วยครับ