มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ลูกพระพุทธ]

ปัญญามาก่อนศีล สมาธิ

การรักษาศีล ปัญญาต้องมาก่อน แต่เราพูดว่ารักษาศีลก่อน ตั้งศีลก่อน ศีลจะสมบูรณ์อย่างนั้นจะต้องมีปัญญา ต้องค้นคิด กายของเรา วาจาของเรา พิจารณาหาเหตุผล นี่ตัวปัญญาทั้งนั้น ก่อนที่จะตั้งศีลขึ้นได้ต้องอาศัยปัญญา

เมื่อพูดตามปริยัติก็ว่า ศีล สมาธิ ปัญญา อาตมาพิจารณาแล้ว การปฏิบัตินี้ต้องปัญญามาก่อน มารู้เรื่องกายวาจา ว่าโทษของมันเกิดขึ้นมาอย่างไร ปัญญานี้ต้องพิจารณาหาเหตุผลควบคุม กายวาจาจึงจะบริสุทธิ์ได้ ถ้ารู้จักอาการของกายวาจาที่สุจริตทุจริตแล้ว ก็เห็นที่ปฏิบัติ ถ้าเห็นที่ปฏิบัติแล้ว ก็ละสิ่งที่ชั่ว ประพฤติสิ่งที่ดี ละสิ่งที่ผิด ประพฤติสิ่งที่ถูกเป็นศีล ถ้ามันละผิดให้ถูกแล้วใจก็แน่วแน่เข้าไป อาการที่ใจแน่วแน่มั่นคง มิได้ลังเลสงสัยในกายวาจาของเรานี้เป็นสมาธิ ความตั้งใจมั่นแล้ว เมื่อตั้งใจมั่นแล้ว รูปเกิดขึ้นมาเสียงเกิดขึ้นมา พิจารณามันแล้ว นี่เป็นกำลังตอนที่สอง เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ หรือรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ เกิดขึ้นมาบ่อยๆ ได้พิจารณาบ่อยๆ ด้วยอาการที่เราตั้งใจมิได้เผลอ จึงรู้อาการของสิ่งเหล่านี้ มันเกิดตามความเป็นจริงของมัน เมื่อรู้เรื่อยๆไปก็เกิดปัญญา เมื่อรู้ตามความเป็นจริง ตามสภาวะของมัน สัญญาจะหลุด เลยกลายเป็นตัวปัญญา จึงเป็นศีล สมาธิ ปัญญา คงรวมเป็นอันเดียวกัน

ถ้าปัญญากล้าขึ้น ก็อบรมสมาธิให้มั่นคงขึ้นไป เมื่อสมาธิมั่นคงขึ้นไป ศีลก็มั่น ก็สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เมื่อศีลสมบูรณ์ขึ้น สมาธิก็กล้าขึ้นอีก เมื่อสมาธิกล้าขึ้น ปัญญาก็กล้ายิ่งขึ้น สามอย่างนี้เป็นไวพจน์ซึ่งกันและกัน สมกับพระศาสดาตรัสว่า มรรคเป็นหนทาง เมื่อสามอย่างนี้กล้าขึ้นมาเป็นมรรค ศีลก็ยิ่ง สมาธิก็ยิ่ง ปัญญาก็ยิ่ง มรรคนี้จะฆ่ากิเลส โลภเกิดขึ้น โกรธเกิดขึ้น หลงเกิดขึ้น มีมรรคเท่านั้นที่จะเป็นผู้ฆ่าได้

ศึกษาเพิ่มเติม http://www.watkoh.co...ts.asp?TID=1740

[เด็กผู้น้อย]

ผมว่ามันต้องนัยสำคัญบางอย่าง จริงอยู่ที่ปัญญาต้องมาก่อน แต่ทำไม จึงต้องศีล สมาธิ แล้วจึงปัญญา? ปัญญาตัวนี้คงเป็นปัญญาคงละระดับมากกว่าครับ

[Dhamma Bot]

เป็นบทความที่ดีมากนะครับ ในเชิงปฏิบัติแล้วมีอยู่เหมือนกันที่รักษาศีลโดยไม่ได้ใช้ปัญญาพิจารณาให้แยบคายนัก ดังเช่นชาวบ้านที่ทำตามๆ กันไป หรือทำเป็นประเพณี บ้างก็ทำด้วยความศรัทธา ส่วนในเชิงปฏิบัติของวิชชาธรรมกายแล้ว ตามที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านนำปฏิบัติธรรมวันอาทิตย์ แต่ละกายจะเชื่อมด้วยดวง 6 ดวง คือดวงธรรม ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุติ ดวงวิมุตติญาณทัสนะ ซึ่งต้องเข้าถึงไปตามลำดับ

ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าบทความข้างต้นผิดแต่อย่างใดครับ เพราะหากผู้รจนาเป็นผู้อาศัยปัญญาเป็นหลักในการพิจารณาธรรม ก็สามารถตีความออกมาได้ตามนั้น แต่ถ้าหากจะมองด้วยนัยยะอื่นก็ได้อีกเหมือนกันครับ

[หัดฝัน]

ถูกต้องครับ ปัญญาตัวแรก คือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูก ในมรรคมีองค์แปดนั่นเอง พอเห็นถูก ก็คิดถูก คือ คิดรักษาศีล ก็จะพูดถูก ทำถูก ไปเรื่อยๆ จนถึง สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ครบแปดประการบริบูรณ์

แล้วก็จะเกิด สัมมาปัญญา และสัมมาวิมุติ นั่นเองครับ

[Shosholoza]

ถ้าปัญญาแปลว่า "คิด" ผมว่าก่อนทำอะไรมันก็ต้องคิดทั้งนั้นแหละครับ แต่ถ้าต้องการไปถึงปัญญาที่ไว้กำจัดกิเลสในตัวแล้ว ยังไงก็ต้องเรียงตามนี้ ศีล สมาธิ ปัญญา

[WISH]

- เห็นด้วยกับคุณหัดฝัน

- ปัญญา...สุตมยปัญญา...จินตมยปัญญา...นำมาซึ่งสัมมาทิฐิอันเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งมรรค...เห็นชอบ...คิดชอบ
- ศีล...เป็นเบื้องต้น...เป็นที่ตั้ง...เป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดีทั้งหลาย...และเป็นประธานแห่งธรรมทั้งปวง...เจรจาชอบ...กระทำชอบ...เลี้ยงชีพชอบ
- สมาธิ...เพียรชอบ...ระลึกชอบ...ตั้งมั่นชอบ
- ครบองค์แปด...ภาวนามยปัญญาบริบูรณ์...วิมุตต.........................................มรรค...ผล...

ขอนมัสการและสาธุการกับ จขกท.ด้วยความเคารพ

[yama]

ปัญญามาก่อนนั้น เป็นปัญญาระดับไหนล่ะครับ สุตตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภาวนามยปัญญา ผมว่าท่านเขียนไม่ละเอียดนะครับ


เราฝึกภาวนาก็เพื่อให้เกิดภาวนามยปัญญา ถ้ากล่าวถึงปัญญาชนิดนี้ก็ต้องมาทีหลังสุดครับ เพราะปัญญาประเภทนี้เกิดจากสมาธิภาวนา ดังนั้น ศีล สมาธิ ปัญญา ท่านวางไว้ถูกแล้ว ปัญญาเกิดทีหลัง เกิดเพราะการเจริญสมาธิภาวนา ภาวนามยปัญญานี่แหละที่ทำให้เราพ้นทุกข์ได้ ทำให้เราเข้าถึงสภาวธรรมตามเป็นจริงได้ ส่วนที่ท่านอ้างถึงเรื่องปัญญาต่างๆ นั้นเป็นเพียง ปัญญา 2 ตัวแรกเท่านั้น เพราะปัญญาที่สำคัญที่ทำให้พ้นทุกข์ต้องเกิดจากผลการฝึกสมาธิภาวนา ที่เรียกว่าภาวนามยปัญญานะครับ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ ไตรสิกขานี้สำคัญที่ปฏิบัติเพราะปฏิบัตินั้นก่อให้เกิดภาวนามยปัญญาครับ


เราปฏิบัติวิชชาธรรมกายก็เพื่อภาวนามยปัญญาครับ ปัญญาที่แท้จริงต้องลำดับตามหลัก ศีล สมาธิ ปํญญา อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ปฐมมรรค มรรคจิต มรรคปัญญา นะขอรับ

[usr25265]

1.ศีลมาก่อน เพราะต้องปฏิบัติให้กายสงบก่อน
เมื่อกายสงบ ให้นั่งทำเพียร เมื่อนั่งทำเพียรแล้วจะเกิด 2. สมาธิ
เมือเกิดสมาธิ จะเกิด 3. นิมิตร นิมิตรมีทั้งจริงและหลอก เพ่งต่อไปให้ เกิด-ดับ แล้วนิมิตรสุดท้าย เป็นตัวบอก ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไร นั้นคือปัญญา
สรุป ศลี สมาธิ ปัญญา เรียงถูกต้องแล้ว
จาก คนโง่ๆๆ