จักษุ ทั้ง 5
เริ่มโดย สาธุธรรม, Sep 06 2009 07:36 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 06 September 2009 - 07:36 PM
IMG_1293.JPG 1.85MB
271 ดาวน์โหลด
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 3
บทว่า จกฺขุ
จกฺขุ ได้แก่จักษุ ๒ คือ ญาณจักษุ ๑ มังสจักษุ ๑.
ในจักษุ ๒ อย่างนั้น ญาณจักษุมี ๕ อย่าง คือ
1. พุทธจักษุ
2. ธรรมจักษุ
3. สมันตจักษุ
4. ทิพยจักษุ
5. ปัญญาจักษุ.
ในจักษุ ๕ อย่างนั้น
ที่ชื่อว่าพุทธจักษุ ได้แก่ อาสยานุสยญาณและอินทริยปโรปริยัตตญาณ ซึ่งมาในพระบาลีว่า
ทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ.
ที่ชี่อธรรมจักษุ ได้แก่มรรคจิต ๓ ผลจิต ๓
ซึ่งมาในพระบาลีว่า วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุ อุทปาทิ ธรรมจักษุ
ปราศจากกิเลสดุจธุลี ปราศจากมลทิน เกิดขึ้น.
ที่ชื่อว่า สมันตจักษุ
ได้แก่ สัพพัญญุตญาณ ที่มาในพระบาลีว่า ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ
สมันตจักษุขึ้นสู่ปราสาท.
ที่ชื่อว่า ทิพยจักษุ ได้แก่ ญาณที่เกิดขึ้นด้วยการขยายอาโลกกสิณ
ที่มาในพระบาลีว่า ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน ด้วยทิพยจักษุอันหมดจด.
ที่ชื่อว่า ปัญญาจักษุ ได้แก่ ญาณในการกำหนดสัจจะ ๔
ซึ่งมาในพระบาลีว่า จกฺขุ อุทปาทิ จักษุ ( ธรรมจักษุ )
เกิดขึ้นแล้ว.
มังสจักษุ
มังสจักษุ ก็มี ๒ อย่าง คือ สัมภารจักษุ ๑ ปสาทจักษุ ๑.
ใน ๒ อย่างนั้น ว่าโดยสังเขป ชิ้นเนื้ออันชั้นของตาล้อมไว้ในกระบอกตา มีองค์ประกอบ ๑๓ อย่าง คือ
ธาตุ ๔ วรรณะ คันธะ รสะ โอชา
สัมภวรูป ชีวิตรูป ภาวรูป จักษุปสาทรูป กายปสาทรูป.
แต่เมื่อว่าโดยพิสดาร
รูป ๙ เหล่านี้ คือ ธาตุ ๔ วรรณะ คันธะ รสะ โอชา
สัมภวรูป ว่าด้วยอำนาจสมุฏฐาน ๔ (๙ x ๔ ) เป็นรูป ๓๖ รูป ที่มีกรรม
เป็นสมุฏฐาน ๔ เหล่านี้ คือ ชีวิตรูป ๑ ภาวรูป ๑ จักษุปสาทรูป ๑
กายปสาทรูป ๑ จึงรวมเป็นสสัมภารรูป ๔๐ นี้ชื่อว่า สสัมภารจักษุ.
ก็ในสสัมภารจักษุรูปเหล่านี้
รูปใดที่สามารถเพื่ออันเห็นรูปที่ตั้งอยู่ในลูกตาที่เห็นได้แวดล้อมด้วยแววตาดำที่กำหนดไว้ด้วยลูกตาขาว
รูปนี้ ชื่อว่า ปสาทจักษุ.
(สรุปง่ายแบบคุณครูไม่ใหญ่ มังสจักษุ ก็คือ ตาเนื้อ โอ้ _/l\_ ด้วยความเคารพ... อ่านยากจังเลยเจ้าค่ะ ^^' )
----------------------------------
เวลาเราถวายประทีป วัดเราจะอธิษฐาน ขอให้ได้ จักษุ ทั้ง 5 ประการ (เว้น พุทธจักษุ) ด้วยเหตุฉะนี้หนอ สาธู๊
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๑ - หน้าที่ 3
บทว่า จกฺขุ
จกฺขุ ได้แก่จักษุ ๒ คือ ญาณจักษุ ๑ มังสจักษุ ๑.
ในจักษุ ๒ อย่างนั้น ญาณจักษุมี ๕ อย่าง คือ
1. พุทธจักษุ
2. ธรรมจักษุ
3. สมันตจักษุ
4. ทิพยจักษุ
5. ปัญญาจักษุ.
ในจักษุ ๕ อย่างนั้น
ที่ชื่อว่าพุทธจักษุ ได้แก่ อาสยานุสยญาณและอินทริยปโรปริยัตตญาณ ซึ่งมาในพระบาลีว่า
ทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ.
ที่ชี่อธรรมจักษุ ได้แก่มรรคจิต ๓ ผลจิต ๓
ซึ่งมาในพระบาลีว่า วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุ อุทปาทิ ธรรมจักษุ
ปราศจากกิเลสดุจธุลี ปราศจากมลทิน เกิดขึ้น.
ที่ชื่อว่า สมันตจักษุ
ได้แก่ สัพพัญญุตญาณ ที่มาในพระบาลีว่า ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ
สมันตจักษุขึ้นสู่ปราสาท.
ที่ชื่อว่า ทิพยจักษุ ได้แก่ ญาณที่เกิดขึ้นด้วยการขยายอาโลกกสิณ
ที่มาในพระบาลีว่า ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน ด้วยทิพยจักษุอันหมดจด.
ที่ชื่อว่า ปัญญาจักษุ ได้แก่ ญาณในการกำหนดสัจจะ ๔
ซึ่งมาในพระบาลีว่า จกฺขุ อุทปาทิ จักษุ ( ธรรมจักษุ )
เกิดขึ้นแล้ว.
มังสจักษุ
มังสจักษุ ก็มี ๒ อย่าง คือ สัมภารจักษุ ๑ ปสาทจักษุ ๑.
ใน ๒ อย่างนั้น ว่าโดยสังเขป ชิ้นเนื้ออันชั้นของตาล้อมไว้ในกระบอกตา มีองค์ประกอบ ๑๓ อย่าง คือ
ธาตุ ๔ วรรณะ คันธะ รสะ โอชา
สัมภวรูป ชีวิตรูป ภาวรูป จักษุปสาทรูป กายปสาทรูป.
แต่เมื่อว่าโดยพิสดาร
รูป ๙ เหล่านี้ คือ ธาตุ ๔ วรรณะ คันธะ รสะ โอชา
สัมภวรูป ว่าด้วยอำนาจสมุฏฐาน ๔ (๙ x ๔ ) เป็นรูป ๓๖ รูป ที่มีกรรม
เป็นสมุฏฐาน ๔ เหล่านี้ คือ ชีวิตรูป ๑ ภาวรูป ๑ จักษุปสาทรูป ๑
กายปสาทรูป ๑ จึงรวมเป็นสสัมภารรูป ๔๐ นี้ชื่อว่า สสัมภารจักษุ.
ก็ในสสัมภารจักษุรูปเหล่านี้
รูปใดที่สามารถเพื่ออันเห็นรูปที่ตั้งอยู่ในลูกตาที่เห็นได้แวดล้อมด้วยแววตาดำที่กำหนดไว้ด้วยลูกตาขาว
รูปนี้ ชื่อว่า ปสาทจักษุ.
(สรุปง่ายแบบคุณครูไม่ใหญ่ มังสจักษุ ก็คือ ตาเนื้อ โอ้ _/l\_ ด้วยความเคารพ... อ่านยากจังเลยเจ้าค่ะ ^^' )
----------------------------------
เวลาเราถวายประทีป วัดเราจะอธิษฐาน ขอให้ได้ จักษุ ทั้ง 5 ประการ (เว้น พุทธจักษุ) ด้วยเหตุฉะนี้หนอ สาธู๊
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#3
โพสต์เมื่อ 06 September 2009 - 09:42 PM
ขอเกริ่นก่อนค่ะ เนื่องจาก
หลวงพ่อนำอธิษฐาน ให้ได้ จักษุทั้ง 5 เลยสงสัยว่า สมันตจักษุ คืออะไร จึงเป็นที่มาของการค้นคว้า
ทำใ้ห้ทราบว่า ที่หลวงพ่อนำอธิษฐานนั้น มี จักษุ 5 อย่างค่ะ คือ
มังสจักษุ
ทิพยจักษุ
ปัญญาจักษุ
สมันตจักษุ
ธรรมจักษุ ค่ะ
หลวงพ่อนำอธิษฐาน ให้ได้ จักษุทั้ง 5 เลยสงสัยว่า สมันตจักษุ คืออะไร จึงเป็นที่มาของการค้นคว้า
ทำใ้ห้ทราบว่า ที่หลวงพ่อนำอธิษฐานนั้น มี จักษุ 5 อย่างค่ะ คือ
มังสจักษุ
ทิพยจักษุ
ปัญญาจักษุ
สมันตจักษุ
ธรรมจักษุ ค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#4
โพสต์เมื่อ 06 September 2009 - 10:32 PM
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 09 September 2009 - 01:37 AM
สาธุครับผม
#6
โพสต์เมื่อ 10 September 2009 - 10:14 PM
สาธุค่ะ เคยสงสัยเหมือนกันเรื่อง สมันตจักษุ แต่ก็ยังไ่ม่ได้แสวงหาคำตอบ มาบัดนี้มีคนแถลงแจ้งไข ให้แจ้งแก่ใจแล้ว สาธู๊...สาธุ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#7
โพสต์เมื่อ 22 July 2010 - 07:49 AM
อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ