![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/5e3e5fd7938a04f8176bbd86be4f73fd?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
โบสถ์วัดทำไมหรอ?
#1
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:20 PM
เพื่อนมันบอกอย่างงี้......
โอ้ยไม่เอาหรอก วัดพระธรรมกาย ดูเขาสร้างโบสถ์สิ อย่างกับศาสนาอื่น..แล้วมาโมเมว่าเป็นศาสนาพุทธ....ต้มชาวบ้านกันชัดๆ
(ดูมันๆ) ผมก็ตอบไปแบบนุ่มๆแต่หนักๆว่า
เฮ่ยเพื่อน ในพระไตรปิฏกตรงไหน มีบอกไว้ว่า ต้องสร้างโบสถ์แบบที่เพื่อนเข้าใจ?
เพื่อนมันตอบ... ตูจะรู้ได้ไงวะ.... ไม่ได้เป็น พระซะหน่อย แล้วเอง รู้ได้ไง ว่า ในพระไตรปิฏกไม่มีบอก?
เอาอย่างงี้ไหม เพื่อน ถ้ามีในพระไตรปิฏกมีบอกว่า เขาต้องให้สร้างโบสถ์ตามแบบวัดทั่วๆไป ตูยอมจ่ายเงินให้เท่ากฐิน 1 กองให้เพื่อนเอาไปใช้ฟรีๆเลยเอาไหม?
เพื่อนมันหัวเราะยาวเลย.... บอกผมบ้าไปแล้ว เอา... สิ... งานนี้มันมั่นใจได้เงินใช้ฟรีชัวร์เลย
ผมถามต่อ.....แต่ถ้าพระไตรปิฏกไม่มีบอกละ?
มันถามผม... แล้วเพื่อนจะเอาอะไร ถ้าให้ได้ ให้เลย...
ผมเลยบอก..... เอากฐิน 1 กอง ที่วัดพระธรรมกาย เองต้องมาทำเองในวันงานด้วย
เพื่อนมันบอกได้เลย แค่นี้เอง... งานนี้... เองเสียตังค์ฟรีแน่นอน...อย่าลืมนะโว้ย....แล้วมันก็หัวเราะชอบใจ.... วางหู
ผมก็นิ่งๆ แล้วมานั่งนึกๆ ถ้าในพระไตรปิฏกมีจริงว่าต้องให้สร้างตามแบบไทยๆ ละข้าพเจ้า ซวยแน่เลย
ไม่รู้ว่าหาเรื่องใส่ตัวรึเปล่า
กราบขอความเมตตาพระอาจารย์ รูปไหนก็ได้ กราบนมัสการช่วยยืนยันกับข้าพเจ้าด้วยครับ
หรือท่านใดมั่นใจ ช่วยบอกด้วย จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
กราบสาธุล่วงหน้าครับ
#2
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:38 PM
แค่บอกนโยบาย ลองหาอ่านดูในหนังสือหลวงพ่อทัตตะครับ "คัมภีร์สร้างวัดจากพระโอษฐ์"
#3
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:44 PM
ขออนุโมทนาบุญกับการตอบคำถามของ นรอ.usr29468 ในครั้งนี้ด้วย...(อาจทำให้เพื่อนได้บุญใหญ่ก็คราวนี้แหละ)
เรื่องกฎเกณฑ์การสร้างโบสถ์ ที่มีมาในพระไตรปิฎกก็ไม่ได้บัญญัิติไว้อย่างชัดเจน ก็สร้างกันไปตามยุคสมัยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการใช้งานทางพระพุทธศาสนาในแต่ละยุค แต่ละสังคม แต่ละประเทศนั้นๆ ซึ่งทุกวันนี้ก็มีให้เห็นกันทั่วโลก โบสถ์จีนก็แบบหนึ่ง โบสถ์พม่า โบสถ์ไทย ก็แบบหนึ่ง ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ในสมัยพุทธกาล วัดเชตวันก็ดี วัดบุพพารามก็ดี วัดอื่นๆก็ดี มีรายละเอียดต่างกันไป ปรับกันไปตามความเหมาะสม แต่ให้ดูแล้วเป็นที่ตั้งแห่งศร้ทธา
วัดที่ทำด้วยไม้สักทั้งหลัง วัดที่ทำด้วยอิฐด้วยปูน วัดที่ทำด้วยโลหะปราสาท จะเป็นโบสถ์ชั้นเดียวมีใต้ถุน หรือจะเป็นโบสถ์สองชั้น ก็เป็นการปรับไปตามสภาพท้องถิ่นและวัสดุในท้องถิ่นและงบประมาณที่มี
แต่ในยุคของเรานี้ การทำด้วยไม้จะไม่ทนทานเท่าไหร่นัก การประดิษฐ์ตกแต่งด้วยกระจกสีต่างๆขนาดต่างๆกันนั้น ก็สิ้นเปลืองค่าซ่อมแซมรักษามากทีเดียว การสร้างโบสถ์ด้วยรูปทรงและวัสดุที่ประหยัดสุด-ประโยชน์สูง-ซ่อมแซมบูรณะได้ง่าย ถือว่าเหมาะสมดีทีเดียวสำหรับยุดนี้
รายละเอียดอื่นๆ ขอให้ติดตามอ่านจากท่านผู้รู้ท่านอื่่นต่อไปในกระทู้นี้
#4
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:51 PM
และพี่ๆ นรอ. ทุกๆท่าน
ความจริง ผมก็คุ้นๆว่าไม่น่าจะมี แต่ไม่แน่ใจ แต่ปากมันโพรงท้าทายไปก่อน
...ขอให้เพื่อนมันยอมทีเถอะ สาธุ...
#5
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 04:59 PM
รายละเอียดเกี่ยวกับโบสถ์วัดพระธรรมกาย มีตอบได้ละเอียดจากกระทู้นี้แล้ว
http://www.dmc.tv/fo....php/t8256.html
คาวมรู้เกี่ยวกับการผูกสีมา
http://www.vajira.or...l...edge&id=206
สำหรับในพระวินัยไตรปิฏก การผูกสีมา เป็นการกำหนดเขตของสงฆ์ไว้เป็นเอกเทศ เพื่อทำสังฆกรรม มีรายละเอียดอยู่ในตำรา สารัตถทีปนี นาม วินยฎีกา สมันตปาสาทิกา วัณณนา (ตติโย ภาโค) ซึ่งเป็นหนังสือเรียนบาลีของชั้น ประโยค 6 ซึ่งไม่ได้บอกว่าจะต้องสร้างโบสถ์ในรูปแบบไหน เพียงแต่บอกไว้ว่าต้องกำหนดเขตแดนของสงฆ์ให้ถูกต้องตามพระวินัยเท่านั้น ก็ถือว่าใช้ทำสังฆกรรมได้ ซึ่งนอกจากการกำหนดบนพื้นดิน ยังมีการกำหนดเขตในน้ำและที่อื่นๆอีกด้วย
ลองออ่านดูข้อที่ 6 นะครับ
http://www.larnbuddh...awinai/4.9.html
#6
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:05 PM
แม้สิ่งที่มีบอกในพระไตรปิฎกค่อนข้างชัดเจน เช่น เครื่องประดับมหาลดาปสาทธ์ ที่นางวิสาขาท่านจะแต่งมาฟังธรรมที่วัดเป็นประจำ
ว่ามีรูปทรงอย่างนั้นอย่างนี้ ครั้นพอทางวัดนำมาทำเป็นเครื่องประดับจริงๆ แล้วเชิญผู้นำบุญบางท่านก็แต่งจำลองเหตุการณ์สมัยพุทธกาล
ปรากฏว่า ยังโดนเสียงวิพาษกวิจารณ์หนาหูในเว็บหลายๆ เว็บเลยครับว่า ทอดกฐินเดินแบบ แต่งตัวอลังการเกินเหตุ เป็นต้น ทั้งที่มีอยู่ในพระไตรปิฎกแท้ๆ
#7
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 05:39 PM
ผมจะตาม เพื่อนคนนี้ไม่เลิกแน่ (มันปิดโทรศัพท์ไปแล้ว) แต่เดี๋ยวขอรอจังหวะก่อน ขอเตรียมการวางแผน หลักฐาน และทำการบ้านเก็บข้อมูลทุกๆทางก่อน
ถ้าได้ แบ่งส่วนบุญให้กับทุกๆคนด้วยครับ
(ผมเหมือน ทนายไปแล้วเนี่ย)
#8
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 06:05 PM
ไม่ก็อาจจะไม่สนใจเลย แค่ถ่วงเวลาไปเรื่อย ๆ
แต่ถ้าเพื่อนเขาตั้งใจจริง ไปค้นพระไตรปิฎกมา คราวนี้เพื่อนคงได้ฉลาดขึ้น อาจจะหันมาศึกษาพระพุทธศาสนาก็ได้นะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 06:13 PM
ไม่ก็อาจจะไม่สนใจเลย แค่ถ่วงเวลาไปเรื่อย ๆ
ไม่เป็นไร ครับ เดี๋ยวผมเอากฏแห่งกรรมไปขู่ด้วย เดี๋ยวหาcase study ตัดต่อให้สั้นๆ ไปหลอนมันเรื่อยๆ (ถ้ายาวไปมันคงไม่ดูแน่นอน)
ถ้ามันลืมดูก็จะ อัดcdซ้ำ ไปให้ไหม่ ให้จนกว่ามันจะยอมดู เป็นร้อยๆแผ่นก็เอา
ผมก็คิดว่า มันก็คงไม่ง่าย แต่เพื่อนมันมีตังค์ ก็คิดว่าคงไม่ยากถ้าผมไม่ยอมแพ้
ตอนนี้ขอรอจังหวะก่อน เดี๋ยวต้องเจอกันในเร็วๆนี้แน่นอน
#10
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:11 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#11
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:19 PM
" วัดพระธรรมกาย " ไปก่อนเสมอค่ะ
ตัวอย่างเช่น 1.คุณครูไม่ใหญ่ทำไมต้องใส่เส้อแขนยาวด้วย
แต่แปลกถ้าพระที่อื่นใส่จะไม่เอ๊ะอ๊ะอะไร นั่นเพราะอคติ อาจเป็นเคยรับข่าวสารข้อมูลบางอย่างมาก่อน
ไม่เคยตรวจสอบ ไม่ชัดเจน เชื่อสื่อ
ทั้งๆ ที่สาหร่ายเองเคยเดินทางไปนู่นมานี่ ก็เห็นพระตามต่างจังหวัด ท่านหนาว ท่านก็ใส่เสื้อแขนยาวสีกรักๆสไตล์ท้องถิ่น
สาหร่ายเห็นก็นึกถึงคุณครูไม่ใหญ่ เชื่อว่าคนทั่วไปเห็นก็คงเข้าใจถึงสภาพความจำเป็น แต่ไฉนไม่เข้าใจวัดเรา ง่าาาาาา
2. วัดทำไมสร้างโมเดิร์นหรูดูดีขนาดนี้
อ้าววว..วัดหรูแบบอื่นก็มีเหมือนกันอาจไม่เคยเห็น
เช่น
2.1 วัดล้านขวด จังหวัดศรีสะเกษ
วัดป่า มหาแก้ว ที่สร้างด้วยขวดแก้วทั้งหลัง
![](http://www.bloggang.com/data/baansuansabuy/picture/1264234159.jpg)
![](http://www.bloggang.com/data/baansuansabuy/picture/1264234046.jpg)
2.2 วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดสไตล์ตะวันตก อันนี้บอกเลยว่าไสตล์ตะวันตก แล้วไงคะ ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ
ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน
![](http://www.sadoodta.com/files/imagecache/Preset2/thumbnail/cover-sadoodta_204.jpg)
ที่มา ค่ะ
กว่าอุโบสของวัดพระธรรมกายจะสร้างขึ้นมาได้ หลวงพ่อทัตตะท่านได้ค้นคว้า ศึกษาอุโบสถต่างๆ จนทั่วประเทศ
ข้อดี ข้้อเสีย คุณประโยชน์ต่างๆ พาเพื่อนมาชมวัดดีกว่าคะ น้องอาสาสมัครจะแนะนำให้รู้จัก จะซาบและซึ้งกันทีเดียวค่ะ
ตัวอย่าง 1. คนที่มาช่วยกันสร้างวัด ต้องสมาทานศีลกันก่อนทุกวัน สวดมนต์ทำวัตร มีศีลมีธรรม ว้าวววว
2.เม็ดทรายแต่ละเม็ดใช้คนคัดทีละเม็ดๆ เพื่อให้ได้สีขาวบริสุทธิ์ โอ้ววว
พอละ มาฟังเองนะ อิอิ
#12
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:25 PM
โปรดใช้ความเมตตา และใจเย็น ในการเป็นกัลยาณมิตร
เพื่อนเขาจะได้รับรู้ได้ถึงความรักและปรารถนาดี สาธุๆ
#13
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:38 PM
คำถามที่ถามบ่อย (FAQs)
ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวัดพระธรรมกาย
กว่าจะถึงวันนี้
วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกาย(เสียงภาษาไทย เวอร์ชั่นล่าสุด และมี English Subtitle)
#14
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:39 PM
สาธุครับ พี่ณ ๐๗๒
สาธุครับ พี่สาหร่าย
และขอบพระคุณ
ทุกข้อมูล เป็นอย่างยิ่งครับ
เพื่อนผมคนนี้ เป็นพวกทฏษฏีสัมพันธภาพสูง หัวแข็ง โป๊ก ดื้อระดับด้าน (คุยด้วยกันเหมือนทะเลาะกัน แต่รักกันมาก ไม่มีอะไรหรอก สงสัยอายตนะดึงดูดกันมา)
แต่ถ้า เขาเชื่อแล้ว ยอมหมดตัวและหัวใจ เลยทีเดียวละ
ตามมันมานานแล้ว ชอบโต้แย้งนัก เดี๋ยวก่อนๆๆๆ
#15
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 07:45 PM
คัดมาจากข้อความพี่หัดฝัน
เอาให้อยู่หมัดเลยน๊าาาาาา
#16
โพสต์เมื่อ 11 October 2010 - 08:11 PM
AT LAST YOU WIN เพื่อนอย่างนี้ก็ดีนะเวลาเข้าใจแล้วเขาก็สามารถเป็น
กัลฯให้คนอื่น ๆ อีกต่อไป ขอชื่นชมในความพยายามของจขกทในการทำหน้าที่กัลฯ
อนุโมทนาค่ะ
#17
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 12:05 AM
ที่สำคัญ ให้ทำอย่างใสๆ อย่าใจขุ่น อย่าร้อนตัวก็แล้วกัน อาราธนา หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไปด้วยนะคะ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#18
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 01:26 PM
ฟังจากคำพูดของเขาแล้วรู้สึกว่าเขาตกยุคไปแล้วกว่าทศวรรษนะ...ต้องรีบหาทางช่วยเขานะ..ไม่เช่นนั้นคงไม่แค่ตกยุคนะจ๊ะ...ซิบอกให่...
รีบกลับตัวกลับใจกลับคำพูดเสียใหม่...โบสถ์นี้อีกพันปียังทันสมัยอยู่เลย
แล้วเซนต์สัญญากันไว้หรือเปล่า...ฮ่า..
คำพูดแบบนี้แสดงว่าเขาอยากบวชมากที่สุด...บวชล้าน...เลือกเอาเลยจะเอาโบสถ์แบบไหน..
#19
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 02:55 PM
#20
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 08:05 PM
ถ้าไปดู คุณจะคิดว่าเป็นโบสถ์คริสเลย ถ้าผิดพระองค์คงไม่สร้างอย่างนั้น
พระองค์ได้ทรงตรัสว่า "อยากสร้างไว้ให้คนไทยเห็นเป็นของแปลก"
#21
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 12:20 AM
...พระภิกษุผู้บำเพ็ญตบะในที่วิเวก หรือป่าเขา ก็กระทำการดังนี้มาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ลองสังเกตุสิ มีพระที่เลือกปลีกวิเวกในป่าเขาที่ไหนออกจากป่ามาบวชตามโบสถ์ในวัดต่างๆไม๊ล่ะ? เหอๆ ผมว่า คุณเอาพานไปรอรับเงินจากเพื่อนได้เลย และบอกให้เพื่อนมาศึกษาพระพุทธศาสนาให้ลึกๆ เงินทำบุญกฐินนี้ ถือเป็นการเข้ามาสู่ร่มแห่งพระพุทธศาสนาจะดีกว่านะ หุหุ
#22
โพสต์เมื่อ 04 November 2010 - 12:05 PM
โปรดใช้ความเมตตา และใจเย็น ในการเป็นกัลยาณมิตร
เพื่อนเขาจะได้รับรู้ได้ถึงความรักและปรารถนาดี เห็นด้วยอย่างยิ่งค๊าบพี่