วิธีใช้ทรัพย์สำหรับการสร้างบุญบารมี
พระพุทธองค์ทรงสอนวิธีใช้ทรัพย์ออกเป็น 2 ระดับ
ระดับพื้นฐาน :ระดับจิตเดียวกับปุถุชนทั่วไป
เมื่อระดับจิตของเรายังไม่ถึงกับระดับจิตของพระโพธิสัตว์ ท่านจะสอนให้บริหารการใช้ทรัพย์ดังนี้
เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วจำนวนหนึ่ง ก็ให้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน
1.ส่วนที่ใช้สำหรับ ส่วนตัว ได้แก่ ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่ารถ ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ
2.ส่วนที่ใช้สำหรับ ลงทุน ได้แก่ ค่าศึกษาเล่าเรียน ค่าดำเนินการธุรกิจ
3.ส่วนที่ใช้สำหรับ สำรอง ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ ค่าซ่อมแซมอุบัติเหตุต่างๆ
4.ส่วนที่ใช้สำหรับ ทำบุญ ได้แก่ ทำบุญกับพระในบ้าน ผู้มีพระคุณ สงเคราะห์หมู่ญาติ สาธารณกุศลต่างๆ และทำบุญกับพระสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญ
แต่ทั้ง 4 ส่วนนี้ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องแบ่ง 25% เท่ากันทั้งหมด เราสามารถแบ่งตามสัดส่วนความจำเป็นในแต่ละงบได้
ถ้าบริหารการใช้ทรัพย์อย่างนี้ได้ เราก็จะมีความสุขจากการไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากใคร และสามารถทำบุญได้อย่างสุขใจโดยที่ไม่ต้องกระทบตนและผู้อื่น สามารถประคองนาวาชีวิตให้ไปสู่สุคติและพระนิพพานได้เช่นกัน
ระดับสูง :ระดับจิตเดียวกับพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
ท่านจะสอนให้สละทรัพย์จนหมดไม่มีเหลือ เหมือนหม้อน้ำที่คว่ำไม่เหลือน้ำไว้แม้เพียงหยดเดียว
การที่พระพุทธองค์ตรัสสอนบุคคลในระดับนี้ ก็เพราะจิตของเขากล้าแข็ง ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้ง 8 คือ มีลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ สุข-ทุกข์ สรรเสริญ-นินทา
แม้ทำทานหรือความดีอื่นๆจนต้องแลกกับการสูญเสียอวัยวะหรือชีวิต ก็ไม่หวั่นไหวใดๆทั้งสิ้น
และจิตใจของบุคคลเหล่านี้จะแช่มชื่นเบิกบาน มีชีวิตอยู่ด้วยสติปัญญาเหนือปุถุชนทั่วไป
เพราะมีความเข้าใจในเรื่องชาตินี้ชาติหน้า และกฎแห่งกรรม อย่างไม่คลอนแคลน แม้มีพญามารมาทดสอบกำลังใจก็จะไม่ท้อแท้ท้อถอยเลย
มุ่งไปสู่เป้าหมายของชีวิตด้วยการทำความดีโดยไม่สนใจเรื่องปลีกย่อยที่คอยมา เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำความดี
สู้กับอุปสรรคเหล่านั้นไปจนกว่าจะชนะในชาติใดชาติหนึ่งอย่างสมศักดิ์ศรี เป็นที่กล่าวขวัญของหมู่มนุษย์และปวงเทวาทั้งหลาย
เพราะมีจิตใจดุจบุรุษอาชาไนย คือ ท้อไม่เป็น และไม่มัวเสียเวลามากล่าวโทษใคร มุ่งแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี เยี่ยงพระบรมโพธิสัตว์ในกาลก่อน
บทความโดย LP.Ping