มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[extra]

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 19
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra และรัชชา

อิทธิบาท 4 ข้อที่ 3 คือ “จิตตะ” หมายถึง มีใจจดจ่ออยู่กับงาน ทำงานอะไรก็ตาม เอาใจจดจ่ออยู่กับมัน ไม่วอกแวก ตลอดเวลาที่ทำงาน ใจจดนึกคิดอยู่กับมัน มีสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่าน เรียกว่า จะทำอะไรแล้วตั้งใจทำ ไม่ใช่ว่าขยันแต่ไม่ตั้งใจ ขยันแต่ก็ทำไปอย่างนั้น เดี๋ยวใจคิดนั่นคิดนี่ เปะ ๆ ปะ ๆ งานก็ไม่เกิด หรือเกิดก็ไม่เต็มที่ คนที่ทำงานแล้วขาดจิตตะ ไม่มีความตั้งใจ เปรียบเหมือนน้ำประปาที่ไหล ๆ หยุด ๆ ไหลกระปริดกระปรอยแล้วก็หยุด ไปรองน้ำก็นานกว่าจะเต็มโอ่ง เพราะความคิดฟุ้งซ่าน พอคิดก็เหมือนน้ำประปาเริ่มไหล คิดสักพักหนึ่งก็ฟุ้งไปเรื่องอื่นแล้ว ก็เหมือนน้ำประปาหยุดไหล กว่าจะได้น้ำสักโอ่งรองตั้งนานหลายชั่วโมง ถ้าทำงานแบบไม่ฟุ้งซ่าน คือ มีจิตตะ ความคิดจะไหลเป็นสาย ถ้าเปรียบเหมือนน้ำก็ไหลแรง พักเดียวก็เต็มโอ่ง ไม่มีขาดไม่มีหยุด ไหลเรื่อยเป็นสาย เต็มกำลังเต็มแรง คนไหนทำงานเต็มแรง ไม่ฟุ้งซ่าน ผลงานจะเกิดขึ้นเร็ว ใช้เวลาเท่ากันแต่ประสิทธิภาพต่างกันสิบเท่าตัว

วันหนึ่ง วิศวกรนิมนต์หลวงพี่ไปเทศน์ เขาเป็นผู้จัดการโรงงานคุมคนงานกว่าพันกว่าคน เขารับหน้าที่ดูแลคนงานทั้งหมด ต้องไปต่างประเทศบ่อย ๆ เขาบอกว่า เป็นเรื่องแปลกที่ประสิทธิภาพของเครื่องเหมือนกันเพราะสั่งจากเมืองนอกซึ่งเป็นแบบเดียวกัน จำนวนคนงานก็เท่ากัน แต่ผลงานที่ออกมาของเรากับของเขาต่างกัน 5 เท่าตัว เนื่องจากความตั้งใจต่างกัน เขาก็พยายามคิดหาวิธีการอยู่ ที่เมืองนอก 1 คนคุมเครื่องจักรได้ 2 เครื่อง แต่ของเรา 1คนคุมได้ 1 เครื่อง พอจะให้คุม 2 เครื่องก็ไม่ไหว ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ถ้าเราทำงานด้วยความตั้งใจจะต่างกันมากกับตอนไม่ตั้งใจ เพราะฉะนั้นจะให้งานสำเร็จได้ดีจะต้องมีความตั้งใจในการทำ พอตั้งใจความคิดจะทะลุปรุโปร่ง เกิดปัญหาขึ้น ก็ค่อย ๆ คิด จนเกิดความสว่างวาบเป็นคำตอบขึ้นมา

ในหลักสูตรมัธยมต้น มีนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีซชื่อ อาร์คิมีดีส (Archimedes) เขาได้รับมอบหมายจากพระราชาให้หาทางพิสูจน์ว่าทองชุดนี้มีทองปลอมผสมหรือไม่ เพราะมีคนเอาไปแล้วเอามาคืนทีหลัง พระราชาสงสัยว่าเขาต้องโกงแน่ ๆ โดยเอาอย่างอื่นผสมในทองทำให้ไม่บริสุทธิ์ เพื่อยักยอกเอาทองไป แต่ไม่ทราบจะพิสูจน์อย่างไร เพราะชั่งแล้วน้ำหนักเท่าเดิมอาร์คิมีดีสได้รับงานมา ใจก็จดจ่อ ไม่วอกแวก ไม่ฟุ้งซ่าน ใจคิดตรึกตรองทั้งวันทั้งคืน ยืนเดินนั่งนอน คิดตลอดเวลา เนื่อจากร้อย ๆ พัน ๆ ปีก่อน วิทยาศาสตร์ยังไม่ก้าวหน้า จะวิเคราะห์วิจัยยังทำไม่ได้ สุดท้ายวันหนึ่งก็ไปอาบน้ำในอ่างน้ำ พอแช่น้ำ น้ำก็ล้นออกมาจากอ่าง อาร์คิมีดีสเห็นอย่างนั้นก็สว่างวาบขึ้นมาในใจเลยร้องว่า ยูเรก้าๆ แปลว่า คิดออกแล้ว เรียกว่าไม่ทันใส่เสื้อผ้า นึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งออกมา สิ่งที่เขาคิดได้ คือ วัตถุเมื่อแช่อยู่ในน้ำ น้ำหนักของมันจะลดลงไปเท่ากับปริมาตรของน้ำที่เท่ากับปริมาตรของวัตถุนั้น เพราะวัตถุแต่ละอย่างหนักไม่เท่ากัน น้ำ 1 ลิตร หนัก 1 กิโลกรัม คือ ความถ่วงจำเพาะ = 1ทองมีความถ่วงจำเพาะ = 13-14 ดังนั้น ทอง 1 ลิตรจะหนัก 13-14 กิโลกรัม เมื่อเขารู้ว่า ความถ่วงจำเพาะของสารแต่ละชนิดไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นถ้าสารที่มาเจือปนมีความถ่วงจำเพาะเป็นครึ่งหนึ่งของทอง ทองที่ได้คืนมาต้องมีขนาดใหญ่กว่าเก่า เขาจึงใช้เอาทองไปจุ่มในน้ำแล้วดูว่าน้ำมันล้นออกมาเท่าไร เพื่อดูว่าทองปลอมหรือไม่ ที่เขาคิดออกได้ก็เพราะมีใจจดจ่อ มีความตั้งใจ ยืนเดินนั่งนอน ก็คิดตลอดเวลา ถ้าเป็นคนทั่วไป เมื่อคิดไม่ออก ก็ไปทำอย่างอื่นดีกว่า เลิกคิด ถ้าใจไม่จดจ่อ เมื่อถึงคราวอาบน้ำ ลงไปแช่น้ำไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจของเขาจดจ่อ พอลงน้ำ เห็นน้ำที่ล้นออกมาก็คิดออกเลย จริง ๆ หนทางมีอยู่ แต่เราคิดไม่ออก หากใจจดจ่อ ความคิดจะไหลเหมือนเป็นน้ำประปาที่ไหลไม่ขาดตอน ทำให้เราแก้ปัญหาได้

“จิตตะ” จะเกิดขึ้นมาได้จากบรรยากาศรอบตัว คนที่มาวัดเห็นบรรยากาศของการปฏิบัติธรรม ได้ฟังเทศน์ บรรยากาศทุกอย่างเอื้อให้ใจนึกถึงเรื่องธรรมะเรื่องบุญเรื่องกุศล ถ้าไปท่องเที่ยวชายทะเล เห็นคนเล่นน้ำ บรรยากาศและความรู้สึกก็จะเป็นไปอีกแบบหนึ่ง ใจก็คิดอีกเรื่องหนึ่งต่างออกไป บรรยากาศรอบตัวของเราจะมีส่วนอย่างมากต่อความรู้สึกนึกคิดของเรา เพราะฉะนั้นเราต้องการจะทำสิ่งใด ต้องสร้างบรรยากาศรอบตัวให้เอื้อกับสิ่งเหล่านั้น ตั้งแต่เริ่มต้นบรรยากาศให้ใจสบายใสสงบ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานของการทำกิจทุกอย่างทั้งทางโลกและทางธรรม ต้องเริ่มจากการรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่ามองเป็นเรื่องเล็ก ๆ บางคนมองไม่ออก คิดว่าการรักษาความสะอาดไม่มีผลอะไรมาก ถ้าเราอยู่ที่บ้านที่มีขยะรก ๆ อยู่รอบบ้าน คิดว่าขยะกับตัวเราไม่เกี่ยวกัน แค่เตียงเราสะอาดอย่างเดียวก็พอแล้ว พอนอนได้ก็พอ ความจริงแล้วความสะอาดสำคัญมาก เพราะสิ่งที่เราเห็นจะส่งผลต่อตัวเรา พอเห็นความไม่สะอาด เห็นข้าวของวางระเกะระกะ ใจข้างในมันจะยุ่งเหยิง แล้วไม่เอื้อให้ทำกิจอื่น ๆ เพราะความคิดมันจะยุ่งเหยิงตาม แม้แต่การทำงานของร่างกายจะยุ่งเหยิงตาม สุขภาพจะไม่แข็งแรงจะยุ่งเหยิงตาม จะหยิบจะจับก็เห็นของกองระเกะระกะ คิดอะไรเปะ ๆ ปะ ๆ ความตั้งใจมั่น สมาธิก็ไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าจัดรอบตัวเราให้สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้จะเป็นห้องเล็ก ๆ บ้านเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้ดี ให้สะอาดสะอ้าน ใจก็จะเบิกบานผ่องใส โล่ง ลืมตาเหลียวซ้ายแลขวาเห็นแต่ของที่เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามสะอาดสะอ้านใจโปร่งสบาย ความคิดเป็นระเบียบ พอคิดเป็นระเบียบ ก็จะคิดเป็นระบบด้วย คิดได้ต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย ไม่สับสน ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่วอกแวก ดังนั้น ความสะอาด เป็นระเบียบ ความร่มรื่น ความเรียบร้อยรอบ ๆ ตัวมีความสำคัญมาก เป็นของพื้นฐานที่ต้องไม่มองข้าม นอกจากนี้ ต้องสร้างบรรยากาศให้เข้ากับงานที่ทำด้วย

คนเรามีช่องทางรับการสื่อสารจากภายนอกอยู่ทั้งหมด 6 ทาง ทั้งภายนอกและภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ การจะสร้างบรรยากาศก็ต้องสร้างตามช่องทางเหล่านี้ คือ ภาพที่เราเห็น เสียงที่เราได้ยิน สิ่งที่เราสัมผัสได้ การดมกลิ่น ลิ้มรส ต้องปรับ ต้องเลือกให้เหมาะกับงานที่ทำ ที่พ่อแม่ถึงอยากให้ลูกไปเรียนโรงเรียนดี ๆ ที่มีชื่อเสียง ที่แย่งกันสอบเข้า คือ สวนกุหลาบ สตรีวิทยา เตรียมอุดมศึกษา เพราะในโรงเรียนดี ๆ เหล่านี้ มั่นใจได้ว่าเด็กที่เข้ามาเรียนเป็นเด็กที่คัดแล้วว่าเป็นเด็กเก่ง ขยัน รักการเรียน ถ้าลูกเข้าไปเรียนในที่เหล่านี้ บรรยากาศรอบตัวที่ทุกคนพากันอ่านหนังสือดูหนังสือ คุยกันเรื่องวิชาการ จะทำให้ลูกตัวเองรักการเรียนตามไปด้วย นั่นคือ หวังให้บรรยากาศของการรักการเรียนการศึกษาช่วยให้ลูกขยันเรียน แสดงถึงว่า เราตระหนักถึงความสำคัญของบรรยากาศอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ตรึกตรองอย่างละเอียด และอาจจะไม่นึกว่าจะสร้างขึ้นมาอย่างเป็นระบบได้อย่างไร

เมื่อครั้งที่หลวงพี่เรียนภาษาใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเรียนมาก่อน ญี่ปุ่นบ้าง จีนบ้าง หรืออังกฤษบ้าง พอสร้างบรรยากาศให้อยู่กับเรื่องการเรียนอย่างนั้น ผลที่เกิดขึ้นไม่เท่ากัน ดูหนังสือสม่ำเสมอก็ให้ผลระดับหนึ่ง แต่เมื่อมีการฟังเพิ่มขึ้นมา เอาเทปภาษานั้น ๆ มาฟัง จะให้ผลขึ้นมาอีกเพิ่มขึ้น ทำให้ใจจดจ่อกับเรื่องนั้นมากขึ้น แล้วผลการเรียนก็ดีขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพราะใจเราจดกับเรื่องนั้น บรรยากาศในเรื่องนั้น ประสิทธิภาพในการทำงานก็เพิ่มขึ้น หรือคนที่ทำงานอย่างหนึ่งนาน ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปทำงานอย่างอื่น ช่วงแรกจะยังทำได้ไม่ค่อยดี เพราะกำลังปรับตัวอยู่ คือ ปรับบรรยากาศนั่นเอง เพื่อให้ตัวเองพร้อมรับกับงานใหม่ กับบรรยากาศงานใหม่ เราไม่ควรรอเพียงบรรยากาศรอบข้างอย่างเดียว แต่เราต้องช่วยโดยรับสื่อจากภายนอก คือ ต้องรับจากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ พอเสริมเข้า เดี๋ยวเราก็พูน แล้วก็จะทำได้ดี เพราะใจจดจ่ออยู่กับเรื่องนั้น แล้วก็จะทำได้ดี คำขวัญก็เป็นการสร้างบรรยากาศอย่างหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนเห็นตรงกันและปลุกใจให้พร้อมที่จะทำตาม เป็นการสร้างบรรยากาศให้เกิดขึ้น ทหารจึงมีคำขวัญ รัฐบาลจึงมีคำขวัญวันเด็ก คำขวัญวันครู คำขวัญว่าปีนี้เป็นปีอะไร เช่น ปีการท่องเที่ยวไทย เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศอย่างหนึ่งให้ทุกคนเห็นเป้าตรงกัน แล้วเกิดความคึกคักขึ้นมา การโฆษณาก็เป็นการสร้างบรรยากาศอย่างหนึ่ง เมื่อเห็นบ่อย ๆ เข้า ทำให้เกิดความรู้สึกว่าอยากจะลอง อยากจะทำบ้าง เราต้องรู้หลักและนำไปใช้กับตัวเองให้เหมาะสม จะเขียนคติพจน์ติดเอาไว้กระตุ้นเตือนตัวเอง เพื่อไม่ให้ลืม และเอาให้เหมาะกับสภาพของงาน ถ้าหากเป็นงานส่วนรวมที่เราต้องปกครองคนหรือทำงานร่วมกับคนอื่น จะสร้างบรรยากาศอย่างไร ก็ต้องหาวิธีการให้เหมาะสม โดยใช้หลักของสื่อที่จะไปถึงได้ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เลือกช่องทางให้เหมาะสมกับสภาพของงานนั้น ๆ

[niwat]

อนุโมทนากับ "พี่extra" & "พี่รัชชา" ด้วยครับที่ได้รวบรวม
ธรรมะของหลวงพี่พระมหาสมชาย มาให้พี่ๆ เพื่อนๆ ได้อ่านกัน
โดยตลอดต่อเนื่อง ตอนนี้...เป็นตอนที่ 19 แล้ว

...ผมรอติดตามอ่าน หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 20 อยู่นะครับ

[Peacefulness ™]

ขออนุโมทนาบุญ และ ขอบคุณกับ ท่าน Extra และ รัชชา

สำหรับนำ หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข ตอนที่ 19

มาให้ได้อ่าน และศึกษากันครับ

ขอติดตามตอนต่อไปด้วยครับ

สาธุ... สาธุ... สาธุ... ครับ

.

ปล.

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 1

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 2

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 3

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 4

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 5

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 6

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 7

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 8

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 9

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 10

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 11

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 12

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 13

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 14

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 15

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 16

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 17

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 18

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 19

หลักธรรมที่ทำให้ชีวิตมีความสุข เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาของพระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ โดย Extra ตอนที่ 20 (ตอนจบจ้า)

.

.

.

.

ข้าพเจ้าใคร่ขออนุญาต ท่าน Extra เพิ่มเติม สำหรับท่านผู้ที่สนใจจะฟัง พระธรรมเทศนานี้ ดังนี้

.

.

.

สามารถ Download ได้ทั้งหมดโดย กดที่ "GET iT ALL" ขนาดประมาณ 57.45 MB

.

.

คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ Extra, รัชชา ด้วยครับ สาธุ