ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 2 คะแนน

ผมคิดถูกหรือเปล่าเนี่ย T T


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 05 April 2008 - 09:40 PM

เนื่องจากผมได้ข่าวคุณย่าผมไม่สบายพึ่งออกจากโรงพยาบาล วันนี้ผมจึงไปเยี่ยมท่านที่บ้าน หวังอยากให้ท่านสบายใจให้รู้ว่ายังมีหลานคนนี้ที่ห่วงใยท่านอยู่ พอผมได้พบคุณย่า กลับกลายเป็นว่าผมทำให้ท่านไม่สบายใจอีก T T สาเหตุคือ พอคุณย่าท่านเห็นผม ท่านก็เอ่ยปากคุยกับผมทันที ท่านบอกว่าเป็นห่วงผม อยากให้ผมมีแฟนซักที - -" ซึ่งตอนนี้ความหวังของท่านมีแค่เรื่องอยากให้ผมแต่งงานเท่านั้น ท่านพูดไปพลางร้องไห้ไปพลาง ซึ่งผมเห็นอาการท่านแล้วกลัวท่านจะทรุดหนักอีก ทำให้ผมคิดในใจว่า นี่เรามาทำให้ท่านต้องไม่สบายใจอีกหรือเนี่ย ซึ่งในใจของผมได้เลิกคิดแต่งงานไปตั้งนานแล้ว ตั้งใจจะอยู่เป็นโสดคนเดียวไปตลอดชีวิต แต่คุณย่าผมก็พรําพรรนาให้ผมรีบแต่งงาน ผมชวนท่านคุยเรื่องอื่นท่านก็มักจะวกกลับมาที่เรื่องแต่งงานทุกที

บอกตามตรงตอนนี้ผมกลัวมากที่สุดคือกลัวว่าจะทำให้ท่านไม่สบายใจจนร่างกายทรุดหนักอีกเพราะท่านก็อายุปาเข้าไป90แล้ว ตอนนี้ที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องแต่งงานเพราะผมตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้ว แต่ผมสับสนว่าผมควรจะไปเยี่ยมท่านอีกไหม ควรจะไปหาท่านอีกหรือไม่ ผมเอ่ยปากกับท่านไว้ว่าถ้าท่านหายดีจะพาท่านไปทำบุญปล่อยสัตว์ปล่อยปลาทุกอาทิตย์ แต่หลังจากผมกลับมาถึงบ้านผมก็มานั่งคิด ถ้าท่านเจอหน้าเราอีกท่านจะไม่สบายใจเช่นวันนี้อีกหรือเปล่า กลัวว่าตัวผมเองจะเป็นคนทำให้ท่านอายุสั้นลง

อยากถามความเห็นและขอคำแนะนำจากพี่ๆกัลยาณมิตรทุกท่าน

ผมคิดถูกไหมที่ไปเยี่ยมท่านในวันนี้จนทำให้ท่านไม่สบายใจ ผมควรจะไปเจอท่านอีกไหม ผมกลัวถ้าท่านเจอผมแล้วจะไม่สบายใจเหมือนอย่างวันนี้อีก แต่อีกใจก็อยากพาท่านไปสร้างบุญสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป ผมควรจะทำตัวอย่างไรดีครับ ผมรักท่านมากอยากให้ท่านอายุยืนอยู่สร้างบุญสร้างบารมีต่อไปอีกนานๆน่ะครับ T T
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#2 Regenbogen

Regenbogen
  • Members
  • 441 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 April 2008 - 01:14 AM

ก็เข้าใจคุณทั้งสองคนนะ ทั้งสองใจจริงทั้งคู่ทั้งรักและห่วงใยกันมาก ...เข้าใจจ้ะ และขอถาม ถ้าคุณที่ตั้งกระทู้นี้ตัดสิ้นใจจะไม่ไปเยี่ยมย่าผู้ใหญ่ทางบ้านของคุณอีกอย่างที่คุณกำลังสบสันอยู่นี้ เวลาคุณไม่ไปเยี่ยมท่าน คุณจะทำใจให้สบายได้หรือ? ความคิดเห็นบวกกับปัญญาอันน้อยนิดของเราที่มีอยู่นี้นะ ความคิดของเรา เราว่าคุณควรจะไปเยี่ยมท่านตามเดิมเถิด ท่านก็ยังอยากให้ลูกหลานไปเยี่ยมบ่อยๆ และยิ่งเวลานี้ท่านเองก็ป่วย ยังต้องการกำลังใจ...ก็ลองเอางี้ดูก่อนสิ เวลาพอท่านพูดเรื่องแต่งงาน คุณก็พยายามเปลี่ยนเรื่อง หาเรื่องที่ท่านชอบ รึเรื่องที่คุณทั้งสองเคยทำร่วมกัน บางทีท่านจะจำได้ และอาจจลืมเรื่องที่อยากเห็นคุณแต่งงาน รึไม่ก็เอาเรื่องธรรมะนี้แหละ เอาเทปเปิดเลย ท่านจะได้ไม่มีโอกาศคุย อิอิ ที่ท่านชอบอะ ท่านจะเพลินๆ พอเพลิน ก็เย็น ไม่รู้นะทั้งหมดนี้ก็แค่ความคิดเห็นตัวเราเองจ้า.......สาธุ ...โชคดีจ้า

#3 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 12:17 AM

ความเห็นเรานะ..

เราว่าคุณควรไปเยี่ยมท่านเหมือนเดิม..
ทำ.. แบบที่ใจอยากทำ.. และ
ทำ.. ในสิ่งที่ควรทำ..
คุณจะได้ไม่ต้องมาเสียใจในภายหลัง..

แต่การไปเยี่ยมท่าน.. เมื่อท่านชวนคุยเรื่องแฟน.. เรื่องแต่งงานอีก
คุณควรบอกท่านไปว่า..
คุณรอให้ท่านหายดีอย่างสมบูรณ์.. แล้วช่วยตัดสินใจในเรื่องนี้
เพราะคุณตัดสินใจไม่ถูก.. มีหลายคนนิสัยดีสูสีกัน.. เธอเหล่านั้นชอบไปวัด(พระธรรมกาย)
เลยอยากให้คุณย่าช่วยตามไปวัดเพื่อช่วยตัดสินใจที.. (เข้าทางเลย.. 555)

เรามองว่า.. นี่เป็นกุศโลบาย..

1. คุณย่าคุณเมื่อได้ฟังตามนี้.. ท่านน่าจะมีกำลังใจ.. อยากฟื้นเป็นปกติไวไว
เพื่อมาทำหน้าที่ให้หลานสุดที่รัก

2. เมื่อคุณย่าคุณแข็งแรงดีแล้ว.. คุณก็พาท่านมาวัด.. (แล้วก็ทำบุญ)
แล้วก็ค่อยๆแทรกธรรมมะให้ท่านแบบค่อยเป็นค่อยไป.. (ตามวาระโอกาสและสถานการณ์)
เช่น.. คนเราเกิดมาทำไม.. อะไรคือหน้าที่ๆแท้จริงของเรา..
ทำไมการอยู่คนเดียวจึงดีกว่าการมีครอบครัว.. การถือพรหมจรรย์มีข้อดีอย่างไร

โดยตลอดขั้นตอนทั้งหมดนับจากนี้.. คือ..
คุณควรนั่งสมาธิแล้วเชิญคุณย่ามาไว้ที่ศูนย์กลางกายคุณ..
อธิษฐานขอให้ท่านแข็งแรง.. และเข้าใจหมู่คณะ..
และมาร่วมสั่งสมบุญกับหมู่คณะโดยเร็ว.. และเข้าใจเจตนารมณ์ของคุณ


แต่.. เราว่านะ.. ถ้าคุณหาสาวที่วัดเป็นแฟนจริงๆ.. ก็อาจไม่ใช่เรื่องเสียหาย
เพราะบางคนเธออาจเข้าใจเจตนารมณ์คุณดีมากๆ.. และอยู่กับคุณแบบเพื่อนกัลยาณมิตร คู่บุญคู่บารมีก็ได้
โดยที่ไม่ต้องมีเรื่อง Sex เข้ามาเกี่ยวข้องเลย.. เพราะเธอก็ต้องการแบบนั้น
และเมื่อไรที่คุณอยากบวชตลอดชีวิต.. เธอก็เข้าใจ.. เต็มใจ.. ดีใจ.. และอนุโมทนาสาธุการ
เราว่าน่าจะมีสาวๆแบบนี้ที่วัดเยอะพอสมควรนะ..

(อืมมม.. ไม่คิดก็ไม่แปลก.. แต่ถ้ายิ่งคิดก็ยิ่งแปลก..)
(เลียนแบบหลวงพ่ออ่ะค่ะ.. 555)

ขอให้ประสบความสำเร็จ.. และขอให้คุณย่าแข็งแรงนะคะ..

ขอร่วมอนุโมทนากับความคิดดีๆในการถือพรหมจรรย์ของคุณ.. สาธุ
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#4 สิงโตเกเร

สิงโตเกเร
  • Members
  • 164 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 10:05 AM

คุณ เด็กอนุบาลหน้า​ใสใจดี กุศโลบาย​..ยอดเยี่ยม แยบคาย หลอกล่อหลายตลบ
คิดบวกลบ แล้วยังกำไรเลย สุดยอดจริงๆ ผมเคยเจอญาติๆถามเหมือนกัน อิอิ
แต่ผมเกเรหน่อยนะ ผมบอกว่าไม่อยากเป็นทุกข์จากภาระแบบพวกท่านๆที่ถามไง เหอๆ
จขกท.ความคิดไกลไปคนไม่เคยเข้าวัดเข้าใจยาก omg_smile.gif dont_tell_anyone_smile.gif glare.gif wacko.gif unsure.gif rolleyes.gif
ยิ่งคนจีนอยากอุ้มหลานนะถามทั้งวันแน่ๆ (อืมมม​.. ​ไม่​คิดก็​ไม่​แปลก​.. ​แต่​ถ้า​ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลก​..)

#5 Jeabka

Jeabka
  • Members
  • 248 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 10:11 AM

ไปเยี่ยมท่านตามปกติเถอะ...ท่านก็ห่วงตามประสาผู้ใหญ่อ่ะคะ และท่านรักห่วงใยคุณเคยเข้าวัดมากบวกกะท่านเจ็บป่วยอยู่ยิ่งทับทวีคูณเข้าไปอีก อย่างที่คุณเด็กอนุบาลหน้าใสใจดีแนะนำ ก็ถือว่าเป็นกุศโลบายที่ดีอ่ะคะ อย่างแม่เราก็เป็น ก็รู้ว่าท่านเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน แม่บอกเอาหลานมาเลี้ยงเป็นลูกม่ะ เราก็บอกว่า แม่มันก็มี ก็เลี้ยงไปจิ เรื่องอะไร อิอิ ให้ดูแลเป็นพักๆ ทำได้ แม่บอกว่าแก่ตัวจะได้เลี้ยงเรา เราก็บอกว่าจะหวังอะไร หากให้ช่วยเลี้ยงอ่ะได้ แต่ไม่ได้หวังให้เลี้ยงตอบแทน แม่ยังบอกว่า เกิดเป็นหญิงทุกคนต้องมีคู่ เราก็บอกว่า ไม่ใช่ทุกคนต้องมีนิ...บางทีแม่ก็ถาม ญาติถามก็ตอบว่า สงสัยคู่ยังไม่มาเกิดมั่ง บางทีก็ตอบว่า สงสัยชาติหน้าอ่ะ ตอนบ่ายๆ(5555) คิดไปคิดมา บางทีก็ห่วงบั้นปลายเหมือนกันแหะ แต่การไม่เอาครัวมาครอบเนี่ยะ มันโปร่งกว่าเยอะ

#6 ใจสูง

ใจสูง
  • V-Cyber Admin
  • 282 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:อาชีพนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาค่า

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 02:49 PM

อิอิ

ตั้งใจเป็นโสด
หรือตั้งใจจะประพฤติพรหมจรรย์คะ?

ถ้าจะประพฤติพรหมจรรย์
อย่าใจอ่อน เรื่อง แฟน ทีเดียวนะคะ
หาวิธีทีให้ท่านสบายใจ และอย่าผูกมัดตัวเองเลย

ทำใจใสๆ อธิษฐานจิตให้ท่านหายไวๆ และสั่งสมบุญในชื่อท่านสิคะ
หลวงพ่อสอนเสมอว่า "บุญอยู่เบื้องหลังความสุขความสำเร็จ"

#7 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 08:06 PM

กุศโลบายของเด็กใจใสดีหน้าอนุบาล

"พอใช้ได้"

เข้าขั้น"อึ้งย้ง"

อย่างน้อยก็ได้อารมณ์ขัน

55555

ตอบกระทู้บ่อยๆนะหลาน

จะคอยอ่านได้สบายใจ

#8 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 09:45 PM

อนุโมทนาในความตั้งใจและความตั้งมั่น ที่จะอยู่เป็นโสดคนเดียวไปตลอดชีวิต (เพื่อสะดวกในการสร้างความดี)ด้วยครับ สาธุ

เห็นด้วยกับคำแนะนำของเพื่อนกัลยาณมิตร
เรื่อง ให้เจ้าของกระทู้ หมั่นไปเยี่ยมคุณย่า ที่ป่วย ครับ

แต่คิดแตกต่างเรื่อง อุบายที่อ้างว่า มีแฟนแล้ว ขอให้คุณย่ารีบหายป่วยแล้วมาช่วยตัดสินใจ
กับเรื่องแสวงหาสาวที่รักการสร้างบารมี มาเป็นคู่ครอง ครับ

เจ้าของกระทู้มีปัญญาแยบคายมากพออยู่แล้ว ที่จะเลี่ยงการสนทนากับคุณย่า เรื่องแต่งงาน
ผมว่าการแสดงความจริงใจ ด้วยการยืนยันในเจตนารมณ์ อุดมการณ์ในการทำความดี
เป็นสิ่งประเสริฐ อันบุคคลทำได้ยาก คือ สิ่งที่เหมาะสม สำหรับคุณ ครับ

และอย่างที่ เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี บอกไว้
QUOTE
ช่วงนี้คุณควรนั่งสมาธิแล้วเชิญคุณย่ามาไว้ที่ศูนย์กลางกายคุณ..
อธิษฐานขอให้ท่านแข็งแรง.. และเข้าใจเจตนารมณ์ของคุณ


นี่ คือ เรื่องสำคัญและเกิดคุณประโยชน์ ต่อตัวเจ้าของกระทู้และคุณย่า อย่างแท้จริง ครับ

#9 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 11:44 PM

ง่ะ.. ยังม่ายด้ายแนะนำให้บอกว่ามีแฟนแล้วนะคะ :'(

แค่แนะให้บอกประมาณว่า..
มีสาวๆน่ารักนิสัยดีชอบไปวัดหลายคนอยากให้ท่านไปช่วยดูหน่อยอ่ะ..

smile.gif
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..

#10 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 07 April 2008 - 11:52 PM

QUOTE
ง่ะ.. ยังม่ายด้ายแนะนำให้บอกว่ามีแฟนแล้วนะคะ :'(

แค่แนะให้บอกประมาณว่า..
มีสาวๆน่ารักนิสัยดีชอบไปวัดหลายคนอยากให้ท่านไปช่วยดูหน่อยอ่ะ..


ขออภัย หากเข้าใจความหมายคลาดเคลื่อนไป นะครับ

ไฟล์แนบ



#11 usr22569

usr22569
  • Members
  • 6 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 April 2008 - 12:02 AM

ผมว่าคุญควรไปหาคุญย่า เพราะท่านก็อายุมากแล้ว คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนอายุมากก็คือ ใจต้องไม่มีเรื่องเศร้าหมอง ถ้าเศร้าหมองเมื่อไหร่ มีทุคติหรืออบายเป็นที่ไป เพราะฉะนั้นใจมีความสำคัญมากที่สุด แล้วเรื่องที่ทำให้ใจคนเราผ่องใสได้ดีที่สุด ก็คือเรื่อง การทำบุญ ชวนคุยเรื่องบุญให้มากถ้าท่านจะคุยเรื่องแฟน คุณก็เปลียนเรื่องไปเลย ชวนท่านคุยเรื่องธรรมะบ้าง นำดอกไม้ธูปเทียนมาให้ท่านบูชาพระตอนเช้าตอนเย็น และก่อนนอน หรือเราอาจจะเตรียมข้าวปลาอาหาร ผลไม้ ดอกไม้ ไว้ให้ท่านใส่บาตร ถ้าเรานิมนต์พระมารับถึงห้องได้เลยก็ดี แต่ถ้าพระมาไม่ได้หรือแถวนั้นไม่มีพระ เราก็ไปตักบาตรแทนท่านแล้วกลับมาเล่าให้ท่านฟังว่าได้ไปทำบุญทำทานมาให้ท่านอย่างนี้ๆ แรกๆ ท่านอาจจะไม่ยอมทำตาม แต่เราก็ต้องค่อยๆพูดให้ท่านเข้าใจเรื่องบุญบาป เรื่องนี้จำเป็นที่สุดต่อท่านในตอนนี้มากเพราะท่านอายุ มากแล้ว ยังไงก็ต้องช่วยท่านทำศึก ถ้าเราไม่ทำท่านจะไม่รู้วิธีการที่จะทำศึกนี้ เรารู้หลักข้อนี้แล้วก็ควรที่จะช่วยท่านนะครับ

#12 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 08 April 2008 - 09:24 AM

ขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาบุญกับความเห็นของทุกท่านนะครับ

เมื่อวันอาทิตย์ต้นเดือนผมไปเยี่ยมท่านอีกครั้ง เพื่อที่จะนำบุญบูชาข้าวพระอาทิตย์ต้นเดือนไปฝากท่าน เหตุการณ์ก็เหมือนเดิมครับคือท่านพยายามพูดให้ผมหาคู่ชีวิต ซึ่งผมก็ทำตามอย่างที่เพื่อนกัลยาณมิตรบอกคือเลี่ยงไปพูดเรื่องอื่น บอกบุญที่ได้ทำในวันนั้นให้ท่านฟังท่านก็อนุโมทนา แต่เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว ท่านจึงหลงๆลืมๆ สุดท้ายก็วกกลับเข้ามาเรื่องเดิม ท่านพูดไปนําตาก็ซึมไป ผมฟังนําเสียงของท่านแล้วสงสารท่านมากเลยน่ะครับ นําเสียงท่านเหมือนมีอาการเหนื่อยหอบเหมือนกับพูดจะไม่ไหว ผมไม่รู้จะทำตัวเช่นไรดีเหมือนกันก็เลี่ยงพูดเรื่องอื่นไปเรื่อยๆ แต่ท่านก็วกกลับมาเรื่องเดิมอื่น วันนั้นท่านนําตาซึมจากเรื่องนี้ถึง3ครั้งทีเดียว โชคดีที่หลานสาวซึ่งเป็นลูกของพี่ชายผมมาช่วยไว้ซึ่งพี่ชายผมมาถึงหลังผมประมาณครึ่งชม. หลานสาวพึ่งอายุได้แค่10เดือน จึงเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากคุณย่าผมไม่ใช่น้อย ทำให้ท่านอารมณ์ดีขึ้น (หลานสาวช่วยชีวิตไว้แต๊ๆ T T ) พอพี่ชายผมกลับผมจึงต้องรีบกลับพร้อมพี่ชาย กลัวอยู่แล้วจะทำให้ท่านไม่สบายใจอีกน่ะครับ

ยอมรับนะครับว่าเจอแบบนี้ทำให้ผมเครียดพอสมควรเหมือนกัน กลัวจะเป็นคนทำให้ท่านอายุสั้นลงน่ะครับ ตอนนี้ก็ได้แต่อธิฐานจิตให้ท่านแข็งแรงขึ้น
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#13 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 08 April 2008 - 01:04 PM

QUOTE
โดยตลอดขั้นตอนทั้งหมดนับจากนี้.. คือ..
คุณควรนั่งสมาธิแล้วเชิญคุณย่ามาไว้ที่ศูนย์กลางกายคุณ..
อธิษฐานขอให้ท่านแข็งแรง.. และเข้าใจหมู่คณะ..
และมาร่วมสั่งสมบุญกับหมู่คณะโดยเร็ว.. และเข้าใจเจตนารมณ์ของคุณ


เห็นด้วยอย่างมากกับความคิดนี้ เพราะสำหรับตัวเอง หลังจากที่เชิญพ่อแม่ มาไว้ที่ศูนย์กลางกาย
ก็รู้สึกว่าท่านเข้าใจเรามากขึ้นน่ะคะ

อนุโมทนา สาธุนะคะ ขอให้คุณย่าหายเร็วๆ และคุณก็ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ happy.gif

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#14 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 April 2008 - 01:31 PM

เอ้า ถึงเวลาต้องตอบแล้ว

กุุศโลบายที่่ได้ผลที่สุดคือ

(พิสูจน์มาแล้ว ๒๓ พุทธันดร( ๔ อสงไขยแสนมหากัปป์ )จากพระไตรปิฏก )

ยุคนั้นๆ ใช้วิธีหล่อรูปปั้นทองคำเป็นสาวสวยระดับนางงามจักรวาล ไปแห่

ถ้าเจอก็แต่ง ไม่เจอไม่แต่ง

อำมาตย์แห่ไปทั่วชมพูทวีปอยู่หลายเพลานานมากๆ

จึงได้เจอคู่บุญคู่บารมีระดับพระนางยโสธราพิมพา

ซึ่่งอย่างเราๆท่านๆไม่มีทางมีบุญมากขนาดนั้น

แปลว่าไม่มีทางได้แต่งแน่นอน

( นอกจากคุณจะเป็นเจ้าชาย )

เพราะฉะนั้น ให้บอกครอบครัวไปว่า

ผมตั้งสเปคไว้สูงสุดๆในทุกๆด้านไปเลย

รับรองว่าหาจนแก่ก็ไม่ได้แต่ง

(ลึกๆแล้วผู้ใหญ่เองก็รู้ว่าแต่งงานเป็นทุกข์

ถ้าคุณยืนกราน ท่านก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยเลยตามเลย)

ขอบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ตัวของเราเอง

ทุกคนมีเจตน์จำนงเสรี (free-will)

และสิทธิอันชอบธรรมส่วนบุคคล

(ว่าแต่น้องอย่าเผลอลดสเปค

เพราะพี่่เข้าวัดมายี่สิบกว่าปี

เพื่อนธรรมทายาทที่่ฮึดฮัดที่สุดว่าจะไม่แต่ง

ก็แต่งก่อนเพื่อนเลย (ไม่ได้ตั้งสัจจะกันจึงไม่เสียสัจจะ)

แถมลดสเปคกระหน่ำชนิด midnight summer sales.

แถมบอกเพื่อนๆด้วยว่าระวังจะต้องเลี้ยงลูกตอนอายุหกสิบ

แถมอีกว่าเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ยุคหญิงซ้ายชายขวาแล้ว

เดี๋ยวนี้ยุคครอบครัวธรรมกายแล้ว

ระวังจะกลายเป็นไดโนเสาร์ตัวสุดท้าย

ไดโนเสาร์ที่ไม่ปรับตัวไปตามยุคสมัยก็ต้องสูญพันธุุ์

ก็เลยทะยอยแต่งปีละคนสองคน

ผ่านไปยี่สิบกว่าปีก็มีลูกกันหมด

พาลูกๆเข้าวัดน่ารักมากตัวเล็กๆ

เดี๋ยวนี้โตเกือบหมดแล้ว

พ่อๆก็ทยอยบวชสั้นรอบสอง

พอหลายอย่างโอเค ก็จะไปบวชยาวรอบสามกัน

(แต่สุขภาพแต่ละคนไม่ค่อยเอื้ออำนวยแล้ว

แล้ววัดเราพระใหม่ก็ต้องอึดมากๆถึงจะอยู่รอดได้

เพื่อนบางคนวางแผนบวชยาวแต่ก็ต้องกลับออกมา

จึงขอแนะนำน้องๆหลานๆให้บวชยาวตั้งแต่หนุ่มๆ)

เห็นไหมว่าอะไรๆมันก็เปลี่ยนไปตามกฏไตรลักษณ์

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อย่างไรก็ตามพี่ก็สนับสนุนน้องอย่าแต่งงาน

มันทุกข์มากกว่าสุข

ที่เล่าให้ฟังเพื่อให้น้องๆวางแผนชีวิตให้รอบคอบ

เตรียมเงินส่วนตัวไว้ใช้ตอนแก่ด้วยครับ

แม้บวชยาวเวลาป่วยก็ใช้เงินตนเองดีกว่า

เพราะวัดก็มีค่าใช้จ่ายมากมาย

อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้

#15 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 April 2008 - 06:12 PM

ถือเป็นบททดสอบ

งานนี้เกี่ยวข้องกับผู้ที่เรารักและเคารพ ทำให้การแก้โจทย์ดูยากยิ่งขึ้น

มุมมองเรา ผู้สูงวัยมีมรณะสัญญาเป็นปกติ ในระดับปุถุชนย่อมหวั่นในมรณะภัย เว้นแต่ขาดสติ

ถ้าทำได้ควรเป็นกัลยาณมิตรให้ท่านเข้าใจ ถ้าทำไม่ได้คงต้องประคองใจรอจังหวะที่ใจท่านเปิดรับฟัง

การไปเยี่ยมท่านนั้นเหมาะสมแล้ว นำสิ่งที่ดีงามกล่าวผ่านวาจาสุภาษิตให้ใจท่านตรึกอยู่ในบุญ ถ้าท่านยืนกรานก็บอกไปเลยว่าจะบวชให้คุณย่าก่อนเพราะปรารถนาให้คุณย่าได้บุญมากๆ อยากให้คุณย่าหายไวไว จะได้มอบผ้าไตรให้กับผมด้วยตนเอง อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงไว้ว่ากันในภายหลังลาสิกขา...
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#16 ณ.ใจ

ณ.ใจ
  • Members
  • 84 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 April 2008 - 05:09 PM

เป็นหนูนะ ถ้าเป็นผู้ชายไม่แต่งดีสุดๆๆ บวชตลอดชีวิต ไปเลย จะได้ไม่ต้องเจอคำแถม เมื่อไรแต่งงาน
และก้อเลิก งานแฟนให้ อิ อิ อิ อิ
ไม่มีอะไรใหม่ต้องแสวงหาอีกแล้ว
[email protected]