ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อรหันต์ซัมเมอร์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 18 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 08:11 AM

วันนี้เจ้านายไม่อยู่ (หนูเลยร่าเริง) ว่าจะไปดูหนัง อรหันต์ซัมเมอร์ เพราะที่ทำงานเป็นที่พูดคุยกันมาก ว่าเหมาะสมหรือไม่ ข้าพเจ้าเลยรับอาสา ยอมเสียสละไปดูเอง(แมนมากๆ) เนื่องจากถ้าหนังเหมาะสมที่จะดู เจ้านายก็จะยกโขยงพาไปดูพร้อมๆกัน แล้วมานั่งพูดคุยกันถึงแง่มุมต่างๆในแนวทางที่จะจรรโลงที่ทำงานให้ดีขึ้น (กำลังกล่อมแม่บ้านให้ยอมเอาลูกไปบวชเณรอยู่)

อย่าดูถูกไปนะคร๊าบ ขนาดเรื่อง THE OTHER ยังทำให้ใครบางคนในที่ทำงาน นิมนต์พระที่มาบิณฑบาตรหน้าบ้าน เข้ารับสังฆทานในบ้านทุกเดือน เพราะสงสารวิญญาณติดที่กลัวไม่ได้รับบุญแล้วไปผุดไปเกิดไม่ได้

ได้ความว่าอย่างไร เหมาะสมแค่ไหน เหมาะจะพาลูกหลานไปดูหรือเปล่า จะมารายงานให้ทราบคืนนี้ครับ

แล้วถ้าใครอยากไปดูด้วยกัน และพร้อมที่จะเลี้ยงข้าวผมด้วย ก็เรียนเชิญนะครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 08:50 AM

เหอๆ ตอนที่ดูอย่ามีจิตคิดอนุโมทนาบาปไปด้วยแล้วกันนะครับ คุณทัพพีในหม้อ เดี๋ยวจะโดนกรรมล้อเลียนพระภิกษุสามเณร ติดหางเลขไปด้วย

เดี๋ยวนี้หากมีหนังเกี่ยวกับพระภิกษุเข้าฉายผมไม่กล้าไปดูเลยครับ ขนาดเพื่อนชวนไปดูผมยังไม่ไปเลย ยอมผิดใจเพื่อนดีกว่า - -"
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 09:35 AM

คุณครูไม่ใหญ่เคยบอกไว้แล้วครับว่าการแต่งกายเลียนแบบสงฆ์เพื่อการแสดงนั้นก็เป็นบาป น่าสงสารนักแสดงนะครับ ไม่รู้เรื่องเลย

#4 131072

131072
  • Members
  • 237 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 12:29 PM

ถ้าเราไปดูเฉยๆจะบาปไหม กลัวจัง

#5 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 12:53 PM

กำลังจะออกไป เลยขอเช็คข้อความสักนิด เผื่อจะมีใครไปเลี้ยงข้าว เอ๊ย...ไปดูด้วยกัน

คุณเคยเข้าวัด กับคุณBlissinessman ครับ ขอบคุณที่เตือนสติผมนะครับ

การอนุโมทนาบาปนั้น คือ การยินดีในสิ่งผิดที่เขากระทำ ผมไม่ได้ชื่นชมยินดีในสิ่งที่เขากระทำ ที่ผมต้องเข้าไปดูเพราะมีหลายคนใกล้ตัวผมที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องบุญ-บาปมากนัก ต้องการดูมาขอคำแนะนำว่าควรดูหรือไม่

ถ้าจะบอกว่า หนังละคร ทำให้ใจฟุ้งซ่านห้ามดูซะเลย มันก็ถูก แต่ในบางครั้ง การเปิดใจคนบางกลุ่มให้ยอมรับทีละเล็กละน้อยจากสื่อหลายๆทาง มันก็จะง่ายกว่าการที่เราลากเขามาเข้าวัดแล้วจับนั่งสมาธิเลยนะครับ

อย่างน้อยๆ ผมก็บวชมาแล้ว มีพระอาจารย์ที่เมตตาอบรมสั่งสอนมาอย่างดี ผมก็คงพอที่จะแยกแยะและให้คำแนะนำกับเนื้อหาของหนังได้ในระดับหนึ่ง อะไรที่ดีผมก็จะได้แนะนำให้ทำตาม อะไรที่ไม่ดีไม่เหมาะสมผมก็จะอธิบายให้เข้าใจ

ส่วนการแต่งกายเลียนแบบพระนั้น ผมว่าอยู่ที่เจตนาและการนำเสนอมากกว่า ถ้ามาแต่งสงฆ์แล้วทำล้อเลียนตลกโปกฮา อันนี้ก็รับกันไปเต็มๆนะครับท่าน(รับอะไรคงไม่ต้องบอก) แต่ถ้าแต่งแล้วเพื่อแสดงออกให้เหมาะสมแก่การเป็นพระ เพื่อนำเสนอในแง่มุมที่เป็นพระที่ถูกต้องเหมาะสม ผมว่าไม่น่าจะเป็นอะไรนะ เพราะการใช้พระจริงมาแสดงร่วมน่าจะไม่เหมาะสมกว่าอีกนะครับ

ไม่รู้นะครับ ผมอาจจะเปิดใจกว้างเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าอย่างนี้แล้วกันนะครับ กระทู้นี้จะจบลงตรงนี้ ผมจะไม่เข้ามาเล่าว่าเป็นยังไงแล้วกัน แต่ถ้าใครยังสนใจในมุมมองเรื่องนี้อยู่ก็ขอให้ฝากข้อความไว้ที่ข้อความส่วนตัวของผมละกัน

ขอบคุณทุกคนมากครับ ไปแล้วๆ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

ปิดกระทู้
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#6 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 07:04 PM

อ้าว มาไม่ทัน ไปซะแล้ว ว่าจะพาไปกินโออิชิซะหน่อย เสียใจด้วยครับ tongue.gif




#7 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 07:28 PM

คำว่า" อรหันต์" เป็นคำที่แสดงภาวะธรรมที่สูงส่ง จึงไม่ควรนำมาใช้อย่างไม่สมควร หรือไม่เหมาะสมครับ มิเช่นนั้นจะมีวิบากติดไปไม่คุ้มเลย

#8 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 08:48 PM

กลับมาแล้วครับ มาเปิดกระทู้เม้าท์กันต่อ

หลังจากที่ดูจนจบเรื่อง โดยไม่มีการลำเอียงแต่อย่างใด ขอบอกว่า ถ้ามีเงินเหลือใช้เหลือเฝือก็ไปดูกันได้ครับ สนุกพอสมควร แต่ไม่ถึงกับฮาโรงแตก พอจะมีสาระให้ได้ติดมือมานิดๆหน่อยๆ แต่ถ้ามีตังค์พอดีๆเอาไปซื้อสื่อธรรมะของหลวงพ่อดีกว่าครับ

ไม่ขอพูดถึงชื่อเรื่องนะครับ เพราะจะเป็นเรื่องที่พูดกันไม่รู้จบ แต่จากเนื้อเรื่องแล้ว ไม่เหมาะสมจริงๆครับ

เนื้อหาของหนังค่อนข้างสับสน ไม่ค่อยมีที่มาที่ไปให้เข้าใจสักเท่าไหร่ เหมือนกับว่าบทหนังน่าจะยาวสักแปดชั่วโมงแล้วตัดมาฉายแค่ชั่วโมงกว่าๆ ไม่ค่อยแน่ใจว่าหนังต้องการสื่ออะไรกันแน่ แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจ...มั๊ง

บทพระ ไม่มีอะไรน่าตำหนิหรือนอกลู่นอกทาง นอกจากพระหนุ่มๆดูจะเป็นฆราวาสมากไปหน่อย (เอ...หรือเราเจอแต่พระที่เป็นพระกันจนชินหว่า)

บทเณร ดูจะเกินเลยไปนิดนึง ดูเหมือนจะเอาความคิดของผู้ใหญ่ยัดเยียดเข้าไปในบทมากไปหน่อยจนบทของเด็กดูเกินเด็ก แก่นเกิน เพ้อฝันเกิน จนบางบทดูก้าวร้าวทีเดียว ไม่เหมาะสม...ไม่เหมาะสม...

สรุปว่า ถ้าจะพาเด็กไปดู ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำอธิบายทำความเข้าใจกับเด็กๆด้วยครับ

นึกว่าจะมีหนังที่ให้สาระดีๆบ้างแล้วเชียว เสียดายจัง

แต่ถ้าใครที่มีความสามารถเขียนบทละครทีวีได้ก็น่าจะลองเอามาต่อยอดดูนะครับ ปรับให้เหมาะสม ก็น่าจะได้ละครน่ารักๆดีๆเอาไว้ดูกันได้ครับ (เคยทำแต่กำกับละครเวที ไม่ถนัดด้านทีวีหรือหนังครับ)

จบ !!!

ปล. คุณท่านสิริปโภครับ มายั่วให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ มีเคืองนะครับ เฮอะ...ไม่ง้อก็ได้ เดี๋ยวเราสั่ง BenTo Set ไปถวายเพลพระดีกว่า เผื่อคนใจร้ายจะกลับใจมาเลี้ยงข้าวเรา เหอ เหอ

ปล.(อีกครั้ง) ถ้าจะให้เพื่อนชาวต่างชาติดูหนังแล้วเข้าใจเรื่องราวในพระพุทธศาสนาบ้าง ลองให้ดูเรื่อง Six Sense หรือ The Other นะครับ แล้วเราอธิบายให้เขาเข้าใจหลักของพระพุทธศาสนาได้เลยง่ายๆ

มีอะไรชี้แนะเชิญได้เลยนะครับ

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#9 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 09:07 PM

พูดถึง ภาพยนต์ ละคร การแสดงเกี่ยวเนื่องกับพระรัตนตรัย
เรื่องแบบนี้ เมื่อเมียงมองอย่างเปิดกว้าง เป็นกลางในทางกฎแห่งกรรม เป็นหลัก
อาจพิจารณาเรื่อง เจตนา + ผลกระทบทั้งสองด้าน คือ ได้ และ เสีย ก็สมควรนะครับ

๑ ) เจตนา ( เหตุ )

ฝ่ายคณะสร้างภาพยนต์ นักแสดง รวมถึงคนสนับสนุนที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนต์ด้วย
ถ้าปฐมเจตนา สะอาด ไม่มุ่งสร้างภาพเสียหาย บิดเบือนคุณของพระรัตนตรัย
เีพียงเป็นเรื่องทำมาหากิน ยังไม่ใช่ มิจฉาอาชีพ ๕

อีกทั้งบทภาพยนต์และระหว่างการสร้างภาพยนต์ การแสดง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาด
ก็ไม่คิด หรือก่อให้เกิดการลบหลู่ ดูหมิ่น ปรามาสสิ่งที่เกี่ยงเนื่องกับพระรัตนตรัย

ผมคิดว่า ก็ไม่ได้เป็นบาปกรรมอะไร
เพราะเจตนา คือ มโนกรรม ไม่ได้มาจากอกุศลจิต

พอจำได้ว่า เคยมีภาพยนต์เกี่ยวกับพระธุดงค์ ที่สงบเสงื่ยมสง่างาม น่ากราบไหว้
ถ้าใครชมแล้ว รู้สึกศรัทธาในความเป็นภิกษุ ก็น่ามีคุณมากกว่ามีโทษ ( แต่ผมไม่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ )

แต่
ภาพยนต์ที่สร้างเพื่อเชิดชูเกียรติคุณ ของพระรัตนตรัยอย่างแท้ จะมีสักเรื่องไหม

เพราะเดี๋ยวนี้ มีแต่ภาพยนต์เพื่อการบันเทิงและธุรกิจ ทำมาหาเงินเลี้ยงชีพ และชื่อเสียงในทางโลกียะ ซะมากกว่ากระมัง

และภาพยนต์แบบนี้ มีีโอกาสก่อให้เกิดกุศลจิต น้อยนัก

ฝ่ายผู้ชม
ก่อนชมภาพยนต์ ละคร โดยมากคงไม่มีเจตนาในทางอกุศลอะไร
ฉะนั้น ก็ไม่น่าเป็นบาปกรรมอะไร

๒ ) ผลกระทบที่ตามมา ( ผล ) ไม่มองเรื่องตัวเลขรายได้ เศรษฐกิจ
ซึ่งก็มีทั้งสองด้าน ( ทวิลักษณ์ ) ในที่นี้หมายถึง ภาพยนต์เรื่องนั้น ๆ
ก่อให้เกิดกุศลจิต หรือ อกุศลจิต ต่อพระรัตนตรัย ของผู้คนในสังคม

ใครชมแล้ว ยิ่งศรัทธาในพระรัตนตรัย หรือยิ่งลดความศรัทธา ในพระรัตนตรัย

แม้ใครที่ยังไม่ชม แค่ร่วมวิพากษ์วิจารณ์ ภาพยนต์เรื่องนั้น ๆ
เขาวิพากษ์ วิจารณ์ ในทางไหน ก่อกุศล หรือก่ออกุศล

ถ้าผลกระทบออกมาในทางกุศล มากกว่า ก็น่าอนุโมทนา สาธุ

ผมคิดว่า ถ้าตัวเอง ยังไม่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ และยังไม่ชัดเจนเรื่องผลกระทบในทางเสียหายต่อพุทธาจักร
ผมก็ไม่ขอต่อต้่านอะไร แต่ก็ไม่สนับสนุนภาพยนต์แนวสนุกสนาน บันเทิง มาเกี่ยวข้องกับพระสงฆ์องค์สามเณร

เท่าที่เจ้าของกระทู้แสดงทัศนะมานั้น ผมคิดเองว่า
การไปดูภาพยนต์เรื่องนี้ จะเกิดประโยชน์ มากกว่า โทษแก่เจ้าของกระทู้ มากกว่าครับ
และถ้าสามารถใช้โยนิโสมนสิการ ทำความเข้าใจถูก ให้แก่คนรู้จักที่เข้าใจผิดตอพระรัตนตรัย ก็จะเป็นบุญกุศลต่อเจ้าของกระทู้เองครับ

ป.ล. แต่ถ้าเรื่อง ชื่อภาพยนต์ โดยส่วนตัวผมคิดว่า ไม่เหมาะสม ไม่ควรใช้ชื่อนี้
เพราะ นำของที่ควรไปคู่กับของไม่ควร นั้นไม่ควรครับ

#10 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 10:10 PM

อันนี้ถือว่าแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดกันนะครับ ในความคิดด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผมนะครับคุณทัพพีในหม้อ ผมคิดว่าการอนุโมทนาบาปไม่ใช่มีเพียงแค่การชื่นชมยินดีเท่านั้น การมีอารมณ์ร่วม ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการอนุโมทนาบาปหรือเปล่า เช่นว่า เขาแสดงตลกให้เราดูส่งผลให้เราก็รู้สึกตลกไปกับเขาด้วย คือมีอารมณ์ร่วมตลกไปกับเขาด้วยนั่นเอง เหมือนกับการดูแข่งม้า จ๊อกกี้ควบม้าแข่งขันกันส่งผลให้คนดูมีอารมณ์ร่วมคอยเชียร์ไปด้วย สิ่งที่ผมกลัวคือเรื่องนี้ต่างหากครับ ถ้ายังไงขอเชิญพี่ๆบัณฑิตกัลยาณมิตรร่วมกันช่วยวิเคราะห์กันหน่อยแล้วกันนะครับ เผื่ออนาคตข้างหน้าเราจะได้ไม่ต้องพลาดพลั้งน่ะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#11 MIHARU

MIHARU
  • Members
  • 620 โพสต์
  • Interests:พระพุทธศาสนา<br />วิทยาศาสตร์

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 10:15 PM

ส่วนตัว MIHARU แค่เห็นชื่อเรื่องก็ไม่ไปดูแล้วค่ะ แต่ก็ต่างจิตต่างใจต่างความคิดกันไป
แต่...อย่าลืมว่ากฏแห่งกรรมเค้าไม่ได้ต่างจิตต่างใจแบบเราๆ เพราะใช้บรรทัดฐานเดียวกัน happy.gif
Relax & Alert

#12 อินทัช

อินทัช
  • Members
  • 161 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 April 2008 - 11:48 PM

ลองย้อนไปฟังคุณครูไม่ใหญ่อธิบายแล้วจะรู้ว่า "จริงๆ" ควรจะทำอะไร
ความคิดในกระทู้สู้ความรู้จริงของครูไม่ใหญ่ไม่ได้จ้า....

ความคิด กับ ความจริง อาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

ถ้าศึกษาธรรมะกันจริงๆ
"สัมมาทิฏฐิ" มีอยู่หัวข้อนึง...ที่บอกว่า "เชื่อว่าโลกนี้มี"
ขยายความคือ เชื่อว่าโลกนี้มีเวลาจำกัด เป็นต้น

เอาเวลาไปทำในสิ่งที่ได้ประโยชน์ต่อการไปพระนิพพานจะดีกว่า
อยู่บนโลกแต่ต้องไม่ติดโลก ถ้าอยากพ้นโลกกันอ่ะนะ

ถ้าก้าวแรกคือ "สัมมาทิฏฐิ" ยังไม่แน่นปึ้ก แล้ว "สัมมาสมาธิ" จะถึงกันได้อย่างไร
แต่ถ้าดูเพื่อเอามาใช้ในงานพระศาสนาก็คงพออนุโลมกันได้


จบการเสนอความเห็น ^^

#13 boomy072

boomy072
  • Members
  • 45 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:ที่อยู่ในอนาคตคือ ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์เจ้าค่า

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 03:38 AM

โดยส่วนตัวแล้ว ตอนดูหนังตัวอย่างก็รู้สึกว่าไม่น่าสนใจ และคิดว่าไม่เสียตังค์ไปดูแน่เพราะติดใจกับชื่อเรื่อง แต่เมื่อวันพุธได้ไปดูฟรีรอบเปิดตัว รู้สึกว่า เป็นหนังที่ดีมากๆค่ะ คือดูที่เจตนาของผู้เขียนบท(ซึ่งเพิ่งมีลูกน้อยเมื่อเจ็ดเดือนที่ผ่านมานี่เองค่ะ) คิดว่าคนเขียนบทน่าจะเป็นคนที่ฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาและอยากอยากให้ลูกโตขึ้นเป็นคนดี จึงได้มีเจตนาคิดทำหนังที่สอนเด็กนี้ขึ้นมา โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ดีกว่าการดูหนังวัยรุ่นรักๆใคร่ๆเยอะเลยค่ะ ซึ่งหนังรักวัยรุ่นก็ขายดิบขายดีเลยช่วงนี้ ตอนแรกถึงตอนนี้ก็ยังติดเรื่องของชื่อเรื่องอยู่ตลอดค่ะ แต่พอดูจบก็ต้องบอกว่ารู้สึกดีใจที่เห็นเจตนาดีของการสร้างหนังเรื่องนี้ เพราะไม่แน่ใจว่าดูแล้วจะได้ตังค์หรือไม่ ดาราก็ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับเรื่องอื่นๆที่เค้าโปรโมทกัน ถือว่าผู้ลงทุนก็ใจกว้างมากๆ โดยส่วนตัวจึงรู้สึกว่า ถ้าเด็กๆได้ดูน่าจะรู้สึกถึงความละเอียด,ความสำคัญและเห็นถึงประโยชน์ของการบวช และคิดว่าเด็กๆน่าจะ อยากลองบวชบ้างน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคนอื่นที่ได้ดูแล้วเห็นอย่างไรบ้างคะ ll^_^ll

#14 แน่วแน่

แน่วแน่
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 11:33 AM

แค่ฟังชื่อ ก็ไม่เหมาะสม อย่างยิ่งแล้ว เหมือนดึงเอาของสูง ลงมาเล่น
แสดงถึงความไม่เข้าใจ และไม่เคารพในพระอรหันต์
พระอรหันต์เป็นผู้หมดกิเลส เป็นเพศภาวะที่สูงส่ง ซึ่งไม่มี ในปุถุชนคนทั่วไป
แต่ชื่อของภาพยนต์เรื่องนี้ พอฟังก็ขัดหู ทำให้คิดว่า เด็กที่ปิดเทอมมาบวชเณร
ช่วงปิดภาคเรียน บวชแล้วก็บรรลุเป็นพระอรหันต์เลย
ก็คิดว่าผู้สร้างอยากจะตั้งชื่อให้น่าสนใจ และแปลกใหม่ ให้คนมาดูเยอะๆ
เอาแบบเว่อร์ๆเข้าไว้ โดยไม่ดูว่าสมควรหรือไม่
ทำให้คิดต่อไปอีกว่า คราวนี้คนทั่วไปไม่ว่าอะไร
คราวหน้าเค้าจะดึงของสูงยิ่งๆขึ้นไปกว่าคำว่าอรหันต์
เอามาเล่นเอามาโปรโมทภาพยนต์ของเค้าอีกหรือเปล่า

#15 คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย

คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:บุญ หยุดนิ่ง นั่งสมาธิ ฟุตบอล คอมพิวเตอร์

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 12:44 PM

ครับ๐๐ แล้วถ้าเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "บรรพชาซัมเมอร์" และทำเป็นการ์ตูนแทนคนเล่น จะเป็นอย่างไรอ่ะ๐๐ smile.gif
หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ

#16 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 07:51 PM

ไม่เห็นด้วยตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว คำว่า อรหันต์คือผู้ห่างไกลจากกิเลส ไม่เวียนตายเวียนเกิดอีกแล้ว ยังไงก็ไม่คุ้มแม้ไม่รู้ไม่มีเจตนา ก็ไม่คุ้มหรอกนะคะ ดิชั้นเห็นด้วยกับหลายท่านที่ได้เสนอแนะไปแล้วค่ะ

#17 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 April 2008 - 10:37 AM

ก็ดู เข้าท่า ดี เหมือน กัน น่ะ เห็น ด้วย กับ ความ คิดเห็น ที่ 15 (คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย)

ลูกพระธรรม

#18 วันใส

วันใส
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 April 2008 - 10:56 PM

อย่างน้อยแม้เพียงนิด ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังพอบอกให้รู้ว่าเรายังเป็นเมืองพุทธนะ
แม้มืดตื้อมืดมิดก็มีสิทธิเข้าถึงธรรม

#19 วันใส

วันใส
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 April 2008 - 11:03 PM

พูดถึงวิบากน่ะมีแน่ แต่คงไม่มาก ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้พ้นอบายละกัน อยากให้คนที่สวมบทเป็นพระ เณรในหนังในละครที่ต้องการสื่อความหมาย และภาพลักษณ์ดีดี ที่ไม่มีเจตนาที่ผิด เหล่านั้นได้เข้าถึงพระธรรมกายกันทุกคน และคนทั้งโลกด้วย จะได้ไม่มีใครทำผิดแบบไม่ตั้งใจอีก
แม้มืดตื้อมืดมิดก็มีสิทธิเข้าถึงธรรม