ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 3 คะแนน

เล่าให้ฟัง


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 04:56 PM

เรื่องมีว่า มีสาธุชนซึ่งเป็นรุ่นพี่ มีลักษณะภูมิฐาน เป็นสุภาพสตรี เป็นคนใหม่เอี่ยมเคยไปวัด 1หรือ2 ครั้ง ต้องการศึกษาข้อมูลของวัด ได้ชวนเข้าวัด ชวนขึ้นปฏิบัติธรรม มาหลายครั้ง ก็เกิดอุปสรรค์ ไปไม่ได้สักที
แต่แล้ววันหนึ่ง แกก็แอบไปวัด และแอบขึ้นไปปฏิบัติธรรมที่สวนป่าหิมวันต์ (รุ่นที่ผ่านมา) และได้กลับมาเล่าให้ฟังว่า
ได้พบกับผู้นำบุญอีกคนหนึ่ง และถูกผุ้นำบุญคนนี้ แนะนำว่า ให้ทำบุญเยอะๆ ทำให้หมดตัวไปเลย โดยให้ทำบุญผ่านผุ้นำบุญคนนี้ หรือทำผ่านรหัสของเขา
อีกทั้งให้หลานตัวเองมาตีสนิท และเสนอขายของ (ประเภทชุดชั้นในอย่างดี) ราคาตัวละหรือชุดละ 20,000. บาท คำถาม รุ่นพี่ของผมคนนี้ จะคิดอย่างไร
คำตอบ โชคดีมาก ที่รุ่นพี่คนนี้ รู้จักแยกแยะ ได้บอกว่า ที่เล่าให้ฟัง ไม่ต้องกังวลนะ รู้ว่า นี่คือการกระทำของแต่ละบุคคล ไม่ควรเหมารวม (และสอบถามเรื่องการทำบุญ โดยเข้าใจว่าการบอกบุญอาจจะมีรายได้เป็นสิ่งตอบแทน ซึ่งได้อธิบายให้ฟังแล้วว่า ไม่มีรายได้ใดๆทั้งสิ้น แต่จะมีพระของขวัญ เป็นของที่ระลึกให้นึกถึงบุญ) และพอทราบว่านโยบายของวัด ไม่ให้มาขายของในขณะขึ้นปฏิบัติธรรม และชมว่า ประทับใจมาก ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นเรื่องที่เล่าเรื่องนี้เรื่องเดียว

และขอแถมอีกเรื่อง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ1-2 ปีที่แล้ว เพื่อนที่อยู่ต่างประเทศเป็นคนเข้าวัด ได้ชวนอาที่อยู่เมืองไทย ขึ้นปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ อาซึ่งไม่เคยไปวัดเลย ก็ได้ขึ้นไปตามที่หลานแนะนำ และแล้ว ก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นคล้ายๆกับรุ่นพี่ของผม
เมื่อกลับลงมาแล้ว คุณอาท่านนี้ ไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆเลย กล่าวแต่เพียงว่า ไม่ต้องมาพูดไม่ต้องมาอธิบาย ฉันพบฉันเห็น ฉันประสบมากับตัวเอง และไม่ยอมมาวัดอีกเลย
ดังนั้น ขอแนะนำว่า หากมีคนใหม่จะไปปฏิบัติธรรม ควรที่จะตามขึ้นไปดูแลด้วยนะครับ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด

#2 tor

tor
  • Members
  • 356 โพสต์
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 07:16 PM

เรื่องนี้น่าหนักใจจริงๆ ครับ พวกเราจะมีเรื่องเล่าแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขอบารมีครูบาอาจารย์ช่วยปกป้องวงบุญของพวกเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรม ให้ศัตรูหมู่ภัยพาลแพ้ภัยตนเองห่างไกลหมู่คณะไปร้อยโยชน์พันโยชน์เทอญ
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#3 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2008 - 09:59 PM

แล้วแต่จะมอง ถ้าคิดว่าเป็นวิบากกรรมก็ใช่ ถ้าคิดว่าคนมีหลายประเภท และมีในทุกกลุ่มแม้แต่กลุ่มของนักสร้างบารมีเอง ทุกคนมีวิบากเป็นหางเสือ นำพาชีวิตให้ก้าวไป ทำดีได้ดี ทำไม่ดีก็จะได้ไม่ดี และซักวันนึงสิ่งที่ไม่ดีเหล่านี้มันจะย้อนกลับมาเล่นงาน คนที่ทำกรรมนั้นแน่นอน คิดแค่นี้แหล่ะ และก็อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจใครให้มากเกินไป ก็คงคิดได้แค่นั้น

#4 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2008 - 02:01 AM

ขอเป็นกำลังใจให้กัลญาณมิตรทุกท่าน
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#5 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2008 - 09:18 AM

คนฉลาด มีปัญญา ก็ย่อมใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรอง
คนโง่ คนเขลา ไม่มีปัญญา แม้แต่จะพิจารณา ป่วยการเปล่า ที่จะต้องตามไปประคบประหงม

บุญในตัวเราเท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่ง เป็นผู้นำเรา ให้ไปในทางแห่งความเจริญ
ใครสั่งสมมามาก สั่งสมมาดีแล้ว ย่อมเดินไปอย่างถูกต้องร่องรอย
ใครสั่งสมมาน้อย ก็ต้องกระพร่องกระแพร่ง ขึ้นๆ ลงๆ เห็นสักแต่ว่าเห็น แต่ไม่พิจารณา รู้ สักแต่ว่ารู้ ไม่ไตร่ตรอง
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#6 Jeabka

Jeabka
  • Members
  • 248 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2008 - 09:19 AM

น่าหนักใจอยู่เหมือนกันน่ะคะเรื่องเนี่ยะ สถานที่ดีๆ จะแย่เพราะคนพวกนี้
ยิ่งไปเจอแบบไม่ฟังเหตุผล เหอๆ

#7 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 April 2008 - 12:01 PM

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านถึงอยากให้ทุกคนเป็นกัลยาณมิตรกันทุกคนไงครับ

เพื่อนผู้แนะประโยชน์ นอกจากร่วมทุกข์ร่วมสุขแล้ว ยังต้องแนะประโยชน์ได้ด้วย

ในที่นี้หมายถึงว่าต้องเป็นกัลยาณมิตรของทั้งสองฝ่ายเลยนะครับ ผู้มาปฏิบัติธรรมเราก็ดูแลให้การปฏิบัติธรรมเขาดำเนินไปราบรื่น สะดวกสบาย แต่อย่าไปใกล้จนท่านอึดอัด
ส่วนผู้มารบกวนการปฏิบัติธรรมเราก็ดูแลชี้แจง ให้การกระทำเหมาะสม อญุ่ในกรอบ อยู่ในบรรยากาศของสถานปฏิบัติ อย่าปล่อยปละละเลย ถือว่าไม่เป็นไร คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงของกัลยาณมิตรทุกท่านหรอกครับ (เป็นใครกันบ้างคงจะทราบ คนเดิมๆหน้าคุ้นๆทั้งนั้น)

อนุโมทนาบุญด้วยครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#8 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2008 - 06:53 PM

ทำไมคนในวัด ทำอาชีพขายตรงกันเยอะมากๆ

ไม่ได้แอนตี้ขายตรงนะ แต่ขอร้องว่า พวคุณอย่ามาหาสมาชิกในวัดได้ไม๊

Please!!!!!!!!

#9 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2008 - 09:39 AM

" เขื่อน " สามารถป้องกันน้ำเซาะตลิ่งพังได้ฉันใด(ยกเว้นพายุใหญ่)

(กระแสน้ำ(กรรมใหม่) อาจกระทบกระทั่ง ตลิ่งดิน(กรรมเก่า) จนพัง , เขื่อนป้องกันได้บ้าง)

" ระบบการจัดการที่ดี " ก็สามารถป้องกันการกระทบกระทั่งระหว่างบาปกรรมเก่าและใหม่ได้ฉันนั้น(ยกเว้นบาปหนัก)

เพื่อคุมกำเนิดบาปกรรมใหม่ของแต่ละคน ก็จงหลีกเลี่ยงการชดใช้บาปกรรมเก่าของทุกฝ่าย

ด้วยการสะสมบุญให้มากๆจนกระทั้งบาปเก่าวิ่งตามไม่ทันทุกๆชาติจนถึงชาติสุดท้ายบรรลุนิพพาน

บาปเก่าทั้งหมดก็จะกลายเป็นอโหสิกรรมไปเหมือนพระองคุลีมาล

เมื่อเวลาที่พระองคุลีมาลบิณฑบาตรถูกชาวบ้านปาก้อนหินจนเกือบมรณภาพ

ก็ได้พระพุทธเจ้าประคบประหงมจนภายหลังบรรลุอรหัตตผล

"ลำพังองค์พระเองก็สุขพอ ไยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม"

อย่างไรก็ต้องพาเข้านิพพานทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่คนเดียว

โชติปาละบุญมากขนาดนิยตโพธิสัตว์ ยังต้องอาศัยฆฏิกาละพาเข้าวัด

เข้มแข็งต่อตนเองดี แต่อย่าลืมเมตตากรุณาต่อส่วนรวม อย่าไม่พอใจอาชีพสุจริต

เวลาใครทำกรรมไม่ดีต่อเรา เราควรอโหสิ เพื่อวิบากเขาจะได้น้อยลง

ไม่ใช่ไปพยายามเสียใจให้มากๆ เพื่อเขาจะได้รับวิบากกรรมหนักๆในชาติต่อๆไป

ถ้าทุกคนอโหสิได้หมด ชาติต่อๆไปมารก็จะมีงานทำน้อยลงๆเรื่อยๆสุดท้ายก็ตกงาน

เพราะทำชั่วไม่ใช่ฝีมือคน แต่เป็นฝีมือมารที่บังคับกายวาจาใจคนให้ทำบาป

สรรพสัตว์ล้วนเป็นเพื่อนนักโทษเกิดแก่เจ็บตายในสังสารวัฏที่มารจับขัง

ทุกคนในนี้มีพื้นใจเป็นคนดีมากๆเป็นกัลยาณมิตรให้ชาวโลก

ข้างในลึกๆของคำว่ากัลยาณมิตรประกอบด้วยบุญกิริยาวัตถุสิบและบารมีสิบ

ก่อนวางอุเบกขาขอให้พยายามให้เต็มที่ก่อน ใจเย็นๆกันนะครับ สาธุ

#10 เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี

เด็กอนุบาลหน้าใสใจดี
  • Members
  • 938 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 April 2008 - 09:51 PM

ช่วยคิดด้วยคน..

เราว่านะ..
ทางวัดน่าจะประกาศนโยบายที่เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้
ออกมาให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรเลย
เหมือนอย่างที่หลวงพ่อเคยออกหนังสือประกาศ
เกี่ยวกับการห้ามเดินเรี่ยไรเงินทำบุญ

การออกประกาศจุดยืน และนโยบายเช่นนี้
ก็คล้ายกับตั้งรับไปด้วย เปิดเกมส์รุกต่อคนที่ทำสิ่งไม่เหมาะสมไปด้วยในตัว
เพื่อเป็นการชี้แจงให้สาธุชนที่มาใหม่ทราบ
ว่าถ้าพบเจออะไรทำนองนี้.. ก็ขอให้รู้ไว้ด้วยว่าไม่ได้มาจากทางวัด
และหากคนที่เจอเหตุการณ์อะไรทำนองนี้
สามารถพาไปพบตัวบุคคลที่กระทำได้ ก็อาจจะมีรางวัลตอบแทน
เช่น พระของขวัญ หรือ พาไปปฏิบัติธรรมฟรี เป็นต้น

ส่วนคนที่ทำ เราก็พามาบำบัด
ให้เลือก 2 อย่างคือ
1 พาไปหาตำรวจและดำเนินคดี
2 เข้าโปรแกรมบำบัดด้วยธรรมมะโดยทางวัดจัดให้ และเมื่อจบโปรแกรมต้องมีการประเมินผลด้วย
(โดยวัตถุประสงค์ของโปรแกรมนี้ คือ เพื่อให้รู้กฎแห่งกรรม ในระดับที่เกิดความละอายและเกรงกลัวต่อบาป)

(เราแค่ช่วยคิดหาทางรับมือนะ.. หากทำจริงๆก็อาจใช้แนวทางอื่นก็ได้จ้า)
ชีวิตคือการเข้ากลาง..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..