ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เหตุเกิดตอนตีสาม...ที่ลาส เวกัส


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 SuperMom

SuperMom
  • Members
  • 22 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2008 - 11:05 PM



แนบไฟล์  LasVegasSign.jpg   63.71K   143 ดาวน์โหลด


เมื่อช่วงปิดเทอมใหญ่เดือนเมษายนที่ผ่านมา เดือนนี้มีวันหยุดเยอะ ฉันอยากไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่แอลเอ ซึ่งไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว ประกอบกับเพราะซื้อตั๋วได้ถูก ฉันจึงตัดสินใจไปแบบปุบปับ กระโดดขึ้นเครื่องบินไปกับลูกๆ ทั้งสองพร้อมกับหลานอีกหนึ่งคนรวมสี่ชีวิต ปร๋อไปอยู่แอลเอเรียบร้อย ใจจริงอยากจะไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันมานาน ไม่ได้เจาะจงอยากจะไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า เพื่อนก็ดีใจหายที่เราไปเยี่ยม เตรียมจัดทริปพาพวกเราทั้งสี่ไปนอนเล่น 3 คืนที่ลาสเวกัสในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ไปถึงทันที

ฉันเองเมื่อรู้ว่าเพื่อนจะพาไปลาสเวกัสและจัดเตรียมที่พักไว้ให้ถึง 3 คืน ฉันถึงกับอึ้ง เพราะไม่รู้จะไปอยู่ทำอะไรที่นั่นนานขนาดนั้น อีกทั้งฉันและลูกก็เคยไปมาแล้ว แต่ขัดเพื่อนไม่ได้ เพราะเพื่อนอุตส่าห์จัดเตรียมทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี ..เตรียมลางาน ..เตรียมโรงแรม ..เตรียมขนอาหารทั้งสดทั้งแห้ง ขนมนมเนยใส่ลังขนาดยักษ์ชนิดที่ราวกับว่าจะไปอยู่ได้เป็นเดือน เพราะคนที่นั่น เขาถือว่าลาสเวกัสเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่สุดยอดของเขา ที่พักก็ถูก อาหารก็อร่อย แหล่งช้อปปิ้งครบครัน มีโชว์อลังการงานสร้าง เพียงแค่เดินดูความอลังการของแต่ละโรงแรมก็ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เพื่อนฉันคงอยากจะต้อนรับเพื่อนเก่าจากเมืองไทยให้สมศักดิ์ศรีซักหน่อย เห็นเพื่อนตั้งใจต้อนรับขนาดนี้ ฉันเองถึงกับพูดไม่ออก เพราะใจจริงไม่อยากไปในสถานที่อย่างนั้นเลย แต่ก็ต้องขอบคุณในความหวังดีของเพื่อน เอ๊า..ไปก็ไป

เมืองลาสเวกัส ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับ เป็นเมืองแห่งการพนันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายในรัฐเนวาด้า แต่ก็มีผู้คนหลั่งไหลไปยังเมืองนี้จากทุกมุมโลก ดังนั้น ผู้คนที่ไปจึงมีทั้งไปเพื่อเล่นการพนันและไปเพื่อไปดูเขาเล่นการพนัน ไปดูความยิ่งใหญ่อลังการของโรงแรมและบ่อนต่างๆ ที่แข่งกันสร้างให้ยิ่งใหญ่งดงามตระการตา เพื่อดึงดูดผู้คนให้มาเล่นการพนันที่โรงแรมของเขา

จากแอลเอไปเวกัส ใช้เวลาขับรถประมาณ สี่ชั่วโมง ถนนในอเมริกาดีมาก ขับสบายปลอดภัย เมื่อเริ่มเข้าสู่เขตทะเลทราย เราก็รู้ว่าเริ่มเข้าเขตเนวาด้าแล้ว หลานสาวที่ไม่เคยไป บอกว่า เหมือนในหนังคาวบอยเลย ที่มีพุ่มหญ้าเป็นก้อนกลมๆ แห้งๆ กระจายอยู่สุดลูกหูลูกตา ภูเขามีแต่เขาหิน ดูแห้งแล้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่า ในดินแดนที่อยู่กลางทะเลทรายอย่างนี้ จะมีใครมาเปิดบ่อนการพนันจนสามารถสร้างเป็นเมืองแห่งการพนันที่ยิ่งใหญ่ของโลกได้ และดึงดูดผู้คนมาจากทุกมุมโลก รวมทั้งพวกเราด้วย ที่กำลังมุ่งหน้าไปที่นี่

หากจะถามว่า เขาเอาเงินมาจากที่ไหน มาสร้างโรงแรมสุดหรู ..มาจ้างโชว์สุดยอดไว้ให้ความบันเทิงกับลูกค้า ..มาแข่งกันตกแต่งออกแบบว่าของใครจะมีไอเดียที่แปลกแหวกแนว ดึงดูดลูกค้าได้มากกว่ากัน ก็คงตอบได้ว่า ก็เอามาจากเงินของนักพนันนั่นเอง คราวนี้ถ้าจะถามต่อว่า นักพนันที่มาเล่นนั้น เล่นได้ หรือ เล่นเสีย? ก็คงตอบได้ทันทีว่าต้องมีคนเสียมากกว่าได้อย่างแน่นอน มิฉะนั้นเขาจะไปเอาเงินมาจากไหนมาแข่งกันสร้าง? จริงมั้ยคะ..

ที่พักซึ่งเพื่อนจองให้นั้นเป็นแบบอพาร์ตเม้นท์อย่างเริ่ด มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ตอบสนองต่อครอบครัวแบบอเมริกัน มีโทรทัศน์จอมหึมาทุกห้อง มีห้องรับประทานอาหาร ครัว เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้เย็นขนาดยักษ์ เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า วิทยุเครื่องเสียง MP3.. มีทู้กกอย่าง ไปจนถึงอ่างอาบน้ำจากุซซี่! ทันทีที่ไปถึง เพื่อนก็ไม่ยอมให้เสียเวลา เริ่มพาพวกเราออกเดินดูความอลังการของแต่ละโรงแรม เธอคล่องมาก แม้เธอจะไม่ใช่นักเล่นพนัน แต่การมาลาสเวกัส ถือว่าเป็น Holidays ของเธออย่างแท้จริง

ฉันได้แต่สงสัยว่า เรามีเวลาตั้งสามคืนสี่วัน แล้วเราจะทำอะไรกันบ้าง แต่ปรากฏว่าฉันคาดผิด เมืองนี้มีสิ่งที่เป็นศูนย์รวมของความบันเทิงทุกอย่างจริงๆ ขนาดร้านรวงธรรมดา เขาก็ยังมีการประกวดประชันการออกแบบตกแต่งให้โดนใจลูกค้าไปกับเขาด้วย ลูกๆ สนุกกับการช้อปปิ้งมาก เราเดินดูความสวยงามของแต่ละโรงแรม เข้าโรงแรมโน้นออกโรงแรมนี้กันอย่างเพลิดเพลิน น่าเสียดายที่เป็นการแข่งกันเชิญชวนให้ผู้คนมาเล่นการพนัน

แนบไฟล์  paris_las_vegas_14.4_1_.jpg   246.54K   205 ดาวน์โหลด


เราต้อง กะเวลาให้ดีๆ จะได้ดูโชว์ของแต่ละโรงแรมได้ทัน มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริงๆ ขนาดฉันเคยไปมาแล้ว มาครั้งนี้โชว์ต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอีก กว่าจะกลับถึงที่พักก็เกือบเที่ยงคืนทุกวัน แต่แม้จะหมดแรงแค่ไหน ก็พยายามจะนั่งสมาธิให้ได้ก่อนล้มตัวลงนอน หรือจะเรียกว่าเลื้อยตัวลงนอนก็คงจะได้

ผ่านไปจนถึงคืนที่สามอย่างรวดเร็ว เจ้าความเพลินทางโลกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ฉันต้องสารภาพว่าไม่ได้รักษาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายเลย...แต่คืนนี้ เราอยู่กันดึกมาก โรงแรมสุดท้ายที่เราไปดูเป็นโรงแรมที่เปิดใหม่ล่าสุดเมื่อตอนต้นปีนี้เอง ที่สะดุดใจคือไนท์คลับหรือผับของโรงแรมที่ใช้ชื่อว่า เต๋า (Tao) ได้มีการตกแต่งด้วยพระพุทธรูปองค์มหึมา ที่จริงฉันเคยอ่านเจอข่าวที่มีการออกมาท้วงติงว่าเป็นการไม่สมควร แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นกับตาตัวเอง

ที่หน้าผับมีหญิงชายยืนเข้าคิวออกันแน่น ผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวนอย่างสุดฤทธิ์ ทุกคนส่วนใหญ่มีแก้วเหล้าและบุหรี่อยู่ในมือ ยืนรอเข้าผับแห่งนี้ ซึ่งต้องเข้าคิวถึงสามชั่วโมง กว่าจะได้เข้าไป ฉันมองเข้าไปข้างในเห็นพระพุทธรูปางไสยาสอยู่หลังบาร์ ส่วนพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่เกือบจรดเพดานสไตล์คล้ายพระพุทธรูปทางภาคเหนือของเราประดับอยู่ข้างฝา

แนบไฟล์  vegas.600_1_.jpg   150.05K   81 ดาวน์โหลด


ฉันสลดใจอย่างบอกไม่ถูก มองดูผู้คนเหล่านั้น เหมือนกับพวกเขากำลังรอคิวลงนรก..คืนนั้นฉันกลับโรงแรมด้วยใจที่แห้งกว่าทุกคืน เกือบตีสองแล้วแต่รถราบนถนนยังแน่นขนัด บอกแล้วไงว่าเวกัสเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล

กว่าเราจะอาบน้ำเข้านอนกันก็ตีสอง คืนนี้ฉันไม่ง่วงเลย อยากนั่งสมาธิเป็นที่สุด เพราะตลอดวันนั้น ใจฉันเสพแต่ภาพความบันเทิงทางโลก ยิ่งต้องมาเห็นภาพสลดใจที่เขาทำต่อพระพุทธรูป ยิ่งมีความรู้สึกว่าอยากจะชำระล้างใจให้สะอาดเสียเร็วๆ ดังนั้นพอทุกคนเข้านอนปิดไฟหมด ฉันจึงออกมานั่งสมาธิที่โต๊ะอาหาร ใช้เวลารวมใจนานพอควร แต่พอรวมใจได้ ฉันก็เป็นสุขสว่างอยู่ในกลางเป็นนาน อย่างนี้สิ จึงจะเรียกว่าสุขอย่างแท้จริง

ฉันนั่งอยู่นานเท่าไรไม่ทราบ รู้แต่ว่าใจสะอาด สว่างขึ้นมาก แล้วก็นึกขึ้นมาแว้บนึงว่า ณ เวลานี้ ตีสาม ที่เมืองลาสเวกัสจะมีใครทำสมาธิอยู่บ้างมั้ยนะ? ดูเหมือนว่าจะมีคำตอบขึ้นมาเองทันทีว่า “ไม่มีเลย..” แล้วก็นึกต่อไปว่า จะมีสักกี่คนที่ต้องมาจบชีวิตลงที่นี่ ด้วยหัวใจที่ร้าวรานและเศร้าหมองเพราะหมดเนื้อหมดตัวจากการเสียพนัน ใครที่กรรมหนักก็คง..ไปเลย แต่ก็คงมีวิญญาณที่เร่ร่อนตกค้างอยู่ที่เมืองนี้อีกเยอะ ฉันจึงนึกขยายองค์พระสว่างไสวคลุมเมืองลาสเวกัสเอาไว้ เมืองที่ได้ฉายาว่า Sin City (เมืองบาป) และนึกให้สัมภเวสีที่เร่ร่อนเหล่านั้นมาอนุโมทนาบุญ ว่าแต่ว่า..พวกเขาจะโมทนาบุญเป็นมั้ยน้อ

กำลังนึกสงสัยว่าเขาจะรับบุญเป็นมั้ย ฉันก็ลืมตาขึ้นมา มองไปเห็นเงาโซฟารับแขกที่ว่างเปล่าในความมืด ก็รีบละล่ำละลักบอกในใจว่าไม่ต้องมาให้เห็นก็ได้นะ เพราะในใจก็แอบหวั่นเหมือนกัน ว่าถ้ามาให้เห็นจริงๆ จะทำยังไงนะเรา.. อย่างน้อยก็ใจชื้นที่มองไม่เห็นอะไร! แต่เอ..ก็อยากรู้เหมือนกันนะ ว่าวิญญาณเหล่านั้นจะรับบุญได้จริงมั้ย เพราะถึงแม้ฉันจะไม่เห็นแต่ก็มั่นใจว่า อย่างน้อยก็ต้องมีพวกเขา ซึ่งอยู่ในอีกมิติหนึ่งที่ฉันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา

เวลานั้น ฉันรู้สึกเบิกบานกับสมาธิ ธรรมะสว่างไสว จึงนึกแผ่อุทิศส่วนบุญเจาะจงให้จิตวิญญาณที่นี่ และบอกพวกเขาว่า ถ้ารับบุญได้ ไม่ต้องมาให้เห็นหรอกนะ แต่สื่อให้รู้สักนิดก็ดี (อยากรู้จริงๆ น่ะ)

ทันทีที่คิดอย่างนั้น..พลันก็มีเสียงดังออกมาจากเครื่องเสียงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างผนังห้อง เป็นเสียงดังเหมือนคลื่นโทรศัพท์มือถือที่แทรกเข้าไปในไมโครโฟน เป็นเสียงดังแอ่ด..แอ่ด..แอ่ด พร้อมกับที่ปุ่ม Power มีไฟแดง วาบขึ้นมา 3 ครั้ง ในความมืด

มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่เครื่องเสียงจะมีอารมณ์มาดังเองตอนตีสาม และดังทันทีหลังจากที่ฉันนึกอยากรับรู้ถึงการมาของพวกเขาโดยช่องทางใดช่องทางหนึ่ง พวกเขาคงพยายามสื่อให้ฉันรู้จริงๆ ว่าพวกเขารับบุญได้

น่าแปลกที่ฉันไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ใจยังหยุดนิ่งสว่างไสว บอกกับพวกเขาว่า เอาละจ้ะ รู้แล้ว..รู้แล้ว ว่ารับบุญได้ ฉันนึกสงสารเหล่าวิญญาณที่นี่เสียจริง เพราะคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ที่จะมีชาวพุทธสักคนมานั่งสมาธิที่ลาสเวกัสและอุทิศส่วนบุญให้สรรพวิญญาณเหล่านั้น

ฉันนั่งหลับตานิ่งอีกพักใหญ่ จึงออกจากสมาธิและลุกไปเข้านอนอย่างเป็นสุข

เรื่องนี้.. พอจะมีใครบอกฉันได้บ้างว่า ถ้าไม่ใช่เสียงตอบรับจากวิญญาณ แล้วจะเป็นเสียงอะไร?





 

ข้าวรวงงาม ย่อมโน้มต่ำ


#2 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 02:32 AM

ช่างน่าสงสารเขาเหล่านั้นจริงจริง
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 08 June 2008 - 08:56 PM

ขอชมว่า SuperMom เล่าเรื่องได้น่าติดตาม รู้สึกเป็นกันเองดีครับ

ส่วนเรื่องนครแห่งการพนันและสถานบันเทิงเริงโลกียารมณ์
บัณฑิต นักปราชญ์และมนุษย์ที่มีสามัญสำนึกดี ก็มองเห็นโทษมากกว่าคุณประโยชน์ อยู่แล้ว

เพียงแต่ในโลกนี้ มองเห็นโทษไม่ชัดเจน เพราะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจและความบันเทิง กลบเกลื่อนอยู่
แต่ในปรโลก จะเห็นโทษเพียงอย่างเดียว
หากศึกษา vdc เรื่อง มหานรกขุม ๖ ที่เกิดจากการเล่นการพนัน***
ของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาจะเข้าใจมากขึ้น

สำหรับการนำพระพุทธปฏิมากร มาเป็นเครื่องตกแต่งสถานที่
ก็น่าสลดใจครับ

ส่วนเรื่องมองเห็นเงา? ที่โซฟากับเสียงในยามวิกาล
ผมมองเป็นเรื่องธรรมดา แม้จะเป็นอมนุษย์ที่พยายามสื่อสารกลับมา ก็ตามครับ

ขออนุโมทนา ในการนั่งธรรมะสงบ สว่างไสว ด้วยครับ สาธุ

***
มหานรกขุมที่ ๖ ตาปนมหานรก
หมายถึง "มหานรกที่ยังให้เหล่าสัตว์เร่าร้อน;
"ตาปนะ" มีความหมายคล้ายกับคำว่า "ตาปสะ" แปลว่า ปิ้งหรือย่าง"

เกณฑ์เฉลี่ยอายุของสัตว์นรกในมหานรกขุมนี้ มีประมาณ ๑๖,ooo ปีนรก
โดยระยะเวลาเพียง ๑ วันที่การทำฑัณฑ์ทรมานได้ผ่านพ้นไป
สามารถนับระยะเวลาในเมืองมนุษย์ได้ถึง ๙,๒๑๖,ooo,ooo ปี
(หรือหากนับแบบโบราณ จะนับได้ ๙๒๑ โกฏิ กับอีก ๖ ล้านปีมนุษย์)
และหากนับระยะเวลาทั้งหมดในมหานรกขุมนี้
จึงเท่ากับ ๕๓,o๘๔,๑๖o,ooo ล้านปีมนุษย์

มหานรก ๘ ขุม
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=3358


#4 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 01:17 AM

เห็นรูปที่นำพระพุทธรูปมาไว้ในสถานที่อโคจร เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง mad.gif คนที่ทำช่างไม่รู้อะไรเลย น่าสงสารจริงๆนะคะ .........เฮ้อ........บาปกรรม dry.gif

#5 @ti

@ti
  • Members
  • 97 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 09:34 AM

สาธุจ้า
หยุดไม่ได้เพราะความอยาก
อยากได้ อยากมี อยากเป็น แม้กระทั่งอยากเห็นธรรมะมากเกินไป ก็จัดอยู่ในความอยากที่ทำให้ใจหยาบ

#6 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 10:01 AM

แล้วคุณจะให้เขาทำยังไงล่ะครับ

แถวถนนสีลมหรือถนนสุรวงศ์ บางรัก อะไรแถวนั้น คุณๆเคยเดินผ่านไหมครับ ไอ้ร้านใหญ่ๆที่ขายของที่ระลึกสำหรับชาวต่างชาตินะ มีพระพุทธรูปแกะสลักบ้าง หล่อโลหะบ้าง ยืนพนมมือต้อนรับอยู่หน้าประตู หรือถาดใส่กุญแจก็ทำเป็นรูปพระพุทธรูปปางไสยยาศน์(เขียนไงหว่า)นอนเป็นฉากประดับอยู่ข้างหลัง เก้าอี้ที่สลักเป็นรูปปางสมาธิ เวลานั่งก็เหมือนเราไปนั่งอยู่บนตักพระท่าน!!!!

ผมเคยไปเห็นที่ร้านขายเครื่องประดับที่ต่างประเทศ เขาใช้พระพุทธรูปยืนเป็นที่แขวนโชว์เครื่องประดับ เจาะหูเจาะจมูก ใส่กันเต็มที่ เคยเห็นต่างหูที่ทำจากพระเครื่ององค์เล็กๆไหมครับ พอเข้าไปสอบถาม เขาก็บอกว่าซื้อมาจากร้านขายของที่ระลึกที่เมืองไทย ในเมื่อขายเป็นของที่ระลึกทำไมเขาจะเอามาทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างที่ผมว่า ทำไมไม่มีจำหน่ายเฉพาะที่วัดล่ะเขาจะได้รับรู้ว่าเป็นของสำหรับศาสนา นี่เห็นวางขายทั่วไป เพราะฉะนั้นไม่ผิดและไม่ยกออกไปด้วย อยากให้ยกออกไปก็แจ้งความซิ

แล้วรู้ไหมครับว่าสถานฑูตไทยฯ(น่าสงสารที่สุด)เขาทำได้แค่ไหน ได้แค่ให้ยกไปหลบในที่ลับตาเท่านั้น เพราะอัยการประเทศนั้นเขาก็มองเห็นว่าเป็นของที่ระลึกเหมือนกัน เนื่องจากหลักฐานภาพถ่ายที่ทางทนายของเจ้าของร้านมาถ่ายไปจากร้านขายของที่ระลึกจากทุกภาค ขอย้ำ จากทุกภาคของเมืองไทย

ผมว่าก่อนที่จะไปโวยวายว่าใครเขานั้น หันมามองเรากันก่อนดีไหมครับ ถึงเวลาหรือยังที่เราจะต้อง "แข็ง" กันบ้างแล้ว หรือ จะยังคิดว่า "ช่างมัน เดี๋ยวกรรมก็สนองมันเอง"

ผมไม่ได้จะมาปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกในสังคมแต่อย่างใด แต่เคยแจ้งความกับร้านเหล่านั้นแล้ว ตำรวจทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่ของเก่า เป็นของที่ทำขึ้นใหม่ ไม่ผิดกฏหมาย ส่วนที่ว่าคนซื้อ ซื้อไปแล้วเอาไปทำอะไร ค่อยมาว่ากันอีกที แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ

ช่วยกันคิดหน่อยนะครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ



สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#7 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 11:23 AM

ควรมีกฏหมายดังนี้
(๑) ห้ามขายพระเครื่องริมทางเท้าแบกะดินข้างถนน
(๒) รูปเหมือน(ทั้งเก่าใหม่)ของพระพุทธรูป,พระสาวก,พระภิกษุสงฆ์,ฯลฯให้เช่าได้ที่วัดหรือศูนย์พระเครื่องเท่านั้น
(๓) มีกฏหมายควบคุมดูแลศูนย์เช่าพระเครื่อง ต้องปฏิบัติต่อพระพุทธรูปด้วยความเคารพนับถือ

#8 SuperMom

SuperMom
  • Members
  • 22 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 June 2008 - 02:16 PM

ขอบคุณที่สนใจอ่านค่ะ และขอบคุณทุกท่านที่โพสต์เข้ามา

ขอบคุณ คุณ Dd2683 ที่ comment มาให้กำลังใจ ได้ติดตาม comment ของคุณ Dd2683 ในหัวข้อโพสต์ของสมาชิกท่านอื่นๆ ก็ต้องขอชมว่าได้สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมดีจังค่ะ

..รวมทั้งคุณทัพพีในหม้อ เห็นด้วยค่ะที่เราชาวพุทธต้องลุกขึ้นมาทำอะไรกันบ้าง ดิฉันมั่นใจว่าชาวพุทธไม่ได้ดูดาย แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน ไม่รู้ว่ามีกฎระเบียบอย่างไร? จำได้เมื่อคราวที่คุณครูไม่ใหญ่ให้พวกเราระดมส่งemailไปยังบริษัทผลิตเกมส์ที่ใช้พระพุทธรูปในภาพเกมส์ ดิฉันก็ร่วมส่งด้วยและเขาก็ตอบขอโทษมา ในที่สุดก็นำพระพุทธรูปออกจากเกมส์ กับอีกครั้งถ้าจำไม่ผิดดูเหมือนจะเป็นรองเท้าหรือไงนี่ค่ะ

และที่คุณDJ96.25PM2-3 เสนอมา น่าสนใจมาก เพราะเอาแค่ภายในประเทศเราก่อน ควบคุมให้ได้ มิฉะนั้นก็ต้องอย่างที่ต่างชาติเขาแย้งมาได้ ว่าเขา แต่เราทำเอง..

แต่ทั้งนี้ต้องขอซูฮกและอนุโมทนากับคุณทัพพีในหม้อที่ยอมสละเวลาไปแจ้งความกับร้านเหล่านั้น สุดยอดจริงๆ

ดิฉันว่า องค์กรพุทธศาสนาที่แข็งแกร่งในประเทศไทยเราอีกหลายๆ องค์กรรวมทั้งต่างประเทศ น่าจะจับมือกัน สื่อออกไปให้เขารับรู้ว่าเราชาวพุทธไม่พอใจ ถึงแม้กฎหมายไม่คุ้มครอง แต่ถ้าเจ้าตัวต้นเหตุได้รับการร้องเรียนจากสาระพัดช่องทางทั้งจดหมาย หรือโทรศัพท์ หรือemail เป็นหมื่นๆฉบับ อย่างน้อยก็ต้องกระเทือนกันบ้าง เป็นการสะกิดชาวโลกให้รับทราบความรู้สึกของพวกเราชาวพุทธ

แล้วเราจะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะคะ.. ฤๅจะต้องเริ่มที่ DMC?


 

ข้าวรวงงาม ย่อมโน้มต่ำ