ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ฆ่าด้วยจิตเมตตา


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 upanya

upanya
  • Members
  • 22 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 02:31 PM

อยากทราบครับว่าสมมุติว่าเราฆ่าสัตว์เพราะหวังให้มันพ้นจากความทรมานที่มันเป็นอยู่

ถือว่าเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลเพราะมีเจตนาให้มันพ้นทุกข์

หากเจตนาเป็นตัวกรรม กรรมนี้เป็นกรรมดีหรือไม่ดีครับ

ขอความรู้จากผู้รู้ด้วยครับ พิจารณาได้อย่างไร

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 02:51 PM

ขึ้นชื่อว่าการฆ่า มันหมายถึงการพรากชีวิตเลยนะครับ ไม่ว่าจะมีเจตนาอย่างไร เป็นอกุศลมีวิบากกรรมทั้งนั้นครับ

ผมขอถามคุณเจ้าของกระทู้สักนิด แม้คุณเจ้าของกระทู้จะมีเจตนาดี แต่คุณเจ้าของกระทู้รู้หรือครับว่ามันอยากตายหรือไม่อยากตายจริงไหมครับ ดังนั้นหากมันจะตายก็ปล่อยให้เป็นไปตามวิบากกรรมของมันเถอะครับ อย่าไปคิดแทนมันเลย ถ้าจะคิด คิดเสียว่าจะทำยังไงเมื่อมันหมดลมแล้วมันจะได้ไปสุขคติไม่ไปอบายหรือทุกข์คติดีกว่าครับ ดีกว่าไปคิดว่าจะฆ่ามันเพื่อให้มันพ้นทุกข์เสียอีก

หากเป็นเรื่องของชีวิต ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดแทนกันหรอกนะครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 upanya

upanya
  • Members
  • 22 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 03:21 PM

ครับผม ผมสงสัยว่าหากเจตนาคือตัวกรรม แล้วมีเจตนาดีในการฆ่าอย่างในกรณีนี้

มันเป็นกรรมฝ่ายใหนกันแน่ครับ

แล้วมันมีจริงๆหรือฆ่าด้วยจิตเมตตา

หรือผิดศีล ด้วยกุศลเจตนาอะไรทำนองนี้อะครับ





#4 usr20663

usr20663
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 04:14 PM

องค์ประกอบของการผิดศีลข้อ๑ มีดังนี้

๑ สัตว์มีชีวิต
๒ รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
๓ มีจิตคิดจะฆ่า
๔ พยายามฆ่า
๕ สัตว์นั้นตายลงเพราะความพยายามฆ่า

ลองพิจารณาดูครับ





#5 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 05:37 PM

ด้วยอานิสงส์นี้ ก็อาจมีคนฆ่าคุณด้วยจิตเมตตาเหมือนกันน่ะครับ happy.gif

#6 Bruce Wayne

Bruce Wayne
  • Members
  • 184 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 06:39 PM

เราจะไปเข้าใจจิตใจสัตว์ได้อย่างไร ว่ามันต้องการจะตายเพื่อให้พ้นไปจากความทรมานที่เป็นอยู่ สัตว์โลกแม้จะเจ็บปวดทุกข์
ทรมานมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังรักชีวิตของตัวเองเช่นกัน และเราก็ยังไม่เคยเห็นสัตว์เดียรัจฉาน ชนิดใดฆ่าตัวตายเพื่อให้พ้นไปจากความทรมานเลย ยกเว้นแต่มนุษย์บางคนเท่านั้นที่ทำแบบนี้

#7 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 06:54 PM

QUOTE
สมมุติว่าเราฆ่าสัตว์เพราะหวังให้มันพ้นจากความทรมาน
- เพียงสมมุติก็พลาดแล้วล่ะ
- เบียดเบียนเป็นอกุศล ตรงข้ามกับ เมตตากรุณานั้นเป็นกุศล
- ปาณาติปาตเมื่อใดผิดศีลเมื่อนั้น...เพราะเบียนให้เขาตาย ความคิดที่ว่าใจกรุณานั้น ไม่ได้เป็นวิถีทางช่วยให้สัตว์นั้นให้พ้นทุกข์...เป็นความคิดที่ปรุงแต่งด้วยความไม่รู้...เพราะเรานั้น...มิใช่เจ้ากรรมนายเวรของใคร...เราต่างมีกรรมเป็นของตน...เป็นทายาทแห่งกรรม...อันตรายหากคิดแบบนั้น
- วิถีทางของฝ่ายกุศล...คือ...การให้ชีวิต...คลายจากความทุกข์ทรมาน...ผ่อนหนักเป็นเบา...เบาเป็นหาย
- ทุกสรรพชีวิตต้องการความอยู่รอด...หากทำแบบนี้...โปรดระวัง...ลูกหลง
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#8 MIHARU

MIHARU
  • Members
  • 620 โพสต์
  • Interests:พระพุทธศาสนา<br />วิทยาศาสตร์

โพสต์เมื่อ 04 August 2008 - 10:36 PM


QUOTE
ครับผม ผมสงสัยว่าหากเจตนาคือตัวกรรม แล้วมีเจตนาดีในการฆ่าอย่างในกรณีนี้


มีหลายเคสที่เด็กๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่จับสัตว์โยนน้ำ ไม่ได้เจตนา แต่ก็ยังมีวิบากกรรม ระวังหน่อยก็ดีนะคะ
Relax & Alert

#9 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 12:22 AM

ทุกขเวทนาที่เราเห็นในสัตว์นั้นๆอาจทำให้เราเกิดโมหะแล้วทำผิดศีลด้วยการลงมือฆ่าเพื่อให้สัตว์นั้นพ้นจากทุกขเวทนาที่เราเห็น แต่หารู้ไม่ว่า ศีลของเราได้ขาดลงแล้วเพราะเราไม่อาจตัดสินได้ว่าในเวลานั้นๆ สัตว์ที่เกิดทุกขเวทนานั้นหมดอายุขัยตามกรรมหรือยัง การที่เราไปเบียดเบียดทำให้ตัดทอนเวลาที่จะระลึกนึกถึงบุญของเขาได้ค่ะ

#10 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 08:23 AM


ฮ่วย ? แปลกอีหรีอีหลอกะด้อกะเดี้ยน้อ คำถามนี่ ฟันธง บาปคัก ๆ ชัก แง็ก ๆ

#11 upanya

upanya
  • Members
  • 22 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 09:01 AM

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

จริงๆก็ทราบอยู่ครับว่าบาปอยู่แล้ว

แต่อยากฟังดูว่าจะมีคำอธิบายอะไรดีๆจากทุกท่านที่มันชัดเจนมากๆบ้าง

ก้ได้มาส่วนหนึ่งครับขอบคุณมาก

อนุโมทนาบุญครับ

#12 หมอป๊อง

หมอป๊อง
  • Members
  • 761 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กทม.

โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 09:34 AM

unsure.gif เคยเจอปัญหาเหมือนกัน..เข้าใจเลย แต่การฆ่าสัตว์ ผิดศีลแน่นอนครับ...
...
ครั้งแรก ประมาณปี2529 ตอนฝึกงานอยู่โรงพยาบาลสัตว์เล็ก ม.เกษตรฯ
มีคุณป้าพาสุนัขเพศเมีย อายุราว13ปี(เทียบเท่าคนอายุประมาณ117ปี) ป่วยเป็นมะเร็งที่อวัยวะเพศแพร่ไปทั่วตัว ก้อนมะเร็งไปเบียดอวัยวะหลายอย่างทำให้ทรมาณมาก เช่น เบียดปอดทำให้หายใจลำบาก เบียดทางเดินอาหารทำให้อาเจียนและถ่ายลำบาก เป็นต้น
อาจารย์หมอตรวจอย่างละเอียดแล้ว ให้คำปรึกษากับคุณป้าว่า ถ้ารักษาก็อาจจะตายจากการวางยาสลบ ถ้าทนได้ การผ่าก้อนเนื้อออกทำให้เสียเลือดมาก ก็อาจตายได้ ยิ่งมะเร็งแพร่ไปทั่ว การผ่าตัดก็จะใช้เวลามาก เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น และโอกาสมะเร็งแพร่ไปจุดอื่นๆก็ยิ่งเพิ่มอันตราย อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลก็สูงมากด้วย คือเสียเงินมากและสุดท้ายสุนัขก็ตาย
แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย สุนัขก็ทรมาณมากเหลือเกิน และก็ตายในที่สุด
ก็ให้คุณป้าพิจารณาว่าจะให้คุณหมอทำอย่างไร คุณป้าก็ยอมรับ และขอให้เค้าไปอย่างเร็วและเจ็บปวดน้อยที่สุด แต่ขอเวลาทำใจ1/2ชั่วโมง แล้วก็ร้องไห้ คนทั้งโรงพยาบาลสัตว์ทุกคนก็เศร้าตามด้วย :'(

...
แม้ในปัจจุบัน ยังมีบางกรณีที่คล้ายกัน เช่น สุนัขถูกรถชน เป็นอัมพาตตลอดชีวิต เจ้าของสัตว์ต้องป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดอุจจาระ ปัสสาวะ คอยพลิกตัว และอื่นๆอีกมากมาย และต้องพาไปหาหมอ เพื่อตรวจร่างกายและป้องกันโรคอื่นแทรกซ้อน เลี้ยงดูเค้าจนกว่าจะหมดอายุขัย อาจเป็น10ปี ซึ่งต้องใช้แรงงานและเงินจำนวนมาก เจ้าของสัตว์ก็อาจจะขอให้คุณหมอฉีดยาให้เค้าหลับไป(ฉีดให้ตาย แปลจาก put to sleep) แม้ไม่อยากทำ แต่ก็แบกภาระไม่ไหวจริงๆ
แต่คุณหมอใช่ว่าจะอยากทำ หลายท่านจะไม่ฉีดยาให้เค้าหลับไป เพราะไม่อยากผิดศีล ทำให้เจ้าของสัตว์ต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์อื่นๆ ซึ่งคุณหมอก็ไม่อยากทำเพราะมีหน้าที่รักษาสัตว์ ไม่มีหน้าที่ฆ่าสัตว์ ...ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของสัตว์จะทำอย่างไรต่อไป.. red_smile.gif
....
dry.gif





#13 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2008 - 09:47 PM

กระทู้นี้เข้าใจถาม
แต่ดีนะจ๊ะ เปิดมุมมองใหม่ๆ ทำให้ต้องมาค้นคว้า ยิ่งทวีความมีปัญญา ของพี่น้องทุกท่าน
ให้บริหารสมอง หาเหตุผลมาคุยกัน
ส่วนตัวมองง่ายๆ อย่างนี้จ้ะ

สิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะมนุษย์ได้มีโอกาสเกิดมายากมาก...ห้ามฆ่า
แม้แต่ฆ่าตัวเอง เพราะตัดโอกาส การสร้างบารมี
แม้เดรัจฉาน เป็นหนึ่งในทุคติภูมิ เขาก็ยังรักชีวิตเขามาก กายละเอียดข้างในเป็นมนุษย์นะ

ความทรมาณของสิ่งมีชีวิตจิตใจทุกชนิด
...มาจาก อกุศลกรรมเก่า แม้เรามองว่าทรมาณอย่างนี้ ตายดีกว่า ไม่ใช่จ้ะ
เพราะ จิต ยังคงอยู่...
ยังต้องไปเกิดใหม่ แค่เปลี่ยนภพเท่านั้นเอง

ดังนั้น กรรม ยังตามส่งผลได้ต่อ แม้เราจะย้ายภพให้เขา

เมื่อไม่มีประโยชน์ที่จะช่วยเขาได้ ให้วางอุเบกขา..
ถ้าจะเมตตาช่วย ช่วยเขาให้สบายที่สุด เช่นรักษาไปตามอาการ
ไม่มีค่ารักษา ก็ให้ดูแลให้อยู่ปลอดภัย ให้ที่พำนัก ไม่ร้อนแดด โดนฝน มีอาหาร
เจ็บก็ให้ยาแก้ปวดไปตามที่ทำได้ (ไม่ใช่ฉีดยาให้ตาย ยืนยันจ้ะ)
การสั่งฆ่า ลงมือฆ่า หรือ อนุโมทนา เขาจะอาฆาตนะจ๊ะ ไม่ใช่ขอบคุณ
เห็นร้องๆอย่างนั้น่ะ คงร้องเพราะอยากมีชีวิตจ้ะ
เรื่องหมอวินิจฉัย ท่านก็ว่าตามที่เรียน
คงเช่นเดียวกับเรื่องหมอวินิจฉัยว่าเด็กพิการ ควรทำแท้ง ไงล่ะจ๊ะ
กฏแห่งกรรมต่างหาก คำตอบสุดท้าย...
ดังนั้น อย่าเอาตัวของท่าน ที่มีจิตเมตตา ไปข้องเกี่ยวกับกรรมเขาเลยนะจ๊ะ
ช่วยสงเคราะห์ให้ได้บุญ แบบถูกต้องดีกว่า...
สาธุ คนใจดี..
...


#14 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 06 August 2008 - 12:01 PM

อีกประเด็นหนึ่งที่อยากให้มองไว้นะครับ นี่คือ กับดัปที่น่ากลัวของกิเลสมารที่จะขัดขวางกั้นคุณความดีของมนุษย์เลยทีเดียว

เพราะเมื่่อเราทุกข์ทรมานด้วยวิบากกรรมเก่าเพียงแค่ครั้งเดียว หากมีใครคิดฆ่าเราให้พ้นจากทรมาน ทันทีที่ฆ่า เขาจะต้องรับเศษกรรมต้องถูกฆ่าบ้างอีก 500 ชาติ ทำครั้งเดียวแต่ต้องชดใช้ 500 ชาติ

และในอีก 500 ชาติ สมมุติเขาถูกฆ่าตายด้วยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ สัก 400 ชาติ และตายโดยถูกผู้อื่นฆ่าอีก 100 ชาติ นี่เท่ากันว่า คนอีกร้อยคนที่ฆ่าเขา ก็รับวิบากกรรมกันไปอีกคนละ 500 ชาติ โอยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัว

เริ่มจาก 1 ทำกรรม อีก 500 ชาติต้องชดใช้ และอีก 500 ที่ต้องชดใช้่ กรรมก็จะดึงดูด ให้ผู้พ่ายต่อกิเลสมารับกรรม(คือฆ่าเขาต่อ) อีก ในที่นี้สมมุติ 100 ชาติ ดังนั้น ผลกรรมชั่วก็จะทวีคูณไปเป็น 100x500 = 50000 ชาติ แล้วก็จะต้องมีผู้มาฆ่าเขาอีกสมมุติแค่ 100 ก็คูณไปอีก 50,000x100 = 5,000,000

ลองคิดดูว่า กรรมสนองไปเรื่อยๆ อย่างนี้ ก็หมดเผ่าพันธุ์มนุษยชาติทีเดียว นี่คือ ความน่ากลัวของวงจรวิบากกรรม หากไม่มีกรรมดีมาคอยแก้ไข ผมนึกภาพแล้ว เหมือนสารเคมีพิษยุดใหม่ เช่น ยาฆ่าหนู วางยาครั้งเดียวหนูตายยกรัง เพราะหนูตัวแรกกินยาก็จะตาย หนูตัวอื่นมากินซากหนูตัวแรกก็จะทยอยตายไล่ไปเรื่อยๆ จนตายยกรัง บรื๋อน่ากลัวจริงๆ


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร