ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ถือศีล 8 ฟังเพลงบรรเลงได้ไหม


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 รัก แล้ว ทุกข์

รัก แล้ว ทุกข์
  • Members
  • 270 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 09:51 PM

ตามหัวข้อเลยครับอยากถามท่านที่พอจะรู้หรือพระอาจารย์ที่ผ่านเข้ามาว่า
การที่ถือศีล8จะฟังเพลงบรรเลงเบาๆได้ไหมครับ
ผมว่าเพลงเหล่านี้ทำให้จิตสงบดี
แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะ ข้อที่ว่าห้ามดูการละเล่นขับร้องประโคมดนตรี
ประโคมดนตรีในที่นี้คือ ห้ามฟังเพลงบรรเลงด้วยไหม
แล้วที่เทศน์แหล่ล่ะครับ แหล่แบบอีสานน่ะได้ไหมครับ
แต่ผมก็เห็นคนฟังกันนะครับ

แล้วเล่นกีฬานี่ก็ไม่น่าผิดใช่ไหมครับ ถึงแม้ดูอาการจะไม่สำรวม
เช่น แอร์โรบิค และตีกอล์ฟ

#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 10:25 AM

ผมขอตอบเท่าที่สติปัญญาอันน้อยนิดของผมวิเคราะห์ได้นะครับ ก่อนอื่นมาดูศีลข้อนี้กันก่อน

นัจจะคีตะวาทิตะ วิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะมัณฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
(เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฟ้อนรำ การขับร้อง การดนตรี การดูการเล่น ที่เป็นข้าศึกต่อกุศล การทัดทรงสวมใส่ การประดับ การตกแต่งด้วยพวงมาลา ด้วยกลิ่นหอม ด้วยเครื่องทา)

ดูที่ขีดเส้นใต้นะครับ ที่เป็นข้าศึกต่อกุศล หรือในบางเล่ม จะเขียนว่าที่เป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ ดังนั้นด้วยปัญญาอันน้อยนิดของผม หากเป็นการละเล่นหรือการขับร้องที่ไม่ส่อไปในทางที่เป็นข้าศึกของพรหมจรรย์แล้ว ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาครับ

ในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ยังเคยสอนมานพหนุ่มคนหนึ่งร้องเพลง ซึ่งเนื้อหาของเพลงนั้นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมล้วนๆ เรื่องราวนี้มีอยู่ในพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อทัตตะ เรื่อง โอวาทวันเกิด ครับ


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 12:25 PM

ได้ครับ
แม้ฟังเสียงหรีดหริ่งเรไร หรือ ฟังหลวงพ่อเทศน์อยู่ก็ตาม แต่หากจิตใจคิดลุ่มหลงไปในเรื่องกามราคะ ย่อมได้ชื่อว่า ศีลแปดบกพร่องน่ะครับ

แม้ฟังเสียงเพลง จะเป็นเพลงบรรเลง หรือเพลงทั่วๆไปที่พอนั่งรถผ่านไปผ่านมาก็จะได้ยิน หรือ ข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังจนเราซึ่งถือศีลแปดอยู่ได้ยิน แต่ถ้าใจเราคิดแค่ว่า มันก็เหมือนเสียงหรีดหริ่งเรไร ไม่ได้ลุ่มหลงไปในกามแม้แต่น้อย อย่างนี้ศีลไม่บกพร่องครับ

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 usr21238

usr21238
  • Members
  • 233 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 09:10 PM

สาธุ สาธุ

#5 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 09:58 PM

QUOTE
ในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ยังเคยสอนมานพหนุ่มคนหนึ่งร้องเพลง ซึ่งเนื้อหาของเพลงนั้นเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมล้วนๆ
- น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพญานาคตนหนึ่งซึ่งปรารถนาฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...จึงให้ธิดาตนแปลงร่างเป็นสาวงามยืนอยู่บนพังพานตน...ร้องเพลงปริศนาธรรม...โดยป่าวประกาศให้มหาชนทราบว่า...ใครก็ตามที่สามารถร้องเพลงเข้าใจความนัยของปริศนาเพลงนี้...จักได้รับสมบัติและธิดาของพญานาคไปครอง...ซึ่งไม่มีผู้ใดร้องเพลงแก้ปริศนานี้ได้...วันหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ส่องพระญานตรวจเวไนยสัตว์...เห็นว่ามหาชนทั้ง84000คน(+เทวดาอีกจำนวนมาก)...จักได้บรรลุธรรม...จึงเสด็จมาประทับใต้ต้นไม้ในบริเวณที่พญานาคและมหาชน...แล้วทรงโปรดมานพผู้หนึ่งจนบรรลุโสดาปัตติผล...แล้วสอนมานพผู้นั้นให้ร้องเพลงแก้ปริศนาธรรมของพญานาค...ครั้นพญานาคได้ยินเพลงจากมานพ...ก็รู้ทันทีว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จมา...จึงแปลงร่างเป็นมนุษย์...ไปนั่งต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์ในที่อันควรร่วมกับมหาชน84000คน...เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมจบ...มหาชนก็บรรลุโสดาปัตติผล...เว้นแต่พญานาคซึ่งได้พุทธานุสติซึ่งจะเป็นอุปนิสัยในการบรรลุธรรมในภพชาติต่อไป

- อาจจะอยู่ใน พญานาค ตอนที่ 4หรือ5 ถ้าไม่มีก็อยู่ในซีดี ชุด พญานาคแน่ๆ ซึ่งเป็นตอนที่เกี่ยวกับพุทธศาสนา...
http://www.dmc.tv/programs/naka.html
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#6 usr25088

usr25088
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2008 - 05:40 PM

คิดอย่างนี้ซิครับเพิ่มเติมนะครับ เมื่อเสียงกระทบหูก็อย่าไปปรุงแต่ง ฮัมตามเสียงเพลงซะล่ะ คิดเสียว่า อนิจจัง เสียงไม่เที่ยง ทุกขัง ฟังแล้วเป็นทุกข์ต้องฟังร่ำไป อนัตตา ในที่สุดเพลงก็จบ มันไม่จีรังยั่งยืน ฟังเลยครับ ทดสอบ วิปัสสนาไปด้วย แต่อย่าลืมสมถะ กำกับเชียวนะครับ ดูกำลังใจตัวเองครับ นี้คือบททดสอบ
อายตนะ ครับทดสอบ ขันติบารมี (สิ่งยั่วยุต่อเรา) ท่องสูตรนี้เลยครับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ ต้องเสื่อมสลายไปในที่สุด คาถาเป็นพระอรหันต ครับ แต่ต้องเข้าใจด้วยปัญญาครับ เสียงเพลง อย่าไปอยากฟังเสียเล่า เสร็จ ศีล 8 ข้อ ขาดข้อเดียวก็ขาดหมด เพราะตั้งใจทำตั้งหากเล่า แต่ถ้าเป็นการตั้งใจให้ จิตขาดจากเสียงเพลง ด้วยการลองดังกล่าว ศีลก็ไม่ขาดครับ คือไม่ติดในเสียงเพลง ถึงได้ยินก็ไม่รู้ทุกข์รู้ร้อน มีแต่วิปัสสนาและสมถะกำกับอยู่ด้วยสติอีกตัว ในที่สุดสำเร็จก็ไม่ได้ใส่ใจหรืออยากจะฟังมันอีกครับ ผ่านที่ไหนได้ยินก็ไม่ได้นำมาปรุงแต่ง

#7 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 August 2008 - 04:04 PM

ดูจากองค์ประกอบนะครับ
นัจจะ = การฟ้อน
คีตะ = การขับร้อง
วาทิตะ = การประโคม (บรรเลง)
วิสูกะ = ที่เป็นข้าศึกต่อกุศลธรรม
ทัสสนะ = การดู
กิริยา ..ก็คือ เน้นที่การดูเป็นหลัก และถ้าเป็นการฟังล่ะ จะเข้าอยู่ในหลักการนี้ไหม ตอบได้เลยว่าไม่เข้าในหลักการนี้ เพราะธรรมชาติของจิตจะเปลี่ยนแปลงเร็ว ถ้าถือรวมเอาว่าการฟังแล้วยินดีจะทำให้ศีลข้อนี้ขาด นั่นหมายความว่า แม้ไม่ได้ดู เพียงแต่ได้ยินไกลๆ หรือแว่วเสียงเพลงมา เกิดความยินดีเมื่อไหร่ศีลก็จะขาดได้ง่าย
ในอดีตมีพระเถระรูปหนึ่งฟังเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมะ ท่านตรองไปตามหลักธรรมนั้นจนกระทั่งใจหยุดนิ่งบรรลุธรรมไปก็มีอยู่ครับ

#8 KAMOLPORN

KAMOLPORN
  • Members
  • 51 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 August 2008 - 10:29 PM

สาธุคะ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
ทำดีได้กับตัว ทำชั่วไม่ได้ดี